Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ – ราชันเร้นลับ 438 : คำเชิญ

ราชันเร้นลับ 438 : คำเชิญ

เชื้อพระวงศ์…!

ไคลน์ถือกระดาษจดหมายจากไอเซนการ์ดพลางพึมพำอยู่คนเดียว

ชายหนุ่มมองออกไปนอกหน้าต่าง สายฝนกำลังโปรยปรายต่อเนื่อง เสาตะเกียงริมถนนส่องแสงทรงกลดอย่างเงียบงัน

ณ ห้องรับแขก โต๊ะกาแฟถูกจัดเป็นระเบียบเรียบร้อย หนังสือพิมพ์หลายฉบับถูกวางเรียงตรงมุมอย่างเป็นสัดส่วน บรรยากาศรอบตัวไคลน์มีเพียงความเงียบงันครอบงำ

ชายหนุ่มนั่งลงบนโซฟาพร้อมกับโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย นิ่งเงียบเช่นนั้นโดยไม่ขยับตัวไปไหนเป็นเวลานาน

ผ่านไปเกือบสิบนาที ไคลน์ถอนหายใจหนักแน่นและเชื่องช้า ตามด้วยการทิ้งกระดาษจดหมายลงในถังขยะ

ชายหนุ่มบรรจงพยุงตัวลุกยืนและเดินขึ้นชั้นสองด้วยสีหน้าเหม่อลอย

ภายในถังขยะ กระดาษจดหมายจากไอเซนการ์ด·สแตนธอนกำลังลุกไหม้อย่างอ่อนโยนจนกระทั่งเหลือเพียงซากเถ้าถ่านสีดำ

วันจันทร์ตอนเช้า ไคลน์ยืนส่องกระจกพลางใช้นิ้วกลางกับนิ้วโป้งของมือขวา นวดคลึงหน้าผากและขมับทั้งสองข้างโดยออกแรงมากกว่าปรกติเล็กน้อย

เมื่อบีบนวดเสร็จ ชายหนุ่มเปิดก๊อกน้ำและโน้มตัวลงต่ำ สองมือวักน้ำอุณหภูมิพอเหมาะใส่ใบหน้าพร้อมกับขัดถูทำความสะอาดพอเป็นพิธี

หลังจากสร้างความสดชื่น ไคลน์เช็ดหน้าด้วยผ้าขนหนู แขวนกลับตำแหน่งเดิม และเดินลงไปยังชั้นล่างเพื่อทอดไข่ดาวสุกเกรียมสำหรับกินคู่กับขนมปังปิ้งทาเนย

ด้วยอาหารเช้าอย่างเรียบง่ายและชาดำแช่ซีกมะนาวฝาน ความอึมครึมในหัวใจไคลน์เริ่มบรรเทาลง

หลังจัดการมื้อเช้าเสร็จ ขณะกำลังนั่งไล่อ่านหนังสือพิมพ์ทุกฉบับให้ครบ เสียงกริ่งบ้านพลันดังกังวานสดใส

ใครกัน? งานใหม่? หรือคนของจิตแห่งจักรกลแวะมาแจ้งผลลัพธ์การขุดค้นสุสานตระกูลอามุนด์? ไม่น่าใช่ ไม่มีทางเสร็จเร็วขนาดนี้…

ไคลน์พึมพำพลางวางผ้าเช็ดปากและหนังสือพิมพ์ลง จึงค่อยลุกเดินไปเปิดประตู

ในวินาทีฝ่ามือสัมผัสลูกบิด นิมิตภาพของผู้มาเยือนผุดขึ้นในสมอง

สุภาพบุรุษสูงวัยแต่งกายเรียบร้อย ด้านในสุดเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวโพลนซึ่งถูกลงแป้งจนเนียนกริบ ด้านนอกเป็นเสื้อกั๊กสีฟ้าอมเทาตัวใหญ่หนา ปกปิดมิดชิดลงไปถึงช่วงท้อง

