ฐานทัพของจอมยุทธ์ปีศาจในตอนนี้มีคนอยู่ไม่มากนัก เมื่อ ‘บุรุษผู้นั้น’ ปรากฏตัว เขาจึงดึงดูดสายตาของผู้คนโดยรอบได้ทันที
ในเวลานี้เสียอวิ๋นก็กำลังเก็บตัวบ่มเพาะพลัง ทว่าเมื่อรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายที่แม้แต่เขาก็ยังต้องหวาดหวั่น เขาก็อดเหาะออกมาดูด้วยตาตัวเองไม่ได้
“ท่านจอมยุทธ์เป็นใครกันรึ ? และต้องการสิ่งใดจึงเข้ามาในฐานทัพของจอมยุทธ์ปีศาจของข้า ?”
เขาขมวดคิ้วเล็ก ๆ พร้อมกับมองบุรุษผู้ปกคลุมไปด้วยเสื้อคลุมสีดำสนิทตรงหน้าและกล่าวอย่างนอบน้อม
เสียอวิ๋นไม่เคยเห็นผู้ใดในดินแดนมหาเทพอยู่ในสายตามาก่อน ทว่าบุรุษลึกลับในเสื้อคลุมสีดำสนิทตรงหน้าก็ทรงพลังจนเกินไปและทำให้เขานึกหวั่นใจอยู่ไม่น้อย
“ก่อนหน้านี้พวกเจ้าจอมยุทธ์ปีศาจเข้าไปในสมรภูมิรบโบราณใช่รึไม่ ?”
น้ำเสียงเย็นชาดังขึ้นจาก ‘บุรุษผู้นั้น’ ราวกับเป็นเครื่องจักรสังหารที่ไร้อารมณ์ไร้ความรู้สึกก็ว่าได้ อีกทั้งในน้ำเสียงของเขาก็เจือไปด้วยแรงกดดันที่เลือนรางซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกขนลุกได้ง่าย ๆ
“ใช่ ท่านมาที่นี่เพื่อที่จะสร้างปัญหาให้กับพวกเราหรือ ?”
เสียอวิ๋นไม่ปฏิเสธขณะปัดเป่าแรงกดดันออกไป ทว่าสีหน้าของเขาก็กลายเป็นความเคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อย ๆ
บุรุษตรงหน้าเป็นตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวเกินไป ต่อให้ในดินแดนมหาเทพจะไม่มีผู้ใดที่เทียบชั้นกับตัวเขาได้ เขาก็มั่นใจว่าตนเองไม่มีทางเอาชนะบุรุษผู้นี้ได้เลย
“นอกจากพวกเจ้า ยังมีผู้ใดที่เข้าไปในสมรภูมิรบโบราณอีกหรือไม่ ?”
บุรุษลึกลับมั่นใจแล้วว่ากลิ่นอายที่เขาสัมผัสได้ก่อนหน้านี้มิใช่กลิ่นอายของผู้ใดในจอมยุทธ์ปีศาจ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็คาดเดาได้ไม่ยากว่ามันจะต้องเป็นคนจากอีกฝ่ายหนึ่งอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม เขายังไม่มั่นใจว่านอกจากคนของจอมยุทธ์ปีศาจแล้วยังมีผู้ใดเข้าไปในสมรภูมิรบโบราณอีกหรือไม่
“ยังมีคนจากดินแดนมหาเทพจำนวนหนึ่ง”
เมื่อทราบว่าบุรุษผู้นี้ไม่ได้มาเพื่อสร้างปัญหาให้กับพวกเขา เสียอวิ๋นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเบา ๆ หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่ง เขาก็กล่าวตอบอย่างไม่ปิดบัง
“ท่านจอมยุทธ์กำลังตามหาใครอยู่งั้นรึ ? หากไม่ขัดข้อง เราอาจจะช่วยท่านตามหาได้ บังเอิญว่าฝ่ายของดินแดนมหาเทพก็มีปัญหาบาดหมางกับพวกเราจอมยุทธ์ปีศาจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ท่านสนใจที่จะมาร่วมมือกับเราหรือไม่ ?”
เสียอวิ๋นก็เป็นบุคคลที่ชาญฉลาดและมีไหวพริบดี หากได้ความแข็งแกร่งของบุรุษผู้นี้มาเป็นตัวช่วยของจอมยุทธ์ปีศาจ มันจะกลายเป็นวิกฤตร้ายแรงต่อขุมกำลังของดินแดนมหาเทพอย่างแน่นอน เห็นได้ชัดว่าผู้ที่บุรุษลึกลับกำลังตามหาคือหนึ่งในคนที่เข้าไปในสมรภูมิรบโบราณก่อนหน้านี้ บางทีพวกเขาก็อาจจะร่วมมือกับบุรุษผู้นี้ได้
“เป็นความคิดที่ดี”
บุรุษลึกลับในเสื้อคลุมสีดำลังเลครู่หนึ่ง แม้ว่าเขาจะมีพลังอำนาจที่แกร่งกล้าเป็นอย่างมาก ทว่าหากคนที่เขาตามหาจงใจซ่อนเร้นกลิ่นอายของตน เขาก็ไม่มีทางจะตามหาได้ง่ายนัก การร่วมมือกับจอมยุทธ์ปีศาจจึงถือเป็นทางเลือกที่ดี เขาจะได้พบคนที่ตามหาและทำภารกิจให้สำเร็จเร็วมากขึ้น
….
หากหานโม่ฉืออยู่ที่นี่ เขาจะคาดเดาได้อย่างแน่นอนว่า ‘บุรุษผู้นั้น’ คือคนเดียวกันกับที่ปรากฏตัวในสมรภูมิรบโบราณหลังจากที่เขาเปิดเผยพลังออกไปในวันนั้น
อย่างไรก็ตาม พลังที่หานโม่ฉือเปิดเผยในวันนั้นไม่ได้ดำรงอยู่เป็นระยะเวลานานและเป็นไปไม่ได้ที่คนของจอมยุทธ์ปีศาจจะคาดเดาได้เวลาสั้น ๆ ว่าหานโม่ฉือคือคนที่บุรุษลึกลับกำลังตามหา เพราะเหตุนั้น เขาและคนทุกคนจะยังมีเวลาพักหายใจกันอีกสักพัก
ห้าวันต่อมา ณ สำนักเมฆาคราม คนของนิกายกระบี่สายฟ้าและสำนักเบิกภูผาก็ได้เดินทางมาถึงที่สำนักเมฆาครามแล้ว ในตอนนี้นอกเหนือจากขุมกำลังที่ยอมจำนนต่อจอมยุทธ์ปีศาจ กล่าวได้ว่าแทบทุกคนในดินแดนมหาเทพมารวมตัวกันที่สำนักเมฆาครามเพื่อหารือถึงแผนการรับมือต่อไปแล้ว
“ทุก ๆ คน สำหรับการแข่งขันประชันฝีมือของสามสำนักและเก้านิกายในครานี้ บางขุมกำลังได้เข้าร่วมกับจอมยุทธ์ปีศาจแล้วและมีเพียงพวกเราที่เหลืออยู่ แน่นอนว่าการที่จอมยุทธ์ปีศาจบุกโจมตีฐานทัพของหลายขุมกำลังอย่างอาจหาญ เราก็ไม่มีทางอยู่เฉยแน่ หลังจากหารือกับผู้นำขุมกำลังคนอื่น ๆ เราก็ได้ลงความเห็นกันว่าจะเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์สำหรับการแข่งขันประชันฝีมือครานี้ กฎใหม่คือทุกคนจะต้องร่วมมือกันเพื่อทวงคืนอาณาเขตของเรากลับคืนมาและโจมตีตอบโต้พวกจอมยุทธ์ปีศาจ ในระหว่างการต่อสู้ ทุกคนจะได้รับแต้มที่สอดคล้องกับการมีส่วนร่วม หลังจากนั้นพวกเจ้าจะสามารถนำแต้มเหล่านั้นเพื่อแลกรางวัลที่หลายขุมกำลังร่วมกันสนับสนุนได้ !”
