เจียงหยุนชานเดินไปเดินมาอยู่ในห้องด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทาเพราะความโกรธเคือง เห็นได้ชัดว่าเขากำลังพยายามระงับอารมณ์ของตัวเองอย่างหนัก
เจียงป่าวชิงเรียกเสียงเบา “พี่…”
เจียงหยุนชานหยุดฝีเท้าลง เขาไปหยุดยืนตรงหน้าเจียงป่าวชิง สูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น “ป่าวชิง ข้ารู้ว่าเจ้าเฉลียวฉลาดปราดเปรียว แต่เรื่องแบบนี้ เรื่องแบบนี้มัน…”
น้อยครั้งมากที่เจียงหยุนชานจะทำสีหน้าเคร่งขรึมใส่น้องสาวตัวเองเช่นนี้
“ป่าวชิง ครั้งหน้าเจ้าห้ามทำอะไรผลีผลามแบบนี้อีกนะ ถ้าหากว่าอีกฝ่ายมากันเป็นกลุ่มล่ะ ? และถ้ามีความผิดพลาดในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ล่ะ ? เจ้าอาจจะ…”
เจียงหยุนชานลองนึกถึงผลที่จะตามมาหากว่าเจียงป่าวชิงตกไปอยู่ในมือของพวกคนเลว เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวไปทั้งตัว
เจียงป่าวชิงรีบพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “ก็ได้ ข้ารู้แล้วจ้ะ ครั้งหน้าข้าจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วนะ”
เจียงหยุนชานเห็นเจียงป่าวชิงยอมรับผิดอย่างไหลลื่น ด้วยความฉลาดและนิสัยมั่นใจในตัวเองของนาง ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น เขาเองก็ไม่สามารถฟันธงได้อย่างแน่นอนนัก เขาถอนหายใจยาว ได้แต่รู้สึกจนปัญญากับน้องสาวตัวเอง
“สุภาพบุรุษย่อมไม่ยืนอยู่ภายใต้กำแพงอันตราย ต่อไปจะทำอะไรเจ้าต้องพิจารณาถึงสิ่งที่จะตามมาให้มาก ๆ เข้าไว้” เขาเตือนจากใจจริง
เจียงป่าวชิงตอบรับอย่างว่านอนสอนง่าย
อันที่จริง นางนั้นถือว่าเป็นเด็กดีคนหนึ่งที่ทำให้ผู้เป็นพี่ชายไม่ต้องกังวลอะไร แต่ในความคิดของเจียงหยุนชาน ยิ่งเป็นคนที่ทำให้ไม่ต้องกังวลมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งง่ายที่จะชอบเก็บซ่อนเรื่องใหญ่ ๆไว้ที่ตัวเองเท่านั้น ก่อนหน้านี้เขามีความเป็นห่วงนางในเรื่งนี้อยู่บ้าง มาตอนนี้สิ่งที่เขากังวลมันเกิดขึ้นแล้ว น้องสาวเขาเก็บซ่อนเรื่องใหญ่ ๆ เอาไว้คนเดียวแล้วจริง ๆ
เจียงหยุนชานอยากถอนหายใจ แม้นางจะรับคำ เขากลับรู้สึกจนปัญญากับนาง จึงทำได้เพียงคิดว่าต่อไปเขาจะต้องคอยจับตาดูน้องสาวของตัวเองให้มาก ๆ
……
ผลพวงของเหตุการณ์นี้ยิ่งใหญ่กว่าที่เจียงหยุนชานจินตนาการไว้มาก
