บทที่ 247 สวรรค์ไม่ยุติธรรม!
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำสวมเกราะนักรบธาตุทองลำดับเจ็ดสีเงิน อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดนานแล้ว กระทั่งก่อนฝ่าด่านเคราะห์ นางยังใช้โอสถที่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวหลอมให้นางโดยเฉพาะ
โอสถพวกนั้นกลายเป็นพลังวิญญาณเอ่อล้นสั่งสมในกายผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำ ทำให้ใช้พลังฤทธิ์ได้นานขึ้น อีกทั้งยังลดความรุนแรงของการโจมตีธาตุสายฟ้าต่อผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำ
ผู้ฝึกบำเพ็ญเผ่ามนุษย์ฝ่าด่านเคราะห์ไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ
แต่เทียบกับเผ่าปีศาจแล้วมีข้อได้เปรียบมากกว่าหลายเท่าอย่างชัดเจน
อย่างน้อยตอนนี้ อานุภาพเคราะห์สวรรค์ต่อผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำยังห่างไกลจากเคราะห์อัสนีของเถากลืนกินเซียนมาก
อีกทั้งยังมีแดนศักดิ์สิทธิ์สนับสนุน ด้วยศักยภาพของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำ จึงมีความมั่นใจสูงมากที่จะฝ่าด่านเคราะห์ขึ้นเป็นผู้อริยะ
“จินเหลียนศิษย์เทพสวรรค์ขอฝ่าด่านเคราะห์เป็นผู้อริยะ หวังว่าสวรรค์จะเมตตา”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำโค้งตัวช้าๆ ให้กับเมฆเคราะห์สีดำเต็มฟ้านั้น
จากนั้นนางค่อยๆ รวมเป็นกระบี่ยาวธาตุทองลำดับเจ็ดเล่มหนึ่งในมือ แผ่พลังแก่กล้าออกมาทั้งตัว
สายฟ้าเคราะห์สวรรค์กลางเมฆอัสนีกำลังรวมกัน นั่นคือสายฟ้าเขียว รวมขึ้นเป็นลักษณะมังกรแยกเขี้ยวร่ายรำกรงเล็บกลางฟ้า
สายฟ้าพวกนี้คือ ‘อัสนีเทพมังกรเขียวธาตุไม้ลำดับหนึ่งสวรรค์ประทาน’ ในเคราะห์สวรรค์ มีส่วนช่วยจางอวิ๋นถิงอย่างมาก
บึ้ม~!
อัสนีเทพมังกรเขียวลากผ่านฟ้า ร้องคำรามพร้อมกับพุ่งเข้าใส่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำ
พลังของมันทรงอานุภาพอย่างยิ่ง เหมือนกับสัตว์เทพมังกรเขียวจากโลกเซียนทะยานลงมาจริงๆ
ทว่าสำหรับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำที่ฝึกวิชาอัสนีธาตุทองลำดับเจ็ดเป็นหลักแล้ว นางรับมือกับอัสนีเทพมังกรเขียวธาตุไม้ลำดับหนึ่งได้ค่อนข้างง่ายทีเดียว
นางเสกบัวเซียนระดับเจ็ดสีทองดอกหนึ่งมาในมือซ้าย มีม่านแสงตกลงมาจากเหนือศีรษะ กระบี่เซียนในมือขวาพลันรวมเป็นสายฟ้าสีเงินสว่างจ้า หลอมรวมกับปรากฏการณ์พยัคฆ์ขาวคำรามนภาข้างหลังเป็นหนึ่งเดียว
โฮก~
พยัคฆ์คำรามป่าเขา
ทั้งตัวผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำเหมือนกลายเป็นพยัคฆ์ขาวปะทะกับมังกรเขียวพวกนั้น
อัสนีเทพมังกรเขียวธาตุไม้ลำดับหนึ่งถูกฉีกกระจาย สายฟ้าสีเขียวสว่างพร่างพราวกระจายไปรอบๆ ทำให้พื้นที่โดยรอบหลายสิบลี้กลายเป็นดินไหม้เกรียม
ฟางฉาง จางอวิ๋นถิง จางอวิ๋นซีและเสิ่นเทียน ตอนนี้อยู่รอบนอกกรงขังเมฆอัสนี
พวกเขาสี่คน พลังบำเพ็ญของทุกคนอยู่แก่นพลังทองหรือกายทอง อีกทั้งยังเป็นโอรสสวรรค์ที่อยู่สูงสุดของดินแดนบูรพา
ทว่าภายใต้การจู่โจมจากอัสนีเทพธาตุไม้ลำดับหนึ่งที่กระจัดกระจายมา แม้แต่ฟางฉาง จางอวิ๋นถิงและจางอวิ๋นซียังลำบากนิดๆ
ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเคราะห์การบรรลุผู้อริยะต่อจุดสูงสุดระดับหลอมรวมเทพ แม้จะเป็นเพียงเสี้ยวอัสนี แต่ก็ยังมีอานุภาพแข็งแกร่งถึงที่สุด
จางอวิ๋นถิงเร่งใช้วิชาลับเปลี่ยนร่างแปลงทัณฑ์สวรรค์ไม่หยุด ใช้กายวิญญาณธาตุไม้ลำดับหนึ่งดูดซับอัสนีเทพมังกรเขียวที่กระจัดกระจายอย่างบ้าคลั่ง
มีแก่นพลังทองส่องแสงลอยขึ้นมาตรงระหว่างคิ้วเขาช้าๆ
บนแก่นพลังทองนี้เดิมทีมีลายเทพเจ็ดสาย แต่ตอนนี้ผิวแก่นพลังทองเกิดรอยแตกลายพอประมาณแล้ว เมื่อเขาดูดซับอัสนีเทพธาตุไม้ลำดับหนึ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดผิวแก่นพลังทองของเขาก็แตกลายอย่างสิ้นเชิง
แก่นพลังทองแปดรอบที่แกะสลักลายเทพแปดสายค่อยๆ ปรากฏขึ้นตรงหน้าทุกคน
ฟางฉางมีกายวิญญาณอัสนีควบอัคคีและธรณี ธาตุไม้ลำดับหนึ่งเกิดธาตุไฟลำดับสาม ธาตุไฟลำดับสามเกิดธาตุดินลำดับห้า อัสนีเทพธาตุไม้ลำดับหนึ่งสวรรค์ประทานจึงมีประโยชน์กับเขามาก
อัสนีเทพมังกรเขียวธาตุไม้ลำดับหนึ่งไหลเวียนรอบกายเขา ปรากฏการณ์วิหคชาดและกิเลนข้างหลังเปล่งแสงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
แก่นพลังทองเก้ารอบหมุนวนเหนือศีรษะเขาไม่หยุด นั่นหมายถึงขีดจำกัด!
แต่แม้จะได้ผลดีมาก แต่สภาพของฟางฉางกับจางอวิ๋นถิงตอนนี้ไม่ถือว่าดีเลย
สองคนถูกพลังแห่งอัสนีนั้นผ่าจนเส้นผมตั้งชี้ ควันดำลอยโชยมาทั่วตัว ดูเหม่อลอยไปเล็กน้อย
ทว่าทางด้านเสิ่นเทียนกับจางอวิ๋นซีต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ตอนแรกที่สองคนได้จี้มังกรพยัคฆ์เทพสวรรค์ ก็ได้ดูดซับแก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าในจี้มังกรพยัคฆ์มาไม่น้อย
ยามนี้หลังจากอัสนีเทพมังกรเขียวธาตุไม้ลำดับหนึ่งเจอกับเสิ่นเทียนและจางอวิ๋นซีแล้วก็ถูกแก่นรากอัสนีเทพดูดซับเข้าไปอย่างราบรื่นมาก
ด้วยเหตุนี้ ถึงสองคนจะมีสายฟ้าสีเขียวไหลเวียนทั่วร่าง แต่ไม่ได้ถูกผ่าจนขาตั้งชี้
……
โดยเฉพาะเสิ่นเทียน ตอนนี้ไม่ใช่แค่ใช้แก่นรากอัสนีเทพดูดซับอัสนีเทพมังกรเขียวธาตุไม้ลำดับหนึ่งเท่านั้น แต่ยังใช้สายฟ้าพวกนี้ขัดเกลากายหยาบตามการชี้แนะของเยี่ยฉิงชาง
เขานั่งขัดสมาธิ กระดูก เส้นเอ็นเนื้อเยื่อ อวัยวะภายในและกล้ามเนื้อกำลังดำเนินไปตามวิถีของคัมภีร์เทพสงครามคบเพลิง
จะได้ยินเสียงเปรี้ยงปร้างมาจากในกายหยาบเขาเบาๆ คล้ายกับตีกลอง คล้ายแม่น้ำใหญ่ คล้ายเสียงฟ้าผ่า…
สายฟ้ามากมายไหลเวียนบนเกราะศักดิ์สิทธิ์หุบเหวมังกรของเสิ่นเทียน ทั้งยังถูกเขาดูดเข้าไปในร่างกาย
ตอนนี้แสงสีทองบนผิวกายเขากำลังสว่างจ้าขึ้นอย่างรวดเร็ว
ปีกเทพทองคำข้างหลังเหมือนถูกชะล้าง มันเปล่งแสงสว่างแห่งเทพอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้ศิษย์หญิงมากมายตาเป็นประกายดวงดาวอยู่ไกลๆ
ส่วนกายเนื้อเขาก็ผ่านการชะล้างด้วยเคราะห์อัสนีเช่นกัน มันกระชับขึ้น แกร่งขึ้น แฝงไว้ด้วยพลังงานที่มากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งเสิ่นเทียนรู้สึกว่าตนห่างจากระดับกายทองรอบสองอีกไม่ไกลแล้ว!
“ไม่เลว คุณสมบัติของเจ้าเหมาะสมกับคัมภีร์คบเพลิงมากจริงๆ”
เสียงของเยี่ยฉิงชางดังขึ้นข้างหลังเสิ่นเทียน “ดูดไปอีกหน่อย เคราะห์อัสนีสวรรค์นี่ป้อนโชคลิขิตโสเภณีขาวให้แล้ว อย่าให้เสียเปล่า”
แม้คำบรรยายไม่ได้มาตรฐานของเยี่ยฉิงชางจะทำให้เสิ่นเทียนพูดไม่ออก แต่คำพูดหยาบแต่มีน้ำหนัก ซึ่งคำพูดนี้ไม่มีอะไรผิดจริงๆ
เสิ่นเทียนสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนแก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าตรงระหว่างคิ้วจะส่งแรงดูดรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทันใดนั้นอัสนีเทพสีเขียวที่อบอวลอยู่รอบกายเขาก็ไหลเข้าไปในกายเหมือนกับแม่น้ำร้อยสายรวมเป็นมหาสมุทร
อ้า~ สบาย~!
ความรู้สึกชาแต่กลับสบายแผ่ซ่านไปทั่วทั้งตัวเสิ่นเทียน
ความรู้สึกของการฝึกบำเพ็ญนี่มันสบายจริงๆ!
มิน่าคนส่วนใหญ่ถึงฝึกฝนกันทีหลายร้อยปี รักเลยๆ
…….
ขอข้ามเรื่องเสิ่นเทียนกำลังมีความสุขกับการเกาะเคราะห์อัสนีของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำไปแล้วกัน
ตอนนี้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำไม่ได้สบายอย่างที่ทุกคนคิด
ถึงอย่างไรก็เป็นเคราะห์บรรลุผู้อริยะ ในด้านอานุภาพย่อมไม่มีทางทำแบบขอผ่านไปทีได้
แม้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำจะกำราบอัสนีเทพธาตุไม้ลำดับหนึ่งได้ แต่สายฟ้าพวกนี้ก็ทำให้นางบาดเจ็บไม่เบา
ตอนนี้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำหน้าซีดขาว เห็นได้ชัดว่าเมื่อครู่ใช้วิชาลับเพื่อสังหารมังกรเขียวสายฟ้าพวกนั้นให้เร็วที่สุด
‘การบรรลุผู้อริยะคือขั้นตอนการผลัดเปลี่ยนกระดูก จะต้องทำให้ข้างดงามและน่าหลงใหลขึ้นแน่นอน’
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำพึมพำในใจ ‘เยี่ยหลันอู่ ข้าจะต้องงามกว่าเจ้าให้ได้! ข้าจะต้องเป็นผู้อริยะให้ได้!’
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำจ้องเมฆเคราะห์เขม็ง รอเคราะห์อัสนีที่สองมาถึง และเมฆเคราะห์ก็ไม่ทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำผิดหวัง ไม่นานก็ก่อตัวเป็นเคราะห์อัสนีระลอกที่สอง
เคราะห์อัสนีระลอกนี้เป็นสีเหลือง รวมขึ้นเป็นกิเลนธาตุดินลำดับห้ารางๆ บนฟ้า
เห็นได้ชัดว่าเคราะห์อัสนีระลอกสองนี่คืออัสนีเทพกิเลนธาตุดินลำดับห้า
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำอดถอนหายใจโล่งอกมิได้ ถึงอย่างไรดินก็เกิดทอง อัสนีเทพธาตุดินลำดับห้าแพ้ทางนางเช่นกัน
ซึ่งความจริงก็เป็นเช่นนั้น เมื่อเผชิญหน้ากับอัสนีเทพกิเลนธาตุดินลำดับห้า ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำก็ยังคงสงบนิ่ง สบายๆ มาก
สายฟ้าถูกผ่าแตกกระจาย ทำให้บุตรศักดิ์สิทธิ์ สตรีศักดิ์สิทธิ์และศิษย์สายตรงสองคนรอบๆ ได้ดูดซับกันไปแปดถึงเก้าในสิบส่วน
เคราะห์สวรรค์ของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำยังคงดำเนินต่อไปเป็นขั้นเป็นตอน
พลันเกิดความคิดหนึ่งขึ้นในหัวเสิ่นเทียน ‘เคราะห์สวรรค์นี่ไม่ยุติธรรมจริงๆ’
ตอนเถากลืนกินเซียนฝ่าด่านเคราะห์ มาถึงก็ให้เคราะห์พยัคฆ์ขาวธาตุทองลำดับเจ็ด เอาชนะทางอีกฝ่าย
อันที่สองก็ให้เคราะห์วิหคชาดธาตุไฟ ก็ยังชนะทางอีกฝ่ายอีก จัดการอีกฝ่ายจนกระจ่างแจ้ง
ตอนนี้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำฝ่าด่านเคราะห์ นางมีคุณสมบัติกายธาตุทอง ปรากฏว่าอันแรกเป็นเคราะห์มังกรเขียวธาตุไม้ลำดับหนึ่ง และทองก็ชนะทางไม้อย่างสิ้นเชิง
อันที่สองเป็นเคราะห์กิเลนธาตุดินลำดับห้า ดินเกิดทอง ก็แพ้ทางผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำอีก
ความต่างตรงนี้เหมือนกับลูกเมียน้อยกับลูกแท้ๆ เลย
มิน่าปีศาจแข็งแกร่งพวกนั้นถึงบอกว่ามนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ลูกรักของสวรรค์!
มิน่าแม้แต่โอรสสวรรค์เผ่ามังกรกับเผ่านกยูงถึงคิดหาโอรสสวรรค์เผ่ามนุษย์มาทำสัญญาด้วย!
ในด้านการฝึกบำเพ็ญ เผ่ามนุษย์เหมือนจะได้รับความเอาใจใส่จากสวรรค์จริงๆ
เสิ่นเทียนอดถอนหายใจมิได้ สวรรค์นี่ไม่ยุติธรรม…
ทำให้คนชอบกันจริงๆ~
…….
เวลาผ่านไปทีละนาที ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำก็ผ่านเคราะห์อัสนีธาตุดินลำดับห้าไปได้อย่างยากลำบาก
ก่อนจะเห็นเคราะห์อัสนีระลอกที่สามกำลังก่อตัวขึ้น นั่นคืออัสนีเทพสีขาวเงิน มาพร้อมกับกลิ่นอายที่เฉียบคมอย่างยิ่ง
อัสนีเทพที่เหมือนไร้ที่สิ้นสุดบนฟ้ารวมขึ้นเป็นพยัคฆ์ขาวโหดเหี้ยม ส่งเสียงคำรามสะเทือนฟ้าดินแปดทิศ
เคราะห์อัสนีที่สามนี้คืออัสนีเทพพยัคฆ์ขาวธาตุทองลำดับเจ็ดเหมือนกับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำ
เมื่อเผชิญหน้ากับเคราะห์อัสนีที่สาม ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำไม่ได้มีข้อได้เปรียบแล้ว
และที่สำคัญกว่านั้นคือผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำเสียพลังไปไม่น้อยเพื่อรับมือกับเคราะห์อัสนีสองครั้งก่อนหน้า ทั้งยังไม่มีข้อได้เปรียบอีก
เวลานี้ ศิษย์เทพสวรรค์ทุกคนที่นั่งบนภูดูเสือกัดกัน…ต่างเป็นกังวลแทนผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำเล็กน้อย
……………………..……..