Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 439 : องค์ชายใจกว้าง

ราชันเร้นลับ 439 : องค์ชายใจกว้าง

ฉากเมื่อครู่ทำให้ไคลน์หวนนึกถึงเรื่องราวความรักจากทาลิมเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน

เพื่อนชนชั้นสูงของเขาดันไปมีความรักต้องห้ามกับสามัญชนจนถึงขั้นหวังแต่งงาน แต่เนื่องจากสถานะทางสังคม การแต่งงานจึงไม่มีวันเกิดขึ้นได้ ทาลิมเป็นเดือดเป็นร้อนกับเรื่องนี้มาก จนถึงขั้นเปรยออกมาว่า อยากจ้างมือปืนสักคนมาฆ่าทิ้ง แต่สุดท้ายกลับลงเอยด้วยการ ทาลิมเป็นฝ่ายเกลี้ยกล่อมจนฝ่ายหญิงยอมจากไปเอง

หรือตัวเอกของเรื่องดังกล่าวจะเป็นองค์ชายเอ็ดซัค·ออกัสตัส? ทุกปัจจัยสอดคล้องกันอย่างลงตัว ในฐานะองค์ชาย การสมรสกับสามัญชนไม่ต่างอะไรกับเป็นกบฏแผ่นดิน นับตั้งแต่อาณาจักรโลเอ็นก่อตั้ง ยังไม่เคยมีทายาทสืบสายเลือดคนใดสมรสกับสามัญชนมาก่อน อย่างน้อยก็ต้องบุตรสาวขุนนางบรรดาศักดิ์สูง… จากบทสนทนาเมื่อครู่ องค์ชายเอ็ดซัคพาตัวสตรีสามัญชนคนนั้นกลับมายังคฤหาสน์อีกครั้ง แถมยังกักบริเวณเพื่อเป็นการทำโทษ? นี่คือความรักจริงหรือ…

ทันใดนั้น เรื่องราวระหว่างองค์ชายบ้าอำนาจและดอกไม้สีขาวแสนบอบบางพลันผุดขึ้นในหัวไคลน์

ชายหนุ่มมองไปยังวิวทิวทัศน์สุดลูกหูลูกตารอบตัว พยายามดื่มด่ำไปกับบรรยากาศอันงดงามของช่วงกลางฤดูหนาว

“ทุกทีจะไม่ใช่แบบนี้ หากย่างเข้าฤดูใบไม้ผลิและหญ้าเขียวเริ่มงอกเงยเมื่อไร ลานกว้างแห่งนี้จะกลายเป็นสุดยอดสนามกอล์ฟ” องค์ชายเอ็ดซัคส่งสาวใช้กลับไป พลางอธิบายชายหนุ่มด้วยมือข้างถือแส้ม้า

“กอล์ฟ?” ไคลน์ทวนคำ ก่อนจะทราบคำตอบด้วยตัวเองในไม่กี่อึดใจถัดมา

เอ็ดซัดส่งสัญญาณมือบอกให้เหล่าองครักษ์ออกไปได้ จึงเหลือเพียงไคลน์และพ่อบ้านชราคอยเดินตามติด

องค์ชายสามแห่งโลเอ็นเดินนำท่ามกลางทุ่งกว้างเหี่ยวเฉาพลางเริ่มอธิบาย

“ถูกต้อง กอล์ฟ กีฬาสำหรับชนชั้นสูงอย่างแท้จริง แม้แต่เจ้าของนิตยสารหรือหนังสือพิมพ์ก็แทบไม่มีโอกาสได้สัมผัส ถึงเราจะไม่ชอบหน้าโรซายล์นัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าจินตนาการสุดบรรเจิดของหมอนั่นทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นมาก เชอร์ล็อก ถ้าเจ้าสามารถค้นหาความลับการตายของทาลิมได้ คฤหาสน์แห่งนี้พร้อมต้อนรับเจ้าเสมอ”

เป็นโรซายล์จริงด้วย… ไคลน์หายใจเข้า

เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังเงียบ องค์ชายเอ็ดซัคจึงเล่าต่อ

“ถึงโรซายล์จะมีมุมน่าศึกษามากมาย แต่เราไม่ชอบวิธีปฏิบัติต่อสตรีของมัน เข้าใจว่าเป็นธรรมเนียมของขุนนางอินทิส แต่เรารับไม่ได้และรู้สึกขยะแขยงอย่างมาก พวกมันมักมากในกามและเสพติดความหรูหราเกินไป”