เนื่องจากเด็กผู้หญิงที่โดดเด่นที่สุดในหมู่บ้านใกล้เคียงก็เกือบถูกหลอกพาไปขายตัวแล้ว คนที่ก่อนหน้านี้เคยอิจฉาริษยาเด็กผู้หญิงเหล่านั้นจึงกล่าวหาว่าพวกนางไม่ดี แรกเริ่มของข่าวลือที่ออกมาคือ “เกือบถูกหลอกพาไปขายตัว” แต่เมื่อผ่านการเล่ากันปากต่อปากจากคนในหมู่บ้านก็กลายเป็น “ถูกช่วยออกมาหลังจากที่ถูกหลอกพาไปขายตัว”
เรื่องแบบนี้ต้องอย่ามองว่าต่างกันแค่ตัวอักษรไม่กี่ตัว เพราะเอาเข้าจริงความหมายมันต่างกันมากทีเดียว
พวกผู้หญิงที่ถูกช่วยออกมาหลังจากถูกหลอกพาไปขายตัว ใครจะสามารถรับรองเรื่องชื่อเสียงและเกียรติยศของพวกนางได้ และใครเล่าจะคิดว่าพวกนางยังบริสุทธิ์
ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วหมู่บ้านบนภูเขาหลายแห่งในช่วงเวลาหนึ่ง แต่เจียงป่าวชิงไม่สนใจอะไร เดิมทีข่าวลือเกี่ยวกับนางมีไม่น้อยอยู่แล้ว ผู้คนกังวลเรื่องหนี้สินกันน้อยกว่าอยากรู้เรื่องชาวบ้าน ฉะนั้นมีเรื่องเพิ่มมาอีกสักหน่อยก็ไม่มีความหมายอะไรสำหรับนาง ใช่ว่านางจะเสียเปรียบสักหน่อย แต่สิ่งสำคัญมีอยู่อย่างหนึ่ง เจียงป่าวชิงจะไม่ยอมให้พี่ชายของตนถูกวิพากวิจารณ์เพราะตนอย่างเด็ดขาด
ตั้งแต่มีข่าวลือมา เจียงเอ้อยาทำทีเป็นตั้งใจมาบอกคำนินทานี้ เจียงป่าวชิงรู้สึกเบื่อมากจึงสาดน้ำเย็นใส่นางจนเนื้อตัวเปียกปอน แต่ต่อมาไม่นาน นางยังไม่ทันส่งเจียงเอ้อยากลับไป คนที่ตั้งใจจะมาพูดกระทบกระทบกระทั่งเป็นคนที่สองก็มาถึง
เจียงป่าวชิงค่อนข้างคิดไม่ถึงเล็กน้อย คนที่เพิ่งมาถึงคือเฉียนเซียงเซียง
เจียงป่าวชิงครุ่นคิดสักครู่ บุญคุณความแค้นในอดีตเหล่านั้นไม่นับ เพราะหลังจากที่ ‘เธอ’ ได้มาเกิดใหม่ในร่างนี้ เฉียนเซียงเซียงผู้งดงามหยาดเยิ้มก็กลายเป็นไก่ไร้ประโยชน์ไร้ชายใดมาสนใจไปโดยสิ้นเชิง แต่ช่วงนี้ โดยเฉพาะช่วงที่เจียงป่าวชิงถูกกงจี้ “เขี่ยทิ้ง” ถือเป็นโอกาสดีมากสำหรับเฉียนเซียงเซียง
ในข่าวลือที่คนเขาพูดกัน หากพูดตามจริง ไม่ว่าเฉียนเซียงเซียงจะชอบกงจี้มากเพียงใด เจียงป่าวชิงก็ไม่ได้ไปคุกคามอะไรนางนี่นา
เจียงป่าวชิงกับเฉียนเซียงเซียงถือได้ว่าไม่มีความแค้นในอดีตต่อกันแล้ว แต่ทำไมเฉียนเซียงเซียงถึงได้มาที่บ้านของนางและก่นด่าอยู่ที่นอกบ้านแบบนี้ ?
จะแค้นฝังลึกอะไรขนาดนั้น ?
ทีแรกเจียงป่าวชิงก็เฉย ๆ ทว่าเมื่อได้ฟังเสียงด่าข้างนอกที่ชักจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างแล้ว
“เจ้าคนใช้เสน่ห์ตัวเองมายั่วผู้ชายอย่างหน้าไม่อาย!”
“คิดว่าตัวเองเป็นใคร! คู่ควรกับพี่ชายข้าหรือไง ? คนปัญญาอ่อนอย่างเจ้ายังกล้าจะมายั่วพี่ชายข้าอีก”
เจียงป่าวชิงเปิดประตูบ้าน เตรียมส่งเจียงเอ้อยาออกไป
เดิมทีเฉียนเซียงเซียงยังคงก่นด่าโดยคิดว่าอีกฝั่งของประตูนั้นเป็นเจียงป่าวชิง แต่พอนางเห็นว่าประตูใหญ่เปิดออกอย่างกะทันหันและคนที่ออกมาไม่ใช่เจียงป่าวชิง นางก็ตกใจสุดขีด
เจียงเอ้อยาออกมาในสภาพเปียกปอนทั้งตัวและพูดกับเฉียนเซียงเซียงด้วยความโกรธว่า “ไอ้ขอทานนั่นบอกว่าต่อให้ชื่อเสียงของนางจะเลวร้ายแค่ไหน นางก็เป็นหญิงที่พี่ชายเจ้าชอบก็แล้วกัน”
เดิมทีเฉียนเซียงเซียงค่อนข้างกลัดกลุ้มเรื่องที่พี่ชายของนางโวยวายบ่อยครั้งขึ้นเรื่อย ๆ ว่าต้องการรีบแต่งเจียงป่าวชิงเข้าบ้านในช่วงนี้ นางถึงได้วิ่งมาที่บ้านตระกูลเจียงเพื่อมาระบายความทุกข์ให้เจียงเอ้อยาฟัง และพวกนางก็วิ่งตามกันมาที่บ้านเจียงป่าวชิงเพื่อด่าโดยเฉพาะ
เจียงเอ้อยาพูดมาเช่นนี้ เฉียนเซียงเซียงก็รู้สึกโกรธเลือดขึ้นหน้าทันที คุณหนูอย่างนางเวลาทำเรื่องอะไรแล้วก็มักจะไม่สนใจอะไรอีกต่อไป นี่นางถึงกับพุ่งไปที่บ้านของเจียงป่าวชิง แม้ประตูจะปิดอย่างแน่นหนา นางก็ยังชี้ประตูและก่นด่าทั้งอย่างนั้น
เฉียนเซียงเซียงไม่คิดว่าเจียงป่าวชิงจะกล้าออกมา ทว่าทันทีที่นางเห็นเจียงป่าวชิง นางก็รู้สึกงุนงงเล็กน้อย
เจียงป่าวชิงมองเฉียนเซียงเซียงด้วยความสงสัย “มาแหกปากอะไรของเจ้า ไหนเจ้าลองพูดขยายความมาซิว่าข้าไปยั่วพี่ชายของเจ้ายังไง ?”
นางรู้สึกสงสัยจริง ๆ ข่าวที่คนเขาลือกันข้างนอกนั่นบอกว่านางเป็นพวกเก่งในการยั่วผู้ชาย ราวกับว่าเพียงขยับนิ้วมือ เหล่าชายก็จะพุ่งเข้าใส่อย่างไม่ขาดสายอะไรเทือกนั้น
เจียงป่าวชิงกระหายที่จะรู้อย่างมาก
เหอะ! ถ้าหากว่านางมีความสามารถแบบนั้นจริง ๆ เช่นนั้นนางยังจำเป็นต้องพยายามระงับความคิดถึงของตัวเองในทุก ๆ วันแบบนี้เหรอ สู้กระดิกนิ้วมือและให้ชายคนนั้นมากอดนางโดยตรงไม่ดีกว่าเหรอ ?
เฉียนเซียงเซียงคิดว่าเจียงป่าวชิงกำลังยั่วยุ นางจึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ หน้าแดงก่ำ หูก็แดงไปหมด “เจ้าไม่รู้ตัวเองรึไงว่ายั่วพี่ชายข้ายังไง ? ถ้าไม่ใช่เพราะการยั่วของเจ้า พี่ชายข้าจะถึงกับต้องทะเลาะกับแม่ข้าทุกวันเพราะเขาอยากแต่งงานกับเจ้าแบบนี้รึ ?!”
“อะไรนะ ?” นี่เป็นครั้งแรกที่เจียงป่าวชิงได้ยินเรื่องที่เฉียนจินหวู่อยากแต่งงานกับนาง
เมื่อก่อน เฉียนจินหวู่คนนั้นมักจะพาเฉียนเซียงเซียงกับเจียงเอ้อยาไปรังแกเจียงป่าวชิงที่ปัญญาอ่อนคนนั้นบ่อยครั้ง
ตอนนี้กลับมาบอกว่าอยากแต่งงานด้วยเนี่ยนะ ?
ทำไมเขาต้องมาทำรักร้ายอะไรเช่นนี้ด้วย ?
เจียงป่าวชิงทำเสียงฮึดฮัดในจมูก
“เจ้าอย่ามาแสร้งทำเป็นโง่หน่อยเลย!” เฉียนเซียงเซียงเห็นเจียงป่าวชิงทำเหมือนไม่รู้เบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรก็โมโหทันที ในความคิดนาง ถ้าไม่ใช่เพราะเจียงป่าวชิงจงใจยั่ว พี่ชายของนางจะชอบคนปัญญาอ่อนได้อย่างไร
ครอบครัวนางทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้จนกลายเป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้
โดยเฉพาะเมื่อไม่กี่วันก่อน แม่ของนางกลับมาบ้านด้วยความดีใจแล้วบอกว่าเจียงป่าวชิงไปเป็นเมียน้อยของนายกาวแล้ว และบอกให้พี่ชายนางตัดใจเพื่อจะได้ไปหาแต่งงานกับผู้หญิงดี ๆ สักคนดีกว่า ทว่าเขากลับปาแจกันดอกไม้ขนาดใหญ่ที่เพิ่งซื้อมาจนแตกกระจายไปทั่วพื้น
ยังไม่ถึงสองวันมันกลับตาลปัตรเสียอย่างนั้น ผู้คนเล่ากันว่าเรื่องที่นายกาวคัดเลือกเมียน้อยเป็นแค่เรื่องกุขึ้นมา ที่จริงแล้วผู้หญิงที่ได้รับคัดเลือกไปคือถูกหลอกล่อกึ่ง ๆ ลักพาตัวไป ต่อมาก็ถูกพวกเจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความถูกต้องของบ้านเมืองช่วยกลับมา
ตั้งแต่วันนั้น ที่บ้านของนางกลับมาวุ่นวายอีกครั้ง
เฉียนจินหวู่โวยวายหนักมาก เขาบ่นทุกวันว่าต้องการแต่งงานกับเจียงป่าวชิง แถมยังสั่งให้เจียงเหลียนฮัวรีบไปวางเงินสินสอดอีกด้วย ไม่อย่างนั้น ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยน่ารักจิ้มลิ้มของเจียงป่าวชิง นางจะต้องถูกคนอื่นสู่ขอไปก่อนอย่างแน่นอน
เจียงเหลียนฮัวก็ไม่ชอบเจียงป่าวชิงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ต่อมาเจียงป่าวชิงมีข่าวลือในทางเสียหายมากมาย นางก็ยิ่งไม่เห็นด้วยมากกว่าเดิม
เจียงเหลียนฮัวทะเลาะกับเฉียนจินหวู่จนโรคหัวใจใกล้จะกำเริบอยู่รอมร่อ นางพูดอย่างเด็ดขาดว่าถ้าต้องการสู่ขอหญิงที่ชื่อเสียงย่อยยับอย่างเจียงป่าวชิงมา สู้ฆ่านางเสียยังดีกว่า เพื่อที่นางจะได้ไม่ต้องอยู่เห็นหน้าเจียงป่าวชิงและพาลอารมณ์เสีย
ทั้งสองฝ่ายทะเลาะกันอย่างไม่มีทางที่จะสิ้นสุด
เมื่อเฉียนเซียงเซียงนึกถึงเรื่องนี้ นางก็ยิ่งเกลียดเจียงป่าวชิงที่เป็นตัวการของเรื่องวุ่น ๆ ทั้งหมด แต่ตัวการคนนี้กลับยังคงแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องราวอะไรอยู่อีก
พูดเป็นเล่น! ถ้าไม่ใช่เพราะเจียงป่าวชิงคนนี้ยั่วยวนและยุงยงพี่ชายของนาง พี่ชายที่กตัญญูมาโดยตลอดจะทะเลาะกับแม่ราวกับพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินแบบนี้ได้อย่างไร
.
.
.