ตอนที่ 735 ร่วมแรง! ตรวจดีเอ็นเอ (5)
“นี่เป็นไปได้ยังไง” หลินจยาอวี่รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องและตกใจ
เขาต้องโกหกเธอแน่ๆ อย่างไรก็ตามเธอเคยถามอวี๋กานกาน อวี๋กานกานบอกว่าไม่มีทางเปลี่ยนรสนิยมทางเพศ ชอบผู้ชายก็คือชอบผู้ชาย เขาชอบผู้ชายอยู่ดีๆ แล้วจะเปลี่ยนมาชอบผู้หญิงได้ยังไง
ลู่เสวี่ยเฉินมองตาเธอแล้วแสดงความจริงใจ “ผมรู้ว่าคุณไม่เชื่อหรอก ที่จริงผมเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมีวันที่ชอบคุณได้ แต่ตอนที่ลูกเกิดมา ผมคิดหนักมาก ต่อมาผมเลยพบว่าคุณคือรักแรกพบของผม เพียงแต่เพราะคุณเย็นชาเกินไปผมก็เลยทำเป็นไม่แคร์คุณเท่าไหร่นัก”
ทุกถ้อยคำสะท้อนในจิตใจ หลินจยาอวี่รู้สึกไม่มีอะไรสบายใจไปมากกว่านี้แล้วอีกทั้งยังชอบขึ้นมานิดๆ
จนถึงตอนนี้เธอไม่สามารถหลีกหนีทุกสิ่งได้อีกต่อไป จู่ๆ เธอเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าอันที่จริงเธอเองก็ตกหลุมรักลู่เสวี่ยเฉินมาตั้งนานแล้ว
ดังนั้นช่วงที่เธออุ้มท้องถึงได้นึกถึงแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง เธอถึงได้หงุดหงิดไม่สบายใจ เธอถึงได้อยากกลับเมืองไป๋หยาง ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเธอรักและพึ่งพิงลู่เสวี่ยเฉิน
ไม่สนแล้ว ไม่สนว่าจะโดนปั่นหัวหรือไม่ เธอเชื่อแล้วว่าลู่เสวี่ยเฉินชอบเธอ
แล้วเธอก็ไม่อยากหลบหนีอีกแล้ว
แต่ว่า…
เธอยังมีค่าพอที่จะรักหรือไม่
หลินจยาอวี่ลังเล แววตาสั่นระริกแล้วถามอย่างระมัดระวัง “คุณไม่แคร์ที่ฉันเป็นผู้หญิงที่ผ่านการคลอดลูกมาแล้วเหรอคะ”
หากไม่ใช่การแต่งงานตามสัญญาพวกเขาต้องเผชิญกับปัญหานี้อย่างแน่นอน
“ทำไมผมต้องแคร์ด้วย คุณคลอดลูกให้ผมแล้วคนหนึ่ง ผมรักคุณแทบไม่ทัน” ลู่เสวี่ยเฉินจูบแก้มเบาๆ อีกครั้งแล้วกุมมือเธอ “ต่อไปคุณอย่าพูดอะไรแบบนี้อีกนะครับ ไม่งั้นผมจะโกรธคุณแน่ คุณต้องจำไว้ว่านี่คือลูกของผม ลูกของลู่เสวี่ยเฉิน”
มีบางสิ่งที่เธอไม่จำเป็นต้องรู้ไปตลอดชีวิต อย่างไรก็ตามตราบเท่าที่เธอรู้เขาถือว่าเด็กคนนั้นเหมือนเป็นลูกชายของเขาเอง
เขาจะดีแบบนี้ได้ยังไง ไม่เพียงแต่ไม่แคร์ที่เธอมีลูกแล้วยังคงเต็มใจที่จะปฏิบัติต่อลูกเสมือนเป็นของลูกแท้ๆ ของตัวเองเพื่อให้หลินจยาอวี่ดีใจและซึ้งใจ
เธอบีบมือลู่เสวี่ยเฉินกลับแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “แต่ว่าตอนนี้แม่คุณรู้เรื่องแล้ว ถ้าหากให้ท่านรู้ว่าลูกไม่ใช่ลูกคุณ ท่านต้องให้เราหย่ากันแน่ๆ”
“เรื่องพวกนี้คุณไม่ต้องเป็นห่วง แม่รู้ว่าลูกเป็นลูกของผม แล้วท่านจะต้องชอบเล่อเล่อมากแน่นอน” เล่อเล่อเป็นชื่อเล่นที่หลินจยาอวี่ตั้งให้ตอนทั้งสองคุยกันเมื่อก่อนหน้านี้
แต่หลินจยาอวี่ยังคงกังวลอยู่บ้าง เห็นเช่นนี้เหวินซินเหมยคงไม่ยอมรามือ “แต่เราโกหกท่านแบบนี้จะดีเหรอคะ”
ลู่เสวี่ยเฉินเอ่ยขึ้น “เราไม่ได้โกหกแม่ ลูกก็คือลูกของผม”
ไม่สนว่าลู่เสวี่ยเฉินจะยืนกรานอย่างไร แต่สำหรับหลินจยาอวี่ที่ได้ยินก็คิดว่าเขาอยากทำเรื่องโกหกให้เป็นเรื่องจริงเพราะไม่อยากให้ใครรู้ความจริงเกี่ยวกับเรื่องลูก
เธอซึ่งใจจนตาแดงก่ำแล้วเกี่ยวก้อยลู่เสวี่ยเฉินเพื่อสื่อให้เขาขยับตัวลงมาอีก
ลู่เสวี่ยเฉินนึกว่าหลินจยาอวี่อยากพูดอะไรบางอย่างจึงค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้
เมื่อใบหน้าเข้าไปใกล้แล้วหลินจยาอวี่ก็ผงกศีรษะขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะจูบแก้มเขา
ลู่เสวี่ยเฉินยกมือปิดหน้าตนเอง อยากจูบตอบกลับไปอย่างอดใจไม่ไหวแต่หลินจยาอวี่กลับปิดปากตนเองเสียก่อนแล้วเอ่ยด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ “ฉันยังไม่ได้แปรงฟันเลย เนื้อตัวมอมแมมมีแต่เหงื่อ คุณไม่ต้องเข้ามาใกล้อีกแล้วนะ”
ลู่เสวี่ยเฉินเอียงศีรษะเล็กน้อยเอนไปหายใจรดหูของเธอ “ไว้ค่อยทำทีหลัง”
ความรู้สึกที่แข็งแกร่งของการครอบครองที่เต็มไปด้วยฮอร์โมนทำให้การเต้นของหัวใจหลินจยาอวี่เร็วขึ้นอีกครั้ง…
ตอนที่ 736 ร่วมแรง! ตรวจดีเอ็นเอ (6)
เหวินซินเหมยไม่สบอารมณ์จึงระบายอารมณ์ทั้งหมดไปที่ป้าแม่บ้าน
ออกไปข้างนอกต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เธอเลือกอยู่หลายชุดต่างก็ไม่มีชุดใดเหมาะสม จึงให้ป้าแม่บ้านช่วยเธอหาไม่หยุด พอไม่ได้ดั่งใจก็หันมาเร่งเร้า “เร็วๆ หน่อยสิ!”
“ทำไมหล่อนถึงได้โง่แบบนี้ฮะ!”
“ให้หล่อนหาเสื้อผ้ายังหาไม่ได้ อยากโดนไล่ออกหรือไง”
เธอตะโกนโวยวายพักใหญ่ คุณป้าก็เหนื่อยมากจนเหงื่อท่วมและร้อนรนเดินไปมาในตู้เสื้อผ้า
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ของเหวินซินเหมยก็ดังขึ้น เธอก็เลยปล่อยป้าแม่บ้านไปแล้วโบกมือไล่อย่างดูถูกเหยียดหยัน “โง่ตายเลย ไม่ต้องหยิบชุดแล้ว จะไปไหนก็ไป”
เธอรับสายโทรศัพท์แต่ไม่รู้ว่าปลายสายพูดอะไรถึงทำให้เหวินซินเหมยตะโกนเสียงดัง “อะไรนะ”
จากนั้นเธอก็วางสายโทรศัพท์และกระแทกลงบนเตียงอีกครั้ง ใบหน้าของเธอซีดเผือดโกรธจนตัวสั่นแล้วกัดฟันกรอดๆ “นังหลินจยาอวี่มันโชคดีอะไรขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าจะคลอดลูกชายออกมาจนได้!”
