หลังจากคัดเลือกสมาชิกจำนวนหนึ่งร้อยคนและเตรียมการสิ่งต่าง ๆ ฉินอวี้โม่และทุกคนก็วางแผนเริ่มออกเดินทาง
เพื่อมิให้ดึงดูดความสนใจของจอมยุทธ์ปีศาจมากจนเกินไป ฉินอวี้โม่จึงนำคนเหล่านั้นตรงเข้าไปในคฤหาสน์เฟิงหัวและขับเคลื่อนมันไปยังฐานทัพของจอมยุทธ์ปีศาจอย่างรวดเร็ว
ฐานทัพของจอมยุทธ์ปีศาจตั้งอยู่ในมิติพิเศษภายในน่านน้ำทางตะวันตก ก่อนหน้านี้ฟู่ชางได้สืบข้อมูลเกี่ยวกับทางเข้าออกอย่างชัดเจนแล้วและแจ้งให้ฉินอวี้โม่และคนอื่น ๆ ได้ทราบ
ทางเข้าของจอมยุทธ์ปีศาจก็มีข้อจำกัดพิเศษอยู่ซึ่งมีเพียงผู้ที่บ่มเพาะพลังความมืดเท่านั้นที่จะข้ามผ่านเข้าไปได้ แน่นอนว่าข้อจำกัดนี้มิใช่ปัญหาสำหรับฉินอวี้โม่และคณะแม้แต่น้อย
ไม่ว่าจะเป็นฉินอวี้โม่หรือหานโม่ฉือ ทั้งสองสามารถแปลงพลังมายาให้กลายเป็นพลังความมืดและผ่านเข้าไปในทางเข้าได้อย่างง่ายดาย
ฉินอวี้โม่และทุกคนใช้เวลาเดินทางด้วยความเร็วสูงสุดนานสามวันก่อนมาถึงที่ชายฝั่งทางตะวันตก
มหาสมุทรทางตะวันตกคือน่านน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของดินแดนมหาเทพซึ่งเป็นพื้นที่ที่คาดเดาไม่ได้และเต็มไปด้วยวิกฤตอันตรายมากมายนับไม่ถ้วน มันจึงเป็นพื้นที่ที่จอมยุทธ์ส่วนใหญ่ไม่ต้องการย่างกรายเข้าไป
และก็เป็นเพราะเหตุผลดังกล่าวเช่นกันที่ทำให้จอมยุทธ์ปีศาจตัดสินใจตั้งรกรากถิ่นฐานในบริเวณน่านน้ำทางตะวันตก
ก่อนหน้านี้จอมยุทธ์ปีศาจก็เดินหน้าโจมตีขุมกำลังใหญ่ในดินแดนมหาเทพ เพราะเหตุนั้นจึงมีกำลังคนคอยคุ้มกันอยู่ที่ฐานทัพเพียงไม่มากนัก นอกเหนือจากเสียอวิ๋นก็มีเพียงปลาซิวปลาสร้อยจำนวนหนึ่งเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่าสมาชิกจอมยุทธ์ปีศาจไม่คาดคิดว่าฉินอวี้โม่และพวกจะเข้าจู่โจมพวกเขาโดยที่ไม่ทันตั้งตัว เพราะเหตุนั้นจึงไม่มีการคุ้มกันที่ด้านหน้าฐานทัพ
ฉินอวี้โม่และคนอื่น ๆ ก็มุ่งหน้าเข้าไปภายในฐานทัพของจอมยุทธ์ปีศาจได้อย่างง่ายดาย ทว่าพวกนางก็ยังไม่รีบร้อนลงมือ พวกนางเริ่มจากการสำรวจทั่วบริเวณเพื่อวิเคราะห์ความแข็งแกร่งโดยรวมของฐานทัพแห่งนี้และรอจังหวะที่เหมาะสม
ในเวลานี้ ภายในฐานทัพของจอมยุทธ์ปีศาจมีสมาชิกอยู่เพียงไม่มาก คนส่วนใหญ่สวมเสื้อคลุมสีดำและมีหน้ากากบดบังใบหน้า นอกจากนี้ ร่างกายของพวกเขาเหล่านั้นก็ปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายของพลังความมืดที่หนาแน่นจนทำให้ผู้คนรู้สึกอึดอัดได้ง่าย ๆ
ฉินอวี้โม่ขับเคลื่อนคฤหาสน์ล่องหนไปทั่วบริเวณโดยที่ทำการสำรวจและวิเคราะห์ความแข็งแกร่งโดยรวมของฐานทัพในเวลานี้ นอกเหนือจากเสียอวิ๋นที่นางยังไม่พบตัว คนที่เหลือก็ไม่ถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อพวกนางแม้แต่น้อย
หลังจากวางแผนโจมตีและมองหาเส้นทางการหลบหนีได้ ทุกคนก็เริ่มดำเนินการ
“ทุกคน เราจะแยกย้ายกันออกไป หากพบกับเสียอวิ๋นเข้า ทุกคนจะต้องถอนกำลังโดยเร็วและอย่าต่อสู้กับเขาเป็นอันขาด”
ฉินอวี้โม่ส่งทุกคนออกจากคฤหาสน์เฟิงหัวและกล่าวกำชับด้วยสีหน้าที่จริงจัง
ก่อนหน้านี้พวกนางได้วางแผนกันไว้แล้วว่าจะแบ่งคนทั้งหมดออกเป็นสามกลุ่มเพื่อแยกย้ายกันไปทำลายสถานที่ฝึกยุทธ์ สถานที่พักผ่อนและสถานที่ใช้ชีวิตประจำวันของจอมยุทธ์ปีศาจ
ทุกคนก็พยักศีรษะแสดงความเข้าใจก่อนแยกออกเป็นสามกลุ่มและเริ่มออกไปสร้างความเสียหายในแต่ละพื้นที่
ตูม ! โครม ! ตูม ! โครมม !…
เสียงที่ดังสนั่นปะทุขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและฐานทัพของจอมยุทธ์ปีศาจก็ตกอยู่ในความโกลาหลวุ่นวายในทันที
“ศัตรูจู่โจม !”
ในที่สุดสมาชิกของจอมยุทธ์ปีศาจก็ตอบสนองขึ้นมา พวกเขาตะโกนเสียงดังและเริ่มโจมตีตอบโต้ฉินอวี้โม่และคณะอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้บรรดายอดฝีมือของจอมยุทธ์ปีศาจล้วนกระจายตัวออกไปในดินแดนมหาเทพและคนที่เหลือที่อยู่ที่นี่ก็เป็นเพียงปลาซิวปลาสร้อยซึ่งอ่อนแอเกินกว่าจะพลิกผันสถานการณ์นี้ได้ พวกเขาทำได้เพียงมองดูอาคารสิ่งปลูกสร้างในฐานทัพที่ถูกทำลายไปและกลายเป็นซากปรักหักพังไปต่อหน้าต่อตา
“ใครกันที่ริอาจบุกมาโจมตีฐานทัพของข้าอย่างไม่เกรงกลัวเช่นนี้ ?!”
เสียงตะโกนกร้าวด้วยความเดือดดาลดังขึ้นในหูของทุกคนเมื่อเสียอวิ๋นผู้ซึ่งกำลังหารือกับ ‘บุรุษผู้นั้น’ ภายในห้องลับเหาะออกมา แรงกดดันทรงพลังของเขาก็แผ่ออกไปกดข่มฉินอวี้โม่และทุกคนไว้ทันที
“เสียอวิ๋น ไม่ได้พบกันเสียนาน !”
ฉินอวี้โม่เงยหน้ามองผู้นำของจอมยุทธ์ปีศาจด้วยสายตาที่มุ่งมั่นแน่วแน่ก่อนที่ซิวจะโบกมือเล็กน้อยเพื่อปัดเป่าแรงกดดันจากอีกฝ่ายออกไป
“ฉินอวี้โม่ ช่างอาจหาญยิ่งนัก !”
