รูปร่างมังกรของสุ่ยอู๋ซินหายไปภายในพริบตา จากนั้นก็พลันเปลี่ยนมาเป็นบุรุษผู้อ่อนโยนผู้หนึ่ง
เขาค่อย ๆ เดินมาตรงหน้ามู่เฉียนซี และคุกเข่าลงข้างหนึ่งกลางอากาศก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “สุ่ยอู๋ซิน คารวะนายท่าน”
ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นต่างก็เบิกตากว้างจนดวงตาแทบจะถลนออกมาด้วยความตกใจ หัวหน้าเผ่ามังกรวารีของพวกเขาเป็นเผ่ามังกรเทพที่เปรียบเสมือนบุปผาบนขุนเขาสูงที่ยากจะเด็ดลงมาได้ผู้นี้ นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีเจ้านาย
อีกอย่าง เจ้านายผู้นี้ของเขาก็ยังเป็นมนุษย์อีกด้วย
ผู้อาวุโสเหล่านั้นของเผ่ามังกรวารีแทบจะเป็นลมหมดสติไป นึกไม่ถึงเลยว่าท่านหัวหน้าเผ่าจะเรียกสาวน้อยผู้นี้ว่านายท่าน
มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้า…เจ้าคือมังกรวารีอย่างนั้นเหรอ?”
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามังกรวารีในแหวนมังกรเทพวารีนั้นไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ เลย มิน่าล่ะ ที่แท้เขาก็ไม่ได้อยู่แหวนมังกรเทพวารีนี่เอง
สุ่ยอู๋ซินค่อย ๆ ลุกขึ้น เขายิ้มพลางกล่าวว่า “นายท่านเข้าใจผิดแล้ว”
“ข้าจะเป็นท่านมังกรวารีไปได้อย่างไรกัน”
จิ่วเยี่ยเหลือบมองเขา ไม่เหมือน เพราะอ่อนแอเกินไป
“แล้วเหตุใดเจ้าถึงเรียกข้าว่านายท่าน ข้ากับเจ้าไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดต่อกัน”
“นายท่าน เราไปคุยกันที่อื่นดีหรือไม่?”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องเรียกข้าเช่นนี้ ข้ากับเจ้าไม่ได้มีพันธสัญญาใดต่อกัน” เจ้าหมอนี่เป็นถึงหัวหน้าเผ่ามังกรวารีเชียวนะ!
สุ่ยอู๋ซินยิ้มพลางกล่าว “เชิญนายท่านด้านใน อีกประเดี๋ยวนายท่านก็จะยอมรับให้ข้าเรียกท่านว่านายท่านเอง”
สุ่ยอู๋ซินพามู่เฉียนซีเข้าไปในห้องตำราของเขา นอกจากจิ่วเยี่ยแล้ว คนอื่น ๆ ก็ไม่สามารถตามเข้าไปได้
ผู้อาวุโสที่อยู่ด้านนอกเหล่านั้นโกรธเกรี้ยวจนแทบจะระเบิดขึ้นแล้ว พวกเขาลากผู้อาวุโสสามมังกรอัคคีมาและกล่าวว่า “สาวน้อยผู้นั้นเป็นคนประเภทใดกันแน่ ท่านหัวหน้าเผ่าถึงได้เรียกนางว่านายท่านเช่นนั้น หรือว่าท่านหัวหน้าเผ่าจะรู้สึกรักแรกพบกับนาง ดังนั้น…”
“ข้าไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าท่านหัวหน้าเผ่าผู้ที่สูงส่งเกินเอื้อมจะเรียกสาวน้อยผู้นั้นว่านายท่าน”
ในตอนนี้เองเฮยเย้าก็กล่าวขึ้นว่า “เป็นหัวหน้าเผ่ามังกรวารีแล้วอย่างไร หากท่านมู่ยอมเป็นเจ้านายของข้า ข้าก็ไม่ปฏิเสธ”
พวกเขารู้สึกว่ามังกรทองน้อยผู้ที่มีสายเลือดเผ่าราชาผู้นี้กับท่านหัวหน้าเผ่าของพวกเขาล้วนแต่เป็นบ้าไปแล้ว
“นายท่านเชิญนั่ง!” เมื่อเข้ามาในห้องตำรา สุ่ยอู๋ซินก็กล่าวด้วยความอ่อนโยน
“เจ้ามีอะไรก็พูดมาตรง ๆ เถอะ!” มู่เฉียนซีกล่าว
“นายท่านคงไม่รู้ว่าแดนมังกรเกิดขึ้นได้อย่างไร ในตอนแรกที่เกิดความโกลาหล ท่านมังกรวารีเป็นผู้ที่เปิดแดนมังกรแห่งนี้ และมอบดินแดนแห่งความสุขนี้ให้กับเผ่ามังกร ท่านมังกรวารีเป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์ของมังกรเทพ” สุ่ยอู๋ซินกล่าว
มู่เฉียนซีกล่าว “ต่อให้มังกรวารีจะเป็นผู้มีพระคุณของเผ่ามังกร แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่หัวหน้าเผ่ามังกรวารีอย่างเจ้าจะมาเรียกข้าว่านายท่าน!”
“นั่นก็เป็นเพราะว่า ที่ข้ามีชีวิตอยู่ได้ก็เป็นเพราะว่าท่านมังกรวารี!” แววตาของสุ่ยอู๋ซินยิ่งอ่อนโยนมากขึ้นเรื่อย ๆ
“เจ้ามีชีวิตก็เพราะมังกรวารีอย่างนั้นเหรอ?” มู่เฉียนซีกล่าวด้วยความประหลาดใจ
สุ่ยอู๋ซินกล่าวชี้แจงว่า “ครั้งสุดท้ายที่ท่านมังกรวารีมาที่เผ่ามังกรวารี ท่านได้ถ่ายทอดความรู้ให้แก่เผ่ามังกรวารีของเรา และยังได้ทิ้งเลือดเอาไว้หยดหนึ่ง เลือดหยดนั้นได้ตั้งครรภ์ภายใต้พลังธาตุวารีอยู่เป็นเวลานานมาก และได้กลายมาเป็นตัวข้า”
“สามารถพูดได้ว่าท่านมังกรวารีเป็นผู้ที่สร้างข้าขึ้นมา แล้วก็เป็นท่านพ่อของข้าด้วย แต่นึกไม่ถึงเลยว่าหลังจากที่ข้าได้เติบโตขึ้นมาท่านมังกรวารีก็ได้หายไป ก่อนที่จะรู้ว่าแดนมังกรจะถูกปิดลง ข้าได้ตามหาเขาไปทั่วทุกที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้อะไรเลย จนกระทั่งได้พบเจอกับท่าน”
“ท่านเป็นเจ้านายของท่านมังกรวารี ท่านมีแหวนนิรันดร์ นั่นก็คือแหวนมังกรเทพวารี พลังธาตุวารีที่แหวนมังกรเทพวารีได้มอบให้นั้นในโลกใบนี้มีเพียงหนึ่งเดียวไม่มีสอง เหมือนกันกับข้า ข้าไม่มีทางดูผิดพลาดไปแน่นอน ท่านเป็นเจ้านายของท่านมังกรวารี”
มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้ารู้ฐานะของข้าแล้ว รู้ว่าข้าเป็นเจ้านายของมังกรวารี แต่ต่อให้เจ้ามีชีวิตได้เพราะมังกรวารี แต่ก็เจ้ากับข้าก็ไม่ได้มีพันธสัญญาต่อกัน”
“เจ้านายของท่านมังกรวารีก็เป็นนายท่านของข้าด้วย” หัวหน้าเผ่ามังกรวารีผู้อ่อนโยนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยว
มู่เฉียนซีกล่าว “แต่ข้ากับเจ้าไม่ได้มีพันธสัญญาต่อกัน”
“หากท่านต้องการจะทำพันธสัญญากับข้า ข้ายอมรับท่านแน่นอน แต่ต่อให้ท่านไม่ทำพันธสัญญา ข้าก็ยอมรับท่านเป็นเจ้านายอยู่ดี เพราะว่าข้าเลื่อมใสศรัทธาท่านมังกรวารี ข้าเชื่อในสายตาของเขา และข้าก็อยากจะเจอเขาเหมือนกัน” แววตาของสุ่ยอู๋ซินนั้นจริงใจเป็นอย่างมาก
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างจนปัญญาว่า “เจ้าอยากเจอเขา เกรงว่าข้าจะทำให้ไม่ได้ นับตั้งแต่ที่ข้าได้ทำพันธสัญญากับเขา เขาก็หลับใหลไป ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ เลย ข้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่”
สุ่ยอู๋ซินตกตะลึงขึ้น “ท่านมังกรวารีแข็งแกร่งมากปานนั้น เหตุใดถึงกลายเป็นเช่นนั้นไปได้ นี่มันเกิดเรื่องอันใดกันแน่ เผ่าเทพทำอะไรกันแน่”
แสงเย็นวาบผ่านดวงตาสีฟ้าอันเย็นยะเยือกคู่นั้น
“มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์ทั้งเก้าหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย เมื่อตอนนั้นเกิดเรื่องอันใดขึ้น คาดว่ายังไม่มีผู้ใดรู้ได้”
อาถิงเองก็ไม่ยอมพูดก็เพราะพลังความแข็งแกร่งของนาง
“เกิดเรื่องขึ้นกับมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์อื่น ๆ แต่ไม่มีทางเกิดเรื่องขึ้นกับท่านมังกรวารีเป็นอันขาด เขาเป็นหนึ่งในเก้าของมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์ที่มีกำลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด” สุ่ยอู๋ซินยังคงไม่อยากจะเชื่อ
มู่เฉียนซีรู้สึกประหลาดใจมาก “มังกรวารีเป็นมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์ที่มีกำลังในการต่อสู้แข็งแกร่งที่สุด มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพพลังธาตุวารีที่อ่อนโยนเช่นนั้น นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีกำลังในการต่อสู้แข็งแกร่งถึงเพียงนั้น”
สุ่ยอู๋ซินกล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า “นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว นอกจากมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ที่มีลักษณะพิเศษสองชิ้นนั้นแล้ว ท่านมังกรวารีแข็งแกร่งที่สุดแน่นอน เพียงแต่ว่าท่านมังกรวารีไม่ชอบการเข่นฆ่า ดังนั้นพลังอำนาจจึงห่างไกลกับกระบี่วิญญาณมังกรเพลิงพิฆาตมากก็เท่านั้น”
หัวหน้าเผ่ามังกรวารีผู้อ่อนโยนผู้นี้ ในตอนนี้ได้พลันเปลี่ยนเป็นเด็กน้อยผู้บริสุทธิ์ที่เคารพเลื่อมใสท่านพ่อของตัวเองมาก
ในตอนนี้เอง น้ำเสียงอันสดใสเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “มังกรวารีผู้นี้พูดถูก นอกจากข้ากับท่านพี่ของข้าแล้ว กำลังในการต่อสู้ของมังกรวารีนั้นอย่าได้ดูถูกเชียว”
“มังกรวารีหลับใหลอยู่ในแหวนมังกรเทพวารีมาโดยตลอด ไม่ได้ไปที่อื่นที่ใด หากเขาสามารถตื่นขึ้นมาก่อนที่เจ้าวิญญาณพิฆาตนั่นจะปรากฏ เช่นนั้นการรับมือกับเจ้าวิญญาณพิฆาตก็จะง่ายขึ้นมาก”
ทำให้มังกรวารีตื่นขึ้นมานะเหรอ ก่อนหน้านี้ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ แต่ตอนนี้ได้เจอกับสุ่ยอู๋ซินหัวหน้าเผ่ามังกรวารีผู้มีสายเลือดมังกรผู้นี้แล้ว บางทีอาจจะมีวิธีก็ได้
มู่เฉียนซีกล่าว “หัวหน้าเผ่ามังกรวารี ข้าไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรให้มังกรวารีตื่นขึ้นมา เจ้ามีวิธีหรือไม่?”
“ข้ามีวิธี เพียงแต่ว่า…” สุ่ยอู๋ซินขมวดคิ้วขึ้น เรื่องนี้มันยากที่จะทำสำเร็จ
“มังกรวารีเป็นผู้ทำพันธสัญญาของข้า ไม่ว่ายังไงข้าก็ต้องช่วยเขา ในเมื่อเจ้าบอกว่ามีวิธี เช่นนั้นเจ้าก็บอกข้ามาเถอะว่าต้องทำเช่นไร”
หัวหน้าเผ่ามังกรวารีกล่าว “คลังเก็บของล้ำค่าของเผ่าพวกเรามีไข่มุกมังกรวารีศักดิ์สิทธิ์อยู่เม็ดหนึ่งที่บรรพบุรุษของเผ่ามังกรวารีได้ทิ้งเอาไว้ ไข่มุกมังกรวารีศักดิ์สิทธิ์นั้นมีพลังธาตุวารีที่แข็งแกร่งมาก บางทีอาจจะช่วยฟื้นฟูพลังของท่านมังกรวารีขึ้นมาได้บ้าง และทำให้เขาตื่นขึ้นมาก็ได้”
“เพียงแต่ว่า…กุญแจเทพเผ่ามังกรของพวกเราถูกมังกรดำเอาไปแล้ว ถูกส่งไปในที่ที่ไม่มีผู้ใดเอามาได้ หากต้องการเอาไข่มุกมังกรวารีศักดิ์สิทธิ์นั้นมานั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย”
กุญแจเทพเผ่ามังกรมีอยู่แล้ว!
มู่เฉียนซีมองสุ่ยอู๋ซินอย่างพิจารณา นางกำลังครุ่นคิดว่าคนผู้นี้เชื่อใจได้หรือไม่
อย่างไรเสียเรื่องของกุญแจเทพเผ่ามังกรนั้นไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ
“กุญแจเทพเผ่ามังกรนั้นเกรงว่าจะเอามาไม่ได้แล้ว เช่นนั้นก็มีเพียงแค่วิธีเดียวแล้ว” สุ่ยอู๋ซินกล่าวเสียงขรึม
“ยังมีวิธีใดอีก?” แววตาของมู่เฉียนซีเผยความดีใจออกมา