ใครจะไปรู้ว่าคุณหญิงลู่อยากได้หลานชายมากที่สุด ตอนนี้นังหลินจยาอวี่ก็ทำให้เธอสมหวังแล้ว…เดี๋ยวก่อน เด็กคลอดออกมาแล้ว งั้นก็ตรวจดีเอ็นเอได้แล้วล่ะสิ
ไม่เชื่อคำพูดของเธอ งั้นก็ให้เด็กตรวจดีเอ็นเอกับลู่เสวี่ยเฉินให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
มือทั้งสองของเหวินซินเหมยกำหมัดแน่น ข่มอารมณ์ตื่นเต้นของตนเองเอาไว้แล้วจู่ๆ ก็หัวเราะร่าขึ้นมา
คุณหญิงลู่ต้องการหลานชาย
แต่ว่าลูกของนังหลินจยาอวี่ไม่ใช่ลูกของลู่เสวี่ยเฉิน คุณหญิงลู่จะสามารถยินดีได้ไง ยังไงก็ต้องตกเป็นขี้ปากชาวบ้านอยู่ดี
ตอนนี้เธอต้องไปบ้านตระกูลลู่และพาคุณหญิงลู่ไปโรงพยาบาลด้วยกันเพื่อเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของนังหลินจยาอวี่อะไรนั่น
คุณหญิงลู่และลู่เสวี่ยเฉิน พอตอนนั้นก็จะรู้เองว่าเธอหวังดีแค่ไหนแล้วต้องขอบคุณเธอ ไม่แน่อาจจะให้เธอแต่งงานกับลู่เสวี่ยเฉินก็ได้
เหวินซินเหมยรีบไปบ้านตระกูลลู่โดยเร็วที่สุด คนรับใช้จึงบอกว่าคุณชายลู่และคุณหญิงลู่ ไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมคุณชายน้อยด้วยกันแล้ว
เธอจึงรีบขับรถตามไปที่โรงพยาบาล
ในขณะนั้นพ่อแม่ของลู่เสวี่ยเฉินกำลังดูหลานชายอยู่ในห้องคนไข้
ใบหน้าที่เคร่งขรึมตลอดเวลาของคนเป็นปู่เผยรอยยิ้มออกมา พอได้เป็นคุณปู่แล้วก็มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสมองหลานตัวน้อยหลับพริ้มแล้วพูดว่าหลานหน้าตาเหมือนลู่เสวี่ยเฉินไม่หยุด
“ดวงตาเหมือนจยาอวี่ ส่วนปากเหมือนเสวี่ยเฉิน”
“แต่ว่าต่อไปพอโตขึ้นต้องเหมือนเสวี่ยเฉินแน่นอน”
“ลูกหลานตระกูลลู่ของเราหน้าตาดีอยู่แล้ว ฮ่าๆๆ…”
แม่ของลู่เสวี่ยเฉินฟังแล้วยิ้มเงียบๆ สายตาจ้องมองไปที่หลานชายตัวน้อยตลอดเวลา
หลานชายตัวเล็กเกินไปแล้ว โหงวเฮ้งก็ยังไม่เปิดกว้าง อันที่จริงก็มองไม่ออกหรอกว่าเหมือนลู่เสวี่ยเฉินหรือเปล่า
ถึงอย่างไรตอนนี้นอนหลับอยู่ยังไม่ได้ลืมตาขึ้นมา
ตาแก่คนนี้มองออกได้อย่างไรว่าเขาไม่เหมือนจยาอวี่
เพ้อเจ้อ!
บิดาของลู่เสวี่ยเฉินมีธุระต้องไปสะสางต่อ เมื่อได้เห็นหน้าหลานแล้วเลยมอบอั่งเปาให้ จากนั้นให้หลินจยาอวี่ได้พักผ่อนส่วนตัวเองต้องขอตัวก่อน
ส่วนผู้เป็นแม่ยังคงอยู่ต่อนั่งลงข้างเตียงเพื่ออยู่เป็นเฝ้าหลินจยาอวี่ จากนั้นจึงถามเกี่ยวกับสภาพร่างกายด้วยความเป็นห่วง ทั้งยังสอนเธอให้ระมัดระวังเรื่องต่างๆ ตอนอยู่เดือนอีกด้วย
ไม่พูดไม่ได้เลยว่าตอนที่แม่ของลู่เสวี่ยเฉินดีกับเธอนั้นปฏิบัติต่อเธอเหมือนลูกแท้ๆ
สีหน้าของหลินจยาอวี่เต็มไปด้วยรอยยิ้มแต่ในใจกลับรู้สึกผิด
ความห่วงใยของคุณหญิงลู่ทำให้เธอยิ่งเจ็บปวดใจ ที่เธอแต่งงานทางนิตินัยกับลู่เสวี่ยเฉินเมื่อก่อนหน้านี้ก็ช่างมันไป แต่ตอนนี้เธอกับลู่เสวี่ยเฉินตัดสินใจอยู่ด้วยกันแล้ว
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคุณหญิงลู่อีกครั้ง เธอมักรู้สึกวางตัวไม่ถูกเกี่ยวกับเรื่องลูก คิดว่ามันเป็นเรื่องหลอกลวงที่น่ารังเกียจ
แต่ทว่าเธอก็ไม่อยากพูดความจริงออกมา เพราะเธออยากอยู่กับลู่เสวี่ยเฉิน