เอ็ดซัคจ้องลำธารพร้อมกับกล่าวด้วยถ้อยคำปรัชญาเกินอายุ

“เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ของประชากรโลกไม่ได้อัจฉริยะทุกด้านเหมือนกับโรซายล์ ดังนั้น แก่นสำคัญของชีวิตคือการตามหาความถนัดและสิ่งรักของตัวเองให้พบ จากนั้นก็ทุ่มเททั้งหมดไปกับมันโดยห้ามหันหลังหรือย่อท้อต่ออุปสรรคเด็ดขาด”

เมื่อพูดจบ เอ็ดซัคกล่าวต่อด้วยเสียงล่องลอยพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง

“แต่ไหนแต่ไร เราเคยคิดว่าตัวเองตกหลุมรักบุตรสาวของเอิร์ลฮอลล์มาตลอด เธอผู้นั้นมีรูปโฉมสมบูรณ์แบบ กิริยามารยาทไร้จุดตำหนิ เป็นบุตรีแห่งตระกูลขุนนางสูงศักดิ์ ทรัพย์สมบัติมั่งคั่งเพียบพร้อม และมีบิดาเป็นผู้ทรงอิทธิพลของอาณาจักร เธอผู้นั้นคู่ควรกับองค์ชายทุกคนโดยไม่มีข้อโต้แย้ง แต่ปัจจุบันเราเริ่มตระหนักแล้วว่า ความรักอันแท้จริงต้องเปลี่ยนให้โลกทั้งใบกลายเป็นสีชมพู ต้องคิดถึงเธอคนนั้นทั้งวันไม่เว้นแม้กระทั่งยามฝัน เป็นสายสัมพันธ์ทางวิญญาณชนิดพิเศษ ต้องเจอกับตัวเท่านั้นจึงจะเข้าใจ ฮะฮะ! เรามิได้หมายความว่ามิสฮอลล์บกพร่องด้านใด เพียงแต่เราไม่ได้เกิดความรู้สึกรักหรือชอบเธออีกแล้ว”

องค์ชาย วิธีการพูด โทนเสียง สีหน้าท่าทางของคุณ ทำไมถึงได้เหมือนกับทาลิมขณะก่อนตายนัก… ได้โปรดอย่าล้มลงและหัวใจวายตรงนี้ เพราะถ้าไม่อย่างนั้น ถึงผมจะกระโดดแม่น้ำทัสซอคเพื่อพิสูจน์มลทินก็คงไม่มีใครเชื่อ… ยิ่งไปกว่านั้น การได้ยินถ้อยคำเมื่อครู่ยิ่งทำให้เราถอนตัวจากเรื่องนี้ยากขึ้น… คิดจะบังคับให้เราลงเรือลำเดียวกันสินะ…

ไคลน์เริ่มเกิดความกลัวอย่างไม่มีเหตุผล

ชายหนุ่มกระแอมและรีบเปลี่ยนหัวข้อ

“องค์ชาย บุคคลระดับท่านย่อมมีบริวารมากมาย และหลายคนคงเต็มใจสืบหาสาเหตุการตายของทาลิม เช่นนั้นแล้ว กระหม่อมจึงไม่เข้าใจว่าทำไมองค์ชายถึงต้องเจาะลงเลือกนักสืบเอกชนปลายแถวด้วย”

เอ็ดซัคส่ายหัว

“ในฐานะองค์ชาย เรามีพลังอำนาจมากพอๆ กับการขาดอิสรภาพ รอบตัวเรามีสายตาจับต้องนับไม่ถ้วน คงให้บริวารออกไปทำงานลับไม่ได้หรอก ในทางกลับกัน เจ้าคือยอดนักสืบผู้ปราดเปรื่อง สนิทสนมกับทาลิม และยังเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ขณะเขาเสียชีวิต ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่าเจ้าแล้วจริงไหม ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดอันตราย อย่างน้อยเราก็รับประกันความปลอดภัยให้เจ้าได้”

องค์ชาย คำสัญญาเช่นนี้เปราะบางพอๆ กับกระดาษเช็ดก้น… ไคลน์รำพัน

หลังจากได้ฟังองค์ชายเล่าความลับออกมามากมาย ไคลน์ตระหนักได้ว่า หากตอบปฏิเสธอย่างแข็งกร้าว ตนคงไม่ได้กลับออกจากคฤหาสน์กุหลาบแดงแห่งนี้แน่ ชายหนุ่มถอนหายใจสั้นหนึ่งครั้งและกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ว่ากันตามตรง กระหม่อมเองก็โกรธแค้นและสงสัยในปริศนาการตายของทาลิมไม่น้อยไปกว่าองค์ชาย เพียงแต่โลกความจริงอันโหดร้ายทำให้กระหม่อมต้องยับยั้งตัวเอง”

ได้ยินเช่นนั้น เอ็ดซัคเผยรอยยิ้ม

“เจ้าต้องการให้เราช่วยเรื่องใด”

“เส้นผมของทาลิม ถ้าเป็นเศษเนื้อหรือเลือดได้ยิ่งดี รวมถึงของใช้ในชีวิตประจำวัน” ไคลน์แจกแจงรายละเอียด

“ตกลง สิ่งเหล่านั้นจะถูกส่งไปยังบ้านของเจ้าในอีกไม่กี่วันข้างหน้า” เอ็ดซัคไม่ขัดข้อง เพียงซักถามเพิ่มเติมด้วยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย “แค่นี้เองหรือ?”

ไคลน์ไม่มัวอ้อมค้อม

“ต้องรอกระหม่อมสอบสวนเบื้องต้นเสียก่อน จึงค่อยเริ่มกำหนดแนวทางการสืบสวนในภายหลัง แล้วก็อีกหนึ่งเรื่อง กระหม่อมต้องการวิธีลับในการติดต่อกับองค์ชาย การให้นักสืบเอกชนเดินทางเข้าออกคฤหาสน์หลวงคงไม่ใช่เรื่องดีนัก”

เอ็ดซัคพยักหน้ารับทันทีประหนึ่งเตรียมคำตอบไว้นานแล้ว

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง เราให้ใครบางคนเช่าบ้านหลังติดกับเจ้าไว้แล้ว อาคารหมายเลข 13 ถนนมินส์ หากเจ้าต้องการติดต่อเรา ให้เขียนรายละเอียดรวมถึงวันเวลานัดหมายไว้ในกระดาษและหยอดลงกล่องจดหมายของบ้านข้างเคียง ในส่วนของรางวัล เจ้าคงทราบอยู่แล้วว่าเราไม่ใช่คนตระหนี่ ถึงการสืบสวนจะคว้าน้ำเหลว แต่เราจะตอบแทนตามปริมาณการลงแรงพยายาม และถ้าประสบความสำเร็จ ขอสัญญาว่าเจ้าจะได้รับเงินก้อนโตชนิดสบายไปทั้งชีวิต เพียงพอสำหรับเกษียณจากงานได้ทันที”

อุปนิสัยขององค์ชายสามช่างเด็ดเดี่ยวและตรงไปตรงมา… เงินเกษียณคงประมาณสามพันปอนด์กระมัง…

ไคลน์ถอนหายใจ

“เข้าใจแล้วครับ ขอให้ดวงวิญญาณของทาลิมสถิตอยู่ในดินแดนแห่งพายุสายฟ้าของพระองค์ท่านตลอดไป” ชายหนุ่มโค้งคำนับ

เอ็ดซัคพยักหน้ารับและสั่งพ่อบ้านชรา

“ส่งนักสืบโมเรียตี้กลับถนนมินส์”

องค์ชาย งานเลี้ยงอาหารกลางวันมือหรูหราของผมอยู่ไหน? คุณกำลังให้นักสืบคนหนึ่งออกไปเสี่ยงตาย แต่ไม่คิดแสดงน้ำใจสักหน่อยหรีอ… ช่างเถอะ องค์ชายคงมีกิจกรรม ‘อย่างว่า’ ต้องทำในช่วงสายกระมัง…

ไคลน์เหน็บแนมในใจ

ชายหนุ่มเดินตามพ่อบ้านชราออกมาทางประตูหน้าและรับปืนกับซองรักแร้คืน

อาคารหมายเลข 15 ถนนมินส์ ไคลน์ยืนริมมุขหน้าต่างพลางจ้องมองรถม้าซึ่งมีตราประจำตระกูลออกัสตัสแล่นออกไป

เชอร์ล็อก·โมเรียตี้คงถูกสั่งเก็บทันทีถ้าสืบเรื่องนี้จนล้ำเส้น… ใครจะไปรู้ บางทีอาจมีคนกำลังจับตามองเราอยู่ก่อนแล้ว… ไม่สิ อาจยังไม่ถึงเวลา เพราะเรายังไม่เริ่มลงมือ…

ไคลน์ขมวดคิ้วพลางยืนนิ่ง

ในวินาทีนี้ มันต้องการเลื่อนลำดับกลายเป็นผู้ไร้หน้าโดยเร็ว

เราคงแบมือรอให้จิตแห่งจักรกลสำรวจสุสานอามุนด์อย่างเดียวไม่ได้ ต้องพยายามขวนขวายหาตะกอนพลังของเงามืดหนังมนุษย์ไปพร้อมกัน เพราะไม่มีทางทราบเลยว่าพวกเขาจะตัดสินใจเริ่มปฏิบัติการตอนไหน อาจนานหลายเดือนหรือเป็นปี… มีโอกาสเป็นแบบนั้นสูงมาก พวกเขาสามารถผลัดเวรไปคอยคุ้มกันหน้าสุสานตลอด ขณะเดียวกันก็ให้อีกหน่วยเข้าไปสำรวจจนกว่าจะมั่นใจจึงค่อยเริ่มปฏิบัติการ…

เราคงรอนานขนาดนั้นไม่ได้…

ไคลน์ตัดสินใจหนักแน่นหลังจากไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนทุกมุมมอง

14:45 นาฬิกา ชายหนุ่มหยิบหนังสือพิมพ์ปึกหนึ่งเดินเข้าห้องน้ำเพื่อเตรียมจัดชุมนุมทาโรต์ประจำสัปดาห์

15:00

หลังจากถูกแสงสีแดงอาบร่าง ออเดรย์มองไปรอบตัวด้วยอารมณ์สดใส

ย้อนกลับไปเมื่อคืน เธอได้รับสูตรโอสถลำดับ 7 นักจิตบำบัด ซึ่งตนปรารถนามาแสนนาน อารมณ์ของเด็กสาวจึงกำลังซับซ้อน มีทั้งตื่นเต้น กระสับกระส่าย และโล่งใจ

เหนือสิ่งอื่นใด สมาคมแปรจิตมอบสูตรโอสถให้ออเดรย์ฟรีโดยไม่ต้องใช้คะแนนผลงานแลก อ้างว่าไว้ค่อยตอบแทนในภายหลัง

พวกมันมั่นใจโดยไม่เคลือบแคลง บุคคลระดับบุตรีแห่งเอิร์ล ออเดรย์·ฮอลล์ ย่อมมีความสามารถในการ ‘ตอบแทน’ เหนือจินตนาการคนทั่วไป

วันนี้ไม่มีสมาชิกใหม่…

เด็กสาวยืนยันหลังจากกวาดสายตามองไปรอบโต๊ะหนึ่งหน ตามด้วยการลุกขึ้นและจับชายกระโปรงทำท่าคำนับ

“ทิวาสวัสดิ์ มิสเตอร์ฟูล~ ทิวาสวัสดิ์…”

เสียงสดใสร่าเริงของหญิงสาวได้ทำลายความเงียบงันอันเป็นบรรยากาศปรกติของห้วงมิติเหนือสายหมอก และยังช่วยให้ไคลน์ ผู้กำลังหดหู่จากเหตุการณ์บนโลกความจริง ผ่อนคลายความตึงเครียดลงเล็กน้อย

มันพยักหน้ารับแผ่วเบาเป็นเชิงทักทายสมาชิกชุมนุมทุกคน

ออเดรย์นั่งลงและรีบสำรวจภาษากายของสมาชิกทุกคนอย่างละเอียดตามความเคยชิน จากนั้นก็นำไปเปรียบเทียบกับผลลัพธ์ในการชุมนุมคราวก่อน

มิสเตอร์แฮงแมนแอบชำเลืองมิสเตอร์ฟูลเล็กน้อยหลังจากคำนับท่าน ตามด้วยการเหลือบมองมิสเตอร์เวิร์ลด้วยสีหน้าเจือความคาดหวัง… คงเพราะเขาเป็นสมาชิกของโบสถ์วายุสลาตัน จึงเข้าถึงรายละเอียดบางส่วนของคดีลอบสังหารดยุคนีแกนได้ ขณะเดียวกันก็ทราบถึงตัวจริงของจอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืด บางที เขาอาจต้องการทราบข้อมูลมากกว่านี้… การชำเลืองมิสเตอร์เวิร์ลแปลว่ามีความคืบหน้าเกี่ยวกับตะกอนพลังของมนุษย์หมาป่า อาจรวมไปถึงการรวบรวมเส้นผมนากาทะเลลึก…

อารมณ์ของเดอะซันกำลังผ่อนคลายและไม่ตื่นตระหนก หมายความว่าการสอดส่องจากสภาเมืองเงินพิสุทธิ์จบลงแล้ว… เหตุใดเขาถึงมั่นใจว่าตัวเองเป็นอิสระ? หรือถูกเรียกตัวกลับเข้าร่วมทีมสำรวจอะไรนั่นอีกครั้ง?

ฟอร์สกำลังหดหู่แกมผ่อนคลาย…

เธอผ่านการทดสอบของตระกูลอับราฮัมและได้เป็นศิษย์ของเขา แต่ด้วยเหตุผลบางประการ เธอจำใจต้องทำในสิ่งยากจะยอมรับ?

มิสเตอร์เวิร์ลยังคลุมเครือเช่นเคย… คงต้องรอให้เป็นลำดับ 7 หรือ 6 เสียก่อน เราอาจได้เห็นอะไรในตัวเขามากกว่านี้…

และคนสุดท้าย ท่านเดอะฟูลผู้ยิ่งใหญ่ ท่านยังคงสง่าผ่าเผยและเปี่ยมด้วยอำนาจบารมีเฉกเช่นทุกครั้ง…

เมื่อห้วงความคิดมากมายในหัวออเดรย์จบลง เธอกล่าวกับสุภาพบุรุษเบื้องหลังม่านหมอกสีเทาหนาทึบ

“มิสเตอร์ฟูล ดิฉันรวบรวมไดอารีจักรพรรดิโรซายล์ได้สามหน้า”

เป็นฉบับคัดลอกซึ่งเธอร้องขอมาจากสมาคมแปรจิต แต่เนื่องจากเพิ่งบอกกับครูสอนพิเศษส่วนตัว เอสลันด์ เมื่อคืน อีกฝ่ายจึงเตรียมให้ได้เพียงสามแผ่น

“ต้องการสิ่งใดแลกเปลี่ยน” ไคลน์ยิ้ม

ออเดรย์ตอบกลับอย่างซื่อตรง

“ถือเป็นการแลกเปลี่ยนกับคำตอบในคราวก่อนก็แล้วกันค่ะ”

ขณะกล่าว น้ำเสียงของเด็กสาวแฝงความโอ้อวดเบาบาง

มิสเตอร์แฮงแมนและคนอื่นยังไม่ทราบเรื่องของสภานักสิทธิ์สนธยาเหมือนกับเรา!

น่าอิจฉาจังแฮะ ชักอยากรู้แล้วว่ามิสจัสติสปรึกษาเรื่องใดกับมิสเตอร์ฟูลส่วนตัว… เราคงต้องเขียนจดหมายถึงอาจารย์บ้าง ถามเขาว่ามีไดอารี… เอ่อ ต้องเรียกว่าสมุดบันทึกของจักรพรรดิโรซายล์ บ้างไหม…

ฟอร์สเริ่มกระตือรือร้น

ไคลน์พยักหน้ารับท่ามกลางสายตาเคลือบแคลงจากแฮงแมน

“ไม่มีปัญหา”

ออเดรย์รีบเขียนไดอารีจำนวนสามหน้าและส่งต่อให้มิสเตอร์ฟูล

ไคลน์ก้มศีรษะอ่านด้วยท่านั่งผ่อนคลาย ใจความในหน้าแรกเขียนไว้ว่า :

“13 มกราคม การติดต่อเป็นมิสเตอร์ประตูเริ่มมีเสถียรภาพ”

……………………

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset