บุรุษลึกลับจากโลกปีศาจผู้นี้มีนามว่า ‘เหออวี่’ เขาเป็นศิษย์ลำดับที่เก้าสิบแปดของผู้อาวุโสสามแห่งเผ่าปีศาจ ก่อนหน้านี้เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของหานโม่ฉือและถูกส่งมาที่นี่เพื่อตามไล่ล่าหานโม่ฉือ
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่มาถึงดินแดนมหาเทพ กลิ่นอายที่เขาสัมผัสได้ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย หลังจากสืบทราบสถานการณ์ปัจจุบันของดินแดนมหาเทพ เขาจึงตัดสินใจที่จะร่วมมือกับจอมยุทธ์ปีศาจ
ในสงครามชี้ชะตาครานี้ เดิมทีเขาให้คำมั่นกับเสียอวิ๋นไว้ว่าจะช่วยปกป้องมิให้ฝ่ายจอมยุทธ์ปีศาจถูกกำจัดไปเท่านั้นและไม่คิดที่จะลงมือในสถานการณ์อื่น
แต่ทว่า…คฤหาสน์เฟิงหัวของฉินอวี้โม่ทำให้เขารู้สึกสนใจอย่างมากและอดไม่ได้ที่จะแย่งชิงมาเป็นของตน ไม่คิดเลยว่ามันจะนำไปสู่เรื่องประหลาดใจอย่างคาดไม่ถึง นั่นคือการกดดันให้คนที่เขาตามหาแสดงตัวออกมา
หากเขาสังหารหานโม่ฉือหรือจับกลับไปที่โลกปีศาจได้สำเร็จ มันจะเป็นการประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ในชีวิตและเขาจะได้รับผลตอบแทนอย่างแน่นอน เดิมทีเขาเป็นเพียงศิษย์ธรรมดา ๆ ที่ไม่โดดเด่นของผู้อาวุโสสาม ทว่าตราบใดที่ทำภารกิจนี้สำเร็จ เขาเชื่อว่าเขาจะได้กลายเป็นศิษย์เอกของเผ่าปีศาจอย่างแน่นอน
“นายน้อย ท่านจะกลับไปกับข้าดี ๆ หรือต้องให้ข้าลงมือก่อน ?”
เขามองหานโม่ฉือด้วยแววตาเยือกเย็นและแผ่แรงกดดันทรงพลังออกมาทันที
“อะไรนะ ?! ที่แท้จอมยุทธ์หานโม่ฉือก็เป็นนายน้อยของเผ่าปีศาจอย่างนั้นหรือ ?!”
ฟู่ชางและคนอื่น ๆ ได้ยินบทสนทนาระหว่างเหออวี่และหานโม่ฉืออย่างชัดเจน และทุกคนที่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับโลกปีศาจอยู่บ้างล้วนตกตะลึงไปทันที
นายน้อยของโลกปีศาจเป็นสถานะที่เทียบเท่าได้กับองค์ชายใหญ่ของโลกมนุษย์ เรียกได้ว่าหานโม่ฉือเป็นทายาทผู้สืบทอดบัลลังก์ของโลกปีศาจ
ข่าวสารที่พวกเขาได้ทราบมาก่อนหน้านี้คือเมื่อหลายพันปีก่อน นายน้อยของโลกปีศาจได้ล้มตายไปแล้ว และผู้ที่สืบทอดตำแหน่งผู้ปกครองของโลกปีศาจในปัจจุบันเป็นเพียงเครือญาติห่าง ๆ ของนายน้อยตัวจริงและมีสายเลือดของเผ่าปีศาจที่เจือจางเท่านั้น
คิดไม่ถึงเลยว่าแท้ที่จริงแล้วหานโม่ฉือจะเป็นนายน้อยที่หายสาบสูญไปนานหลายพันปีผู้นั้น
ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดความแข็งแกร่งและพรสวรรค์ของหานโม่ฉือจึงน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก นายน้อยของเผ่าปีศาจคือผู้ที่ถูกลิขิตไว้ให้เป็นผู้แกร่งกล้าที่สุดในทั้งสามภพ หากพัฒนาเติบโตต่อไปจนบรรลุถึงระดับของจ้าวแห่งปีศาจในที่สุด แม้แต่จ้าวแห่งสรวงสวรรค์ก็ยังต้องหวาดหวั่นไม่น้อย
“เหอะ หากต้องการจะจับตัวหานโม่ฉือไป เจ้าต้องถามเราก่อนว่าเรายินยอมหรือไม่ อีกอย่าง…ด้วยความแข็งแกร่งที่มี เจ้าคิดจริงหรือว่าจะจับตัวเขาได้สำเร็จ ?”
