ตอนที่ 376 นี่มันฝีมือเล่นเปียโนขั้นเทพ
เพื่อน
หลินจิ่นอวิ๋นรู้ว่า ทำให้ฟู่อวิ๋นเซินพูดคำนี้ออกมาได้ เรื่องจะต้องรุนแรงมากแน่นอน
สีหน้าของหลินจิ่นอวิ๋นขรึมลงในทันที
กำลังภายในของเขาพลุ่งพล่าน ปล่อยออกไปเต็มแรงใส่พ่อบ้านหลินเต็มๆ อย่างไร้ความปรานี
ไม่มีออมแรงแม้แต่น้อย
กร๊อบ!
เสียงกระดูกหัก
พ่อบ้านหลินคุกเข่าลงบนพื้น สีหน้าซีดเซียว เหงื่อออกท่วมตัว ตะโกนขึ้น “นายใหญ่เมตตาด้วยครับ!”
หลินจิ่นอวิ๋นเรียกคนคุ้มกันมาสองคนแล้วพูดขึ้น “ทำตามกฎตระกูลหลิน ถอนกำลังภายใน ขับไล่ออกจากตระกูลหลิน”
พ่อบ้านหลินแทบไม่อยากเชื่อ “นายใหญ่!”
เขาก็แค่ปล่อยข่าวออกไป ตระกูลอวี๋จะลงมือมันเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย
หลินจิ่นอวิ๋นกลับไม่สนใจพ่อบ้านหลิน เขาเม้มริมฝีปาก “พอใจหรือยัง”
ถึงแม้พวกผู้อาวุโสกับผู้นำตระกูลหลินจะฝีมือเก่งกว่าฟู่อวิ๋นเซิน แต่ก็ไม่คุ้มกันที่จะล่วงเกินฟู่อวิ๋นเซินเพราะพ่อบ้านคนเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น เดิมทีก็เป็นความผิดของพ่อบ้านหลิน
ฟู่อวิ๋นเซินลุกขึ้น ออกไปจากห้องโถง
เสียงของเขาลอยอยู่ในอากาศ ให้ความรู้สึกเย็นชา
“ครั้งที่สอง จะไม่มีครั้งหน้าอีก”
สีหน้าของหลินจิ่นอวิ๋นเปลี่ยนไปอีกครั้ง
ครั้งที่สอง นี่ก็แสดงว่าตอนตี้อู่ฮุยก็นับรวมตระกูลหลินไปด้วย
ใช่ว่าเขาจะไม่สืบเรื่องตี้อู่ฮุย
แต่ว่าสืบไม่พบ
ก็ไม่รู้ว่าตี้อู่ฮุยทำอะไร ถึงได้ทำให้ฟู่อวิ๋นเซินโกรธ
หลินจิ่นอวิ๋นถอนหายใจ หันไปก็เห็นหลินชิงจยาเข้ามาจากอีกประตูหนึ่ง
หลินชิงจยาเห็นพ่อบ้านหลินถูกคนคุ้มกันลากออกไปก็ตกใจ “เกิดอะไรขึ้นคะพ่อ”
“ทำผิดกฎตระกูล” หลินจิ่นอวิ๋นก็ไม่ได้อธิบายมาก แต่น้ำเสียงกลับอ่อนลง “เพิ่งรักษาเสร็จเหรอ”
“ค่ะ” หลินชิงจยาพยักหน้าเบาๆ “ช่วงนี้คนบาดเจ็บค่อนข้างเยอะค่ะ”
“บาดแผลทั่วไปก็ให้คนอื่นดูเถอะ” หลินจิ่นอวิ๋นขมวดคิ้ว “ลูกไม่ได้มีเวลาเยอะขนาดนั้น”
หลินชิงจยาจนปัญญา “อดไม่ได้น่ะค่ะ”
“เรานี่นะ…” หลินจิ่นอวิ๋นส่ายหน้าแล้วพูดต่อ “ถ้าว่างก็ไปเดินเล่นข้างนอกบ้าง ยังไงซะ…”
พูดถึงตรงนี้เขาก็ชะงัก ไม่พูดต่อ
หลินชิงจยาเข้าใจความหมายของเขา “รู้แล้วค่ะพ่อ”
หลินจิ่นอวิ๋นไม่พูดอะไรอีก ตบบ่าของเธอเบาๆ “เอาล่ะ กลับไปพักผ่อนเถอะ”
…
เวลาเย็น
เวทีแสดงสดของรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202
การแสดงต่อหน้าสาธารณชนครั้งที่สองจะเริ่มในเวลาหกโมงครึ่ง ปล่อยให้เข้าไปเวลาห้าโมงครึ่ง มีคนเอาเก้าอี้ตัวเล็กมานั่งต่อแถวรอกันตั้งแต่เช้ามืด
แต่ตอนนี้ทีมงานรายการกลับร้อนใจมาก
“คุณอิ๋งล่ะ” โปรดิวเซอร์หลี่รีบไปด้านหลังเวที “ยังไม่มาเหรอ”
สวี่ถังโจวกำลังชี้แนะผู้เข้าแข่งขัน พอได้ยินก็เงยหน้าขึ้น เม้มริมฝีปาก “ยังครับ โทรไปก็ไม่มีคนรับ”
“ยุ่งล่ะคราวนี้” โปรดิวเซอร์หลี่ร้อนใจมาก “อวิ๋นเหอเย่ว์ นายขึ้นแสดงลำดับต้นๆ ถ้าคุณอิ๋งยังไม่มาก็ไม่ทันแล้ว ลองโทรถามอีกครั้ง”
อวิ๋นเหอเย่ว์กลับไม่แคร์เท่าไร ครั้งนี้เธอพูดออกไป “ไม่เป็นไรครับ ผมขึ้นคนเดียวได้”
“จะได้ยังไงล่ะ” สวี่ถังโจวส่ายหน้า “คนอื่นมีดารามาช่วยเสริมทัพ ถ้านายขึ้นไปคนเดียวคะแนนโหวตจะถูกทิ้งห่าง”
โดยเฉพาะเฟิงถงที่อยู่อันดับสอง
เฟิงถงออกไปเป็นลำดับที่หนึ่ง ความสามารถในการร้องและเต้นของเขาก็ไม่ได้แย่ แถมยังเชิญดาราชายยอดนิยมอย่างหวาอิ้นมาด้วย
หวาอิ้นก็แจ้งเกิดจากเวทีประกวด ย่อมมีความสามารถสูงมากในการคุมเวที
ทั้งสองคนร่วมงานกัน การแสดงจะต้องออกมาเยี่ยมยอดแน่นอน
ความนิยมในตัวอวิ๋นเหอเย่ว์สูงมากก็จริง แต่ก่อนจะได้เดบิวต์ อย่าว่าแต่มีแฟนคลับสู้ดารายอดนิยมไม่ได้เลย เทียบกับดาราชั้นแนวหน้ายิ่งห่างไกลลิบลับ
พอถึงเวลา คะแนนโหวตของเฟิงถงจะพุ่งทะยานแน่
อวิ๋นเหอเย่ว์ครุ่นคิด หันไปปลอบสวี่ถังโจว “ผมแสดงเป็นสองคนได้ครับ”
สวี่ถังโจว “…”
โปรดิวเซอร์หลี่ “…”
“เอาแบบนี้ ฉันจะให้ผู้กำกับเลื่อนลำดับของนายไปหลังๆ” โปรดิวเซอร์หลี่พูด “ให้ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นขึ้นแสดงไปก่อน ถ้าคุณอิ๋งมาไม่ได้จริงๆ ก็ยังมีตัวเลือกสำรอง”
สวี่ถังโจวถอนหายใจ “ก็คงต้องเป็นอย่างนั้นแล้วครับ”
…
ด้านหน้าเวที
บรรดาแฟนคลับที่มาชมการแสดงสดต่างเข้านั่งที่หมดแล้ว แต่ละคนชูป้ายชูแท่งไฟเป็นกำลังใจ
เยี่ยซีก็มาด้วย ในฐานะแขกพิเศษเสริมทัพให้ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นที่อยู่ในสังกัดเทียนสิงมีเดีย
เนื่องจากเกี่ยวพันไปถึงแวดวงวิชาการกับอัจฉริยะทางด้านวิทยาศาสตร์ ช่วงนี้ชื่อเสียงของเธอก็เลยแย่ลงไปมาก แต่อย่างน้อยความดังก็ไม่แย่ลง
อย่างไรเสียสำหรับดาราในกระแสอย่างเธอ จะดังในเรื่องดีหรือเรื่องฉาวก็คือดัง
ฉาวนิดฉาวหน่อยไม่เป็นไร กลัวไม่ตกเป็นข่าวมากกว่า
การแสดงชุดแรกของหวาอิ้นกับเฟิงถงก็เป็นเหมือนที่โปรดิวเซอร์หลี่คาดการณ์ไว้ ผลงานบนเวทียอดเยี่ยม ทำให้คะแนนโหวตของเฟิงถงเริ่มพุ่งทะยาน นำอวิ๋นเหอเย่ว์ในชั่วพริบตา ครองอันดับหนึ่งขาดลอย
เยี่ยซีแสดงเป็นลำดับที่เจ็ด
เธอเต้นไม่เป็น แต่เล่นไวโอลินเป็น ถึงแม้ฝีมือจะธรรมดา แต่ก็ช่วยเรียกคะแนนโหวตให้ผู้เข้าแข่งขันที่เธอมาเสริมทัพให้ได้ไม่น้อย
บนหน้าจอถ่ายทอดสด บรรดาแฟนคลับของเธอพิมพ์ชื่นชมอย่างบ้าคลั่ง
[ซีซีเก่งที่สุด!]
[คนที่บอกว่าซีซีของพวกเราไม่มีความสามารถช่วยแหกตาดูด้วย อย่าตาบอด!]
[ซีซีไม่ใช่แค่เล่นละครได้ ยังเล่นเครื่องดนตรีเป็นด้วย สุดยอดไปเลย]
ไม่ว่าอย่างไรเฉินหลีก็รู้จักเล่นจิตวิทยากับแฟนคลับ
เธออาศัยข่าวฉาวของเยี่ยซีทำให้แฟนคลับของเยี่ยซียิ่งเหนียวแน่นมากขึ้น
เยี่ยซีลงจากเวที กลับที่นั่งตรงผู้ชม
เธอขมวดคิ้วอ่านคอมเมนต์เวยปั๋ว รู้สึกใจชื้นขึ้น เงยหน้าถาม “พี่หลีว่าวันนี้อิ๋งจื่อจินจะมาไหมคะ”
เดิมทีเธอแสดงเป็นลำดับที่สามนับจากข้างท้าย แต่ได้ยินทีมงานบอกว่าดาราที่จะมาเสริมทัพให้อวิ๋นเหอเย่ว์ติดธุระ เธอก็เลยเสนอตัวขอแลกขึ้นมาแสดงก่อน
“ใครจะไปรู้” เฉินหลีแสยะยิ้ม “ต่อให้มา ยังจะเอาชนะหวาอิ้นได้เหรอ ยัยนั่นแสดงอะไรเป็น”
เยี่ยซีพูด “เธอไม่มาสิดี ฉันไม่อยากเห็นหน้า”
ถ้าไม่ใช่เพราะอิ๋งจื่อจิน เธอคงไม่มีทางถูกชาวเน็ตบางส่วนกระแนะกระแหนใส่
เฉินหลีก็ไม่อยาก “งั้นก็รอดูไป”
สองชั่วโมงต่อมาก็ถึงคิวอวิ๋นเหอเย่ว์ขึ้นแสดงแล้ว
[เย่ว์เย่ว์สู้ๆ!]
[เย่ว์เย่ว์เก่งที่สุดเลย]
[ในที่สุดก็ถึงคิวเย่ว์เย่ว์แล้ว เทพอิ๋งอะไรนั่นไหนบอกจะมาไม่ใช่เหรอ ไหนล่ะ]
[วงในบอกว่า เดิมทีอวิ๋นเหอเย่ว์ต้องแสดงเป็นลำดับที่เจ็ด แต่เพราะคนเสริมทัพไม่มาเลยถูกเลื่อนไปแสดงหลังๆ แถมยังได้เยี่ยซีช่วยไว้ ฉันล่ะเชื่อเขาเลย]
[คนสายวิชาการทำตัวไม่น่าเชื่อถือแบบนี้ ขอถามหน่อย สำนักวิจัยระดับชาติกล้าใช้คนแบบนี้เหรอ]
แฟนคลับของผู้เข้าแข่งขันคนอื่นด่าประชดก็ส่วนประชด แต่ไม่มีสักคนที่กล้าด่าเรื่องความสามารถของอวิ๋นเหอเย่ว์
อวิ๋นเหอเย่ว์เปิดไมโครโฟน พอขึ้นมาก็ร้องเสียงสูง
สร้างความตะลึงในชั่วพริบตา!
เธอร้องโดยใช้เสียงสูง ขณะเดียวกันก็เต้นไปด้วย
เป็นการเต้นสไตล์ฮิปฮอปที่ต้องใช้พละกำลังมาก แต่กลับไม่ส่งผลต่อการร้องของเธอแม้แต่น้อย
“อวิ๋นเหอเย่ว์…” สายตาของเฉินหลีเปลี่ยนไป “ปล่อยให้เดบิวต์ไม่ได้จริงๆ”
เก่งเกินไป แถมยังไม่อยู่ในสังกัดเธอ
จำเป็นต้องหาทางทำลายชื่อเสียงของอวิ๋นเหอเย่ว์เพื่อไม่ให้ขึ้นมาโด่งดังได้
เฉินหลีครุ่นคิด จากนั้นก็ติดต่อพวกแอ๊กเคานท์เชิงพาณิชย์ที่เธอเลี้ยงไว้
ไม่ว่าอย่างไร ต่อให้อวิ๋นเหอเย่ว์จะแสดงได้โดดเด่นกว่านี้ แต่อิ๋งจื่อจินไม่มาก็คือการหลอกลวง
เฉินหลีสั่งให้โพสต์เสร็จก็กลับมาตั้งใจฟังต่ออย่างสบายใจ
ทันใดนั้นได้มีเสียงเปียโนดังขึ้น
ประสานกับเสียงร้องของอวิ๋นเหอเย่ว์ในท่อนที่ต้องใช้เสียงสูงที่สุดได้อย่างสมบูรณ์แบบ ดึงอารมณ์ขึ้นสูงสุดได้ในชั่วพริบตา
ติ๊ง!
บรรดาผู้ชมที่มาดูต่างเงียบกันทั้งหมด ตะลึงตาค้าง
แฟนคลับที่ปั่นคอมเมนต์อยู่ตรงหน้าจอไลฟ์สดก็พร้อมใจกันหยุด
ความสนใจของทุกคนต่างไปรวมอยู่ที่จุดหนึ่ง
บนเวทีมีแท่นที่ปรับเลื่อนขึ้นลงได้ปรากฏขึ้น
ตรงนั้นมีเปียโนหนึ่งหลัง
แต่เนื่องจากอยู่ตรงมุม อีกทั้งไม่มีแสงไฟส่องไป มืดสนิท ทำให้มองไม่เห็นว่าคนที่เล่นเปียโนคือใคร
ติ๊งๆ!
ดนตรีประกอบเพลงหายไปอย่างสิ้นเชิง เวลานี้เหลือเพียงเสียงเปียโน
เสียงเปียโนช้าบ้าง สูงบ้าง ไปตามการร้องและการเต้นของอวิ๋นเหอเย่ว์
ดุจสายน้ำที่ไหลริน ดุจเมฆหมอกบนยอดเขา
เสียงเปียโนปรากฏขึ้นกลางเพลง แต่กลับสอดคล้องในทุกจังหวะ
แม้เป็นคนที่ไม่เข้าใจเรื่องเปียโนก็ยังฟังออกว่าเสียงเปียโนนี้ไม่ธรรมดา
“ฝีมือเล่นเปียโน…” เฉินหลีก็ตะลึง “เล่นได้ยอดเยี่ยมจริงๆ จะต้องเป็นนักเปียโนมืออาชีพแน่”
เยี่ยซีหลุบตาลง “เก่งแล้วไงคะ แค่คนเล่นเปียโน ช่วยเรียกแฟนคลับไม่ได้เสียหน่อย”
ที่เฟิงถงได้รับคะแนนโหวตอย่างท่วมท้นเป็นเพราะแฟนคลับของหวาอิ้นช่วยโหวต
เฉินหลีก็เห็นด้วย แสยะยิ้มอีกครั้ง “อวิ๋นเหอเย่ว์บอกว่าจะเชิญอิ๋งจื่อจินมา ทีมงานก็โพสต์ลงเวยปั๋วไปแล้ว ตอนนี้อิ๋งจื่อจินไม่มา อวิ๋นเหอเย่ว์ไม่เสียแฟนคลับก็ดีมากแล้ว”
อะไรกัน
หลอกลวงแฟนคลับ
เยี่ยซีหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาดูคะแนนโหวตล่าสุด เธอยิ้ม “พี่หลีดูสิคะ ตอนนี้อวิ๋นเหอเย่ว์หล่นมาอยู่ที่สองแล้ว คะแนนโหวตของเฟิงถงเป็นอันดับหนึ่ง มีคนด่าเขาบนเวยปั๋วเยอะทีเดียวค่ะ”
เฉินหลีมองไป
คะแนนโหวตในตอนนี้คือ
อันดับหนึ่ง เฟิงถง 34,981,298 คะแนน
อันดับสอง อวิ๋นเหอเย่ว์ 32,738,930 คะแนน
ทั้งสองคนทิ้งระยะห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ
[ไหนว่าวงการบันเทิงกับวงการวิชาการมาร่วมงานกันไง อวิ๋นเหอเย่ว์ไม่ได้เชิญเทพอิ๋งมาเหรอ]
[หลอกลวง ขอย้ายไปเป็นแอนตี้แฟน!]
[โทษนะ ชาวแสงจันทร์[1]ไม่คิดแบบนั้น แฟนคลับบ้านเฟิงถงอย่ามาเนียนเป็นแสงจันทร์แล้วบอกจะย้ายไปเป็นแอนตี้แฟน เดิมทีพวกหล่อนก็เป็นแอนตี้แฟนอยู่แล้วย่ะ]
[อีกอย่างใครบอกเทพอิ๋งไม่มา ถ้าไม่มาแล้วใครเล่นเปียโนอยู่ไม่ทราบ]
[นี่มันฝีมือเปียโนขั้นเทพ!]
[หึๆ ขำตัวโยก เธอบอกว่าเทพอิ๋งเล่นเปียโนอยู่เหรอ อย่ามาโม้ นั่นมันคนสายวิชาการ ถ้าคนที่เล่นเปียโนคือเทพอิ๋งอย่างที่ว่า งั้นฉันก็เป็นประธานชูกวงมีเดียแล้วล่ะ]
ในขณะที่การแสดงของอวิ๋นเหอเย่ว์มาถึงในช่วงท้าย
พรึ่บ!
แสงไฟได้สว่างขึ้น ส่องไปตรงมุมที่วางเปียโน และให้ความสว่างแก่คนที่เล่นอยู่
[1] ชื่อเรียกแฟนคลับของอวิ๋นเหอเย่ว์ เพราะชื่อกับแซ่ของอวิ๋นเหอเย่ว์แปลว่าเมฆกับพระจันทร์