ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ – ตอนที่ 1146 ขูดเลือดขูดเนื้อสักหน่อย

พลังจิตอันน่าสะพรึงกลัวทั้งสองได้ใกล้เข้ามาทำให้วิญญาณสีดำนั้นหดตัวลงด้วยความหวาดกลัว

ผู้วิปริตสองคนมาเพิ่มอีกแล้ว! ช่วยด้วย!

มู่เฉียนซีมองวิญญาณสีดำนั้นอย่างพิจารณาและกล่าวว่า “นี่มันตัวอะไรกัน?”

“ข้าไม่ใช่ตัวอะไรทั้งสิ้น! ข้าจะเป็นตัวอะไรได้อย่างไรล่ะ เพราะข้าเป็นผู้แข็งแกร่ง…ข้าเป็นผู้แข็งแกร่ง…”

ในขณะที่กล่าวนั้น เสียงของเขาก็แทบจะไม่มีแล้ว

วิญญาณของเขาแข็งแกร่ง แม้แต่หัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีก็ไม่อาจค้นพบได้ แต่เหตุใด…เหตุใดพวกวิปริตเหล่านี้ถึงได้ปรากฏตัวขึ้น!

“ไม่ว่าเจ้าจะเป็นสิ่งใด สารภาพทุกอย่างออกมาให้สิ้นเดี๋ยวนี้!” มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชา

หากไม่ใช่เพราะนางเป็นห่วงเฮยเย้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนต้องส่งเสี่ยวหงกับอู๋ตี้มาเฝ้าไว้ คาดว่าคงจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้วเป็นแน่

“ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด ข้าก็แค่ออกมาดู…”

เขายังไม่ทันกล่าวจบก็ได้ส่งเสียงกรีดร้องดังลั่นขึ้น อ๊า!

“เจ้า เจ้าอย่าเข้ามานะ เจ้า…” น้ำเสียงของเขาสั่นเครือราวกับเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์ที่กำลังโดนรังแกก็มิปาน

เสี่ยวหงทนฟังต่อไปไม่ได้แล้ว “เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้นะ!”

วิญญาณสีดำนี้จ้องมองและชี้ไปที่กระบี่สีแดงเพลิงเล่มนั้นอย่างสั่นเครือ สัญชาตญาณของเขาบอกเขาว่าหากกระบี่เล่มนี้ฟันร่างของเขาเพียงแค่เล็กน้อยก็สามารถทำให้ดวงจิตของเขาดับสลายไปได้อย่างแน่นอน

“ท่าน ท่าน ข้าว่าเรามาคุยกันดี ๆ จะดีกว่านะ! จับอาวุธเช่นนี้มันอันตรายเกินไปจริง ๆ ท่านว่าจริงหรือไม่?”

“จะอันตรายได้อย่างไรล่ะ อย่างไรเสียผู้ที่จะเป็นอันตรายก็ไม่ใช่ข้าแน่นอน”

“ขะ ข้า…” วิญญาณสีดำนี้แทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว

“เจ้ามาก่อเรื่องวุ่นวายดึกดื่นเที่ยงคืนเช่นนี้ ทำให้ข้านอนไม่หลับ แล้วเมื่อใดที่ข้าอารมณ์ไม่ดี ข้าก็มักจะลงมือ เจ้าก็คิดเอาเองก็แล้วกันว่าจะทำเช่นไร!” แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของมู่เฉียนซี

“ข้าจะบอกเดี๋ยวนี้ ข้าจะบอกให้หมดเลย! อย่าขยับมือเชียวนะ อย่าขยับมือ!”

เจ้าหมอนี่ช่างขี้ขลาดตาขาวยิ่งนัก ถูกทำให้ตกใจแค่นี้ก็ยอมหมดแล้ว

เผ่ามังกรอัคคีไม่ได้ปิดแน่นสนิทเหมือนกับเผ่ามังกรไม้ ดังนั้นตอนนี้ได้มีคนของกลุ่มเทพแอบเข้ามาในเผ่ามังกรอัคคีแล้ว

เพียงแต่ว่าเผ่ามังกรอัคคีนี้แข็งแกร่งมาก พวกเขาจึงไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม

เมื่อรู้ว่ามีมังกรทองปรากฏขึ้น อีกทั้งยังไปสถานที่ฝึกฝนนั้น พวกเขาจึงได้แอบเข้าไปและได้ทำร้ายเฮยเย้าจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเจียนตายเช่นนี้

วิญญาณนี้ก่อนที่จะตายเขาเคยเป็นสัตว์เทพมาก่อน เนื่องจากอ่อนแอเกินไปจึงถูกมังกรฆ่าตาย

สุดท้ายได้เข้าร่วมกับกลุ่มเทพ กลุ่มเทพรับปากว่าจะฟื้นฟูร่างให้กับเขา จึงให้เขาควบคุมร่างของมังกรทองน้อยเพื่อที่จะได้ทำภารกิจให้กับพวกเขา

แต่ตอนนี้เขาไม่ทันได้ย่างกรายเข้าร่างมังกรทองน้อยก็ถูกขัดขวางเสียก่อน และตอนนี้ก็ตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้อีก

มู่เฉียนซีกล่าว “เช่นนั้นเผ่ามังกรก็ยังมีไส้ศึกซ่อนอยู่อีกน่ะสิ! เจ้าไปจับตัวพวกมันออกมาให้ข้าทั้งหมด”

“ขะ ข้า ข้าไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น ข้ารู้แค่สองคนนี้เท่านั้น”

“เจ้ากำลังโกหกข้า อย่างไรเสียเจ้าก็เป็นวิญญาณระดับสัตว์เทพ ตำแหน่งของเจ้านั้นไม่ได้ต่ำเลย ด้วยวิญญาณแล้วยิ่งสามารถทำให้เจ้ารู้เรื่องได้มากมาย ไม่ใช่หรอกเหรอ?”

“ขะ ข้า หากว่าข้าทรยศหักหลัง ข้าจะต้องตาย!”

“ระหว่างความตายกับการที่ดวงจิตของเจ้าจะดับสลายเจ้าก็เลือกเอาเองเถอะ!” ในตอนนี้กระบี่มังกรเพลิงได้ระเบิดเปลวไฟอันแดงฉานออกมาแล้ว

เขารับรู้ได้แล้วว่าดวงจิตของตนเองนั้นกำลังจะดับสูญไป ในที่สุดเขาก็ยอมจำนน “ข้าบอกแล้ว ๆ ข้าจะบอกหมดทุกอย่าง! เจ้าอย่าทำเช่นนี้ได้หรือไม่!”

ดึกดื่นเที่ยงคืน ประตูห้องของหัวหน้าเผ่าอัคคีถูกสัตว์สองตัวถีบออกรุนแรง

ปัง ปัง! ศพสองศพถูกโยนเข้าไปในห้องของหัวหน้าเผ่าอัคคี

“ใคร?” หัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีกล่าวขึ้นด้วยความโกรธเกรี้ยว

สุดท้ายเขาก็ได้เห็นกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์แปลกหูแปลกตาสองตัว เจ้าสองตัวนี้ดูเหมือนจะไร้พิษภัย พลังก็ไม่ได้แข็งแกร่งอันใดนัก

ทว่า เขากลับรู้สึกหวาดกลัวอย่างแปลกประหลาด

“พวกเจ้า…”

น้ำเสียงอันเย็นยะเยือกเสียงหนึ่งดังขึ้น “หัวหน้าเผ่ามังกรอัคคี พวกเรามาที่เผ่าสูงศักดิ์ ถึงแม้ว่าจะมาขอความช่วยเหลือ แต่อย่างน้อยพวกเราก็เป็นแขก!”

“เฮยเย้าเข้าไปสถานที่ฝึกฝนนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสปางตายไม่พอ ตอนนี้นอนรักษาตัวอยู่ในวังมังกรอัคคีของพวกเจ้าแต่กลับถูกลอบทำร้ายเช่นนี้อีก หัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีจะชี้แจงเรื่องนี้เช่นไร?”

หัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีได้ยินเช่นนี้ก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น และกล่าวด้วยความตกใจว่า “ลอบทำร้ายเหรอ!”

ดวงวิญญาณสีดำดวงหนึ่งถูกมู่เฉียนซีโยนออกไป “เจ้าให้เจ้านี่ชี้แจงให้เจ้าฟังเถอะ!”

หัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีเห็นเจ้าสิ่งนี้ก็ยิ่งทวีความประหลาดใจมากขึ้น “นี่มันวิญญาณของมังกรตัวนึงนี่ อย่างน้อยก็เป็นสัตว์เทพ”

“หากอยู่ในสถานที่อื่น มีคนมาคุกคามถึงชีวิตของเฮยเย้าเช่นนี้ หัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีจะไม่สนใจก็ได้ แต่นี่เป็นอาณาเขตของเจ้า หัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีจะไม่สนใจไม่ได้ ข้าหวังว่าจะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นเป็นรอบที่สองอีก!”

หลังจากที่หัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีได้ฟังเรื่องราวจากวิญญาณนี้ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้น นึกไม่ถึงเลยว่าเผ่ามังกรอัคคีของพวกเขาจะมีคนลอบเข้ามามากมายถึงเพียงนี้

ไม่เพียงแต่จะลงมือในสถานที่ฝึกฝนเท่านั้น แต่ยังลอบฆ่าในวังของเขาได้อีกด้วย ช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก!

จากนั้นหัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีก็ได้เรียกรวมตัวยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่ามังกรอัคคี และปฏิบัตการกวาดล้างไส้ศึกตลอดทั้งคืน

วิญญาณนั้นไม่กล้าที่จะปิดบังเรื่องใด ดังนั้นไส้ศึกเหล่านั้นจึงไม่อาจหนีรอดไปได้

ในค่ำคืนนี้มู่เฉียนซีกับจิ่วเยี่ยก็ไม่ได้พักผ่อน รักษาเฮยเย้าให้หายดีก่อน

เช้าวันต่อมาเฮยเย้าตื่นขึ้นมา ร่างกายของเขาก็ดีขึ้นมากแล้ว ส่วนเรื่องอันตรายในเมื่อคืนเขาไม่รับรู้เลยแม้แต่น้อย

มู่เฉียนซีกล่าว “เฮยเย้า ลำบากเจ้าแล้ว”

เฮยเย้าส่ายหน้าพลางกล่าว “ไม่ได้ลำบากอะไร สู้ความลำบากในเมื่อก่อนไม่ได้เลยสักนิด ตอนนี้ต่างหากสิ่งที่ข้าต้องการ”

แม้ว่าความตายจะมาเยือน เขาก็มีพลังในการต่อสู้ มันดีกว่าในเมื่อก่อนมาก

หลังจากที่ได้รู้ข่าวว่าเฮยเย้าฟื้นขึ้นมาแล้ว ผู้พิทักษ์ในสถานที่ฝึกฝนและองครักษ์ที่เฝ้าวังมังกรต่างก็พากันมาขอรับโทษ

ด้านนอกห้องของเฮยเย้าในตอนนี้มีคนมากมายต่างพากันมาคุกเข่าขอรับโทษ พวกเขาเกือบจะทำให้เผ่ามังกรทองสูญเสียทายาทไปแล้ว ความผิดนี้ใหญ่หลวงยิ่งนัก

ต่อมา หัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีและผู้อาวุโสสูงสุดก็มาเพื่อรับโทษเช่นกัน

หัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีกล่าว “ฝ่าบาทเฮยเย้า เป็นเพราะกระหม่อมดูแลเผ่ามังกรอัคคีไม่ดีพอ ทำให้ฝ่าบาทตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ กระหม่อมมาขอรับโทษพ่ะย่ะค่ะ”

นี่เป็นครั้งแรกที่เฮยเย้าได้เห็นกับสถานการณ์เช่นนี้ ถึงแม้ว่าใบหน้าจะเฉยเมยไร้ซึ่งอารมณ์และความรู้สึกใด ๆ แต่สายตาของเขากลับเหลือบมองไปที่มู่เฉียนซี ไม่รู้ว่าต้องรับมือเช่นไร

มู่เฉียนซีกล่าวเย้ยหยันว่า “เฮยเย้าเกือบจะตายไปสองครั้งสองครา พวกเจ้าจะมาขอโทษด้วยวาจาแล้วจะสิ้นเรื่องอย่างนั้นเหรอ!”

หัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีกล่าว “ไม่เป็นเช่นนั้นแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ พวกเราจะชดใช้ให้กับฝ่าบาทเฮยเย้าพ่ะย่ะค่ะ”

“เรื่องชดใช้ ต้องเป็นพวกข้าที่จะเป็นคนกำหนดว่าพวกเจ้าควรชดใช้เช่นไร” มู่เฉียนซีกล่าว

“ตกลง พวกเจ้าเป็นคนกำหนด!”

ภูมิหลังของเผ่ามังกรอัคคีของพวกเขานั้นนับว่าไม่ธรรมดาเลย มู่เฉียนซีกล่าว “เฮยเย้าได้รับบาดเจ็บจากสถานที่ฝึกฝนนั้น เมื่อคืนก็ถูกวิญญาณนั่นลอบทำร้ายจนพลังจิตได้รับความเสียหายอีก ต้องใช้สมุนไพรวิญญาณอันล้ำค่ามารักษา เผ่ามังกรอัคคีของพวกเจ้าน่าจะมีคลังเก็บของล้ำค่ากระมัง ข้าต้องการไปเลือกสมุนไพรวิญญาณที่คลังเก็บของล้ำค่ามารักษาเฮยเย้าด้วยตัวเอง”

หากมีประโยชน์ พวกเจ้าก็ต้องมอบให้

สมุนไพรวิญญาณ! ถึงแม้ว่าจะมี แต่ส่วนมากพวกเขาก็ไม่ได้ใช้ อยากจะเอาก็เอาไปเถอะ!

ครั้งนี้ พวกเขาเป็นคนผิด!

เนื่องจากมีความผิด หัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีจึงตอบตกลงไปด้วยความเต็มอกเต็มใจ “ตกลง! ข้าจะให้เจ้าไปเลือก!”

อันที่จริงแล้วอาการของเฮยเย้าก็ดีขึ้นมากแล้ว ส่วนเรื่องที่พลังจิตได้รับความเสียหายนั้นไม่เป็นความจริงเลย

ถึงอย่างไร เมื่อคืนอู๋ตี้ก็ขวางเอาไว้ทันเวลา เจ้าวิญญาณนั่นไม่ได้แตะต้องเฮยเย้าได้แม้แต่ปลายเล็บ แต่เผ่ามังกรอัคคีมีความผิดพลาดเช่นนี้ จะไม่ให้พวกเขาขูดเลือดขูดเนื้อสักหน่อยได้อย่างไรกันล่ะ

.

.

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

Score 7.8
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ นางคือหมอปีศาจผู้เหี้ยมโหดแต่กลับต้องมาอยู่ในร่างของหญิงอ่อนแอไร้ความสามารถที่ผู้คนพากันรังเกียจ ทว่าหลังทำพันธสัญญากับเทพอสูรโบราณ ฝึกฝนบำเพ็ญเคล็ดวิชาต้านสวรรค์จึงเปล่งประกายเจิดจรัสจนผู้คนต้องหลบตาไปตาม ๆ กัน ทั้งยังครอบครองพิษหลายแขนง ใครที่กล้ามารังแกนาง นับว่ารนหาที่ตาย! โอสถเก้าสรรพคุณน่ะหรือ นั่นมันถั่วเคลือบน้ำตาลไว้ให้สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักของนางกินเล่นต่างหากเล่า ปรุงยาเป็นก็ต้องเอาแต่ใจอย่างนี้นี่ล่ะ! -------------------------- เขาคือเยี่ยอ๋องรูปงามผู้เย้ายวน ผู้คนต่างเข้าใจว่าเขาเหี้ยมโหดไร้ความปรานี แต่ทำไมกับนาง เขาถึงได้เอาแต่ตามติดจนสลัดไม่หลุดอย่างนี้นะ “ท่านจ้องข้าทำไม” “ข้ากำลังคิดอยู่ว่า เจ้าจะกลายมาเป็นสตรีของข้าอย่างถูกต้องเมื่อไหร่” ทันใดนั้น เข็มเล็กก็จ่อเข้าที่เอวของเขา นางเอื้อนเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ท่านอ๋อง การหุนหันพลันแล่นเปรียบดั่งปีศาจร้าย หากพิษเข้าร่างเกรงว่าท่านคงจะต้องมีชะตาเยี่ยงขันทีไปชั่วชีวิต!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset