เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย – ตอนที่ 86 ความร้อนรนของเหล่าสุดแกร่งในโลก (2)

ก่อนหน้าที่ครอสจะเกิดความมุ่งมั่นครั้งใหม่มาแฝงไว้ภายในใจ

เหล่านักผจญภัยระดับ S ซึ่งก็คือลีโอเน่ ลูด์มิร่า และเทโลเมียร์ ได้ออกมาเดินภายในเมืองอย่างครบครันพร้อมหน้ากันอย่างหาเจอได้ยาก เหตุผลนั้นแสนง่าย เพราะเห็นว่าลูกศิษย์ที่ออกไปดูประกาศชี้แจงที่กระดานข่าวเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับโรงเรียนนักผจญภัยซึ่งจะเปิดทำการเรียนการสอนใหม่ในวันพรุ่งนี้นั้นกลับบ้านล่าช้าไปนิดหน่อยนั่นเอง

หากเป็นก่อนหน้านี้ละก็ ต่อให้ลูกศิษย์จะกลับบ้านช้าหน่อย แต่พวกเธอก็คงไม่เป็นกังวลหนักหนาอะไรมากมายหรอก

ทว่าสถานการณ์ที่ห้อมล้อมรอบตัวครอสในปัจจุบันมันได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างยิ่งใหญ่แล้ว

นอกจากจะโค่นขุนนางระดับสูงและฉุดให้มาอยู่ภายใต้บัญชาแล้วไม่พอ ยังถูกร่ำลือว่าก่อตั้งพรรคขุมกำลังขึ้นมาทั้งที่มีฐานะเป็นเพียงสามัญชนอีกด้วย พูดกันอย่างง่ายก็คือเด่นสะดุดตามาก  

มากในระดับที่เทียบกันไม่ได้กับเมื่อหลายวันก่อน

สถานการณ์นี้จะมีส่วนช่วยเสริมการเติบโตให้กับครอสได้ก็เลยเป็นที่น่าพอใจอยู่หรอก แต่ในขณะเดียวกันแล้วก็มีโอกาสที่จะเกิดเรื่องยุ่งที่ใหญ่เกินตัวครอสในปัจจุบันด้วยเช่นกัน ดังนั้นพวกเธอก็เลยออกมาดูลาดเลาเผื่อเอาไว้ยังไงล่ะ หากฝากหน้าที่ให้ใครเพียงคนเดียวก็มีเสี่ยงที่จะโดนทำคะแนนแซงหน้าดังนั้นจึงมาพร้อมกันสามคนซะเลย

ด้วยเหตุนี้เอง ภายหลังออกจากคฤหาสน์มาได้ไม่นาน

 

“ โอ๊ะ อยู่นั่นไง ปัดโธ่เอ๊ย แค่แวะกินข้าวข้างทางเท่านั้นเองหรอกเรอะ ”

 

เพราะใช้คริสตัลไล่ตามกลิ่นอายของเมจิคไอเท็มระบุตำแหน่งที่แอบติดไว้กับตัวครอส ทำให้พวกลีโอเน่ตามมาพบเห็นศิษย์รักกำลังรับประทานอาหารอยู่ตรงที่นั่งด้านนอกร้านได้อย่างรวดเร็ว เหมือนจะไม่ได้เกิดเหตุคอขาดบาดตายขึ้น สงสัยจะเป็นกังวลมากเกินไปแล้วสิ คิดตำหนิตนเองเช่นนั้นไปพลางก้าวเข้าไปจะส่งเสียงทัก…..ทว่ามันเป็นในทันใดนั้นเอง

 

“““ …..อื๋อ? ”””

 

ที่ทั้งสามซึ่งมีเพียงครอสอยู่ภายในสายตา พลันสังเกตเห็นตัวตนของผู้ที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย

บุคคลที่สวมผ้าคลุมปกปิดใบหน้า…..เพศสภาพคือผู้หญิง

รูปโฉมนั้นดูเลือนลาง ไม่ว่าใครก็มองออกไม่ชัดว่าหน้าตาเป็นยังไง

อำนาจของเมจิคไอเท็มระดับสูงที่มีเอฟเฟคยับยั้งการรับรู้สินะ

ทว่า…..สำหรับเหล่านักผจญภัยระดับ S ที่มีค่าความชำนาญของสกิลตรวจจับสามัญสูงยิ่งกว่า <<ธีฟระดับสูง>> หรือ <<เรนเจอร์ระดับสูง>> มากมายหลายเท่าแล้ว ลูกไม้ตื้นๆ แค่นี้ไม่พอจะหลอกตาได้หรอก

พริบตาที่ทั้งสามคนรีดเร้นพลังเวทด้วยความรู้สึกประหลาดใจ—ภาพที่ทะลุผ่านเอฟเฟคของเสื้อคลุมและแล่นเข้ามาในสายตาก็คือ ความงามประหนึ่งดาบเลอค่าที่ถูกขัดเกลาจนถึงขีดสุด เส้นผมสีขาวส่องประกาย

ภาพของผู้สืบสายเลือดผู้กล้า, เอลิเซีย ราฟาแกลิออนที่กำลังรับประทานอาหารอยู่กับศิษย์รักอย่างสนิทสนมนั่นเอง

 

 

“““ ห้ะ…..? ”””

 

 

ภาพอันสุดจะเชื่อมากจนเกินไปทำให้พวกลีโอเน่ตัวค้างเหมือนเวลาหยุดเดิน

เกิดแรงกระแทกเหมือนโดนเวทมนตร์ทำลายล้างลูกใหญ่เบ้อเร่ออัดเข้ามาใส่จากทิศทางที่ไม่ได้ระวังไว้แม้แต่นิดจนรู้สึกเหมือนหัวจะรวนไม่เป็นท่า

ทว่าสิ่งที่น่าช็อคมากไปยิ่งกว่านั้นก็คือ มู้ดของครอสกับเอลิเซียที่กำลังรับประทานอาหารอยู่ตรงที่นั่งภายนอกร้าน รอยยิ้มอ่อนหวานของเอลิเซีย บรรยากาศแสนหวานชื่น แถมจากที่ใช้ประสาทการได้ยินของนักผจญภัยระดับ S ลองเงี่ยหูแอบฟังบทสนทนาดูแล้วพบว่าการแอบเจอกันเช่นนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว ท่าทางของทั้งสองก็บ่งบอกว่ารู้ใจของกันและกันดี หนำซ้ำพอเห็นว่าอยู่ดีๆ เอลิเซียก็หัวเราะออกมาเหมือนกับหลุดขำแล้ว จู่ๆ ทั้งคู่ก็มองสบตากันด้วยท่าทางเหมือนมีใจให้กันเลยด้วยนี่นา!  

 

“ หะ เฮ้ยนี่มันยังไงกันนั่นน่ะเฮ้ย!? ”

“ ทะ ทำไมครอสคุงถึงไปอยู่กับแม่หนูผู้สืบสายเลือดผู้กล้า…..ตั้งแต่เมื่อไหร่ง่าาา…..!? ”

 

ลีโอเน่กับเทโลเมียร์แฝงตัวหลบอยู่หลังเงาตึกไปพลางเปล่งเสียงออกมาอย่างร้อนรน

ออกอาการร้อนรนหนักมากยิ่งกว่าตอนที่ริสก์ 9 บุกเข้ามาถล่มบัสเคิลเบียร์ซะอีก ทั้งสองคนต่างก็สับสนเกินเหตุจนเผลอตัวบีบกำแพงด้านนอกของตึกที่ใช้หลบซ่อนตัวจนแหลกกระจุยเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเลยเชียว

 

“ สงบอารมณ์เสียหน่อยนังพวกบ้า ”

 

ลูด์มิร่าพลันอ้าปากเล็กๆ กล่าวขึ้นราวกับปรามทั้งสองคน

 

“ เราก็คาดการณ์เอาไว้แล้วไม่ใช่หรือ หากครอสสร้างชื่อเป็นใหญ่ในเมืองนี้แล้วก็แน่นอนว่าจะต้องมีฝูง แมลงพิษ บินเข้ามาไต่มาตอม หึถึงจะไม่ได้คิดว่านังผู้สืบสายเลือดผู้กล้ามันจะกำลังจ้องใช้ เขี้ยวพิษ งับเข้ามาใส่ครอส ของฉัน ก็ตามทีเถอะนะ…..แต่ <<ไร้อาชีพ>> กับสายเลือดผู้กล้าย่อมไม่มีทางได้สมสู่กัน ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องร้อนรนไปเลยแม้แต่น้อยนิดเดียว ”

 

ว่าแล้วลูด์มิร่าก็ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายไปพลาง บีบอัดพลังเวทระดับแช่แข็งเมืองได้ทั้งเมืองแล้วเพ่งฝ่ามือเล็งไปทางเอลิเซียด้วยแววตาของฆาตกร

 

“ เฮ้ยนั่นทำแป๊ะอะไรของหล่อนน่ะยัยเอลฟ์งี่เง่า!? ”

“ เดี๋ยวสิ ลูด์มิร่าจังใจเย็นจ้าใจเย๊นนน~! ”

“ พูดอะไรของพวกแกก็เห็นกันอยู่ว่าฉันสุขุมใจเย็นที่สุดแล้ว …..มุ? อะไรกัน? มือมันกำลังเล็งเวทน้ำแข็งจองจำแห่งสวรรค์ตรงไปทางผู้สืบสายเลือดผู้กล้า….. ”

“ นังนี่หึงแรงมากยิ่งกว่าที่คิดไว้อีกนี่หว่า!? แล้วก็หยุดได้แล้วเฟ้ยเดี๋ยวครอสก็รู้ตัวหรอกเอ้อ! ถ้าเป็นหล่อนคนเดียวก็ยังพอทำเนา แต่ถ้าฉันโดน เข้าใจผิด ว่าเป็นผู้หญิงจิตป่วยที่ย่องมาทำตัวเหมือนสตอล์คเกอร์แบบนี้ตามไปด้วยแล้วจะทำยังไงกันเล่า! เฮ้ยเทโลเมียร์! รีบดูดพลังเวทยัยเพิ้งนี่ด่วนเลย! ”

“ รับทราบแล้วจ้าา~! ”

 

ลีโอเน่รีบกดตัวลูด์มิร่าที่หวิดจะฆ่าผู้สืบสายเลือดผู้กล้าโดยไม่ได้ตั้งใจเอาไว้ และเทโลเมียร์ก็ดำเนินการดูดกลืนพลังเวทที่กระจายไปรอบๆ จากนั้นทั้งสามจึงพยายามกลบเกลื่อนตีเนียนโดยการใช้สกิลสูญสิ้นกลิ่นอายสามัญของนักผจญภัยระดับ S ที่หลบพ้นได้แม้กระทั่งการตรวจจับของเอลิเซียที่ไต่เต้าไปจนถึงอาชีพสูงสุด  

พอตีเนียนแบบนั้นไปซักระยะ พวกครอสก็จากลากันโดยไม่มีอะไรเป็นพิเศษ พวกลีโอเน่จึงถอนหายใจโล่งอกออกมาได้เปลาะนึง ทว่า—

 

(((ทะ ท่าไม่ดีแล้ว…..!)))

 

เป็นตรงนั้นเองที่ทั้งสามซึ่งกลับมาเยือกเย็นได้ซะที พลันรับรู้ถึงสถานการณ์ที่พวกตนกำลังเจออยู่ในตอนนี้ได้อย่างชัดเจน

 

(พลาดไปถนัดเลย…..! พวกเราดันคิดไปว่าอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่สุดก็คือกันและกัน—)

(จนประเมินความเสี่ยงที่ครอสจะมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพวกนังหนูอายุรุ่นราวคราวเดียวกันน้อยเกินไป!)

(เท่านั้นไม่พอ ยังมีโอกาสที่ครอสคุงจะโดนคาบเอาไปกินในระหว่างที่พวกเรามัวทะเลาะขัดแข้งขัดขากันเองอยู่นี่ด้วยอ่าาา~~!?)

 

ไม่มีทางที่พวกตนจะมีเสน่ห์ในฐานะผู้หญิงต่ำต้อยกว่าพวกนังหนูเมื่อวานซืนหรอก

ไม่มีทางเลย แต่…..หากยังคงขัดคอกันและกันต่อไปแบบนี้ละก็จะต้องเกิดเรื่องแย่ขึ้นแน่ สัญชาติญาณมันร้องบอกเช่นนั้น  

 

 

(((ต้องหาทางทำอะไรซักอย่าง…..ด้วยแนวทางที่จะไม่ขัดขวางการฝึกของครอส!)))

 

 

ภยันตรายระดับต้นๆ แม้ภายในชีวิตนักผจญภัยอันแสนยาวนาน บีบให้เหล่านักผจญภัยระดับ S ที่แสนชำนาญศึกต้องเค้นสมองที่ค่าประสบการณ์ด้านความรักเป็น 0 กันอย่างสุดใจขาดดิ้น  

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย
Status: Ongoing
อ่านนิยายเหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ยกาลครั้งนึงแต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าเมื่อไหร่ ได้มีวีรสตรี 3 คนที่ถูกกล่าวขานล่ำลือกันว่าเป็นตัวตนผู้แข็งแกร่งทรงพลังมากที่สุดในโลกอยู่ครับ ความแข็งแกร่งของพวกเธอนั้นเรียกได้ว่าเป็นระดับเหนือมนุษย์เลยเชียว คนนึงสามารถต่อยขุนเขาให้แหลกกระจุยได้ด้วยหมัดเปล่า คนนึงสามารถเป่าร่างของพลทหารนับหมื่นนายให้ลอยปลิวหายไปได้ด้วยการโจมตีจากเวทมนตร์เพียงครั้งเดียว ส่วนอีกคนก็เป็นหญิงพิลึกพิลั่นที่เอาเวทฟื้นฟูกับเวทสนับสนุนมาใช้ฆ่าคนได้ เลยกลายเป็นตัวตนที่ถูกหวาดกลัวไปตามระเบียบ แค่เพียงคนเดียวก็โหดพอจะทำให้ประเทศหนึ่งถึงการล่มสลายได้อย่างง่ายดายแล้ว ยิ่งถ้าเหล่าวีรสตรี 3 คนนั้นมาสุมหัวรวมตัวไปไหนมาไหนด้วยกันแล้วนี่คงอาจต้องเรียกว่าเป็นภัยพิบัติเดินได้ การหวนคืนชีพของเทพมาร หรือในบางพื้นที่ก็อาจจะระบุตัวตนของพวกเธอเป็นเทพผู้ชั่วร้ายกันเลยก็เป็นได้…..หากอาศัยใช้งานความแข็งแกร่งนั่นซะอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอะไรต่อมิอะไรก็คงบันดาลให้เป็นดั่งที่ใจพวกเธอต้องการได้เกือบทั้งหมดเลยกระมัง แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีสิ่งที่แม้แต่สามคนนั้นเอง ก็ยังไม่อาจได้มาครอบครองอยู่ครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset