ในค่ำคืนที่มืดมิดและฝนเทกระหน่ำลงมา เปลวไฟบ้าคลั่งลุกโชนในท้องนภา
กู่ฉิงซานยืนอยู่ไกลลิบ มองศูนย์ซ่อมแซมจักรกลถูกเผาอีกครั้งอยู่เงียบ ๆ
สิ่งปลูกสร้างนี้อยู่ในสภาพก่อนจะถูกเผา ตอนนี้มันกำลังย้อนกระบวนการเดิมอีกครั้ง
หลังจากเดินทางไปยุคโบราณ กู่ฉิงซานกลายเป็นยอดนักพรตระดับสามพันโลก แม้กระทั่งในโลกเก้าร้อยล้านชั้น เขาก็เป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพล
อีกทั้งยังเป็นตัวตนสูงสุดในบรรดาจ้าวโลกด้วย
ด้วยระดับและความเข้าใจในพลัง เขาจุดไฟของธาตุทั้งห้าขึ้นมาแล้วกระตุ้นวิชาเผาไหม้ก่อนหน้านี้เพื่อเผาศูนย์ซ่อมแซม มันเป็นเรื่องที่ง่ายดายนัก
ขณะมองเปลวเพลิงที่กำลังแผดเผา กู่ฉิงซานพึมพำกับตัวเองว่า “เอาล่ะ ไม่ต้องห่วงความปลอดภัยของพวกนางแล้ว ถ้างั้น…”
เขาควรทำยังไงต่อล่ะ
ตามที่แอนนาว่า ผู้มีอำนาจนับไม่ถ้วนในพื้นที่จ้าวโลกอยากจับตัวเขา พวกเขามีวิธีตามรอยมากมายมหาศาล…
กู่ฉิงซานแตะชุดคลุมแห่งความมืดและความเงียบบนร่างกาย
นี่คือของที่ผู้แข็งแกร่งที่สุดในยุคโบราณมอบให้เขา สามารถแยกพลังของเลือดมังกรออกมาได้
แม้กระทั่งผู้สร้างปฐพียังชื่นชมชุดคลุมนี้ว่าเป็นโล่ป้องกันที่ดี
ด้วยชุดคลุมนี้ ประกอบกับความลี้ลับของทุกชีวิต โอกาสที่จะถูกจับจึงไม่สูงนัก
กู่ฉิงซานยืนอยู่ที่นั่นสักพัก จากนั้นออกมาเมื่อเปลวเพลิงค่อยๆ มอดดับ
เขากลับไปยังทะเลทรายของโลกนี้ ใช้การก้าวพริบตาก่อนเข้าสู่ห้องข้อมูลลับที่อยู่ชั้นใต้ดินหลายพันเมตร
ห้องข้อมูลลับไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเป็นเวลานาน ผู้สร้างปฐพีอาจจะเพิ่งเริ่มคิดที่จะติดตั้งอะไรบางอย่างไว้ที่นี่
แต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่มีเวลาทำให้ความคิดนั้นสำเร็จ
ทว่า ที่นี่มีการระบายอากาศที่ดีและแสงมากเพียงพอ เครื่องใช้ในการดำรงชีพครบครันและเป็นที่ลับตามาก ดังนั้นกู่ฉิงซานจึงมาที่นี่เพื่อพักผ่อน
ถึงแม้คนจากเจ็ดวิหารใหญ่จะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่กู่ฉิงซานยังระแวดระวังตัว
หลังจากพักแล้ว เขาหยิบเหรียญสีทองออกจากถุงเก็บของ
เหรียญส่งเสียงเคร่งขรึมกว่าแต่ก่อน กู่ฉิงซานตอบมันในใจ
พูดง่ายๆ ก็คือ ของยอดเยี่ยมอย่างเหรียญสีทองมีการเชื่อมต่อวิญญาณที่ชักนำไปสู่เจ้าของ
ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับกู่ฉิงซาน ฉานนู่และดาบพิภพจะรู้สึกแบบเดียวกันทันทีไม่ว่าจะอยู่ไกลกันแค่ไหน
ถึงแม้จะเป็นแค่การคาดเดา แต่คำตอบที่แม่นยำจะต้องได้รับเดี๋ยวนี้ก่อนจะตัดสินใจว่าต้องทำอย่างไรต่อ
ผู้สร้างปฐพียังมีชีวิต อาจจะถูกขังหรืออาจจะตายไปแล้วก็ได้ ทุกสภาพคือตัวแทนของความหมายที่แตกต่างและยังช่วยให้กู่ฉิงซานตัดสินใจที่จะลงมือในก้าวต่อไปได้อีกด้วย
“ทำไมเจ้าของของเจ้าถึงไม่ปรากฏตัวล่ะ” กู่ฉิงซานถาม
เหรียญสีทองลอยออกจากมือของกู่ฉิงซาน ส่งเสียง “ดิ๊งๆ ด่อง ๆๆ ดิ๊งๆ ” อย่างต่อเนื่อง
กู่ฉิงซานสับสนเล็กน้อย
ตามที่เหรียญสีทองว่า ผู้สร้างปฐพีไม่ได้เชื่อมต่อกับวิญญาณของมัน
ปกติแล้ว เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นเมื่อเจ้าของเหรียญตายหรือทำการตัดการเชื่อมต่อเอง
แต่เหรียญสีทองบอกว่ามันไม่รู้สึกถึงการตายของผู้สร้างปฐพีเลย
แสดงว่าผู้สร้างปฐพีจงใจตัดการเชื่อมต่อกับเหรียญงั้นหรือ
กู่ฉิงซานนึกถึงฉากในตอนนั้นอย่างละเอียด
ตอนผู้สร้างปฐพีมอบเหรียญให้ เขาดูไม่ค่อยเต็มใจและย้ำว่าจะต้องคืนเหรียญหลังจากกลับไปถึงแล้ว
ดูท่าเหรียญนี้จะมีค่ากับผู้สร้างปฐพีเช่นกัน แต่เพื่อป้องกันไม่ให้กู่ฉิงซานถูกสัตว์ประหลาดทั้งสามจับเพื่อแย่งชิงอาวุธหุบเหวนิรันดร์ไป เขาจึงยอมให้กู่ฉิงซานได้ใช้หนึ่งครั้ง
ดูจากสถานการณ์นี้ ผู้สร้างปฐพีไม่น่าจะทิ้งเหรียญสีทองไปง่ายๆ สิ
ถ้าไม่ใช่ทั้งสถานการณ์แรกและสถานการณ์ที่สอง แล้วมันเกิดอะไรขึ้นล่ะ
กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพักจนอดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้
ผู้สร้างปฐพีมีระดับสูงส่งเช่นกัน เขาจึงกล้าทิ้งไพ่ในมืออย่างไม่ใส่ใจก่อนลงมือสังหารสัตว์ประหลาดหุบเหวทั้งสาม
ตัวตนแบบนั้นมีความคิดและแผนการแบบไหน ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถคาดเดาได้
ยิ่งกว่านั้น ก่อนที่เขาจะออกจากยุคโบราณ ได้ยินว่าอีกฝ่ายจะไปประตูหุบเหว
เรื่องประตูหุบเหว เขายังไม่มีสิทธิ์ไปตรวจสอบ
ทุกสิ่งช่างน่าสับสน
กู่ฉิงซานมองเหรียญสีทองแล้วถามต่อว่า “เจ้ามีทางที่จะสืบหาความจริงหรือเปล่า”
เหรียญสีทองลอยอยู่ในอากาศสักพักคล้ายกับลังเล
ในที่สุด มันโคจรรอบกู่ฉิงซานแล้วส่งเสียงดิ๊งด่องอีกครั้ง
“หา เดี๋ยวนะ ข้าไม่เข้าใจ”
กู่ฉิงซานรีบพูด
เหรียญสีทองส่งเสียงดิ๊งด่องยาวอย่างอดทน
กู่ฉิงซานตั้งใจฟังจนอดที่จะถามไม่ได้ว่า “เป็นไปได้หรือที่จะไปสำรวจร่องรอยของผู้สร้างปฐพี”
“ดิ๊งด่อง!” เหรียญสีทองตอบอย่างหนักแน่น
“เอาเถอะ เรื่องนี้ข้าไม่เสียอะไรอยู่แล้ว ข้าอยากรู้เหมือนกันว่านายท่านรอดหรือเปล่า ตราบที่เจ้าตกลง ข้าก็ไม่คัดค้าน” กู่ฉิงซานกล่าว
เมื่อเห็นเขาพูดเช่นนี้ เหรียญสีทองไม่รออีกต่อไป
มันปล่อยแสงสีทองเล็กน้อยออกมาก่อนตกลงตรงหน้ากู่ฉิงซาน
กู่ฉิงซานรับแสงสีทองด้วยนิ้ว ลากในอากาศช้าๆ เพื่อเขียนชื่อ
แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กปรากฏขึ้นบนหน้าต่างระบบเทพสงครามทันที
ตัวอักษรสีโลหิตหยาบกร้านเช่นกัน แบบอักษรเย็นเยือกนี้กลับทำให้คนที่มองรู้สึกสบายใจเสียอย่างนั้น
“ท่านลงนามใสข้อตกลงการเป็นหุ้นส่วนกับเหรียญสีทอง”
“เหรียญสีทองคือสิ่งประดิษฐ์วิญญาณระดับสี่เสาศักดิ์สิทธิ์ ตามกฎสี่เสาศักดิ์สิทธิ์แล้ว เมื่อสี่เสาศักดิ์สิทธิ์ทำการลงนามในสัญญา สิ่งประดิษฐ์วิญญาณและสามเสาศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือจะต้องเป็นสักขีพยานตามกฎของสามเสาศักดิ์สิทธิ์อื่นด้วย”
แถวหิ่งห้อยหายไป
ตอนนี้เอง ห้องลับที่กู่ฉิงซานอยู่หายไป
โลกทั้งใบกลายเป็นทะเลดารากว้างใหญ่
แม้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่กู่ฉิงซานมาปรากฏตัวที่นี่พร้อมกับเหรียญสีทอง
หลังจากนั้น อีกสามสิ่งปรากฏขึ้น
กุญแจสีฟ้า
จี้สีแดงเพลิง
ตำราสีดำ
เหรียญสีทองลอยขึ้นไปแล้วเริ่มติดต่อกับสามสิ่งนี้
“ดิ๊งๆ ด่องๆ ”
“ฟ่อ ฟ่อ ๆๆ ”
“แปะๆ แปะๆ แปะๆ ”
“ชู่ ๆๆ ”
พวกมันสนทนากันอย่างเริงร่า
กู่ฉิงซานมองสิ่งประดิษฐ์วิญญาณระดับสี่เสาศักดิ์สิทธิ์ด้วยความสนใจยิ่ง
กุญแจสีฟ้าคือกุญแจวายุ เป็นตัวแทนสายลมของสี่เสาศักดิ์สิทธิ์ มีความสามารถเปิดประตูทุกบานเพื่อไปถึงทุกสถานที่ได้
จี้สีแดงเพลิงคือจี้วิญญาณเพลิง เป็นตัวแทนเปลวเพลิงของสี่เสาศักดิ์สิทธิ์ มีความสามารถสร้างปาฏิหาริย์และทำสิ่งที่เหลือเชื่อให้สำเร็จ
ตำราสีดำคือตำราจากก้นบึ้งของทะเล เป็นตัวแทนน้ำของสี่เสาศักดิ์สิทธิ์ มีความสามารถบันทึกความรู้ทั้งหมด
ส่วนเหรียญสีทอง มันคือตัวแทนดินของสี่เสาศักดิ์สิทธิ์ ความสามารถคือโชคที่แท้จริง
สิ่งประดิษฐ์วิญญาณทั้งสี่แลกเปลี่ยนกันสักพักก่อนลอยมาอยู่รอบกู่ฉิงซาน พูดเสียงต่ำเป็นครั้งคราวราวกับกำลังสนทนากับเขา
เหรียญสีทองยังคงส่งเสียง ดิ๊งๆ ด่องๆ เพื่อแนะนำรายละเอียดของสิ่งประดิษฐ์วิญญาณทั้งสาม
ผ่านไปสักพัก สิ่งประดิษฐ์วิญญาณทั้งสี่ลอยขึ้นมา ปลดปล่อยแสงสีทอง สีแดง สีน้ำเงินและสีดำในอากาศ เชื่อมโยงพวกมันเป็นเส้นเดียว ทำให้เกิดเสียงสะท้อนดังกึกก้อง
เสียงสะท้อนยิ่งมายิ่งดังจนแทบจะทะลวงทะเลดารากว้างใหญ่ได้ ทำเอาโลกจำนวนไม่มีสิ้นสุดสั่นสะเทือน
เมื่อกู่ฉิงซานไม่สามารถต้านทานเสียงสะท้อนได้ เสียงดังกล่าวก็พลันหายไป
ท้องนภาดาราพลันหายไป
กู่ฉิงซานพบว่าเขายังนั่งอยู่ในห้องลับ ทุกสิ่งที่เห็นเมื่อครู่คล้ายกับเป็นภาพมายา
“ดิ๊งด่อง!”
เสียงเหนื่อยล้าดังขึ้นในอากาศ
เหรียญสีทองตกลงมาอยู่ในมือของกู่ฉิงซาน
“เป็นไงบ้าง เจอเจ้าของหรือเปล่า” กู่ฉิงซานรีบถาม
เหรียญสีทองส่งเสียงอย่างจริงจัง
กู่ฉิงซานตั้งใจฟัง
เมื่อสิ่งประดิษฐ์วิญญาณระดับสี่เสาศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้นพร้อมกัน พวกมันจะสามารถค้นหาที่อยู่ของทุกตัวตนได้ไม่ว่าตัวตนนั้นจะอยู่ในสภาพไหนก็ตาม
เมื่อครู่ เหรียญสีทองเสนอที่จะลงนามสัญญาหุ้นส่วนกับกู่ฉิงซาน ทำให้เรียกสิ่งประดิษฐ์วิญญาณระดับสี่เสาศักดิ์สิทธิ์อีกสามชิ้นที่เหลือมาได้
เมื่อพวกมันค้นหาที่ที่ผู้สร้างปฐพีอยู่ด้วยกัน ในที่สุดก็ได้ผลลัพธ์
“ดิ๊งๆ ด่อง ดิ๊งด่องดิ๊งด่อง” เหรียญสีทองกล่าวด้วยความสับสน
กู่ฉิงซานฟังแล้วเงียบไปสักพักใหญ่
“เจ้าหมายความว่าเจ้าของยังไม่ตาย แต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนงั้นหรือ” เขาถามอีกครั้ง
“ดิ๊งด่อง” เหรียญสีทองยืนยัน
“…สถานการณ์เป็นไงบ้างล่ะ” กู่ฉิงซานพึมพำ
ตอนนี้ เขารู้สึกว่ามันแปลกประหลาดจนยากจะพูดออกมาได้
………………………………………