ด้านนอกสุดเป็นสูทหางยาว มีรอยจีบคมกริบและปราศจากจุดตำหนิ รองเท้าหนังหนังส่องแสงมันเงาค่อนไปทางแวววาว คล้ายกับไม่เคยใส่ลุยโคลนหรือฝนเลยสักครั้ง

สุภาพบุรุษปริศนาสวมถุงมือไหมพรมถักสีขาวละมุน จอนตรงขมับทั้งสองข้างหงอกเทา ใบหน้าปรากฏริ้วรอยเหี่ยวย่นชัดเจน ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเผยความขึงขังและไม่เป็นมิตร

ไม่รู้จัก… ไคลน์พึมพำพร้อมกับเปิดประตู

“มีอะไรให้ผมช่วยไหม” ชายหนุ่มซักถามอย่างสุภาพ

ชายชราถอดหมวกออก กดมันลงบนหน้าอกและก้มคำนับตามมารยาทพื้นฐาน

“มิสเตอร์เชอร์ล็อก·โมเรียตี้ ผมเป็นหัวหน้าพ่อบ้าน มาหาคุณเพราะเจ้านายต้องการเรียนเชิญให้ไปพบ”

“ผมรู้จักเจ้านายของคุณหรือไม่ และท่านผู้นั้นต้องการนัดพบด้วยเหตุผลใด” สมองไคลน์กำลังเต็มไปด้วยคำถาม

ทันใดนั้น หางตาพลันเหลือบไปเห็นรถม้าคันใหญ่ริมถนน ผนังด้านนอกมีสีดำสนิทและเงางามจนเด่นสะดุดตา กระจกหน้าต่างมีม่านสำหรับรูดเปิดปิด ค่อนข้างชัดเจนว่าไม่ใช่รถม้าของบุคคลธรรมดาแน่นอน

หรูหราแต่เรียบง่าย…

ไคลน์เพ่งมองและพบตราประจำตระกูลแผ่นใหญ่ด้านข้างห้องโดยสาร

กึ่งกลางตราเป็นภาพของดาบหนึ่งเล่มในสภาพปักหัวลงและมีมงกุฎสีแดงเป็นโกร่งดาบ

นี่มัน… ดาบพิพากษา…!

ตราประจำราชวงศ์ออกัสตัส!

หัวใจไคลน์พลันเต้นระรัวเมื่อได้ตระหนักถึงตัวตนแท้จริงของพ่อบ้านตรงหน้า

บางที ชายคนนี้ก็อาจเป็นผู้วิเศษทรงพลังด้วยเช่นกัน… ชายหนุ่มลองคาดเดา

พ่อบ้านสีหน้าขึงขังไม่แยแสสายตาสอดส่องของนักสืบ เพียงเผยรอยยิ้มสุภาพ

“คุณยังไม่เคยพบเจ้านายของผม แต่ในทางสามัญสำนึก คุณรู้จักท่านเป็นอย่างดี เพราะท่านคือผู้ให้เงินสนับสนุนเบาะแสขององค์กรลับเกี่ยวกับไพ่ทาโรต์ และยังเป็นผู้ให้คุณเบิกเงินค่าดำเนินการระหว่างภารกิจ”

นึกแล้วเชียว… นี่สินะ บุคคลสำคัญระดับอาณาจักรในความหมายของทาลิม… เราใช้ข้อมูลปลอมปอกลอกเขามาตลอด แถมยังเบิกเงินค่าเบี้ยเลี้ยงเพื่อนำไปจ่ายเฒ่าโคห์เลอร์… คงปฏิเสธคำเชิญไม่ได้แน่ โดยเฉพาะหลังจากการตายของทาลิม…

ไคลน์ทำหน้าครุ่นคิดสักพัก

“เจ้านายของคุณต้องการพบผมเนื่องจากคดีการเสียชีวิตของทาลิมใช่ไหม”

“ถูกต้อง เนื่องจากทาลิมเป็นสหายของท่าน ท่านจึงเสียใจและสับสนอย่างมากกับการจากไปอย่างกะทันหัน ท่านยังทราบด้วยว่าคุณอยู่ในจุดเกิดเหตุขณะทาลิมเสียชีวิต” พ่อบ้านชราอธิบายโดยไม่ปิดบัง

