ตอนที่ 370 ทัพเสริมจากบอสของชูกวงมีเดีย
“เข้าใจแล้ว” ไม่แคร์เท่าไร ยิ้มพลางพูด “อาจมีหมอแผนโบราณที่เก็บซ่อนตัว นี่ก็เรื่องปกติไม่ใช่เหรอคะ ฉันยังวิจัยไม่เสร็จ ขอตัวก่อน”
เธอพยักหน้าให้พ่อบ้านหลินเล็กน้อยแล้วเดินออก
พ่อบ้านหลินมองตามหลังหลินชิงจยา ถอนหายใจ
คุณชิงจยาดีทุกอย่าง แต่เรื่องเดียวที่ทำให้ไม่สมบูรณ์แบบก็คือไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของหลินจิ่นอวิ๋น
อีกทั้งแม่ของเธอก็ฉาบฉวยเกินไป ทั้งยังโลภมาก ไม่เป็นที่รักของใครต่อใคร ข้อดีเพียงอย่างเดียวคือหน้าตาดี
ถ้าไม่ใช่เพราะหลินชิงจยา คนธรรมดาจะแต่งเข้าตระกูลหลินได้อย่างไร
อย่าแม้แต่จะคิด
หลินชิงจยาบอกว่าไม่ต้องสนใจ แต่พ่อบ้านหลินกลับรู้สึกว่าเรื่องนี้สำคัญมาก
มีหมอแผนโบราณที่เก่งมากปรากฏตัวนอกวงการแพทย์แผนโบราณ ต้องจับตาดูไว้ให้ดี
เขาครุ่นคิด สุดท้ายก็เรียกพวกลูกน้องในบ้านมา
…
วันต่อมา
ตอนเที่ยง
อิ๋งเย่ว์เซวียนทักทายเมิ่งหรูเสร็จก็ไปที่ร้านอาหารเซ็นทรัลการ์เด้น
เหนือความคาดหมายของเธอ จิ่งหงเจินไม่ใช่หญิงบ้านนอกหรือคนในเมืองที่ฐานะธรรมดา
เธอแต่งตัวหรูหรา ทั่วทั้งตัวมีแต่ของแบรนด์เนม
ถึงแม้บุคลิกจะเทียบกับพวกผู้หญิงไฮโซไม่ได้ แต่ก็ไม่ด้อย
อิ๋งเย่ว์เซวียนกลับรู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก
เธอกลัวแค่ว่าจิ่งหงเจินจะเกาะเธอไม่ปล่อย คิดจะสูบเลือดสูบเนื้อ
แต่อิ๋งเย่ว์เซวียนกลับไม่รู้ว่าจะเรียกจิ่งหงเจินว่าอะไร เธออ้าปากจะเรียก “คุณ…”
“เอาล่ะ แล้วแต่จะเรียก ไม่เรียกก็ได้” จิ่งหงเจินมองสำรวจอิ๋งเย่ว์เซวียนอยู่สักพัก ทันใดนั้นก็ยิ้มออกมา “ดูท่าตอนนั้นที่ฉันให้เธอเข้าไปอยู่ตระกูลอิ๋งจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง”
อิ๋งเย่ว์เซวียนตกใจ “หมายความว่าไงคะ”
“ทำไม ไม่พอใจเหรอ” จิ่งหงเจินพูด “ดูซิ ตอนนี้เธอเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลอิ๋ง อีกไม่นานก็จะต้องหมั้นกับคุณชายตระกูลหยวน ถ้าเธออยู่กับฉันจะได้ประโยชน์แบบนี้เหรอ”
“อย่ามองว่าฉันแต่งตัวดี แต่เงินฉันติดลบทุกเดือน เลี้ยงดูเธอไม่ไหวหรอก”
อิ๋งเย่ว์เซวียนกำมือแน่น
เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
แต่เธอขโมยชีวิตคนอื่นมา
“คุณส่งฉันเข้าไปอยู่ตระกูลอิ๋งแล้วไม่ใช่เหรอคะ” อิ๋งเย่ว์เซวียนมองไปรอบๆ ด้วยความประหม่า “แล้วคุณยังจะมาปรากฏตัวทำไม ไม่กลัวพ่อแม่ของฉันมาหาเหรอ”
“ฉันบอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าที่ฉันมาหาเธอเพราะจะช่วยเธอ” จิ่งหงเจินยิ้มอีกครั้ง “อิ๋งจื่อจินเป็นคนเก่งขนาดนี้ เธอไม่กลัวจริงๆ เหรอ ถ้าตระกูลอิ๋งให้สถานะที่มีตัวตนกับอิ๋งจื่อจิน เธอก็จะต้องถูกไล่ออกจากบ้าน”
อิ๋งเย่ว์เซวียนตัวสั่น
“ฉันกลัวสิ ฉันต้องกลัวอยู่แล้ว” เธอเม้มริมฝีปาก ลำคอแห้งผาก “ฉันจะทำไงได้ ฉันพยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว ฉันก็ยังสู้เธอไม่ได้”
“ไม่ เธอยังพยายามไม่มากพอ” จิ่งหงเจินส่ายหน้า “เธอต้องหาวิธีจัดการอิ๋งจื่อจินให้จบ”
“จัดการเหรอ” อิ๋งเย่ว์เซวียนรู้สึกตลกสิ้นดี “คุณไม่รู้เหรอว่าเธอเก่งมาก แถมยังมีฟู่อวิ๋นเซิน ฉันจะจัดการยังไง”
“มีวิธีแน่” จิ่งหงเจินจิบกาแฟ “อีกระยะหนึ่งเธอก็จะรู้เอง”
พูดจบก็ลุกขึ้น “ก่อนที่เธอจะจัดการเด็กคนนั้นได้ ฉันจะไม่มาเจอเธออีก เธอก็อย่าติดต่อฉันบ่อย”
อิ๋งเย่ว์เซวียนสังเกตเห็นมือของจิ่งหงเจิน
ถึงแม้จะผ่านการบำรุงมาแล้ว แต่ก็ยังเห็นริ้วรอยได้ไม่ยาก แถมยังมีหูด
นี่เป็นเรื่องที่แตกต่างกับจงมั่นหวาอย่างสิ้นเชิง
อิ๋งเย่ว์เซวียนริมฝีปากสั่น จับแก้วแน่น เธอไม่มีทางกลับไปใช้ชีวิตธรรมดาเป็นอันขาด
จิ่งหงเจินเดินออกไป
อีกโต๊ะหนึ่งที่ไกลออกไป อิ๋งเทียนลี่ว์ละสายตาจากภาพเหตุการณ์นี้
แววตาของเขาค่อยๆ ขรึมลง
เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนั้น แต่เขาพอมองออกว่า ดวงตาของอิ๋งเย่ว์เซวียนคล้ายผู้หญิงคนนั้นมาก เป็นดวงตาสามเหลี่ยม
ผู้เฒ่าจงสังเกตเห็นว่าอิ๋งเทียนลี่ว์เลิกกินต่อ เอาแต่มองไปที่หนึ่ง เขาจึงเงยหน้าขึ้น “เทียนลี่ว์ มองอะไรอยู่”
“เปล่าครับ” อิ๋งเทียนลี่ว์ตอบ “ตอนแรกคิดว่าเห็นคนรู้จัก นึกไม่ถึงว่าจะดูผิดครับ”
ผู้เฒ่าจงพยักหน้า ขณะกินข้าวก็ตัดต่อคลิปให้อิ๋งจื่อจินอย่างมีความสุข จากนั้นก็โพสต์ลงบนเวยปั๋ว
ผู้เฒ่าจงมีฝีมือในการตัดต่อคลิปมาก เขาจึงมีแฟนคลับในเวยปั๋วอยู่ไม่น้อย
ยังมีคนติดต่อเขามาทางข้อความส่วนตัว อยากให้เขาตัดต่อคลิปคู่จิ้น
ผู้เฒ่าจงโมโหจนบล็อกคนคนนั้นทันที
อิ๋งเทียนลี่ว์จับโทรศัพท์มือถือด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ในนั้นเป็นรูปหน้าตรงของจิ่งหงเจิน
เขาส่งรูปนี้ให้เพื่อนของเขา
[สืบให้หน่อยว่าผู้หญิงคนนี้ใช่จิ่งหงเจินหรือเปล่า]
…
อีกด้านหนึ่ง ภายในค่ายวัยรุ่นสร้างฝัน 202
สัปดาห์แรกได้แบ่งกลุ่มของผู้เข้าแข่งขันตามการประเมินของโค้ช
อวิ๋นเหอเย่ว์ได้ระดับเอเป็นคนแรกก็ย่อมถูกจัดอยู่ในกลุ่มเอ
กลุ่มเอมีแค่เจ็ดคน ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นก็พยายามอยากเข้ามาเหมือนกัน
สัปดาห์ที่สองของรายการเป็นการแสดงต่อหน้าสาธารณชนครั้งแรกของผู้เข้าแข่งขัน อวิ๋นเหอเย่ว์โชว์ศักยภาพที่เหนือชั้นอีกครั้ง ได้รับการกดไลก์มากสุดในการแสดงครั้งนี้ กลายเป็นราชายอดไลก์
ตอนนี้กำลังจะเริ่มถ่ายของสัปดาห์ที่สามแล้ว เทปของสัปดาห์ที่สามจะออกอากาศก่อนวันที่หนึ่งของปีใหม่[1]
พอถูกชาวเน็ตสังเกตเห็น อิ๋งจื่อจินก็ไม่คาดผ้าปิดปากอีกต่อไป
โค้ชร้องเพลงสวี่ถังโจวเป็นคนดูแลเธอ
แตกต่างจากโปรดิวเซอร์หลี่กับผู้กำกับ ตอนนั้นสวี่ถังโจวเข้าไปในห้องประชุมพร้อมกับฉินหลิงอวี๋ด้วย บังเอิญได้ยินเซี่ยมั่นอวี่เรียกอิ๋งจื่อจินว่าบอส
เขาเองก็เพิ่งรู้ว่าเด็กสาวอายุแค่นี้กลับเป็นถึงซีอีโอของชูกวงมีเดีย
ปีนี้สวี่ถังโจวอายุยี่สิบหกปี เดบิวต์มาสิบปีแล้ว
อยู่ในวงการบันเทิงมานานขนาดนี้ เขาเองก็รู้ว่าเรื่องไหนควรพูด เรื่องไหนไม่ควรพูด
สวี่ถังโจวพูดอย่างสุภาพ “คุณอิ๋งครับ ห้องนอนของอวิ๋นเหอเย่ว์อยู่ทางนี้ครับ”
อิ๋งจื่อจินตามเขาไป
พอเดินถึงหน้าประตูห้องนอน กลับได้ยินเสียงทะเลาะดังมากจากข้างใน
สวี่ถังโจวหน้าบึ้ง เปิดประตูเข้าไป
เขาเห็นเด็กหนุ่มสองคนล้มลงไปนอนบนพื้นด้วยสภาพทุกข์ทรมาน
เด็กหนุ่มอีกสามคนล้อมอวิ๋นเหอเย่ว์ไว้ สีหน้าไม่เป็นมิตร
บนพื้นยังมีเศษภาพวาดที่ถูกฉีกทิ้ง สีเลอะกระจัดกระจาย
สวี่ถังโจวเป็นคนสุภาพอ่อนโยนมาตลอด เวลานี้เขาโมโหมาก “พวกนายทำอะไรกัน”
เด็กหนุ่มหลายคนรีบยืนตรงทันที ไม่กล้าแม้แต่จะขยับ “อะ อาจารย์สวี่”
อิ๋งจื่อจินกอดอก ยืนอยู่ตรงประตู สายตาเย็นชา
เธอเองก็เห็นสถานการณ์ในห้องนอนแล้ว พอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ด้วยนิสัยของอวิ๋นเหอเย่ว์ที่เป็นคนเงียบๆ ย่อมถูกรังแกได้ง่าย
อวิ๋นเหอเย่ว์ไม่พูด เธอเดินกอดกระดานวาดรูปของตัวเองแล้วเดินไปด้านในตามที่อิ๋งจื่อจินทำมือบอก
อวี้เสวี่ยเซิงเคยสอนวิชาป้องกันตัวให้เธอ
เนื่องจากเธอถูกพ่อทุบตีตั้งแต่เด็ก จึงพอรู้ว่าจะหลบอย่างไร
เธอรับมือกับผู้ชายไม่กี่คนพวกนี้ได้สบาย
ถ้าไม่ใช่เพราะภาพวาดของเธอถูกฉีก เธอคงไม่มีทางลงไม้ลงมือ
“สำนึกความผิดของตัวเองให้ดีๆ” สวี่ถังโจวนึกไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เขาปิดประตู “คุณอิ๋งครับ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ครับ”
“คุณเป็นแค่โค้ช ไม่ใช่คนดูแลความสงบสุข” อิ๋งจื่อจินหาว “ไม่เกี่ยวกับคุณค่ะ”
สวี่ถังโจวอึ้ง
ขนตาของเด็กสาวเป็นแพยาว ผิวพรรณขาวผ่อง
ประดุจดอกฝ้ายที่อ่อนนุ่ม
สวี่ถังโจวรีบละสายตาอย่างรวดเร็ว กระแอมอย่างไม่เป็นธรรมชาติเท่าไร “ไว้ถึงเวลาคุณอิ๋งจะมาเสริมทัพให้อวิ๋นเหอเย่ว์ไหมครับ”
อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว “เสริมทัพเหรอคะ”
สวี่ถังโจวพยักหน้าเล็กน้อย เขาอธิบาย
ตอนนั้นรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 101 ก็มีการให้ดารามาเสริมทัพ
แต่นั่นเป็นเพราะทีมงานเชิญดารามาเสริมทัพให้ผู้เข้าแข่งขัน ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มเรตติ้งให้รายการไปในตัวด้วย เรียกคนให้มาสนใจมากขึ้น
แต่รายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 ไม่เหมือนกัน ครั้งนี้ผู้เข้าแข่งขันต้องไปเชิญคนมาเสริมทัพเอาเอง
ทีมงานก็ตั้งใจอยากสร้างกระแสให้ดังกว่านี้ ถึงได้เลือกวิธีนี้
เฟิงถงที่ตอนนี้ได้คะแนนโหวตเป็นอันดับสองก็ได้เชิญหวาอิ้นมาแล้ว
ทั้งสองคนต่างอยู่สังกัดเทียนสิงมีเดีย
หวาอิ้นก็เป็นดาราชายยอดนิยม เทพบุตรขวัญใจมหาชนปีสองพันสิบแปดและสองพันสิบเก้าเขาก็คว้าที่หนึ่งสองปีซ้อน
แต่เมื่อปีที่แล้วอยู่ๆ ก็มีฟู่อวิ๋นเซินโผล่มา
หลังจากที่เฟิงถงเชิญหวาอิ้นมาได้ ทีมงานก็โพสต์เวยปั๋ว
คราวนี้คะแนนโหวตของเฟิงถงได้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในระดับที่มองเห็นได้ด้วยสายตา ส่วนใหญ่เป็นเพราะแฟนคลับของหวาอิ้น ไม่นานก็สูสีกับอวิ๋นเหอเย่ว์ ถึงขั้นที่กำลังจะขึ้นนำแล้ว
วันนี้ก็มีผู้เข้าแข่งขันอีกหลายคนที่เชิญดารามาได้
ดาราเหล่านี้ล้วนเป็นชั้นแนวหน้าของวงการบันเทิง มีข่าวพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง
ต้องพูดเลยว่าทีมงานวางแผนมาดีจริงๆ
ดาราเหล่านี้จะมา อันที่จริงสาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะฉินหลิงอวี๋กับเซี่ยมั่นอวี่
ถ้าได้ร่วมงานกับสองคนนี้ สถานะในวงการบันเทิงก็จะมั่นคงแล้ว
ภายในเวลาอันสั้นเพียงครึ่งเดือน ทีมงานดูดเงินเข้ามานับไม่ถ้วนแล้ว การลงทุนของชูกวงมีเดียก็พลิกกำไรไปหลายเท่าตัว
และก็เพราะเห็นเงินพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว อิ๋งจื่อจินถึงได้มาดูที่กองถ่ายอีกครั้ง
สวี่ถังโจวเปิดเวยปั๋ว “มีชาวเน็ตหลายคนต่างเดาที่ใต้โพสต์เวยปั๋วของทีมงานว่าอวิ๋นเหอเย่ว์จะเชิญคุณมาหรือเปล่า”
อิ๋งจื่อจินหันไปมอง
เมื่อครู่ทีมงานได้โพสต์อีกครั้ง
ประกาศว่าจะมีดาราคนใหม่มาอีก
[กรี๊ดดด อยากดูของวีคที่สามแล้ว รอไม่ไหวแล้ว!]
[ผู้เข้าแข่งขันสิบอันดับแรกเชิญดารามาได้หมดแล้วหรือเปล่ายกเว้นอวิ๋นเหอเย่ว์ เขายังไม่มีอีกเหรอ ได้ยินว่าวันนี้จะอัดรายการแล้ว คงไม่ได้จะขึ้นเวทีคนเดียวหรอกนะ]
[อย่าลืมนะว่าอวิ๋นเหอเย่ว์เป็นเด็กฝึกไร้สังกัด ไม่มีสังกัด ไม่มีผู้จัดการส่วนตัว จะไปเชิญดาราที่ไหนได้]
[เอ้อ ลืมไป อวิ๋นเหอเย่ว์เชิญเทพอิ๋งอะไรนั่นก็ได้นะ นั่นก็ถือเป็นคนดังไม่ใช่เหรอ]
[นี่มันเวทีแสดง ให้คนสายวิชาการขึ้นมา จะให้เอาไม้บรรทัดสามเหลี่ยมมาสอนตีวงรีเหรอ อย่าขายหน้าเลยดีกว่า เดี๋ยวได้ขำตาย (ยิ้ม)(ยิ้ม)]
[1] ปีใหม่ทางจันทรคติ