ในยุคโบราณ ผู้ถักทอชีวิตหุบเหวลอบเข้าไปในเผ่าพันธุ์มนุษย์ ทำการแก้แค้นอย่างป่าเถื่อน สังหารคนแข็งแกร่งไปมากมายติดต่อกันก่อนจะถูกจับได้
การต่อสู้ระหว่างนางกับผู้นำเผ่าพันธุ์มนุษย์คือการปะทะกันระหว่างจุดสูงสุดของพละกำลังในเผ่าพันธุ์มนุษย์
เทียบกันแล้ว พละกำลังของกู่ฉิงซานเป็นเพียงนักพรตระดับสามพันโลก เขายังไม่ถึงแม้แต่ระดับสี่เสาศักดิ์สิทธิ์ด้วยซ้ำ
ในยุคโบราณ นี่ถือว่าเป็นวัยรุ่น
…หากจะพูดให้ถูกก็คือ เขาควรเป็น “เด็กหนุ่มพลเรือน”
ดังนั้น ต่อให้ฉานนู่ครอบครองพละกำลังของกู่ฉิงซาน นางยังไม่สามารถเอาชนะศัตรูทรงพลังคนนี้ที่เคยยืนอยู่จุดสูงสุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ก่อนจะกลายเป็นหุบเหวในท้ายที่สุดได้
ใช่แล้ว บนดาวคนคู่ หญิงสาวร่างสูงเสียพลังที่ได้รับจากหุบเหว ในเวลาเดียวกัน พลังของนางเองก็ไม่สามารถใช้ได้
…แต่ร่างของนางเหนือกว่ากู่ฉิงซานอย่างสมบูรณ์
โชคยังดีที่เป็นดาวคนคู่ ไม่อย่างนั้นพละกำลังของทั้งสองฝั่งจะแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
ถ้าเป็นแบบนั้น กู่ฉิงซานไม่มีแม้แต่โอกาสจะสวนกลับ
กู่ฉิงซานจ้องหญิงสาวร่างสูงก่อนจะพลันเข้าใจอย่างหนึ่งขึ้นมา
ทำไมมังกรหลับใหลถึงปรารถนาในพลังหุบเหวมากขนาดนั้นล่ะ
มันถูกจองจำในศูนย์กักกันหุบเหว คอยคุ้มกันร่างของผู้ถักทอชีวิตหุบเหวมาโดยตลอด
มันเข้าใจดีว่าพลังอันน่าสะพรึงที่หญิงสาวร่างสูงครอบครองนั้นคืออะไรหลังจากกลายเป็นหุบเหวแล้ว
ด้วยเหตุนี้มังกรหลับใหลจึงโหยหาพลังหุบเหว
มันตั้งตารอที่จะมุ่งสู่หุบเหวด้วยตัวเอง จากนั้นก็หลุดจากการควบคุมของเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างสมบูรณ์!
นี่คือจุดเริ่มต้นของแผนมังกรมารทั้งหมด!
กู่ฉิงซานยังคงถอยหลังไปหลายก้าวเพื่อรักษาระยะห่างจากหญิงสาวร่างสูง
ศูนย์สั่งการของศูนย์กักกันหุบเหวเคยแนะนำความสามารถของนาง
ในตอนนั้น ศูนย์สั่งการบอกว่านางกลายเป็นผู้นำระดับสูงก่อนลอบเข้าเผ่าพันธุ์มนุษย์เพื่อพยายามทำลายโลกมนุษย์ทั้งหมด
ในส่วนนี้… มีคำถามเกิดขึ้นมากมาย
ยิ่งเวลาผ่านไป ความจริงยิ่งเลือนราง
แต่บนดาวคนคู่ มีเพียงฉานนู่ที่สามารถใช้พลังได้ นางได้ปล่อยทักษะลี้ลับ: “ได้พบกันอีกครั้ง” ออกมา
ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ทักษะลี้ลับจะไม่ถูกขัดขืน ผู้ถักทอชีวิตหุบเหวจะไม่โกหก
ดังนั้น…
ความจริงคล้ายกับชัดเจน แต่มันเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กน้อยของยุคนั้น
ทุกสิ่งยังดูคลุมเครือมาก
กู่ฉิงซานหักห้ามความวิตกในใจก่อนพยายามสุดความสามารถที่จะรักษาความสงบเพื่อให้สามารถคิดต่อได้
“ที่จริง… ข้ามีเรื่องอยากจะพูดกับเจ้า” เขากล่าว
“เรื่องอะไร” หญิงสาวร่างสูงถาม
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา ข้าลืมขอบคุณน่ะ”
หญิงสาวร่างสูงมองเขาด้วยท่าทีแปลกประหลาด
“ใช่” กู่ฉิงซานกล่าวต่อ “สามเหรียญทำให้ข้ายังสามารถกลับสู่ยุคโบราณได้ แต่กระบวนการนี้อันตรายจนแม้แต่ข้าก็ต้องเผชิญกับหลายสิ่งหลายอย่าง อาทิ: ข้าเกือบถูกสัตว์ประหลาดในหมอกมิติและเวลากิน เกือบถูกกฎเกณฑ์แห่งเวลาในตำหนักร้อยบุปผาลบล้าง แม้กระทั่งตอนที่ข้าไม่รับรู้ถึงวิญญาณของมังกรเหลืองด้วย…”
“ในช่วงเวลาเหล่านั้น ถ้าเจ้าไม่อยู่ที่นั่นเพื่อดูแลข้ามาโดยตลอดจนลากกลับสู่อนาคตก่อนจะถึงแก่ความตาย เกรงว่าข้าคงตายไปนานแล้ว”
หญิงสาวร่างสูงไม่พูดอะไร
กู่ฉิงซานกล่าวต่อว่า “สามเหรียญทำได้เพียงเดินทางผ่านมิติและเวลา แต่พวกมันไม่สามารถพาข้ากลับมามีชีวิตได้ เจ้าควบคุมเหรียญเพื่อทำให้ข้ากลับอนาคตก่อนจะถึงแก่ความตาย”
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก” หญิงสาวร่างสูงกล่าว “เจ้าดูถูกพลังของสามเหรียญมากเกินไป ข้าถึงกับใช้พลังของเหรียญตอนที่เจ้าตาย ทำให้เวลาไหลกลับไปช่วงที่เจ้ามีชีวิตทันที จากนั้นก็ดึงเจ้ากลับมา”
กู่ฉิงซานครุ่นคิดตามด้วยความคาดไม่ถึง
แผนการนี้… คล้ายกับเรียบง่ายกว่าและไม่จำเป็นต้องการความแม่นยำมากจนเกินไป
กู่ฉิงซานประสานมือแล้วกล่าวว่า “ขอบคุณ ไม่อย่างนั้นข้าคงตายไปแล้วจริงๆ ”
หญิงสาวร่างสูงเผยสีหน้าแปลกประหลาดออกมาแล้วกล่าวว่า “ตอนเจ้าฆ่าข้า ท่าทีของเจ้าไม่เหมือนกับตอนนี้นี่”
กู่ฉิงซานกล่าวตามตรงว่า “เจ้าแข็งแกร่งกว่าข้านับครั้งไม่ถ้วน มีหนทางมากมายมหาศาลที่จะฆ่าข้าได้ แต่ข้ามีโอกาสปกป้องตัวเองเพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น”
“ที่เจ้าพล่ามมาทั้งหมดนี่มันไร้สาระสิ้นดี เจ้าต้องการอะไรกันแน่” หญิงสาวร่างสูงถาม
กู่ฉิงซานตอบอย่างเคร่งขรึมว่า “เจ้าวางแผนมานาน เจ้าต้องการอะไรกันล่ะ”
“ทำไมข้าต้องบอกเจ้าด้วย”
“ก็เพราะ…”
กู่ฉิงซานยกดาบในมือทั้งสองเล่มขึ้น
ดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพ
ดาบสองเล่มอยู่ในมือของเขา
หญิงสาวร่างสูงมองดาบสองเล่มอย่างเหม่อลอยก่อนพึมพำว่า “ร่างหลักของอาวุธหุบเหวนิรันดร์ ทหารปราบมารที่ก้นบึ้งหุบเหวไร้ที่สิ้นสุด ผู้ปกป้องการสูญพันธุ์ ดาบแห่งชะตากรรม กุญแจสู่โลก สวรรค์และปฐพี…”
ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ นางพยายามคว้าดาบสองเล่มนี้ แต่กลับล้มเหลว
“เจ้าต้องการดาบสองเล่มนี้จริงๆ ใช่ไหมล่ะ” กู่ฉิงซานถาม
หญิงสาวร่างสูงหันสายตามาแล้วหัวเราะกับตัวเอง “วิญญาณกรีดร้องคือสัตว์ประหลาดหุบเหวที่แท้จริง มันคือตัวตนที่ข้าไม่สามารถจัดการได้ แต่เจ้ากลับฆ่ามันได้ ท้ายที่สุด ดาบสองเล่มนี้ที่ต้องตกอยู่ในมือของผู้แข็งแกร่งที่สุดแต่กลับไปตกอยู่ในมือของผู้อ่อนแอเสียได้ นี่ช่างเป็นพละกำลังที่น่าขันเสียจริง”
“ไม่ ข้าไม่ใช่ผู้อ่อนแอที่สุด” กู่ฉิงซานกล่าว
“โห เจ้าว่าอย่างไรนะ”
“หากวิญญาณกรีดร้องมีพละกำลังเท่ากับข้า พนันเลยว่าข้าไม่สามารถก้าวข้ามมันได้”
หญิงสาวร่างสูงครุ่นคิดอย่างเงียบงันสักพักก่อนพยักหน้ารับรู้
“แต่ว่า ถ้าเป็นโลกนี้ก็ไม่ใช่” หญิงสาวร่างสูงกล่าว “ข้ายอมรับว่าเจ้าใช้พลังอย่างเต็มที่แล้ว แต่ตอนนี้ เจ้าไม่สามารถใช้วิชาวิเศษอย่างแฝดปฐพีบนดาวคนคู่ได้ หากเจ้าไม่มอบดาบให้ล่ะก็ ข้าจะ…”
นางหยุดไปครู่หนึ่ง
นางเห็นชายชรานำทางลอยขึ้นกลางอากาศก่อนลงมาอยู่ข้างกู่ฉิงซาน
ดูท่าตอนนี้ ชายชรานำทางเลือกที่จะยืนอยู่ข้างเดียวกับกู่ฉิงซานแล้ว
หญิงสาวร่างสูงขมวดคิ้ว
คนคนนี้สามารถใช้ความสามารถบนดาวคนคู่ได้ มันช่างเป็นอะไรที่แปลกมาก
เป็นความจริงที่อีกฝ่ายไม่สามารถสังหารนางได้ แต่ถ้าอีกฝ่ายอยากพากู่ฉิงซานไป นางก็หยุดเขาไม่ได้
อีกฝ่ายเพียงต้องพากู่ฉิงซานออกมาแล้วส่งวิชาโจมตีใส่นางเป็นพักๆ แค่นี้ก็มากพอที่จะช่วยให้กู่ฉิงซานคลี่คลายหายนะลงได้
“ท่านผู้เฒ่า ข้ากินก๋วยเตี๋ยวของท่านเช่นกัน ทำไมท่านถึงโปรดปรานเขานักล่ะ” หญิงสาวร่างสูงอดที่จะถามไม่ได้
ชายชรานำทางชำเลืองมองนางแล้วตอบว่า “กินก๋วยเตี๋ยวหนึ่งชามจากข้าแล้วข้าจะช่วยหนึ่งครั้ง นี่เป็นเรื่องปกติ”
“ข้าเองก็กินก๋วยเตี๋ยวหนึ่งชามนะ” หญิงสาวร่างสูงกล่าว
ชายชรานำทางแสดงความกระอักกระอ่วนออกมา
หญิงสาวร่างสูงสังเกตเห็นสีหน้าของชายชรานำทางเป็นเช่นนั้นจึงถามว่า “ถ้าข้ากินอีกชาม ท่านก็จะไม่สนเรื่องพวกข้าใช่หรือไม่”
“ไม่ ข้าใช้วัตถุดิบของวันนี้หมดแล้ว เจ้าต้องรอจนถึงพรุ่งนี้” ชายชรากล่าวขณะส่ายหน้าซ้ำไปมา
เมื่อได้ฟังที่เขาพูด หญิงสาวร่างสูงรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไร้สาระสิ้นดี
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ตัวตนอย่างชายชรานำทางบนดาวคนคู่ย่อมมีเรื่องราวมากมายกระจายไปทั่วโลก
เมื่อครู่ นางถึงขั้นเห็นเขานำทางให้คนอื่นกับตาตัวเอง
คนคนนั้นหลีกเลี่ยงอันตรายทั้งหมดจนเคลื่อนย้ายพริบตาไปโลกพายุหิมะได้สำเร็จจริง
หญิงสาวร่างสูงครุ่นคิดสักพักแล้วกล่าวว่า “หมายความว่า อาหารที่ท่านสามารถทำได้มีปริมาณจำกัด ขอแค่ข้าเป็นคนแรกที่กินได้มากกว่า เขาก็อาจจะไม่สามารถกินได้สินะ”
“ถูกต้อง”
“ท่านจะไม่โปรดปรานเขาอีกต่อไป” หญิงสาวร่างสูงกล่าวเสริมอีก
“จะเข้าใจแบบนี้ก็ได้” ชายชรานำทางกล่าว
“ข้าเข้าใจแบบนี้แหละ”
หญิงสาวร่างสูงมองกู่ฉิงซานขณะหักห้ามจิตสังหารเอาไว้ จากนั้นกล่าวว่า “เพื่อให้ข้าได้กินก๋วยเตี๋ยวของท่าน ข้าต้องขอให้ท่านอย่าบอกเขาถึงวิธีไปโลกที่เขาอยากไปในวันนี้”
ชายชรานำทางลังเลแล้วกล่าวว่า “ได้ ข้าจะรามือจากเจ้าไปก่อน ส่วนพรุ่งนี้…”
“เรื่องของวันพรุ่งก็ค่อยคุยวันพรุ่งนี้เถอะ” หญิงสาวร่างสูงกล่าว
วันนี้ไม่ได้ เพราะชายชราคนนี้จะช่วยเขาในวันนี้
พรุ่งนี้…
ขอแค่นางคว้ามาได้ก่อนในวันพรุ่งนี้
หญิงสาวร่างสูงหันหลังเตรียมจะจากไป
“ช้าก่อน!” กู่ฉิงซานตะโกน
หญิงสาวร่างสูงหยุดขณะมองเขาด้วยสายตาเย็นชา
“ในยุคโบราณ เห็นได้ชัดว่าเจ้ามีสามเหรียญ ถ้าอยากใช้งานบางสิ่ง เจ้าก็น่าจะทำได้เลย ทำไมถึงอยากฉวยอาวุธหุบเหวนิรันดร์มากันล่ะ” กู่ฉิงซานถาม
“นี่มันเรื่องของข้า ทำไมข้าต้องบอกเจ้าด้วย” หญิงสาวร่างสูงถามกลับอย่างเย็นชา
“เพราะข้ามีทั้งดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพ หากเจ้าต้องการความช่วยเหลืออะไร ข้าก็เต็มใจที่จะช่วยเพราะเจ้าเคยช่วยข้าในวังวนแห่งมิติและเวลา” กู่ฉิงซานตอบ