ผมเปล่า…

จิตใต้สำนึกไคลน์ต้องการโกหก แต่ในความเป็นจริง มันทำได้เพียงพยักหน้ารับโดยมิอาจปฏิเสธ

“ใช่ครับ ผมเห็นทาลิมตายไปต่อหน้า”

“ช่างน่าเศร้า” พ่อบ้านกล่าวจากใจจริง “คุณจะตอบรับคำเชิญจากเจ้านายผมหรือไม่”

คิดว่าปฏิเสธได้รึไงกัน… นั่นยิ่งจะทำนักสืบเชอร์ล็อกให้น่าสงสัยเข้าไปใหญ่! หรือไม่ก็ เราอาจถูกพ่อบ้านคนนี้เชือดทิ้งในพริบตา…

ไคลน์จ้องหน้าอีกฝ่าย

“ผมว่างช่วงเช้าพอดี”

“เช่นนั้นก็เชิญทางนี้ครับ มิสเตอร์โมเรียตี้” พ่อบ้านชราโน้มตัวเล็กน้อยพร้อมกับผายมือไปทางรถม้าริมถนน

เฮ่อ เราพยายามเลี่ยงการพบปะอีกฝ่ายมาตลอด แต่จนแล้วจนรอด ความตายของทาลิมทำให้เราหมดอ้าง… ขอให้การพบปะในครั้งนี้ไม่ทำให้เราต้องพัวพันกับเรื่องวุ่นวายของพวกชนชั้นสูง… เห็นทีต้องวางแผนสละตัวตนนักสืบเชอร์ล็อกเอาไว้ล่วงหน้า… ระหว่างนั้นก็ต้องเร่งมือหาเส้นผมนากาทะเลลึกกับตะกอนพลังของเงามืดหนังมนุษย์ เพราะหากได้เป็นผู้ไร้หน้าเมื่อใด ชีวิตของเราจะปลอดภัยมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า!

หลังจากสวมโค้ทและเดินตรงไปยังรถม้าซึ่งมีตราประจำตระกูลออกัสตัส สมองไคลน์กำลังไตร่ตรองแผนการในอนาคต

ขณะเดียวกัน คนรับใช้ส่วนตัวของพ่อบ้านได้ลงมาเปิดประตูให้นักสืบหนุ่ม

หลังจากก้าวขึ้นบันได ไคลน์ได้พบกับตู้ไม้บรรจุไวน์แดง ไวน์ขาว แชมเปญ แลงติ และแรนดี้ดำ นอกจากนั้นยังมีแก้วคริสตัลแวววาวอีกหลายใบ ชายหนุ่มรีบเดินเข้าไปนั่งริมหน้าต่างด้วยความรู้สึกประหม่า

แลงติคือเหล้ากลั่นจากมอลต์บริสุทธิ์ แบ่งได้เป็นหลายประเภท เช่น รสยอดนิยมของเส้นทางกะลาสี ‘แลงติร้อนแรง’ แต่ขวดในตู้ภายในรถม้านั้นเป็นของคุณภาพสูงสุด

ในส่วนของแรนดี้ดำ เครื่องดื่มชนิดนี้ถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่ไวน์ เป็นไวน์ผสมธัญพืชหมัก และเหมือนกับแลงติ ทั้งสองชนิดคือเครื่องดื่มขึ้นชื่อของอาณาจักรโลเอ็น

ขณะรถม้าแล่นไปบนถนนด้วยความเร็วปานกลาง ไคลน์ซักถามหยั่งเชิง

“พวกเรากำลังจะไปเขตราชินีหรือ”

“เปล่า เจ้านายของผมพักผ่อนอยู่ในคฤหาสน์กุหลาบแดงย่านรอบนอกเขตราชินี” พ่อบ้านชราไม่ปิดบัง

คฤหาสน์หลวงสินะ…

ไคลน์ครุ่นคิดสักพักและซักถามด้วยรอยยิ้ม

“พอจะบอกผมได้หรือยังว่าเจ้านายของคุณคือใคร”

พ่อบ้านชราซึ่งนั่งหลังตรงมาตลอด ยามนี้เหยียดตัวขึ้นจนหลังตรงยิ่งกว่าเดิม และกล่าวพร้อมกับเชิดคางขึ้น

“ท่านคือทายาทแห่ง ‘ผู้สถาปนาและพิทักษ์อาณาจักร’ หลานชายแห่ง ‘กษัตริย์มหาปรีชา’ หนึ่งในห้าบุตรแห่งฝ่าบาท ดยุคแห่งลาสติ้ง องค์ชายเอ็ดซัค·ออกัสตัส”

องค์ชายสาม… อายุน้อยเป็นลำดับสองจากบรรดาองค์ชายทั้งห้า น่าจะอยู่ในวัยประมาณสี่ยิบเอ็ดยี่สิบสอง…

ไคลน์ทบทวนข้อมูลในความทรงจำซึ่งเคยอ่านผ่านๆ จากนิตยสารหรือและหนังสือพิมพ์ของสโมสรครักซ์

รถม้าแล่นผ่านถนนเส้นแล้วเส้นเล่า ผ่านเขตทะเลสาบเทียมทางตะวันตกเฉียงเหนือ ใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมงจนกระทั่งเคลื่อนตัวมาถึงหน้าคฤหาสน์สุดหรูหลังหนึ่ง

ณ ทางเข้า ไคลน์ถูกทหารในเครื่องแบบกองทัพ เสื้อสีแดงกางเกงสีขาว จำนวนสองคนตรวจค้นตัวทุกซอกมุม ชายหนุ่มมิได้ใช้เวทมนตร์ลวงตาในการซ่อนซองปืนและลูกโม่ดัดแปลง

มันเชื่อว่า รอบตัวองค์ชายเอ็ดซัคต้องมีใครสักคนทราบว่าตนพกพาอาวุธปืนติดตัวเป็นประจำ การจงใจซ่อนจะยิ่งทำให้อีกฝ่ายเกิดความสงสัย

องค์ชายคงทราบอยู่แล้วว่าเราเป็นนักสืบเอกชน คงไม่มีลูกน้องคนใดจับแขกของเจ้านายส่งตำรวจในข้อหาพกพาปืนเถื่อนแน่…

ไคลน์ยืนมองทหารถอดซองปืนรักแร้พร้อมลูกโม่ของตนออก และฟังพวกเขาแนะนำว่าตอนกลับออกมาจะต้องติดต่อขอคืนอย่างไร

หลังจากผ่านด่านตรวจอีกสองหน ไคลน์เดินตามพ่อบ้านชราอ้อมเข้ามาถึงเขตทุ่งกว้างภายในคฤหาสน์ วิวทิวทัศน์รอบตัวเป็นทุ่งหญ้าสลับกับเนินเขาและลำธาร

จุดด่างพร้อยเดียวในคฤหาสน์แห่งนี้คือ พืชพรรณเกือบทั้งหมดจะมีสภาพเหี่ยวเฉาเนื่องจากความแห้งของอากาศ

กร่อก! กร่อก! กร่อก!

เสียงกีบเท้าของม้าหลายตัวกำลังควบตรงมาจากระยะไกล ก่อนจะหยุดลงตรงหน้าไคลน์และพ่อบ้านชรา

เด็กหนุ่มหน้าตายิ้มแย้ม สวมกางเกงรัดรูปสีขาว รองเท้าหนังสีดำส้นใหญ่ เสื้อเชิ้ตรัดรูป และเสื้อรัดเอวสำหรับขี่ม้า กระโดดลงจากหลังม้าอย่างคล่องแคล่วและเดินมาทางไคลน์

เด็กหนุ่มถอดหมวกขี่ม้าพลางยิ้มให้

“ได้พบกันจนได้ นักสืบโมเรียตี้”

เมื่อได้เห็นใบหน้าอีกฝ่ายอย่างชัดเจน ดวงตาไคลน์เผยอาการตกตะลึงโดยไม่ปิดบัง ไม่ใช่เพราะเด็กหนุ่มคนนี้หล่อเหลาราวกับรูปปั้นแกะสลัก แต่เป็นเพราะเอ็ดซัคมีใบหน้าคล้ายกับกษัตริย์เฮนรี·ออกัสตัส บนธนบัตร 5 ปอนด์มาก!

เอ็ดซัค·ออกัสตัสเป็นเจ้าของใบหน้าอวบอิ่มและดวงตาเรียวคม แต่มิได้แผ่กลิ่นอายความดุดันหรือขึงขังให้เห็น มีเพียงความสดใสและกระตือรือร้นของวัยรุ่น

“กระหม่อมไม่เคยทราบมาก่อนว่าเป็นภารกิจจากองค์ชาย” ไคลน์ก้มศีรษะคำนับ

ขณะมือข้างหนึ่งกำลังถือแส้ม้า เอ็ดซัดหวดลมเล่นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“เราเพิ่งได้ยินมาว่า เจ้าคือกุญแจสำคัญในคดีฆาตกรรมต่อเนื่องและคดีผู้ปลดปล่อยแรงกระหาย คำแนะนำของทาลิมไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ … เฮ่อ คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเสียชีวิตลงหลังจากแข่งม้ากับเราได้เพียงหนึ่งวันเท่านั้น ป่านนี้คงกำลังมีความสุขอยู่บนดินแดนแห่งพายุสายฟ้าของพระองค์”

นับตั้งแต่ก่อตั้งอาณาจักรโลเอ็น ราชวงศ์ออกัสตัสก็นับถือเทพวายุสลาตันมาตลอด

โดยไม่เปิดโอกาสให้ไคลน์พูด เอ็ดซัคกล่าวต่อไปด้วยสีหน้าอึมครึม

“เราไม่มีอำนาจสืบสวนสาเหตุการตายของทาลิม มิสเตอร์โมเรียตี้ เราต้องการให้เจ้าช่วยสืบหาความจริงเบื้องหลัง”

หมายความว่า การตายด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เป็นการกลบเกลื่อนจากฝ่ายอื่นของเชื้อพระวงศ์? พี่ชายคนโตทั้งสอง? ความขัดแข้งระดับนี้ เราไม่ควรนำตัวเองเข้าไปแทรกด้วยประการทั้งปวง… แต่องค์ชายก็ไม่คิดอ้อมค้อมเลยสักนิด… โผงผางมาก…

ไคลน์ถอนหายใจ

“เรื่องนี้อาจฟังไม่เข้าหู แต่กระหม่อมเชื่อว่าทาลิมเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันเช่นเดียวกับข่าวลือ”

“อย่างนั้นหรอกหรือ? แต่ทูตพิพากษารายงานกับเราว่า พวกเขาได้รับเบาะแสสำคัญจากนักสืบเชอร์ล็อกซึ่งเป็นพยานคนสำคัญ ระบุว่าทาลิม·ดูมงต์มีอาการคล้ายกับถูกพลังคำสาปก่อนเสียชีวิต” องค์ชายเอ็ดซัคกล่าวพลางอมยิ้ม

ไคลน์ทำได้เพียงยิ้มแห้ง

“องค์ชาย ท่านควรทราบกฎเหล็กในการเอาตัวรอดของนักสืบ กระหม่อมยังอยากมีชีวิตอยู่ไปอีกห้าสิบปี”

“ทาลิมไม่ใช่เพื่อนของเจ้าหรือ” เอ็ดซัคเปรยถาม

ไคลน์พลันอึกอัก กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งสาวใช้คนหนึ่งเดินออกจากอาคารหลักมากระซิบกระซาบข้างหูเอ็ดซัค

ทันใดนั้น องค์ชายสามพลันเปลี่ยนสีหน้า

“รีบกลับไปบอกหล่อนว่า หล่อนจะไม่ได้ออกไปไหนทั้งนั้น!”

หลังจากแผดเสียงเสร็จ มันเดินครุ่นคิดราวสองสามก้าวพลางพยายามข่มใจให้สงบ ดวงตาสีฟ้าเริ่มคืนความอ่อนโยนทีละนิด

“แต่ว่า…เราอนุญาตให้หล่อนเดินเล่นได้อย่างอิสระภายในคฤหาสน์หลังนี้”

……………………

Lord of the Mysteries

Lord of the Mysteries

ป็นเรื่องราวการข้ามโลกของหนุ่มชาวจีนนามว่า โจวหมิงรุ่ย โลกใบที่ชายคนนี้ต้องเผชิญมีลักษณะคล้ายคลึงกับยุควิกตอเรียของยุโรป ยุคสมัยแห่งจักรกลไอน้ำเฟื่องฟู สุภาพบุรุษขุนนางเดินขวักไขว่ด้วยสูทและเสื้อกั๊กมาดเท่ แน่นอน เป็นโลกที่มีพลังพิเศษ ผู้วิเศษ และ สัตว์วิเศษ แต่พลังของมนุษย์บนโลกจะไม่เหมือนกับนิยายเรื่องใด ไม่มีจอมยุทธ์ ไม่มีการบังเอิญพบคำภีลับและได้ครอบครองยอดเคล็ดวิชา ไม่ได้เกิดใหม่พร้อมกับพลังสุดโกง ไม่เลย ไม่น่าเบื่อและจืดชืดขนาดนั้น ในอดีตกาล เผ่าพันธุ์มนุษย์อันต่ำต้อยมิอาจต่อสู้กับเหล่าสัตว์วิเศษในตำนานไหว หนึ่งในหนทางครอบครอง ‘พลังพิเศษ’ ก็คือการดื่ม ‘โอสถ’ หลังจากมนุษย์ดื่มโอสถและกลายเป็น ‘ผู้วิเศษ’ พวกเขาจะข้ามขีดจำกัดเดิมตามแต่ชนิดโอสถที่ดื่ม ผู้วิเศษในโลกแบ่งออกเป็น 9 ลำดับ โดยลำดับ 9 จะอ่อนแอที่สุด หนทางอัพเกรดลำดับก็แสนพิลึก ไม่ใช่การพัฒนาพลังเหมือนนิยายเรื่องใด แต่เป็นการดื่ม ‘โอสถ’ ที่ ‘ถูกต้อง’ ตามสูตรของลำดับถัดไป พลังพิเศษไม่สามารถข้ามสายได้ โอสถแต่ละชนิดจะมีสูตรการปรุงที่แตกต่าง แถมการฝึกฝนพลังของผู้วิเศษก็ยังพิสดารเหนือคำบรรยาย เรื่องราวจะยิ่งเข้มข้นขึ้นเมื่อตัวเอกเริ่มทราบว่า อดีตมหาจักรพรรดิของโลกเมื่อร้อยปีก่อนเป็น ‘ผู้เดินทางข้ามโลก’ เหมือนกับเขา แถมยัง… เหลือทิ้งไดอารี่สุดสำคัญไว้ให้ชนรุ่นหลัง แต่ไดอารีถูกเขียนด้วยภาษาจีนที่ไม่มีใครอ่านออกแม้แต่คนเดียว… ยกเว้นโจวหมิงรุ่ย With the rising tide of steam power and machinery, who can come close to being a Beyonder? Shrouded in the fog of history and darkness, who or what is the lurking evil that murmurs into our ears? Waking up to be faced with a string of mysteries, Zhou Mingrui finds himself reincarnated as Klein Moretti in an alternate Victorian era world where he sees a world filled with machinery, cannons, dreadnoughts, airships, difference machines, as well as Potions, Divination, Hexes, Tarot Cards, Sealed Artifacts… The Light continues to shine but mystery has never gone far. Follow Klein as he finds himself entangled with the Churches of the world—both orthodox and unorthodox—while he slowly develops newfound powers thanks to the Beyonder potions. Like the corresponding tarot card, The Fool, which is numbered 0—a number of unlimited potential—this is the legend of “The Fool”.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset