สมุดนี้มันย่อมจะมิใช่คัมภีร์เอกภพใดแต่ว่ามันอยู่ใกล้กับจุดเปิดที่ซ่อนอย่างมาก!
เย่หยวนนั้นเปิดอ่านผ่านๆ และพบว่ามันเป็นสมุดฝึกแต่งกลอน
เมื่อเห็นเช่นนั้นเขาจึงวางมันกลับเข้าที่เดิม
ได้เห็นเย่หยวนวางสมุดกลับลงไปนั้นหวูเทียนก็ต้องถอนหายใจยาวออกมาอย่างไม่อาจห้ามตัวเอง!
จากนั้นเขาก็หัวเราะขึ้นมาในใจ ‘หึๆ ผู้มีดวงชะตาบ้าบอใดๆ กัน เจ้าก็แค่ขู่ข้าเท่านั้น! สุดท้ายแล้วเจ้าก็เดินผ่านมันไปอย่างหวุดหวิดมิใช่หรือ? เจ้าเด็กนี่ ตอนที่มันใกล้จะตายนั้นข้าจะบอกมันว่าคัมภีร์เอกภพซ่อนอยู่ที่ใด ถึงเวลานั้นมันจะทำหน้าอย่างไรกัน?’
หวูเทียนนั้นอดวางแผนทรมานเย่หยวนไว้ไม่ได้ เพราะเมื่อสักครู่นี้เขากลัวจนใจหายจริงๆ
เขารู้ดีว่าตอนนี้จะทำหน้าหรือแสดงท่าทางใดๆ ออกมาไม่ได้เด็ดขาด
เพราะเจ้าเด็กนี่มันเฉียบคมเกินไป หากเห็นถึงความผิดปกติใดๆ แล้วมันย่อมจะรู้ได้ทันที
เพราะฉะนั้นตั้งแต่ต้นจนจบเขาจึงยืนมองด้วยใบหน้านิ่งเฉยตลอดเวลา
แต่ในวินาทีนั้นเองที่เปลวเพลิงเที่ยงสุดเต๋ามันลุกขึ้นมาพุ่งใส่ตัวเย่หยวน
เย่หยวนนั้นยกมือขึ้นปัดมันออกไปด้วยปราณเทวะโกลาหลเล็กน้อยจนเพลิงเที่ยงสุดเต๋าดับลงอย่างง่ายดาย
แต่มันช่างบังเอิญที่ปราณเทวะโกลาหลที่เหลือนั้นมันกลับพุ่งตรงหน้าไปโดนตัวเปิดใช้งานกลไก
ครืน!
เสียงของหนักๆ เลื่อนไปมาก่อนจะมีคัมภีร์หนังแพะม้วนหนึ่งยื่นออกมาจากชั้น
บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นได้แต่ต้องอ้าปากค้าง
บ…บังเอิญได้ปานนี้?
เพลิงเที่ยงสุดเต๋านั้นมันช่างมาได้ถูกเวลา!
ตำแหน่งและมุมต่างๆ มันกลับตรงพอดี
ราวกับว่ามันคิดช่วยเย่หยวนเปิดใช้กลไก!
เพลิงเที่ยงสุดเต๋านั้นตามตัวเย่หยวนมาตลอดทางแต่เย่หยวนนั้นทรงพลังจนเกินไป
พลังของเพลิงเที่ยงสุดเต๋าในตอนนี้มันไม่อาจจะทำอันตรายใดๆ เย่หยวนได้เลย
เพลิงเที่ยงสุดเต๋าที่ผ่านๆ มานั้นหวูเทียนเองก็เห็นมันชัดเจนแก่สายตาว่าเย่หยวนสามารถจัดการมันลงได้ด้วยการสะบัดมือ
ปราณเทวะโกลาหลนั้นมันมิใช่ของเล่น หากเขาคิดจัดการจริงๆ เขานั้นต้องทุ่มกำลังใส่เย่หยวนไม่น้อยเช่นกัน
ไม่เช่นนั้นแล้วเขาก็ไม่อาจจะทำอันตรายใดๆ เย่หยวนได้แม้แต่น้อย
แต่ความบังเอิญของเพลิงเที่ยงสุดเต๋านี้มันช่างเหนือล้ำจินตนาการ!
หัวใจของหวูเทียนนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายจนเกินบรรยายออกมา
เย่หยวนมองดูที่ซ่อนลับนั้นก่อนจะยิ้มกว้างขึ้นมา “ผู้อาวุโสหวูเทียน ไม่นึกเลยว่ามันจะบังเอิญได้ขนาดนี้ คัมภีร์หนังแพะนี้คงมิใช่ว่ามันคือคัมภีร์เอกภพแล้ว?”
จริงๆ เย่หยวนย่อมจะรู้คำตอบอยู่แล้วเพราะหน้าตาของหวูเทียนในตอนนี้มันตอบมาสิ้น
ความตกตะลึงในสายตานั้นมันเป็นคำตอบชัดเจนแล้วว่านี่คือคัมภีร์เอกภพ!
‘อ่า…บรรพบุรุษนิกายยาสุดล้ำ พวกท่านทรงพลังกันจริงๆ!’
โชคชะตานั้นมันคือสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้!
เย่หยวนหยิบเอาคัมภีร์หนังแพะนั้นขึ้นมาอ่านดูและแน่นอนว่ามันย่อมจะเป็นคัมภีร์เอกภพแล้ว
“ฮ่าๆ ข้าก็บอกแล้วว่าดวงของข้ามันดีเสมอมา แต่หากไม่ได้เพลิงเที่ยงสุดเต๋าของผู้อาวุโสหวูเทียนนั้นข้าก็คงเดินผ่านคัมภีร์เอกภพนี้ไปแล้ว!” เย่หยวนยิ้มขึ้นกล่าว
บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นรู้สึกสิ้นหวังจากส่วนลึกของหัวใจ
เขาไม่นึกฝันว่าเพลิงเที่ยงสุดเต๋าของเขานั้นมันกลับจะช่วยเหลือเย่หยวนให้เจอคัมภีร์เอกภพ!
โชคชะตาช่างเล่นตลก!
นี่หรือคือผู้มีโชคชะตายิ่งใหญ่?
มันจะไม่ดวงดีเกินไปหน่อยหรือ?
มันมิใช่ว่าเขานั้นไม่เชื่อในดวงชะตาแต่ว่าเขาไม่เคยได้เห็นใครหาภาพวาดเต๋าสวรรค์เจอด้วยวิธีการเช่นนี้มาก่อนเลยในชีวิต!
“ไอ้หนู จำไว้ให้ดีเถอะ! หวังว่าเจ้านั้นจะสำเร็จคลื่นกำเนิดห้วงมิติได้ก่อนที่ข้าจะจัดการพวกมันลง!”
บรรพบุรุษหวูเทียนนั้นจางหายไปทิ้งไว้เพียงแค่ลมเบาๆ
ไม่มีหน้าอยู่!
นอกจากนั้นเขายังต้องทุ่มสมาธิที่เหลือจัดการยอดฝีมือทั้งหลายด้วย!
ในตอนนี้ความเกรงกลัวต่อเย่หยวนของเขานั้นมันพุ่งขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับเจ้าโลกหลุนฮวยหรือศิลาโลหิตโกลาหลแล้ว
ได้คัมภีร์เอกภพมาเย่หยวนเองก็ยังไม่มีเวลามาดีใจรีบอัดปราณเทวะโกลาหลเข้าไปภายในเพื่อศึกษาเต๋าทันที!
เพราะเขารู้ดีว่าเวลาไม่คอยท่าเขาแล้ว
เรื่องนี้จะจบลงเช่นไรไม่มีใครคาดเดาได้
แต่เย่หยวนนั้นย่อมจะไม่อยากให้บรรพบุรุษหวูเทียนกลับสู่สามสิบสามสวรรค์ไป
เพราะคนเช่นนี้มันย่อมจะไม่เป็นสิ่งดีต่อสามสิบสามสวรรค์แล้ว
ฉะนั้นการปล่อยให้สามเจ้าโลกผู้อยู่บนจุดสูงสุดอย่างบรรพบุรุษหวูเทียน เจ้าโลกหลุนฮวยและศิลาโลหิตโกลาหลนั้นโจมตีทำร้ายกันจนสาหัสไปทุกฝ่ายย่อมจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด
ปล่อยให้เสือมันกัดกันไปแล้วเขาค่อยแย่งเอาเนื้อมา
สภาพในตอนนี้มันเป็นอะไรที่ยุ่งเหยิงอย่างมาก
หากเจ้าโลกหลุนฮวยและศิลาโลหิตโกลาหลนั้นถูกหลอมไปจริงๆ แล้วบรรพบุรุษหวูเทียนคงจะสามารถสร้างโอสถสวรรค์โกลาหลที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ขึ้นมาได้และอาจจะก้าวผ่านล้ำสวรรค์ไปได้จริงๆ!
ด้วยนิสัยของบรรพบุรุษหวูเทียนแล้วเรื่องจากนั้นจะเป็นอย่างไรต่อมันย่อมยากเกินคาดเดา!
หากเจ้าโลกหลุนฮวยและศิลาโลหิตโกลาหลบาดเจ็บสาหัสแต่รอดกลับออกไปจากการหลอมได้มันย่อมจะดีที่สุด
ทำเช่นนั้นสามยอดคนจะบาดเจ็บกันถ้วนหน้าอย่างไม่มีผู้ชนะไป!
สองร่างแยกนั้นมันคงเป็นร่างแยกที่สำคัญของเจ้าโลกหลุนฮวยและศิลาโลหิตโกลาหลไม่น้อย
หากมันบาดเจ็บสาหัสไปแล้วร่างหลักเองก็คงสูญเสียพลังงานไปอย่างมากเช่นกัน
แต่ว่าจังหวะมันต้องดี!
คิดมาถึงตรงนี้เย่หยวนก็ค่อยๆ วางแผนการไป!
แน่นอนว่าเรื่องพวกนั้นจะเกิดขึ้นได้หลังจากที่เขาสำเร็จคลื่นกำเนิดห้วงมิติแล้วเท่านั้น!
เจ้าโลกหลุนฮวยและศิลาโลหิตโกลาหลนั้นเองก็กำลังจะสิ้นสลายไปเช่นกัน
ตอนนี้พวกเขาทั้งหลายไม่มีใครเหลือแรงพอจะต่อต้านโจมตีโลกศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตอีกต่อไปแล้ว
พวกเขานั้นเก่งกาจแต่สุดท้ายมันก็ยังแค่ร่างแยก
ส่วนโลกศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนี้มันคือตัวจริงของบรรพบุรุษหวูเทียน!
มันย่อมจะทรงพลังเกินกว่าที่พวกเขาจะรับมือได้
‘ให้ตายสิ! ไม่นึกเลยว่าเจ้าจิ้งจอกเฒ่านั้นมันจะตลบหลังข้าได้! เสียร่างแยกนี้ไปข้าเองก็คงเสียพลังไปกว่าร้อยละสามสิบ! ถึงตอนนั้นหากเฒ่าหวูเทียนมันหลอมโอสถได้จริงๆ และสร้างร่างเนื้อขึ้นมาใหม่มันคงจะมีพลังเหนือล้ำสวรรค์ไป ผลที่ตามมามันคงมีแต่ความหายนะแล้ว!’
เจ้าโลกหลุนฮวยร้องลั่นขึ้นมาในใจเพราะว่าความเย้ายวนของสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์มากเกินกว่าจะห้ามตัว!
เพียงแค่ว่าเขาเองก็ไม่คิดว่านอกจากบรรพบุรุษหวูเทียนจะยังไม่ตายแล้ว เขากลับจะรวมร่างเป็นหนึ่งเดียวกับโลกศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนี้ไป
มันเป็นวิชาที่เหนือล้ำจินตนาการไปมาก
เขานั้นมั่นใจมากว่าด้วยพลังของร่างแยกนี้แล้วการแย่งเอาสิบสองภาพวาดเต๋าสวรรค์มามันคงไม่เกินมือ
แต่สุดท้ายเขากลับเข้ามาติดกับ!
พวกเขาทั้งหลายนั้นรู้ดีแต่แรกว่าเฒ่าหวูเทียนไม่ได้มีเจตนาดี
แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าเฒ่าหวูเทียนนั้นจะกล้ามากขนาดนี้
เขานั้นล่อยอดฝีมือจากทั้งสามสิบสามสวรรค์มาสังหารสิ้น!
ศิลาโลหิตโกลาหลเองก็คิดไม่ต่างจากเขามากนัก
ชายหนุ่มคนนั้นร้องตอบกลับไป “หึ บรรพบุรุษผู้นี้ก็คิดว่าข้านั้นวางแผนร้ายต่อทุกสวรรค์ได้แล้ว ไม่นึกว่าสุดท้ายตัวข้ากลับจะด้อยฝีมือกว่าเฒ่าหวูเทียนมัน! เฒ่าหลุนฮวย ข้าไม่นึกเลยว่าข้าจะไม่มีโอกาสได้ต่อสู้กับเจ้าอย่างจริงจัง กลับต้องมาพ่ายให้แก่เฒ่าหวูเทียนกันทั้งคู่เช่นนี้!”
เจ้าโลกหลุนฮวยนั้นถอนหายใจยาวตอบกลับไป “สุดท้ายแล้วบรรพบุรุษผู้นี้ก็ประมาทมันเกินไป! ดูท่าพวกเราทั้งสามนั้นคนที่ชนะจะเป็นมัน! ร่างแยกของเจ้าและข้านั้นถูกมันหลอมเป็นโอสถไปเช่นนั้นมันย่อมจะเท่ากับเราเสียพลังไปถึงสามส่วน ถึงเวลานั้นเราคงไม่อาจจะต่อต้านเฒ่าหวูเทียนมันได้อีกแล้ว!”
ชายหนุ่มชุดฟ้านั้นเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ก่อนจะกล่าวขึ้น “เย่หยวนมันไปไหนแล้ว? มันตายหรือยัง?”
หลุนฮวยนั้นยิ้มตอบกลับไป “เจ้าดูท่าจะแค้นมันมากทีเดียว!”
ชายหนุ่มกัดฟันร้องกลับไป “เพราะว่าเจ้านั้นไม่ได้มันเป็นศัตรู หากเจ้าได้สู้กับมันเจ้าก็จะแค้นมันสุดใจเช่นกัน! ก่อนนั้นตอนที่มันยังเป็นแค่จักรพรรดิเที่ยงมันทำให้ข้านี้ต้องเสียหายไปมากมาย! นี่มันมิใช่สิ่งที่ใครอยากทำก็จะทำได้! หากมันยังไม่ตาย บางที…เราอาจจะยังพอมีโอกาสรอดกลับออกไป!”
หลุนฮวยนั้นต้องส่ายหัวออกมาทันทีที่ได้ยิน “เจ้าคิดมากไปแล้ว! บรรพบุรุษผู้นี้ยอมรับนะว่ามันเก่งกาจจริง! แต่เฒ่าหวูเทียนก็มิใช่เด็กน้อยไร้ฝีมืออย่างเจ้า! การที่มันสามารถวางแผนจัดการเราสองคนพร้อมกันได้นี้ มันย่อมจะมีแผนการสำรองเตรียมไว้อีกนับสิบ! เจ้ายอมรับชะตากรรมตัวเองไปเถอะ!”
…………………………