หญิงสาวร่างสูงมองเขาเหมือนกับมองสัตว์ประหลาด
กู่ฉิงซานพยักหน้าก่อนยืนยันอีกครั้งว่า “หากไม่มีเหรียญของเจ้า ข้าก็ช่วยดาบพิภพไม่ได้ ข้าก็จะไม่มีชีวิตรอดกลับมา”
หญิงสาวร่างสูงกล่าวอย่างเหยียดหยันว่า “ข้าแค่ปล่อยให้เจ้าไปเอาดาบก็เท่านั้นเอง”
กู่ฉิงซานกล่าวว่า “ไม่ว่าจุดประสงค์ของเจ้าจะเป็นอะไร เจ้าก็เปลี่ยนความจริงเรื่องที่ช่วยข้าไม่ได้หรอก”
หญิงสาวร่างสูงถามอย่างหยอกล้อว่า “เจ้าอยากตอบแทนหรือ งั้นก็ส่งดาบศักดิ์กับดาบพิภพมาเสียสิ”
“ดาบของข้าคงยกให้เจ้าไม่ได้ แต่ข้าสามารถใช้พวกมันเพื่อช่วยเจ้าได้” กู่ฉิงซานกล่าวด้วยน้ำเสียงลุ่มลึก
หญิงสาวร่างสูงเงียบ
นางมองกู่ฉิงซานอีกครั้ง
“เจ้า… พิลึกชะมัด…” นางพึมพำ
“ไม่ใช่ว่าข้าพิลึกหรอก แต่หลังจากครุ่นคิดมาอย่างดีแล้วก็พบว่าข้าพึ่งวิชากับเหรียญของเจ้ามาโดยตลอด ข้าค่อยๆ ไปถึงปลายทางจนได้ดาบศักดิ์สิทธิ์และดาบพิภพมา”
กู่ฉิงซานกล่าวอย่างจริงจังว่า “เจ้าไม่ได้ฆ่าข้าจริงๆ เจ้าไม่ได้เอาดาบของข้าไป แต่ถึงอย่างนั้น ข้ากลับสับเจ้าเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยนับไม่ถ้วนก่อนโยนไปตามโลกคู่ขนานมากมาย”
“สุดท้ายแล้ว เจ้าช่วยข้ามามากมาย สุดท้ายแล้ว เจ้าก็ไม่ได้ทำร้ายแม้แต่เส้นผม พูดตามตรง นั่นไม่นับว่าเป็นความขัดแย้งกับข้าเลย”
หญิงสาวร่างสูงยังฟังด้วยใบหน้าสงบ แต่ตอนนี้นางยักคิ้วขึ้นก่อนกล่าวอย่างเกรี้ยวกราดว่า “เหอะ! ไม่จำเป็นต้องรู้หรอกว่าชัยชนะจะตกอยู่ในมือใคร!”
“รอดูเถอะ กู่ฉิงซาน ข้าจะต้องฆ่าเจ้าอย่างแน่นอน!”
นางกลายเป็นภาพติดตาก่อนออกจากที่นี่อย่างรวดเร็ว
กู่ฉิงซานยังอยู่ที่เดิม
เขายืนอยู่สักพัก ทันใดนั้นก็ตบศีรษะแล้วกล่าวอย่างหงุดหงิดว่า “ตายล่ะ เผลอพูดผิดไปเสียได้”
ที่เขาพูดเมื่อครู่เหมือนจะเป็นการทำร้ายอีกฝ่ายนิดหน่อย…
ฉานนู่ปล่อยจิตเทพเพื่อสังเกตหญิงสาวร่างสูงผู้ไปไกลเรื่อยๆ จากนั้นนางเข้ามาหาแล้วถามว่า “นายท่าน พวกเราควรทำอย่างไรต่อดี”
กู่ฉิงซานทำสมาธิ “พรุ่งนี้ไว้ลุยกันต่อ”
“หลอกนางว่ากินก๋วยเตี๋ยวไปแล้วงั้นหรือ”
“ถูกต้อง”
“แล้วตอนนี้ล่ะ”
“ไปโลกต่อไป…”
“หา!” ฉานนู่เสียงสูง
“พวกเราจะไปโลกต่อไปวันนี้ จากนั้นกลับมาพรุ่งนี้เพื่อพบกับนาง”
กู่ฉิงซานนึกถึงคำอธิบายของโลกต่อไปบนแผนที่ดวงดาวก่อนตอบฉานนู่
“นายท่าน ข้าไม่เข้าใจ…”
“ถึงตอนนั้นเจ้าจะเข้าใจเอง”
……………………………