เนื่องจากคิดไม่ถึงเลยว่าศัตรูที่ริอาจบุกมาถึงถิ่นของตนจะเป็นฉินอวี้โม่และคนเหล่านี้ เสียอวิ๋นจึงชะงักไปเล็กน้อยก่อนกล่าวอย่างเย็นชา
“ฮ่า ๆ ๆ พวกเจ้าจอมยุทธ์ปีศาจยังกล้าโจมตีขุมกำลังจำนวนมากในเวลาเดียวกัน เราเพียงมาที่นี่เพียงเพื่อสร้างความเสียหายเล็ก ๆ น้อย ๆ มันมิใช่เรื่องใหญ่เลยสักนิด”
ฉินอวี้โม่หัวเราะเบา ๆ โดยมีซิวยืนอยู่ข้างกาย ส่วนหานโม่ฉือได้กลับเข้าไปในคฤหาสน์เฟิงหัวแล้วและไม่ปรากฏตัวให้เห็นอีก
“เหอะ คงจะคาดเดาได้ว่าในฐานทัพของข้ามีกองกำลังอยู่ไม่มากสินะ พวกเจ้าจึงกล้าบุกมาที่นี่ !”
เสียอวิ๋นแค่นเสียงเย็นชาและคาดเดาแผนการของฝ่ายตรงข้ามได้ทันที อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่คิดเลยว่าการบุกโจมตีฐานทัพของจอมยุทธ์ปีศาจในครานี้จะเป็นเพียงแผนการถ่วงเวลาและจุดประสงค์ที่แท้จริงคือการกอบกู้ฐานที่มั่นของขุมกำลังใหญ่ในดินแดนมหาเทพ
“แล้วอย่างไรล่ะ ? เสียอวิ๋น เจ้าหยุดพวกข้าไว้ไม่ได้หรอก !”
ฉินอวี้โม่ยิ้มเยาะและไม่ปฏิเสธวาจาของอีกฝ่าย
“เหตุใดหานโม่ฉือจึงไม่มากับเจ้าด้วย ?”
เสียอวิ๋นไม่รีบร้อนลงมือทำสิ่งใด ทว่าหลังจากกวาดสายตามองอีกฝ่ายและไม่เห็นแม้แต่เงาของหานโม่ฉือ เขาก็อดสงสัยไม่ได้
ส่วนใหญ่แล้วหานโม่ฉือมักปรากฏตัวอยู่ข้างกายฉินอวี้โม่เสมอ การที่เขาไม่ติดตามมาในการบุกจู่โจมฐานทัพของจอมยุทธ์ปีศาจเช่นนี้จึงเป็นสิ่งที่ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด
“ฮ่า ๆ ๆ เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องถึงมือโม่ฉือหรอก”
ฉินอวี้โม่เพียงยิ้มอย่างเย้ยหยัน อันที่จริง เมื่อครู่หานโม่ฉือรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายของบุรุษลึกลับผู้นั้นจึงเข้าไปซ่อนตัวในคฤหาสน์เฟิงหัวอย่างรวดเร็ว บุรุษผู้นั้นก็เหมือนจะหมายหัวหานโม่ฉืออยู่และหานโม่ฉือในตอนนี้ก็ยังไม่สามารถรับมือกับอีกฝ่ายได้ เพราะเหตุนั้น เขาจึงต้องเข้าไปในคฤหาสน์เฟิงหัวเพื่อหลีกเลี่ยงการประจันหน้าเสียก่อน ตราบใดที่หานโม่ฉือไม่ปรากฏตัว บุรุษผู้นั้นก็คงจะไม่ปรากฏตัวออกมาเช่นกัน ซึ่งเสียอวิ๋นเพียงคนเดียวไม่สามารถขัดขวางฉินอวี้โม่และทุกคนได้อย่างแน่นอน
“เหอะ ฉินอวี้โม่ ชักจะมั่นใจเกินไปแล้ว !”
เสียอวิ๋นแค่นเสียงเย็นชาและแผ่คลื่นพลังรุนแรงตรงไปที่ฉินอวี้โม่ทันที
หากสามารถทำให้ฉินอวี้โม่และคนเหล่านี้บาดเจ็บสาหัสกลับไป หรือแม้กระทั่งขุดหลุมฝังพวกนางอยู่ที่นี่ตลอดไป มันจะส่งผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ต่อดินแดนมหาเทพเป็นแน่
“เหอะ หากคิดจะทำร้ายนายหญิงของข้า มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเจ้ามีฝีมือมากพอรึไม่ !”
ซิวแค่นเสียงเล็กน้อยก่อนพุ่งตรงเข้าไปประจันหน้ากับเสียอวิ๋น
คนอื่น ๆ ก็ไม่สนใจเสียอวิ๋นและเดินหน้าทำลายสิ่งต่าง ๆ รอบตัวต่อไป แม้คนของจอมยุทธ์ปีศาจต้องการจะขัดขวาง พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรฝ่ายตรงข้ามได้เลย เพราะเหตุนั้น พวกเขาจึงทำได้เพียงมองดูฐานทัพของจอมยุทธ์ปีศาจถูกทำลายกลายเป็นซากต่อหน้าต่อตาด้วยความคับแค้นใจ
ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของซิว แม้มันจะเสียเปรียบเสียอวิ๋นอยู่บ้าง ทว่าการถ่วงเวลาไว้สักระยะหนึ่งก็มิใช่ปัญหาเลย
หลังจากต่อสู้กับเสียอวิ๋นนานครึ่งชั่วยามและเห็นว่าฐานทัพของจอมยุทธ์ปีศาจเกิดความเสียหายมากแล้ว ฉินอวี้โม่จึงออกคำสั่งให้ทุกคนถอนกำลังอย่างรวดเร็ว
“บัดซบ !”
เสียอวิ๋นเดือดดาลอย่างที่สุดขณะยังคงปล่อยการโจมตีทรงพลังเข้าใส่ฝ่ายฉินอวี้โม่ต่อไปเพื่อพยายามหยุดยั้งอีกฝ่ายให้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่มีซิวคอยป้องกันอยู่ การโจมตีของเสียอวิ๋นก็ไม่มีผลต่อฉินอวี้โม่แม้แต่น้อย
เขาทำได้เพียงมองดูฉินอวี้โม่และคณะถอนกำลังจากไปโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้ในขณะที่หัวใจเคียดแค้นอย่างที่สุด
หลังจากถอนตัวออกจากฐานทัพของจอมยุทธ์ปีศาจ ทุกคนก็กลับเข้าไปในคฤหาสน์เฟิงหัวอีกครั้งและอดหัวเราะชอบใจกันไม่ได้
“ช่างเป็นความรู้สึกที่ดีเหลือเกิน ไม่ว่าเสียอวิ๋นจะทรงพลังเพียงใด เขาก็ยังทำอะไรพวกเราไม่ได้ !”
ฟู่อวิ๋นซิวประกบกำปั้นและหันไปหาซิว หากมิใช่เพราะมันช่วยขัดขวางการโจมตีของเสียอวิ๋นไว้ แผนการทำลายฐานทัพจอมยุทธ์ปีศาจของพวกเขาก็คงจะไม่ราบรื่นเช่นนี้ เพียงได้เห็นเสียอวิ๋นคับแค้นใจโดยที่ทำอะไรไม่ได้ พวกเขาก็สาแก่ใจอย่างที่สุด
“แผนการในอีกฝั่งหนึ่งก็คงจะใกล้สำเร็จแล้ว เราเดินทางกลับไปที่สำนักเมฆาครามกันก่อนเถอะ”
อวิ๋นซื่อเทียนกล่าวพร้อมเผยรอยยิ้มเล็กน้อย เพียงหานโม่ฉือเข้าสู่คฤหาสน์เฟิงหัวอย่างกะทันหันก่อนหน้านี้ นางก็พอจะคาดเดาบางอย่างได้ อย่างไรก็ตาม นางยังต้องสอบถามจากปากของหานโม่ฉือเพื่อให้ได้คำตอบที่แน่ชัด
ทุกคนไม่คัดค้านสิ่งใดและหาที่ว่างนั่งลงอย่างเงียบ ๆ
ฉินอวี้โม่และคนสนิทเพียงไม่กี่คนก็เดินเข้าไปในห้องแห่งหนึ่งเพื่อไปพบกับหานโม่ฉือที่รออยู่ที่นั่น
“หานโม่ฉือ เมื่อครู่นี้เกิดอะไรขึ้นในฐานทัพของจอมยุทธ์ปีศาจรึ ?”
สายตาของทุกคนบรรจบลงที่หานโม่ฉือผู้ซึ่งใบหน้าแสดงความเคร่งขรึมและความกังวลออกมาเล็กน้อย