ชามก๋วยเตี๋ยวไอกรุ่นเสร็จอย่างรวดเร็ว
ชายชรานำทางสะบัดมือ ชามก๋วยเตี๋ยวและตะเกียบลงตรงหน้าหญิงสาวร่างสูงอย่างมั่นคง
หญิงสาวร่างสูงเอื้อมมือไปหยิบชาม
นางชำเลืองมองชายชรานำทาง
…ตอนนี้นางถูกผนึกพละกำลังเอาไว้ จึงไม่สามารถคาดเดาพละกำลังของอีกฝ่ายได้
แต่ช่างปะไร ใครจะสนกันล่ะ นางสามารถฟื้นคืนชีพหลังจากตายได้อยู่แล้ว
ดวงตาของหญิงสาวร่างสูงจับจ้องซุป
นางยังลังเล
ตอนนี้ กู่ฉิงซานพุ่งเข้ามาอย่างควบคุมไม่ได้
เขาจ้องชามก๋วยเตี๋ยวขณะตวัดดาบราวกับอยากทำบางสิ่ง
ชายชราฟาดฝ่ามือกลางอากาศ
เกิดการสั่นไหวในอากาศ กู่ฉิงซานกระเด็นกลับทันทีที่พุ่งเข้ามา
ชายชรานำทางกล่าวอย่างสงบว่า “อย่าสร้างปัญหา”
กู่ฉิงซานกระเด็นไปหลายก้าวเพราะฝ่ามือนั่นก่อนตกลงไปในลำธาร
เขาจับดาบไว้ก่อนยืนขึ้นในที่สุด ท่าทางดูเขินอายยิ่ง
หญิงสาวร่างสูงมองเขา จากนั้นมองชามใบใหญ่ในมือ
ก่อนหน้านี้ชายร่างใหญ่กินเข้าไป กู่ฉิงซานก็กินเข้าไป ไม่เห็นจะมีปัญหาเลย
นางลังเล ลองจิบซุปเข้าไปคำแรกเพื่อรับรสเล็กน้อย ทันใดนั้นคิ้วก็ขมวดขึ้นมา
…ถึงแม้ความสามารถจะถูกผนึกเอาไว้ แต่นางเชี่ยวชาญเรื่องพิษ เพียงแค่ชิมก็รู้ว่าไม่มีพิษอยู่ในซุปก๋วยเตี๋ยวนี้
หญิงสาวร่างสูงหยิบตะเกียบก่อนกินเข้าไปช้าๆ
เส้นเหนียวนุ่ม ซุปอร่อย
รสชาติของก๋วยเตี๋ยวชามนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
นางกินอาหารครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่กันนะ
ไอร้อนพวยพุ่งจากชามซุป กระจายทั่วดวงตาของหญิงสาวก่อนถูกสายลมราตรีพัดพา
หญิงสาวร่างสูงกินหมดอย่างรวดเร็ว ล้างชามก๋วยเตี๋ยวและตะเกียบในลำธารก่อนคืนให้ชายชรานำทาง
กู่ฉิงซานมองภาพนี้ ความคิดในใจสั่นไหวนับไม่ถ้วน
ชายร่างใหญ่เพิ่งกินก๋วยเตี๋ยวเข้าไป เขาวางชามและตะเกียบไว้บนหิน ไม่สนใจอะไรอีก
หญิงสาวร่างสูงกลับต่างออกไป หลังจากกินก๋วยเตี๋ยวแล้ว นางทำความสะอาดชามและตะเกียบ
นี่คืองานอดิเรกประจำวันที่ไม่ได้เห็นมาเนิ่นนาน ไม่ใช่การเสแสร้งแต่อย่างใด
…ในฐานะที่เป็นคนแข็งแกร่ง ไม่มีใครต้องจงใจเสแสร้งกับเรื่องหยุมหยิมแบบนี้ นับประสาอะไรกับอีกฝ่าย
แสดงว่าผู้หญิงคนนี้แปลกพิลึกจริงๆ
นางเป็นตัวตนแบบไหนกันแน่
ตอนนี้ เขาเพียงได้ยินหญิงสาวร่างสูงขอบคุณอีกฝ่าอย่างซื่อตรงว่า “ท่านผู้เฒ่า ข้าไม่ได้กินอาหารแบบนี้มานานแล้ว ขอบคุณสำหรับอาหารโอชะนี้ที่มอบให้ข้า”
ชายชรานำทางกล่าวอย่างมีความสุขว่า “เจ้าสามารถกินได้เท่าที่ต้องการเลย”
วิชาลึกลับเสร็จสิ้น
ตอนนี้ ถึงเวลาเก็บเกี่ยวแล้ว
ชายชราเปิดปากแล้วถามคำถาม
…ก่อนหน้านี้ที่จะเริ่มทุกสิ่งอย่าง หลังจากถกกับกู่ฉิงซานแล้ว ทั้งสองได้ตั้งคำถามขึ้นมาว่า “จุดอ่อนใหญ่หลวงที่สุดของเจ้าคืออะไร”
เมื่อรู้จุดอ่อน พวกเขาจะสามารถสังหารนางได้ ไม่อย่างนั้นทุกสิ่งก็จะสูญเปล่า
แต่ตอนนี้ กู่ฉิงซานพลันตะโกนว่า “เดี๋ยวก่อน!”
ชายชรานำทางตกตะลึง
หญิงสาวร่างสูงหันศีรษะมามองเขาพร้อมจิตสังหาร
“เดี๋ยวก่อนหรือ จะถ่วงเวลาให้มันได้อะไร กู่ฉิงซาน”
หญิงสาวร่างสูงกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “เจ้าไปโลกอื่นไม่ได้เพราะข้าจะตามติดเจ้า… แต่ถ้าเจ้าอยู่ในโลกนี้ พวกเราจะถูกแบ่งแยกความเป็นหรือตายได้ไม่ช้าก็เร็ว… ข้าเป็นอมตะ ส่วนเจ้ามีเพียงชีวิตเดียว”
หลังจากพูดจบ นางเดินไปหากู่ฉิงซานที่ลำธาร
ด้านหลังนาง ชายชรานำทางมองกู่ฉิงซานด้วยสีหน้าสงสัย
เห็นได้ชัดว่ากำลังไปได้สวยแท้ๆ ทำไมนายท่านถึงเข้ามาขัดเองล่ะ
กู่ฉิงซานกล่าวเสียงดังว่า “ข้ามีคำถาม”
“เจ้าจะถามไปทำไม อยากยอมจำนนแล้วงั้นหรือ” หญิงสาวร่างสูงหัวเราะ
โดยไม่สนใจท่าทีของนาง กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ข้าอยากรู้น่ะ สถานการณ์แบบไหนที่ทำให้เจ้าลอบเข้าเผ่าพันธุ์มนุษย์เพื่อลอบสังหาร”
หญิงสาวร่างสูงยืนนิ่ง รอยยิ้มบนใบหน้าหุบลง
“เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับเจ้า ความสงสัยของเจ้ามันเยอะเกินไปแล้ว”
นางกล่าวอย่างเย็นชา
แต่กู่ฉิงซานไม่ตอบนาง
ชายชรานำทาง…
ฉานนู่เข้าใจทันทีว่านายท่านหมายถึงอะไร
ก๋วยเตี๋ยวหนึ่งชามสามารถถามได้หนึ่งคำถามเท่านั้น
นายท่านกำลังบอกเป็นนัยว่าให้เปลี่ยนคำถาม
สิ่งที่เขาอยากรู้คือคำถามใหม่!
ฉานนู่มองกู่ฉิงซานด้วยความกังวล
ถ้านางถามคำถามนี้ จะไม่มีทางรู้จุดอ่อนของผู้ถักทอชีวิตหุบเหวได้
กู่ฉิงซานพยักหน้าอย่างแน่วแน่ เป็นการส่งสัญญาณว่าให้นางถาม
ฉานนู่ลังเลก่อนถามหญิงสาวร่างสูงว่า “ข้าอยากรู้น่ะ สถานการณ์แบบไหนที่ทำให้เจ้าลอบเข้าเผ่าพันธุ์มนุษย์เพื่อลอบสังหาร”
ทักษะลี้ลับ: ได้พบกันอีกครั้ง… ทำงาน!
หญิงสาวเพียงรู้สึกถึงเสียงก้องในหูไม่มีสิ้นสุด ใบหน้าเผยความสับสนออกมา
ท่ามกลางความสับสน นางคล้ายกับย้อนเวลากลับไปช่วงนั้น
โดยไม่มีการกล่าวเตือน หญิงสาวร่างสูงสะอึกสะอื้นออกมา
นางคล้ายกับพล่ามไม่หยุดขณะสะอึกสะอื้นออกมา “จุดจบมาเยือนแล้ว สหายติดอาวุธนับไม่ถ้วนตายต่อหน้าข้าทุกวัน สวรรค์ดึกดำบรรพ์กำลังจะพินาศ”
“พวกข้าได้รับคำสั่งสูงสุดให้ไปตามหาสถานที่ลับที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยของมนุษย์บนดินแดนหุบเหวเพื่อเป็นทางออกของเผ่าพันธุ์มนุษย์”
“แต่เมื่อพวกข้าเข้าหุบเหวก็ได้เผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง… สัตว์ประหลาดที่หลับใหลอยู่ใต้หุบเหวตื่นขึ้นด้วยความไม่พอใจ”
“มันคือตัวตนแข็งแกร่งที่สุดในหุบเหว ขยับเพียงนิดเดียวก็ทำให้เกิดพายุหุบเหวร้ายแรงมาสู่หุบเหว”
“พวกข้าทำได้เพียงขัดขืนกลิ่นอายจากดินแดนหุบเหว พวกข้าทำอะไรไม่ได้กับกลิ่นอายแปลกประหลาดนับไม่ถ้วนที่ปรากฏขึ้นจากหุบเหวอย่างไม่มีสิ้นสุด”
“หลายคนติดเชื้อ ถูกแทรกแซงและกลายพันธุ์เพราะลมหายใจนั่น”
“เผ่าพันธุ์มนุษย์ระดับสูงปิดกั้นทางกลับทันทีหลังจากทราบสถานการณ์ ปล่อยให้พวกข้าตายในหุบเหว”
“ไม่นานนักทุกคนก็ตาย”
“ข้าถูกหุบเหวแทรกแซง”
หลังจากกล่าวเช่นนี้ สีหน้าของหญิงสาวร่างสูงสั่นสะท้าน อารมณ์ซับซ้อนหายไปก่อนกลับคืนสู่ความปกติ
นางมองกู่ฉิงซานที่ยืนห่างจากนางไปสิบฟุตแล้วถามอย่างแปลกประหลาดว่า “เจ้าเสียกำลังใจที่จะสู้…แล้วคิดจะยอมจำนนจริงๆ หรือ”
กู่ฉิงซานสบตากับนาง
…ในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความขี้เล่น ไม่มีความเศร้าโศกหรือความเกรี้ยวกราดเหมือนเมื่อครู่อีกต่อไป
นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเมื่อครู่ตัวเองพูดอะไรออกมา
กู่ฉิงซานอึ้งกับข่าวดังกล่าวก่อนจะเผยสีหน้าตกตะลึงออกมา
กลายเป็นว่านางคือมนุษย์!
นางคือมนุษย์แข็งแกร่งในยุคโบราณ!
หญิงสาวร่างสูงสังเกตเห็นความสับสนของเขา ทันใดนั้นก็ไม่ลังเลอีกต่อไป
“โอกาสมาแล้ว!”
นางทะยานขึ้นสูงก่อนพุ่งเข้าหากู่ฉิงซานอีกครั้ง
กู่ฉิงซานยังคิดเรื่องเมื่อครู่ตั้งแต่ต้นจนจบ เมื่อเห็นนางพุ่งเข้ามา เขาจึงกลับมามีสติ
“เจ้าคนขี้ขลาด เจ้าไม่กล้าสู้กับข้างั้นหรือ” หญิงสาวร่างสูงตะโกน
‘ปัง!’
เสียงกระแทกหมองหม่นดังขึ้น
หญิงสาวร่างสูงกระเด็นออกมาก่อนตกลงไปในลำธาร
ทันใดนั้น นางหันมามอง…
“ท่านผู้เฒ่า ทำไมท่านถึงห้ามข้า” นางถาม
ชายชรานำทางมองนางด้วยอารมณ์ซับซ้อนในดวงตาแล้วกล่าวว่า “พวกเจ้ากินสิ่งที่ข้าทำเข้าไปแล้ว พวกเจ้าเป็นเด็กดี ทำไมต้องสู้และฆ่ากันด้วย”
หญิงสาวร่างสูงมองเขา ศีรษะก้มต่ำแล้วตอบว่า “ท่านผู้เฒ่า ท่านรู้อะไรหรือเปล่า ถึงท่านจะสามารถใช้พลังได้ แต่ข้าเป็นอมตะนะ”
“ไม่ตายงั้นหรือ ความสามารถของเจ้ายังใช้ได้เมื่ออยู่ที่นี่งั้นหรือ” ชายชรานำทางเผยสีหน้าคาดไม่ถึงออกมา
“ใช่แล้ว ถ้าท่านห้ามข้าไม่ให้ฆ่าเขา เช่นนั้นข้าก็ต้องใช้กำลัง ข้าจะตามราวีท่าน สู้กับท่านจนกระทั่งถึงวันที่ท่านตาย” หญิงสาวร่างสูงตอบ
“เป็นแบบนี้สินะ” ฉานนู่กล่าวอย่างเสียใจ “ร่างกายของเจ้าคืออาวุธป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด ข้าไม่สามารถทำร้ายเจ้าด้วยพละกำลังได้”
…ในการต่อสู้เมื่อครู่ กู่ฉิงซานใช้ทั้งดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพ
ถึงแม้พลังของดาบสองเล่มกับกู่ฉิงซานจะถูกผนึกเอาไว้ แต่ดาบทั้งสองเล่มยังคงคมปลายอยู่ดี
ทว่า ดาบทั้งสองเล่มฟาดฟันหญิงสาวร่างสูงแต่กลับไม่มีรอยแผลแม้แต่นิดเดียว
หญิงสาวร่างสูงได้ยินดังนั้น นางจึงเผยสีหน้าอิ่มเอมใจออกมา
ตอนนี้ ฉานนู่กล่าวต่อว่า “แต่เจ้าต้องคิดด้วยว่าข้าสามารถเลือกยืนอยู่ข้างเขาได้เพื่อไม่ให้เจ้ามาคุกคาม จากนั้นก็พาเขาไปโลกใหม่ได้”
…………………………….