ตอนที่ 408 ถ่ายทอดสดรอบชิงชนะเลิศ
เฟิงเย่ว์เก็บขึ้นมาฉีกอย่างสบายใจ
การทำแบบนี้ในที่สุดก็ยั่วยุไอริน่ากับคนที่คลั่งไคล้เธอบริเวณนั้นให้โมโหได้สำเร็จ ทั้งชายและหญิง
“พอได้แล้ว!” ไอริน่าเดินขึ้นหน้า สายตาเย็นชา “เธอไม่มีสิทธิ์ให้เขาฉีกรูปถ่ายของฉัน!”
สำหรับเธอ นี่ถือเป็นการหยามศักดิ์ศรี
เถิงอวิ้นเมิ่งแสยะยิ้ม ชี้เด็กหนุ่มผมน้ำตาล “เขาก็ไม่มีสิทธิ์ทำลายถุงหอมของเทพอิ๋งเหมือนกัน ทำมาทำกลับ ทำไม แค่นี้รับไม่ได้เหรอ”
ไอริน่าหายใจแรง เห็นได้ชัดว่าโกรธมาก
“ไอริน่า อย่าโกรธไปเลยนะ” นักเรียนชายที่อยู่ข้างๆ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ฉันโทรหาคนรับผิดชอบในพื้นที่แล้ว รังแกเพื่อนพวกเรา พรุ่งนี้พวกเขาอย่าคิดว่าจะได้จับฉลากเลย”
พอได้ยินแบบนี้เฟิงเย่ว์ก็เริ่มเครียด “เทพอิ๋ง”
“ไม่ต้องกลัว” อิ๋งจื่อจินยังคงใจเย็น “รอก่อน”
คนรับผิดชอบในพื้นที่นั้นมาถึงอย่างรวดเร็ว
พอเขาเข้ามาก็ไม่ได้ถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ชี้มาทางอิ๋งจื่อจินด้วยท่าทางหงุดหงิด “เป็นถึงผู้เข้าแข่งขันยังจะกล้ามีเรื่องกันอีก เอาตัวไป ส่งไปที่สำนักตรวจการ”
อิ๋งจื่อจินหันมาพูด “คิดว่าพวกเราอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ไม่มีใครหนุนหลัง ไม่มีคนสนับสนุน ก็เลยรังแกได้ง่ายๆ ใช่ไหม”
พอได้ยินแบบนี้คนรับผิดชอบในพื้นที่ก็เริ่มกระอักกระอ่วน แต่ไม่เถียงกลับ
เขามีความคิดแบบนี้จริงๆ
มนุษย์ต่างมีความเห็นแก่ตัว
หากให้เขาเลือกระหว่างฝั่งไอริน่ากับฝั่งอิ๋งจื่อจิน เขาต้องเข้าข้างไอริน่าอยู่แล้ว จะไปดูแลคนต่างชาติทำไม
แน่นอนว่าคำพูดนี้พูดออกไปโจ่งแจ้งไม่ได้
คนรับผิดชอบในพื้นที่แค่ขยิบตาให้พวกตำรวจที่อยู่ด้านหลังเพื่อบอกให้จับตัวพวกอิ๋งจื่อจินไว้
ไอริน่าสีหน้าเย็นชา ไม่ได้เข้าไปห้าม
เวลานี้มีเสียงพูดดังมาจากนอกประตู “ใครคิดจะแตะต้องนักเรียนของประเทศเรา”
เฟิงเย่ว์รู้สึกโล่งอก “ศาสตราจารย์จั่วหลี”
ก่อนมาพวกเขาได้บอกจั่วหลีไว้
ด้านหลังจั่วหลียังมีศาสตราจารย์อีกหลายคน ล้วนมีใบหน้าของชาวยุโรป
เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้พวกเขาประชุมกันอยู่ มากันด้วยความรีบร้อน
“ศาสตราจารย์จั่วหลี” เถิงอวิ้นเมิ่งเดินเข้าไปหาแล้วเล่าเรื่องให้ฟัง
“ดีมาก ดีเยี่ยม” จั่วหลีฟังจบก็โมโหจนแสยะยิ้ม “ดูถูกรังแกพวกเราใช่ไหม งั้นรอบชิงชนะเลิศประเทศจีนของพวกเราจะไม่เข้าร่วมแม้แต่คนเดียว เชิญสนุกกันให้พอ”
“ต่อไปมหาวิทยาลัยตี้ตูค้นพบอะไรใหม่ๆ ก็จะไม่ขอแจ้งให้ทราบอีกต่อไป”
พอได้ยินแบบนี้นักเรียนทั้งหมดของโรงเรียนเอลานรวมถึงไอริน่าต่างก็ตะลึง
พวกเขาดูถูกคนเอเชียจริง แต่ก็ต้องยอมรับในความเก่งของมหาวิทยาลัยตี้ตู
เมื่อศตวรรษก่อนมหาวิทยาลัยตี้ตูไม่ถือเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก
แต่ย่างเข้าศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดเป็นต้นมา มหาวิทยาลัยตี้ตูก็พัฒนาไปเร็วมาก
เร็วจนถึงขั้นที่มหาวิทยาลัยอื่นก็ยังเทียบไม่ได้
ถึงแม้อันดับของมหาวิทยาลัยตี้ตูจะอยู่ต่ำกว่ามหาวิทยาลัยเฮลก้า แต่ในเรื่องการพัฒนากลับกินขาดกว่า
หากไม่มีอะไรผิดพลาด ให้เวลามหาวิทยาลัยตี้ตูอีกไม่กี่ปี จะต้องเข้ามาแทนที่มหาวิทยาลัยเฮลก้าได้แน่นอน กลายเป็นมหาวิทยาลัยอันดับสองของโลก
จั่วหลีเป็นแบบอย่างของศาสตราจารย์อายุน้อย รู้จักศาสตราจารย์ระดับโลกหลายคน
อีกทั้งมหาวิทยาลัยตี้ตูยังปกป้องคนของตัวเองมาก เขาพูดแบบนี้ออกมาก็ถือเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยตี้ตูได้จริงๆ
คราวนี้บรรดาศาสตราจารย์ที่ตามมาด้วยต่างเริ่มร้อนใจ
“ศาสตราจารย์จั่วใจเย็นก่อนนะครับ” ศาสตราจารย์สูงวัยคนหนึ่งรีบเข้ามาห้าม “เรื่องนี้พวกเราจัดการไม่เหมาะสมจริงๆ ครับ ทำให้ล่วงเกินพวกคุณ ศาสตราจารย์จั่ววางใจได้ครับ พวกเราจะจัดการอย่างเข้มงวด”
“คนที่หาเรื่องก่อน ทางโรงเรียนเอลานจะเพิกถอนประวัติการเรียนของเขา พร้อมทั้งสั่งชดใช้ให้พวกคุณด้วยครับ”
“นักเรียนของพวกเราต้องการให้ชดใช้เหรอครับ” จั่วหลีแสยะยิ้มอีกครั้ง “ความจริงคือนักเรียนของพวกเราถูกรังแก พวกคุณยังอยากโยนความผิดใส่พวกเขา”
พวกศาสตราจารย์ลำบากใจ ทำได้เพียงขอโทษ “รับรองว่าจะจัดการจนกว่าศาสตราจารย์จั่วจะพอใจครับ คนรับผิดชอบในพื้นที่คนนี้ไม่ได้เป็นตัวแทนของพวกเรา แต่ก็เป็นเพราะพวกเราจัดการไม่ดีเหมือนกัน เดี๋ยวผมจะร้องเรียนไปที่สำนักตรวจการให้ไล่เขาออก”
เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในพื้นที่คนนั้นฟังๆ อยู่ก็เหงื่อแตก เขาอ้าปากค้าง หน้าซีด
จั่วหลีแค่มองอิ๋งจื่อจิน “นักเรียนอิ๋ง เห็นด้วยไหม”
อิ๋งจื่อจินถึงได้ปล่อยมือ เอาสำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดมือเสร็จก็พูดขึ้น “กลับไปนอนก่อนนะคะ”
“เธอเห็นด้วย งั้นพวกเราจะไม่เอาเรื่องอีก” จั่วหลีพูด “ผมไม่อยากเห็นเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก พวกเราจะปกป้องนักเรียนของตัวเองเต็มที่”
เหล่าศาสตราจารย์พากันพยักหน้า ส่งพวกจั่วหลีออกไป
