“ช่างเป็นคลื่นพลังที่รุนแรงรัก! นี่มัน…คงเป็นเลือดของเจ้าโลกแล้ว?” เย่หยวนถามขึ้น
เพราะเลือดทั้งสองขวดนี้มันแฝงล้ำมาด้วยคลื่นพลังรุนแรง
นอกจากนั้นแล้วมันยังเป็นถึงสายเลือดระดับสวรรค์แห้งขั้นสุด
แก่นเลือดระดับนี้ไม่ว่าจะเป็นของเผ่าใดมันก็นับเป็นของล้ำค่าย่อมจะไม่มีทางปล่อยให้คนนอกได้ครอบครองอย่างแน่นอน
หลงหมินได้แต่ต้องยิ้มแห้งๆ ตอบกลับเย่หยวนไปด้วยสีหน้าอิจฉา “บรรพบุรุษท่านได้เรียกให้สองยอดเจ้าโลกของทั้งสองเผ่ารีดแก่นเลือดตัวเองให้แก่เจ้า นอกจากนั้นแล้วเรื่องที่เจ้าก่อในคงคานิรันดร์นั้นมันยังวุ่นวายอย่างมาก แม้แต่ยอดฝีมือล้ำสวรรค์ท่านทั้งหลายเองก็ยังต้องมาถามหาคนรับผิดชอบ สุดท้ายก็เป็นบรรพบุรุษท่านที่ไล่คนเหล่านั้นกลับไป”
เผ่ามังกรนั้นย่อมจะไม่พอใจเย่หยวนกันอยู่ไม่น้อย
หมี่เทียนนั้นดีกับเย่หยวนเกินไป ทำให้คนทั้งเกาะมังกรสวรรค์เกินความอิจฉาขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย
หลายปีมานี้มันมีข่าวลือกันว่าบรรพบุรุษท่านนั้นจะแต่งตั้งให้เย่หยวนเป็นผู้สืบทอดของท่าน
ทำให้ยอดอัจฉริยะทั้งหลายบนเกาะมังกรสวรรค์นั้นไม่พอใจกันสิ้น
เย่หยวนที่ได้ยินก็รู้สึกซาบซึ้งในใจขึ้นมา
เขาเข้าใจดีว่าตัวหมี่เทียนนั้นต้องแบกรับแรกกดดันแค่ไหนเพื่อเขาในครั้งนี้
เพราะต่อให้จะมีพลังอาณาจักรล้ำสวรรค์มันก็ใช่ว่าจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ
แต่ระหว่างตัวเย่หยวนและหมี่เทียนนั้นมันไม่ต้องมีคำพูดอะไรกันอีกให้มากมาย
ระหว่างทางนั้นพวกเขาต่อสู้เสี่ยงชีวิตมาด้วยกัน
ทำให้เข้าใจถึงชีวิตและความคิดของอีกฝ่ายอย่างมาก พร้อมกับสามารถฝากฝังชีวิตให้แก่กันได้อย่างสุดใจ
เพียงแค่เรื่องเช่นนี้คนนอกย่อมจะไม่มีทางเข้าใจได้แน่นอน
“แต่ข้าก็ไม่เข้าใจนะ บรรพบุรุษท่านคิดอะไรถึงได้ยอมลบหลู่สองเผ่าใหญ่เพื่อเอาแก่นเลือดพวกเขามาให้เจ้า?” หลงหมินกล่าวถามขึ้น
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ท่านจะได้รู้ในไม่ช้า ผู้อาวุโสหมี่เทียนท่านอยู่ไหนแล้ว? ข้าอยากเจอท่านเสียหน่อย”
หลงหมินตอบกลับไป “บรรพบุรุษท่านไปยังต้นอาซาเซียแห่งเผ่าหงส์แดง หลังจากเรื่องราวความขัดแย้งภายในเผ่าหงส์แดงสงบลงแล้วเฟิ่งชิงซวนที่มีสายเลือดกึ่งโกลาหลก็ได้ถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นนายน้อยคนใหม่แห่งเผ่าหงส์แดง บรรพบุรุษท่านจึงอาสานำตัวนางกลับไปส่งที่เผ่า”
เย่หยวนต้องขมวดคิ้วขึ้นถาม “สายเลือดกึ่งโกลาหล?”
หลงหมินพยักหน้าตอบกลับมา “ในสี่เผ่าจตุรทิศเรานั้นชาวเผ่าที่มากพรสวรรค์อาจจะสามารถปลุกสายเลือดกึ่งโกลาหลขึ้นมาได้ มันคือสายเลือดที่เหยียบเข้าระดับโกลาหล พวกเขาเหล่านั้นคือยอดอัจฉริยะที่อนาคตอาจจะก้าวไปถึงอาณาจักรล้ำสวรรค์ได้ หลายปีที่เจ้าเก็บตัวอยู่ในคงคานิรันดร์นี้เฟิ่งชิงซวนนั้นได้ปลุกสายเลือดกึ่งโกลาหลของตนขึ้นมาและบรรลุขึ้นมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ไปแล้ว”
เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องผงะไป
มันกลับมีเรื่องราวเช่นนี้อยู่ด้วย
“เช่นนั้นแล้วเผ่ามังกรเราเองก็มีคนสายเลือดกึ่งโกลาหล?” เย่หยวนอดถามขึ้นไม่ได้
“เรื่องนั้นเราไม่มี เผ่ามังกรเรานั้นมีสองบรรพบุรุษคอยปกปักดูแลทำให้โชคชะตาของเด็กรุ่นใหม่ไม่แข็งแกร่งนัก ข้าว่ามันคงแทบไม่มีทางที่จะปรากฏสายเลือดกึ่งโกลาหลขึ้นมาได้ หลังจากได้เห็นเฟิ่งชิงซวนบรรลุระดับกึ่งโกลาหลนั้นคนทั้งหลายก็ต่างคาดเดาไปว่าบรรพบุรุษของเผ่าหงส์แดงนั้นคงตายลงไปแน่แล้ว แต่มันก็ไม่แน่หรอก เพราะตอนนี้บรรพบุรุษหมี่เจิ้นท่านนั้นอ่อนแอลงอย่างมาก บางทีเผ่ามังกรฟ้าเรามันอาจจะได้มีสายเลือดกึ่งโกลาหลกำเนิดขึ้นมาก็ได้”
หลงหมินเล่าออกมา
เย่หยวนเลิกคิ้วขึ้นตอบ “หมี่เจิ้นยังไม่ตาย?”
หลงหมินถอนหายใจยาวออกมา “บรรพบุรุษหมี่เจิ้นท่านนั้นถูกรีดเลือดออกไปกว่าครึ่งกำลังของท่านนั้นตกต่ำลงอย่างมาก นอกจากนั้นท่านยังบาดเจ็บสาหัสตอนนี้เอาแต่นอนไม่ทำอะไร ดูท่าคงไม่ต่างอะไรจากคนพิการแล้ว”
เย่หยวนหัวเราะขึ้นมา “มันมีแต่ต้องโทษตัวเองเท่านั้น ในเมื่อผู้อาวุโสหมี่เทียนไม่อยู่ข้าก็ขอตัวเข้าเก็บตัวก่อนล่ะ”
หลงหมินที่ได้ยินต้องผงะไป “เจ้าเพิ่งออกจากการเก็บตัวในคงคานิรันดร์มา เจ้าจะไปเก็บตัวอีกแล้ว?”
เย่หยวนยกขวดใบน้อยทั้งสองขึ้นมาเขย่าพร้อมรอยยิ้ม “สิ่งนี่มันต้องรีบลองแล้วมิใช่หรือ?”
หลงหมินขมวดคิ้วแน่นไม่เข้าใจแต่รู้ดีว่ามันคงมิใช่เรื่องธรรมดา
ระหว่างที่เดินไปนั้นคนทั้งสองก็มาถึงตึกหลักของเผ่าและเจอชายหนุ่มหลายคนเดินเข้ามาปิดทางเย่หยวนไว้
ชายหนุ่มทั้งหลายนี้มีคลื่นพลังที่ทรงพลังอย่างมาก พวกเขานั้นเป็นถึงมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์กันสิ้น!
นอกจากนั้นพลังสายเลือดของพวกเขาเองก็ยังรุนแรงล้ำ เป็นถึงระดับสวรรค์แห้งขั้นสุด!
สายเลือดระดับสวรรค์แห้งนั้นมันเป็นสิ่งที่พบได้ทั่วเกาะมังกรสวรรค์ ไม่เรียกว่าหายากแม้แต่น้อย
แต่ว่าสายเลือดระดับสวรรค์แห้งขั้นสุดนี้มันเป็นของหายากราวเขากิเลน
เมื่อระดับสายเลือดมันพัฒนามาจนถึงระดับสวรรค์แห้งแล้วมันก็จะเหมือนคนที่บรรลุอาณาจักรเจ้าโลกขึ้นมา แทบไม่อาจจะพัฒนาต่อไปได้แม้แต่น้อย
เพราะฉะนั้นบนเกาะมังกรสวรรค์นี้แม้คนทั้งหลายจะมีสายเลือดระดับสูงสุด
แต่ว่ามันก็ยังมีความแตกต่างในฐานะได้
เหมือนดั่งคนตรงหน้าเขานี้ที่แค่มองปราดเดียวก็เข้าใจได้ว่าเป็นนายน้อยสูงศักดิ์
คนทั้งเก้านั้นเดินออกมาด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตรสิ้น ดูท่าแล้วคงมาเพื่อหาเรื่องอย่างไม่ต้องสงสัย
“นายน้อยหลงเหอ พวกท่านมาทำอะไรกันหรือ?” หลงหมินถามขึ้น
“ไม่ใช่เรื่องของเจ้า หลงหมิน ไสหัวไปให้พ้นหน้านายน้อยผู้นี้เสีย! หากเจ้ากล้ามาสอดเรื่องในวันนี้แล้วนายน้อยผู้นี้จะขับไล่เจ้าออกจากตระกูลเฉียวเหนียวเสีย!” หลงเหอกล่าวขึ้น
หลงหมินได้แต่ต้องทำหน้าเหยเก รู้ทันทีว่าเรื่องวันนี้เขาคงไม่อาจจะเข้าไปยุ่งด้วยได้แล้ว
เขาหันไปมองเย่หยวนด้วยสีหน้ารู้สึกผิด
เพราะเรื่องนี้เขายุ่งด้วยไม่ได้จริงๆ
แต่เย่หยวนนั้นกลับยิ้มตอบไม่คิดสนใจ
ตำแหน่งของเก้านายน้อยนั้นมันเป็นตำแหน่งที่สูงล้ำบนเกาะ
และนี่มันคือการต่อสู้ระหว่างนายน้อยของเผ่ามังกร มันย่อมจะมิใช่เรื่องที่เขายุ่งเกี่ยวด้วยได้
เก้านายน้อยนั้นเดิมทีแล้วย่อมจะมีเรื่องไม่ลงรอยกันมากมาย
แต่วันนี้เพราะการปรากฏขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ของเย่หยวนนั้นมันได้ทำให้ศัตรูทั้งหลายหันมาร่วมมือกันเฉพาะกิจ
เพราะเย่หยวนนั้นสัมผัสได้ถึงความริษยาแม้แต่จากน้ำเสียงของหลงหมิน
เพียงแค่เขาก็ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะรีบมาขนาดนี้
เกาะมังกรสวรรค์นั้นมีเก้าตระกูลย่อยที่เป็นลูกหลานโดยตรงของมังกรฟ้าโกลาหล มีพลังสายเลือดสุดแข็งแกร่ง
นอกจากนั้นแล้วยอดฝีมือทั้งเก้าตระกูลต่างได้รับสายเลือดระดับโกลาหลมาส่วนหนึ่งและมีพลังอย่างที่ไม่อาจเอาเผ่ามังกรอื่นๆ มาเทียบเคียง
เพราะเช่นนี้เองเกาะมังกรสวรรค์มันถึงได้ถูกยกเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่ามังกร
ส่วนเผ่ามังกรบนแดนตรังค์ตะวันออกนั้นมีสายเลือดที่บางเบากว่าอย่างมาก
ในหมู่พวกเขาทั้งหลายนั้นมันแทบจะไม่มีใครบรรลุเจ้าโลกได้
หลงเหอมองหน้าเย่หยวนและกล่าวขึ้น “เย่หยวน ข้ามีนามว่าหลงเหอ นายน้อยตระกูลเฉียวเหนียว!
ข้าขอท้าเจ้า! คนแพ้นั้นจะต้องถอนตัวออกจากการประลองนายน้อย! เจ้ากล้าจะรับมันหรือไม่?”
เย่หยวนหันไปยิ้มถามอีกฝ่าย “มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์เก้าคนมาหาเรื่องมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์คนเดียว พวกเจ้าล้อข้าเล่นรึเปล่าเนี่ย?”
หลงเหอตอบกลับไปอย่างหน้าไม่อาย “เจ้าทำให้คงคานิรันดร์ปั่นป่วนวุ่นวาย แม้แต่ยอดฝีมือล้ำสวรรค์ยังต้องออกมาถามหาต้นเหตุ! นอกจากนั้นแล้วเจ้ายังบ่มเพาะพลังโกลาหล กำลังของเจ้านั้นมันคงเหนือล้ำกว่าคนระดับเดียวกันไปสิ้นเชิงมิใช่หรือ? หากเรากดพลังตัวเองลงเหลือแค่มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์แล้วมันจะพอเทียบกับเศษเล็บของเจ้าได้? เช่นนี้ยังจะเรียกว่าเรารังแกเจ้าได้อย่างไร?”
คำพูดนั้นมันอาจจะฟังดูสมเหตุสมผลในตัวแต่จริงๆ มันก็ยังถือเป็นการรังแกคน
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์นั้นก็ยังเป็นมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์นั้นก็เป็นแค่มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์!
ช่องว่างระหว่างอาณาจักรนั้นมันสามารถก้าวข้ามด้วยพลังยุทธได้จริงแต่ว่ามันเป็นสิ่งที่ยากเย็นยิ่ง
ไม่ว่าจะมากฝีมือแค่ไหนไม่ว่าจะมีสายเลือดทรงพลังปานใด ช่องว่างของพลังบ่มเพาะนั้นมันก็ยังเป็นอะไรที่ยาเกินกว่าจะข้ามผ่าน
“เฮอะ มีเรื่องสนุกให้ดูแล้ว”
“พวกเจ้าพนันกับข้าไหมว่าเย่หยวนจะถูกกระทืบจนมีสภาพเช่นใด?”
“ชิ เจ้าบ้านี่มันอย่างมากก็แค่ครึ่งมังกร กลับคิดครองตำแหน่งนายน้อยไป ช่างกล้า!”
“มันคิดว่าแค่พาบรรพบุรุษท่านกลับมาแล้วมันจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบหรือ? ที่มันมีวันนี้ได้สุดท้ายก็คงเพราะบรรพบุรุษท่านทั้งสิ้น! บุญคุณที่ช่วยชีวิตนั้นคงเรียกได้ว่าถูกชดใช้ตั้งแต่ก่อนจะมาถึงเผ่ามังกรแล้ว!”
…
ในเผ่ามังกรนั้นใช่ว่าทุกคนจะมองเย่หยวนเป็นยอดอัจฉริยะเหมือนที่หลงเจี้ยนมอง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะเย่หยวนนั้นเป็นลูกครึ่ง มันยิ่งไม่ได้รับการยอมรับ
เกาะมังกรสวรรค์นั้นเป็นโลกแห่งการแก่งแย่ง มันย่อมจะไม่มีคำว่าเท่าเทียมใดๆ มาแต่ต้น
แท้จริงแล้วคนที่เข้าเกาะมังกรสวรรค์มาจากโลกภายนอกนั้นมักจะถูกเย้ยหยันอยู่เสมอๆ
ไม่ต้องพูดถึงเย่หยวนที่เป็นแค่ลูกครึ่งเช่นนี้เลย
เรื่องที่บรรพบุรุษท่านคิดจะยกเย่หยวนขึ้นเป็นนายน้อยของเผ่านั้นมันแพร่ไปได้อย่างไรไม่ทราบแต่ตอนนี้คนทั้งเกาะต่างไม่เห็นด้วยกับเรื่องนั้นสิ้น
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไปเมื่อได้ยิน “เจ้าก็พูดมีเหตุผล! แต่ข้าไม่คิดสนใจตำแหน่งนายน้อยใดๆ ของพวกเจ้าหรอก ไม่ต้องมาท้าประลองอะไรข้า”
…………………………