ฟู่ชางประกาศเสียงดังด้วยน้ำเสียงที่ผสมผสานกับพลังมายาเพื่อทำให้ทุกคนทราบโดยทั่วกัน
นี่เป็นโอกาสที่พวกเขาเห็นพ้องตรงกันหลังจากปรึกษาหารือกัน ตอนนี้ฐานทัพของหลายขุมกำลังถูกจอมยุทธ์ปีศาจยึดไว้เป็นการชั่วคราว การร่วมมือกันเพื่อทวงอาณาเขตกลับคืนมาจะทำให้จอมยุทธ์ของดินแดนสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้นและสามารถทำลายขวัญกำลังใจของฝ่ายจอมยุทธ์ปีศาจ มันถือเป็นวิธีการแข่งขันที่ดีอย่างแท้จริง
“สำหรับกฎเกณฑ์อย่างละเอียดเกี่ยวกับแต้มคะแนน ข้าจะให้คนประกาศในภายหลัง พวกเจ้าสามารถตรวจดูรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงได้ด้วยตนเอง ยิ่งไปกว่านั้น ครานี้พวกเจ้าจะไม่ได้ต่อสู้ร่วมกับขุมกำลังของตนเองเท่านั้น หากแต่เป็นการรวมกลุ่มได้ตามอิสระ เจ้าสามารถรวมกลุ่มกับคนจากขุมกำลังที่พวกเจ้าพอใจและอยากร่วมด้วยได้ เราจะไม่แทรกแซงในขั้นตอนนี้และเพียงต้องรวมกลุ่มให้ได้หนึ่งร้อยคน ท้ายที่สุดเราก็จะแต่งตั้งให้ผู้นำหรือจอมยุทธ์ระดับสูงของแต่ละขุมกำลังเป็นหัวหน้ากลุ่มเพื่อนำทัพทุกคน”
เขากล่าวต่อด้วยรายละเอียดที่ทำให้ทุกคนตื่นเต้นกันทันที ต้องยอมรับว่าการจับกลุ่มด้วยตัวเองน่าสนใจยิ่งกว่าการรวมกลุ่มตามขุมกำลังมากนัก
ความแข็งแกร่งโดยรวมของขุมกำลังบางแห่งก็อ่อนแอกว่าขุมกำลังอื่น ๆ หากรวมกลุ่มตามขุมกำลังมันก็ยากที่พวกเขาจะกอบกู้อาณาเขตมาได้สำเร็จ ตอนนี้การที่คนเหล่านั้นกระจายตัวกัน ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็จะเฉลี่ยกันจนเสมอภาคมากขึ้นและมีความมั่นใจในการกอบกู้อาณาเขตมากยิ่งขึ้น
หลังจากอธิบายเงื่อนไขและจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ฟู่ชางและคนอื่น ๆ ก็กลับไปที่โถงประชุมก่อนเรียกให้ฉินอวี้โม่และหานโม่ฉือเข้ามาพบ
“ท่านมีภารกิจพิเศษจะมอบให้กับพวกเราหรือเจ้าค่ะ ?”
ฉินอวี้โม่เอ่ยถามออกไปทันที นางและอีกหลายคนที่ถูกเรียกมาประชุมในตอนนี้ล้วนเป็นคนที่มีความแข็งแกร่งยอดเยี่ยม คาดว่าฟู่ชางคงจะจัดเตรียมให้พวกนางดำเนินภารกิจที่พิเศษกว่าคนอื่น ๆ
“อวี้โม่ โม่ฉือ พวกเจ้านำกลุ่มคนหนึ่งร้อยคนไปก่อกวนและสร้างปัญหาความวุ่นวายที่ฐานทัพของจอมยุทธ์ปีศาจ ตราบใดที่ถ่วงเวลาไว้ได้ช่วงหนึ่ง คนเหล่านั้นก็จะไม่มีโอกาสออกไปช่วยที่อื่น แน่นอนว่าความปลอดภัยคือสิ่งที่สำคัญที่สุด หากต้านทานไว้ไม่ได้ พวกเจ้าก็จงถอนกำลังออกมาโดยเร็ว อย่าดึงดันที่จะต่อสู้อีก”
ฟู่ชางและบรรดาผู้นำขุมกำลังอื่น ๆ มองหน้ากันก่อนกล่าวออกไป พวกเขามีภารกิจพิเศษที่เตรียมไว้สำหรับผู้แข็งแกร่งเช่นฉินอวี้โม่แล้ว
เมื่อใดที่พวกเขาเริ่มการโจมตีโต้กลับ จอมยุทธ์ปีศาจจะต้องส่งกำลังคนออกมาจากฐานทัพอย่างแน่นอน การที่ส่งฉินอวี้โม่และคนอื่น ๆ ไปที่นั่นถือเป็นการถ่วงเวลาที่ดี พวกเขาทุกคนทราบว่าฉินอวี้โม่มีไพ่ตายซ่อนไว้มากมายนักและความแข็งแกร่งของหานโม่ฉือก็เหนือชั้นเกินกว่าที่จะหยั่งถึง ต่อให้ประจันหน้ากับเสียอวิ๋น เขาก็มีความสามารถที่จะรับมือได้ ต่อให้จะไม่สามารถสร้างความเสียหายให้กับฐานทัพของจอมยุทธ์ปีศาจ การถ่วงเวลาสักระยะก็มิใช่เรื่องยากเลย
“ไม่มีปัญหาเจ้าค่ะ”
สีหน้าของฉินอวี้โม่แสดงถึงความตื่นเต้นทันที ในตอนแรกนางคิดว่าการทวงคืนอาณาเขตเหล่านั้นกลับมามิใช่เป็นการกระทำที่มีประโยชน์นัก ทว่าการดำเนินการเช่นนี้เป็นสิ่งที่นางต้องการพอดิบพอดี
“เจ้าสามารถเลือกสมาชิกหนึ่งร้อยคนได้ด้วยตัวเอง จงจำไว้ว่าเจ้าจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยก่อนสิ่งอื่นใด ข้าเชื่อว่าเจ้าคงจะทราบถึงตำแหน่งฐานทัพของจอมยุทธ์ปีศาจแล้ว หากไม่ทราบ ฟู่อวิ๋นซิวจะชี้แจงกับเจ้าในภายหลัง”
ฟู่ชางหันไปพยักศีรษะให้กับฟู่อวิ๋นซิว สำหรับการโจมตีฐานทัพของจอมยุทธ์ปีศาจ ในฐานะนายน้อยของสำนักเมฆาคราม เขาจะต้องสนใจเข้าร่วมอย่างแน่นอน สำหรับตำแหน่งฐานทัพของจอมยุทธ์ปีศาจนั้น ฟู่อวิ๋นซิวก็ทราบดีเช่นกัน
“พวกท่านไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ทำให้พวกท่านผิดหวังแน่ !”
ฉินอวี้โม่และคนอื่น ๆ ยิ้มอย่างรู้กันก่อนขอตัวกลับไปและเริ่มหารือถึงเรื่องสมาชิกภายในกลุ่มของตน
สำหรับการเดินทางไปยังฐานทัพของจอมยุทธ์ปีศาจ ผู้ที่ถูกเลือกจะต้องเป็นคนที่ไว้วางใจได้
หลังจากหารือกันเล็กน้อย พวกนางก็ตัดสินใจเลือกหนึ่งร้อยคนที่มีความสัมพันธ์อันดีกับตนมาก่อนและสามารถฝากความหวังไว้ที่พวกเขาได้
และแน่นอนว่านิกายกระบี่สายฟ้าและสำนักเมฆาครามก็เป็นกองกำลังหลักในแผนการครานี้