จากนั้นก็มองหน้ากัน ต่างส่ายหน้าถอนหายใจ
…
เช้าวันที่สิบห้าพฤษภาคม
เวลาหกโมง บรรดาผู้เข้าแข่งขันตื่นนอนกันหมดแล้ว
อิ๋งจื่อจินหยิบพวกห่อยาเอาไปแบ่งให้เถิงอวิ้นเมิ่งกับพวกเฟิงเย่ว์
“ถ้าเจอเรื่องแบบนี้อีกก็เอาของที่อยู่ในห่อยานี่สาดออกไป”
เธอรู้ว่าใช่ว่าพวกเฟิงเย่ว์จะไม่อยากเอาคืน ก็แค่ไม่มีความสามารถ
ผงยาที่อยู่ในห่อนี้สามารถทำให้อีกฝ่ายสูญเสียเรี่ยวแรงได้ในเวลาอันสั้น อีกทั้งยังสูญเสียการมองเห็น
รับมือกับคนเลวก็ต้องใช้วิธีที่เลวร้ายยิ่งกว่า
อิ๋งจื่อจินแจกจ่ายถุงหอมให้ทุกคนเสร็จก็พากันเดินเข้าสนามแข่ง
เมื่อวานจับฉลากไปเรียบร้อย ลงแข่งได้แค่ประเภทเดียวระหว่างแบบทีมกับแบบเดี่ยว
“จื่อจิน ฉันแข่งเดี่ยว” เถิงอวิ้นเมิ่งเศร้ามาก “ทำไมเธอถึงได้แบบทีม แบบนี้พวกเราก็อดอยู่สนามเดียวกันสิ”
การแข่งขันแบบเดี่ยวกับแบบทีมแข่งพร้อมกัน แต่กติกาการแข่งขันต่างกัน
แข่งเดี่ยวตอบคำถามโดยตรง มีเครื่องตรวจให้คะแนน
แข่งทีมได้โจทย์ไปแล้วมีความซับซ้อนกว่า ภายในทีมหกคนต้องหารือกัน
ในระหว่างที่แบบทีมกำลังหารือกันอยู่นั้น การแข่งเดี่ยวจะดำเนินไปก่อน
“ไม่เป็นไร” อิ๋งจื่อจินทำหน้าเนือย “สุดท้ายก็เอาคะแนนมาคิดรวมกัน”
แต่แข่งเดี่ยวทำคะแนนทิ้งห่างได้ง่ายกว่าแข่งทีม
เพราะแข่งเดี่ยวเป็นการแข่งแบบประจันหน้า ต่างตอบคำถามของตัวเอง
หากอีกฝ่ายตอบเสร็จก่อน แม้เราจะยังเหลือเวลาก็ต้องหยุดตอบคำถาม
พอเป็นแบบนี้คะแนนก็จะทิ้งห่างไปมาก
ดังนั้นตอนที่รู้ว่าอันดับหนึ่งของชาร์ตรวมไม่มีทางมาเข้าร่วมการแข่งขัน ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดยกเว้นของประเทศจีนจึงรู้สึกโล่งอก
ทุกคนต่างรู้ว่าความเร็วในการตอบคำถามของอันดับหนึ่งชาร์ตรวมเร็วจนน่าประหลาด
“เฟิงเย่ว์ก็แข่งเดี่ยว” เถิงอวิ้นเมิ่งถอนหายใจ “ดูท่าพวกเราจะต้องแยกจากกันแล้ว”
อิ๋งจื่อจินมองทางด้านโรงเรียนเอลาน “ระวังไอริน่าไว้”
เถิงอวิ้นเมิ่งสีหน้าเคร่งขรึม เธอพยักหน้า
เธอเดินตามเฟิงเย่ว์กับผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ที่แข่งเดี่ยวไปอีกสนามหนึ่ง
เวลาเก้าโมงครึ่ง ในที่สุดการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของไอเอสซีก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
นักข่าวของชูกวงมีเดียกับสถานีโทรทัศน์กลางประเทศจีนก็มาอยู่ที่สนามแข่งขัน เริ่มทำการถ่ายทอดสด
ขณะที่การแข่งขันประเภททีมกำลังจับคำถาม การแข่งเดี่ยวก็ได้เริ่มไปแล้ว
ชาวเน็ตของประเทศจีนรอการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของไอเอสซีมานานมากแล้ว แทบทนรอไม่ไหว
พอเริ่มถ่ายทอดสดก็มีข้อความเลื่อนบนหน้าจอขึ้นมารัวๆ
[กรี๊ดดด ทำไมเทพอิ๋งของฉันไม่จับได้แข่งเดี่ยว แข่งเดี่ยวมันกว่าอีก]
[นั่นสิ แข่งทีมมันต้องปรึกษากันก่อน สุดท้ายถึงส่งผลการทดลอง สนุกเท่าแข่งเดี่ยวที่ไหนกัน]
[นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญที่สุด เรื่องที่สำคัญที่สุดคือ พวกเราไม่ได้เห็นความงามขั้นเทพของเทพอิ๋งเลย ชิ]
แต่ช่วยไม่ได้ จับฉลากไปแล้ว
สุดท้ายจะมีการคำนวณคะแนน นับคะแนนรวมของแต่ละประเทศ
หลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน ไม่เพียงแต่จะมีการจัดอันดับรายบุคคล ยังมีการจัดอันดับตามประเทศด้วย
อย่างหลังสำคัญยิ่งกว่า
และเรื่องบังเอิญคือ การแข่งขันรอบแรกเป็นการเจอกันระหว่างประเทศจีนกับประเทศอังกฤษ
ทางด้านประเทศจีน คนที่ลงสนามคือผู้เข้าแข่งขันหมายเลขสิบเก้า ได้โควตาผ่านเข้ารอบสุดท้ายมาเหมือนเถิงอวิ้นเมิ่ง
ส่วนคู่ต่อสู้ของเขาคือเด็กเทพที่ชาวยุโรปพากันยกย่อง ไอริน่า
แต่การแข่งขันรอบนี้จบเร็วกว่าที่ทุกคนคิด แม้แต่ผู้ตัดสินก็ยังไม่ทันได้มองอะไร
โจทย์แข่งเดี่ยวในหนึ่งรอบมีทั้งหมดยี่สิบคำถาม เวลาในการทำคือสิบห้านาที
แต่ยังไม่ถึงห้านาทีไอริน่าก็ตอบคำถามหมดแล้ว
ผู้เข้าแข่งขันหมายเลขสิบเก้าเพิ่งทำไปถึงข้อที่หก
แต่เนื่องจากไอริน่าตอบเสร็จเร็ว เขาก็จำต้องหยุดทำ
บนหน้าจอใหญ่แสดงผลคะแนนของทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว
ยี่สิบต่อหก
กล้องถ่ายทอดสดของทุกประเทศต่างจับไปที่คะแนน
ไอริน่าก้มหน้าเล็กน้อย ยิ้มประชดและดูถูกอย่างที่ยากจะปิดบัง
[โอ้มายก็อด ต่างกันขนาดนี้เลยเหรอ]
[ผู้เข้าแข่งขันหมายเลขสิบเก้ามาจากหนึ่งในสามโรงเรียนมัธยมชั้นยอดของประเทศเรา ทำไมถึงได้…]
[หึๆ เห็นหรือยัง ต่อให้อิ๋งจื่อจินจับได้แข่งเดี่ยวก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของไอริน่าอยู่ดี]
[เด็กเทพก็คือเด็กเทพ ฉันขอพูดอีกครั้ง ประเทศจีนไม่ไหวหรอก (ยิ้ม)]
“ไอริน่า! ไอริน่า!”
ผู้ชมในสนามฮึกเหิม ตะโกนชื่อไอริน่าไม่หยุด
ถึงแม้นี่จะเป็นการแข่งสนามแรก แต่ความฮึกเหิมก็มาแล้ว
ไอริน่าเงยหน้าขึ้น ไม่ได้มองผู้เข้าแข่งขันหมายเลขสิบเก้า แต่มองผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด
เธอหยิบไมโครโฟน ริมฝีปากผุดรอยยิ้มเย้ยหยัน “ฉันไม่ได้เจาะจงใครเป็นพิเศษ ฉันขอพูดกับพวกคุณทุกคนว่า พวกคุณ…”
“มันขยะทั้งนั้น”