มู่เฉียนซียอมรับอย่างใจกว้างว่า “อืม! เจ้าเดาถูก ข้าจงใจ ขอแสดงความยินดีที่เจ้ากลายเป็นคนโดนโกง”
เหยียนเซี่ยฉีกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “ยอดเยี่ยมที่สุด เฉียนซีชนะอีกแล้ว นี่มันช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ”
ยาน้ำทั้งสิบขวดนี้ตกไปอยู่ในมือของนายน้อยหู่แล้ว
มู่เฉียนซีหันกลับไปมองจิ่วเยี่ยและกล่าวว่า “จิ่วเยี่ย ข้าเดาว่าพวกเขาวางแผนที่จะเพิ่มราคาอีกครั้งหนึ่งแล้วก็ละทิ้งยาน้ำนี้ จากนั้นก็ใช้วิธีอื่นเช่นการปล้นเพื่อให้ได้ยาน้ำนี่มา ข้าเดาถูกใช่หรือไม่?”
“ซีเดาได้เกือบหมดแล้ว ข้าจะมอบรางวัลให้เจ้า!”
เขาเอื้อมมือไปดึงมู่เฉียนซีเข้ามาในอ้อมอก จูบลงบนริมฝีปากของนาง และค่อย ๆ เลื่อนลงไปข้างล่างอย่างช้า ๆ…
จิ่วเยี่ยพยายามอดกลั้นไม่ให้ลงมือ แต่ตอนนี้กลับยิ่งควบคุมร่างกายของตนเองไม่ได้มากขึ้น
ที่นั่งส่วนตัวของพวกเขาร้อนขึ้นตลอดเวลา…
ในหัวของมู่เฉียนซีว่างเปล่า จนกระทั่งได้ยินพิธีกรประมูลกล่าวว่า “ต่อไปสิ่งที่พวกเรากําลังจะประมูลคือสมุนไพรวิญญาณระดับปฐพี หญ้าความฝันเหมันต์ ราคาเริ่มต้นที่ สิบล้านหยกวิญญาณ!”
เมื่อได้ยินคำว่าหญ้าความฝันเหมันต์ มู่เฉียนซีก็ตื่นขึ้น “จิ่วเยี่ย ทักษะหมิงหลัวของข้ายังเรียนรู้ได้ไม่สมบูรณ์เลย เจ้าอยากให้สุ่ยจิงอิ๋งส่งเจ้ากลับไปหรือ?”
เสื้อผ้าของทั้งสองตกลงไปใต้เก้าอี้ ผิวพรรณแนบชิดกันราวกับไม่มีช่องว่าง
แววตาของจิ่วเยี่ยก็กลับมาสงบนิ่งอีกครั้ง เขากล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ข้าไม่อยากกลับ”
“เช่นนั้น!” มู่เฉียนซีอยากจะเก็บเสื้อผ้าของตัวเองขึ้นมา แต่กลับถูกกอดไว้
“ตอนนี้ข้าควบคุมมันได้แล้ว อย่ากลัวไปเลย!” จิ่วเยี่ยกอดมู่เฉียนซีแน่น
“นี้ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือข้าต้องการประมูลหญ้าความฝันเหมันต์?”
“ซีเสนอราคาได้เลย ไม่ต้องสนใจข้า!”
ใบหน้าของมู่เฉียนซีหม่นคล้ำลง เขากําลังทําอะไรอยู่? นางจะไม่สนใจได้รึ?
รอยฟันบนผิวหนังทําให้สั่นสะท้าน!
นี่เป็นการประมูลที่ทรมานมาก!
มู่เฉียนซีอยากจะส่งเสียง แต่กลับไม่สามารถทําให้เสียงของตนเองนั้นเป็นปกติได้
เมื่อต้องเผชิญกับหญ้าความฝันเหมันต์ แน่นอนว่ามีผู้คนมากมายที่ต้องการประมูล!
ไม่นานราคาก็พุ่งสูงขึ้นถึงหกสิบล้าน แต่จิ่วเยี่ยกลับแสดงความรักที่เขามีต่อคนที่เขารักโดยไม่คำนึงถึงสถานการณ์ ทําให้มู่เฉียนซีไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้
มู่เฉียนซีกัดฟันพูด “หกร้อยล้าน ข้าเอาแล้ว!”
นางไม่สามารถมั่นใจได้ว่าการประมูลครั้งต่อไปจะยังสามารถทําให้เสียงของนางเป็นปกติได้
ดังนั้นครั้งนี้จึงเป็นธรรมดาที่จะตะโกนเสียงดังจนทําให้ผู้คนไม่สามารถเพิ่มราคาได้
ขาดทุนก็ขาดทุน นางทนได้ ใครใช้ให้นางอยู่ในห้องเดียวกับสัตว์ร้ายที่ปล่อยระเบิดออกมาเช่นนี้
ทุกคนประหลาดใจมาก “หกร้อยล้าน! การโจมตีเพียงครั้งเดียวแต่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว นี่มันรุนแรงเกินไปแล้ว!”
“หกร้อยล้านก็เพียงพอที่จะซื้อเม็ดยาระดับปฐพีแล้ว กลับมีคนเอามาซื้อเพียงแค่สมุนไพรวิญญาณต้นเดียว”
“……”
นายน้อยหู่สามารถบอกได้ว่ามู่เฉียนซีมีความทะเยอทะยานและต้องการมัน เขาถูกนางหลอกอย่างน่าสังเวช เขาต้องหาทางเอาคืนให้ได้
ผู้อาวุโสใหญ่ก็ไม่ได้ห้ามปรามเขาแต่ประการใด นายน้อยหู่กล่าว “หกร้อยสิบล้าน!”
ให้ตายสิ เจ้าหมอนี่มาเพื่อสร้างปัญหาหรืออย่างไร
มู่เฉียนซีมองไปทางจิ่วเยี่ยที่ก่อความวุ่นวายแล้วกล่าว “จิ่วเยี่ย เจ้าจะหยุดได้หรือไม่ นี่มันหญ้าวิญญาณเหมันต์นะ!”
นางแทบจะพังทลายลงอยู่แล้ว เข้าใจหรือไม่!
ปรากฏว่าจิ่วเยี่ยได้ใช้ดวงตาสีฟ้าที่ดูไร้เดียงสาคู่นั้นมองไปที่มู่เฉียนซีแล้วกล่าว “ซี ข้าไม่อาจที่จะหยุดได้”
เฉียนซีแทบจะกระอักเลือดออกมา
“แต่หญ้าวิญญาณเหมันต์…”
จิ่วเยี่ยขบที่ลำคอของมู่เฉียนซีเบา ๆ แล้วแล้วกระซิบที่ข้างหูนางว่า “ทำให้คนผู้นั้นหลับไปเป็นร้อย ๆ ปีก็ไม่มีปัญหา ไม่ตายหรอก!”
ดวงตาสีฟ้านั้นทอประกายเข้มขึ้น
“ไม่ง่ายเลยกว่าที่จะหาได้พบ ข้าเองก็มิอาจที่จะยอมแพ้ได้ เจ้า…”
“ข้าสะกดมันเอาไว้มานานมากแล้ว มันไม่สามารถที่จะควบคุมเอาไว้ได้อีก” เมื่อกล่าวจบ รอยประทับแต่ละแถวก็ได้เลื่อนลงมาจากคอของมู่เฉียนซี
“หกร้อยสิบล้านครั้งที่หนึ่ง หกร้อยสิบล้านครั้งที่สอง…”
นายน้อยหู่เองก็รู้สึกหวั่นกลัวขึ้นมาอยู่บ้าง เขา…เขาคงจะไม่ถูกหลอกอีกกระมัง! ความร้อนรนของหญิงสาวผู้นั้นเป็นเรื่องจอมปลอม? เสแสร้งอีกแล้ว!
ในตอนที่ผู้ดำเนินงานประมูลกำลังจะกล่าวเป็นครั้งที่สามนี่เอง เสียงที่มีเสน่ห์เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา “พันล้าน!”
ชายหญิงที่อยู่ในห้องเดียวกันตามลำพัง ในที่สุดเยี่ยของเขาก็อดทนเอาไว้ไม่ได้เสียแล้ว!
เยี่ยชอบสาวน้อยคนงามมาก บวกกับการที่คำสาปมีการเปลี่ยนแปลง หากสามารถที่จะทนได้นั่นก็แปลกแล้ว
เสียงของสาวน้อยคนงามเมื่อครู่นี้ปกติยิ่งนัก เพียงแต่ว่ารีบร้อนไปหน่อยก็เท่านั้น ดังนั้นผู้อื่นจึงไม่สามารถที่จะฟังออกได้
แต่เขาผู้ที่ผ่านลมฝนมาเป็นเวลายาวนานและรู้อย่างลึกซึ้งในเรื่องของชายหญิง ทำไมถึงจะไม่รู้ได้อย่างชัดเจนเล่า
เสียงของสาวน้อยคนงามนั้น ดูเหมือนว่าจะเกิดความรู้สึกกับจิ่วเยี่ยเสียแล้ว!
เมื่อจื่อโยวลงมือ มู่เฉียนซีก็โล่งอกไปเปราะหนึ่ง
จิ่วเยี่ยกล่าว “ข้าจะไม่ทำให้ซีผิดหวัง เรื่องต่อจากนี้ให้จื่อโยวจัดการ เจ้าต้องจดจ่อ!”
หลังจากนั้นก็มิได้สนใจอะไรอีก และได้รุกประหนึ่งกองทัพที่ถูกโจมตีเสียจนแตกพ่ายไม่เป็นกระบวน และถูกยึดเมืองและพื้นที่ไปอีกครั้งหนึ่ง!
“พันล้าน! โอ้สวรรค์! ข้ามิได้ฟังผิดไปกระมัง!”
“สมุนไพรวิญญาณนี้ กลับมีผู้ให้ราคาสูงเช่นนี้”
“บ้าไปแล้ว!”
นายน้อยหู่เองก็ปากอ้าตาค้างที่ฝ่ายตรงข้ามได้เปิดราคาเช่นนี้ออกมา เขาไม่มีซึ่งพลังที่จะไปแข่งขันด้วยเลยแม้แต่น้อย
ไม่มีใครแข่งขันกับจื่อโยว สมุนไพรวิญญาณนี้ แน่นอนว่ามันได้ถูกจื่อโยวประมูลไป
อย่างไรก็ตามมู่เฉียนซีและจิ่วเยี่ย ก็ยังคงไม่สนใจสถานการณ์ในโรงประมูลได้อยู่เช่นเดิม
สินค้าประมูลแต่ละชิ้นได้ถูกทยอยนำออกมาประมูลชิ้นแล้วชิ้นเล่า และแล้วงานประมูลก็ได้เข้าสู่ช่วงสุดท้าย พิธีกรประมูลได้กล่าวขึ้น “ต่อจากนี้ พวกเราจะทำการประมูลสินค้าชิ้นสุดท้าย”
ผู้ที่นำสินค้าประมูลชิ้นสุดท้ายขึ้นมานั้นมิใช่คนธรรมดาทั่วไป หากแต่เป็นหัวหน้าโรงประมูลที่ได้โคจรพลังวิญญาณและนำมันขึ้นไปวางยังแท่นประมูล
ดวงตาของทุกคนเปล่งประกายออกมา หัวหน้าโรงประมูลออกโรงเอง ครั้งนี้จะต้องเป็นการประมูลสิ่งที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมากชิ้นหนึ่งเป็นแน่
ภายใต้สายตาอันอยากรู้อยากเห็นของทุกคน หัวหน้าโรงประมูลได้ค่อย ๆ เปิดผ้าสีแดงที่ห่อหุ้มมันเอาไว้ออกช้า ๆ ก่อนจะเผยให้เห็นกล่องสีดำกล่องหนึ่ง
เขาได้เปิดกล่องนั้นออกอย่างระมัดระวัง ลำแสงสีขาวลำแสงหนึ่งได้พุ่งออกมาฉับพลัน
ความหนาวเหน็บแผ่กระจายไปทั่วทั้งโรงประมูล และหมอกที่ใสราวกับคริสตัลก็ปกคลุมไปทั่วบริเวณ
ในตอนนี้เองจิ่วเยี่ยก็ดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ได้ถูกสะกดไปแล้วไม่น้อย ส่วนมู่เฉียนซีเองก็รู้สึกตัวขึ้นมาแล้ว
นางยกเท้าขึ้นแล้วถีบจิ่วเยี่ยออกไปหนึ่งคราอย่างไม่เกรงใจแล้วกล่าว “เจ้ามันมากเกินไปแล้ว”
“ข้ารู้!” จิ่วเยี่ยยิ้มพร้อมตอบอย่างจริงใจ
“แต่เพราะข้านั้นชอบทำกับซีมากเกินไป!”
มู่เฉียนซีนั้นเดือดดาลพลุ่งพล่านดั่งไฟแล้ว แต่ทว่าเรื่องหลักนั้นสำคัญนัก!
มู่เฉียนซีจึงสวมใส่เสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว และยื่นมือออกไปพร้อมกล่าวว่า “ยื่นมือของเจ้าออกมา!”
จิ่วเยี่ยขยับเข้าไปใกล้มู่เฉียนซี เงาร่างอันมีกลิ่นอายที่คุ้นเคยแผ่ซ่านออกมานั้นกำลังเข้ามาใกล้ ทำให้มู่เฉียนซีรู้สึกได้ถึงอันตราย
“ข้าบอกให้เจ้ายื่นมือออกมา มิใช่ให้เจ้ามาใกล้ทั้งตัว”
จิ่วเยี่ยยื่นมือออกมา จากนั้นมู่เฉียนซีก็ได้ลดมือลง นางรู้สึกได้ว่าความวุ่นวายในร่างกายของเขาได้สงบลงไปแล้วไม่น้อย
“ข้ารู้สึกว่า มันมีความเกี่ยวพันกับของที่อยู่ด้านล่างนั้นเป็นอย่างมาก” มู่เฉียนซีได้มองไปทางแท่นประมูลที่อยู่ด้านล่าง สายตาของจิ่วเยี่ยเองก็ได้เปลี่ยนทิศมองไปเช่นกัน
เดิมทีเขาคิดว่านอกจากการล้างคำสาปออกไปอย่างสมบูรณ์คงจะไม่มีหนทางอื่นแล้ว แต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะได้พบกับสิ่งของที่พิเศษชิ้นนั้นเข้า