อวิ๋นซื่อเทียนและคนอื่น ๆ รีบเหาะเข้ามาเรียงรายข้างกายหานโม่ฉือเช่นกัน ทุกคนมองตรงไปที่เหออวี่ที่อยู่ตรงข้ามอย่างไร้ซึ่งความหวาดหวั่นใด ๆ
“เหอะ พวกมดปลวกด้อยค่า คิดจะต่อกรกับข้าผู้นี้งั้นรึ ? พวกเจ้าไม่มีพลังมากพอหรอก !”
เหออวี่แค่นเสียงเย็นชาอย่างไม่เห็นอวิ๋นซื่อเทียนและคนอื่น ๆ อยู่ในสายตาแม้แต่น้อย แม้เขาจะเป็นเพียงศิษย์ลำดับท้าย ๆ ของผู้อาวุโสสามซึ่งถือว่ามีสถานะที่ต่ำ ทว่าความแข็งแกร่งของเขาก็เหนือชั้นกว่าคนต่ำต้อยจากดินแดนระดับต่ำมากนัก
หากเป็นนายน้อยในช่วงเวลาที่มีพลังสูงสุด เหออวี่คงทำได้เพียงคุกเข่าร้องขอความเมตตา ทว่าหานโม่ฉือในตอนนี้ไม่มีความแข็งแกร่งที่ใกล้เคียงกับในอดีตด้วยซ้ำ เพราะเหตุนั้นเหออวี่จึงไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย
“เหอะ ตอนอยู่ในเผ่าปีศาจ เจ้าก็เป็นได้เพียงมดปลวกในสายตาของคนอื่นเช่นกัน เหตุใดจึงกล้ากล่าววาจาได้อย่างไม่อายปากเช่นนี้ ?”
อวิ๋นซื่อเทียนสาดวาจาตอบโต้เหออวี่อย่างเจ็บแสบและระเบิดพลังมายาปรากฏในมือก่อนโยนออกไปอย่างไม่ลังเล
เหออวี่ไม่ทราบเลยว่าระเบิดพลังมายาคือสิ่งใดกันแน่และไม่ทันสังเกตเห็นถึงพลังของมันในสงครามก่อนหน้านี้ เขาเพียงยืนนิ่งอยู่กับที่เช่นเดิมและไม่คิดที่จะหลบหลีกจากมัน
ตูมมม !
เสียงดังสนั่นปะทุขึ้นมาเมื่อระเบิดพลังมายาระเบิดเข้าที่เหออวี่อย่างจัง
น่าเสียดายที่พลังการป้องกันของเหออวี่น่าทึ่งเกินไป ระเบิดพลังมายาดังกล่าวไม่สามารถทำให้เขาบาดเจ็บได้เลย มันเพียงแต่ทำให้เส้นผมของเขาชี้ตั้งและใบหน้าเปื้อนสีดำจนกลายเป็นรูปลักษณ์ที่ดูน่าขันเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เพียงเท่านี้ก็ถือว่ามากพอที่จะกระตุ้นความโมโหของเขาได้ การที่คนต่ำต้อยจากดินแดนระดับต่ำกล้าลงมือโจมตีและสร้างความอับอายให้เขาเช่นนี้ทำให้เหออวี่เดือดดาลอย่างที่สุด
“รนหาที่ตายเสียแล้ว !”
เขาตะโกนกร้าวและปล่อยคลื่นพลังรุนแรงเข้าใส่อวิ๋นซื่อเทียนทันที
ตูมมม !
เซิ่งเซียวก้าวออกมาขวางกั้นพลังดังกล่าว ทว่าทั้งสองก็ยังได้รับผลกระทบจากคลื่นพลังรุนแรงนั้นและกระเด็นออกไปล้มลงบนพื้นในสภาพที่น่าเห็นใจ
ต้องยอมรับว่าพลังอำนาจของเหออวี่แกร่งกล้าเกินไปจริง ๆ และมิใช่ระดับที่พวกเขาจะสามารถรับมือได้ในตอนนี้
“บัดซบ บัดซบจริง ! หากมีเวลาอีกสักสามปี เจ้าปีศาจมดปลวกนี่ไม่มีทางต่อกรกับข้าได้แน่ !”
อวิ๋นซื่อเทียนไม่สบอารมณ์เล็กน้อย นางมั่นใจว่าความแข็งแกร่งของตนจัดอยู่ในหมู่ของจอมยุทธ์ระดับหนึ่งแล้ว ทว่าตอนนี้กลับรู้สึกว่ายังห่างไกลไปจากอีกฝ่ายมากนัก หลังจากนี้นางตั้งใจที่จะหมั่นเพียรฝึกวิชาและพัฒนาพลังโดยเร็วที่สุด เมื่อประจันหน้ากับคนของเผ่าปีศาจและจอมยุทธ์จากดินแดนระดับที่สูงกว่า นางจะได้มีพลังมากพอที่จะต่อสู้กับคนเหล่านั้นได้
“อย่าโมโหไปเลย เราจะพัฒนาจนเหนือกว่าเขาภายในไม่ช้าก็เร็วเท่านั้น เมื่อถึงตอนนั้น เราจะไปที่โลกปีศาจด้วยกันและสังหารผู้อาวุโสสามที่เป็นอาจารย์ของเขา !”
เซิ่งเซียวกล่าวปลอบประโลมอวิ๋นซื่อเทียนและในใจรู้สึกกดดันอย่างอธิบายไม่ได้เช่นกัน เขาจะต้องพัฒนาความแข็งแกร่งโดยเร็วที่สุดเพื่อปกป้องอวิ๋นซื่อเทียนให้ได้
“ไม่ว่าจะมากันมากเพียงใด พวกเจ้าก็มิใช่คู่มือของข้าผู้นี้ !”
เหออวี่ไม่พึงพอใจนักที่การโจมตีของตนเพียงทำให้อวิ๋นซื่อเทียนและเซิ่งเซียวกระเด็นออกไปเท่านั้น เดิมทีเขามั่นใจว่ากระบวนท่าเดียวของตนน่าจะสังหารทั้งสองได้สำเร็จหรือทำให้บาดเจ็บสาหัส ทว่าตอนนี้เขาตระหนักแล้วว่าความแข็งแกร่งของทั้งสองก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน
“เฮ้ มาสู้กันดีกว่า เป็นแค่ลิ่วล้อของเผ่าปีศาจ เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาโหวกเหวกโวยวายอยู่ที่นี่ ? หากคิดจะจัดการกับหานโม่ฉือก็ลงมือเถอะ อย่ามัวแต่พูดพล่ามไร้สาระเลย”
ฉินอวี้โม่กล่าวยั่วยุเหออวี่อย่างไม่เกรงกลัว
“แม่สาวน้อย ข้าผู้นี้จะต้องครอบครองมิติที่สองของเจ้ามาให้จงได้ ! ส่งมันมาเสียดี ๆ มิฉะนั้น เจ้าและสหายพวกนี้จะต้องตาย !”
เหออวี่กล่าววาจาข่มขู่อย่างไม่ปิดบังและแสดงสีหน้าท่าทางมั่นใจว่าจะได้คฤหาสน์เฟิงหัวของฉินอวี้โม่มาครองดังที่ต้องการ
“ต่อให้อาจารย์ของเจ้ามาที่นี่ด้วยตัวเอง เขาก็ยังไม่กล้าพูดจาเช่นนี้ ทว่าเจ้าเป็นเพียงแค่มดต่ำต้อยของเผ่าปีศาจ กล้าดีอย่างไรจึงแสดงท่าทียโสโอหังเช่นนี้กับข้า ?!”
หานโม่ฉือเดินตรงเข้าไปหาเหออวี่อย่างช้า ๆ และแผ่คลื่นพลังรุนแรงออกไปรอบตัว ทุกคนรับรู้ได้ว่าร่างกายของเขาเหมือนจะถูกปกคลุมไปด้วยกลุ่มพลังสีดำทะมึนที่หนาทึบ ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังมีแรงกดดันมหาศาลแผ่ออกมาราวกับจะสามารถทำให้ฟ้าถล่มดินทลาย แม้แต่พวกเขาเองก็อดที่จะสั่นสะท้านไม่ได้
“สมกับที่เป็นนายน้อยของโลกปีศาจจริง ๆ เพียงแรงกดดันที่แผ่ออกมาก็มิใช่สิ่งที่ผู้คนธรรมดาทั่วไปจะเทียบด้วยได้ !”
ฟู่ชางและคนอื่น ๆ ถอนหายใจออกมาเบา ๆ และตัดสินใจกับตัวเองแล้วว่าหากหานโม่ฉือเอาชนะเหออวี่ไม่ได้ ต่อให้ต้องแลกมาด้วยชีวิต พวกเขาก็จะขัดขวางบุรุษผู้นี้ให้ได้
“เหอะ หากเป็นตัวท่านในอดีต ข้าก็อาจจะกลัวอยู่บ้าง ทว่าตอนนี้ท่านอ่อนแอจนเกินไป !”
เหออวี่แค่นเสียงเย้ยหยัน ต้องกล่าวเลยว่าแรงกดดันจากหานโม่ฉือทำให้เขารับรู้ถึงแรงกดดันในสายเลือดอย่างชัดเจน หากอีกฝ่ายแข็งแกร่งมากกว่านี้ เขาก็คงมิใช่คู่มือเป็นแน่ น่าเสียดายที่หานโม่ฉือในตอนนี้ยังอ่อนแอเกินไป แม้มีแรงกดดันที่แกร่งกล้า มันก็ไม่อาจส่งผลกระทบต่อเหออวี่ได้มากนัก
เขาไม่รีบร้อนที่จะลงมือและเพียงมองหานโม่ฉือด้วยสายตาที่เหยียดหยาม ทว่าทันทีที่เขากำลังจะเอ่ยปากกล่าวต่อ จู่ ๆ เหออวี่ก็สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังรุนแรงที่พุ่งตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว
เขาหลบหลีกออกไปด้านข้างทันทีก่อนพบว่ามีรอยกรงเล็บที่ปรากฏบนหัวไหล่และเลือดสีดำไหลออกมาอย่างรวดเร็ว
“เหอะ เป็นแค่มดปลวกของเผ่าปีศาจแต่กล้าพูดจากับนายท่านของข้าเช่นนี้ คิดรึว่าหลังจากฟื้นคืนชีพมาแล้วนายท่านจะเอาชนะเจ้าไม่ได้ ?”
น้ำเสียงเยือกเย็นดังขึ้นในหูของทุกคนก่อนที่ร่างหนึ่งจะปรากฏกายตรงหน้าเหออวี่