ตอนที่ 416 พ่อเวินเปิดเผยตัวตน ระดับเอส!
ลั่วเหวินปินไม่ได้ใจร้อนรีบลงมือเล่นงานชูกวงมีเดีย
แผนของเขาคือ อย่างน้อยต้องรอเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปิดฉากลงก่อนค่อยเล่นงานชูกวงมีเดีย
อย่างไรเสียดาราระดับโลกในสังกัดเทียนสิงมีเดียก็มีน้อยมากเมื่อเทียบกับชูกวงมีเดีย
ถ้าไม่ใช่เพราะมีไทม์มีเดียหนุนหลัง เทียนสิงมีเดียก็ไม่มีทางก้าวหน้ามาจนถึงทุกวันนี้ได้
เหตุการณ์ระเบิดในเมืองมหาวิทยาลัยของยุโรปครั้งนี้ทำให้ลั่วเหวินปินเห็นความหวังที่จะทำลายชูกวงมีเดีย
ฉวยโอกาสซ้ำเติมตอนวิกฤติ
ในฐานะนักธุรกิจ ไม่เพียงแต่ลั่วเหวินปินจะไม่มีทางใจอ่อนยอมรามือ กลับจะยิ่งเข้าไปซ้ำเติมด้วยซ้ำ
และสิ่งสำคัญที่สุดคือ จะปล่อยชูกวงมีเดียไว้ไม่ได้อีกอย่างเด็ดขาด
การร่วมมือกันครั้งนี้ระหว่างชูกวงมีเดียกับสถานีโทรทัศน์กลางยิ่งเป็นการตอกย้ำชื่อเสียงบริษัทบันเทิงอันดับหนึ่งของประเทศจีน
“ครับประธานลั่ว” เลขาพยักหน้า “ทุกอย่างเป็นไปตามคำสั่งของท่านประธานครับ”
“เริ่มจากซังเย่าจือก่อน” ลั่วเหวินปินพูด “เขาไม่มีข่าวเสียหาย พวกเราก็สร้างข่าวให้เขา อินเตอร์เน็ตยุคนี้ แค่มีภาพตัดต่อก็ทำให้คนจำนวนมากเชื่อได้”
ชาวเน็ตสายเผือกไม่เหมือนพวกแฟนคลับที่จะไปขุดถึงต้นตอเพื่อตามหาหลักฐาน
ขอแค่ข่าวลือใหญ่พอก็ไม่มีใครสนใจความจริงแล้ว
ผู้บริหารระดับสูงของชูกวงมีเดียสูญหาย ทางนั้นย่อมไม่มีใครมีเวลาสนใจพวกข่าวลือแน่นอน
ซังเย่าจือเป็นดาราคนสำคัญของชูกวงมีเดีย ต้องกำจัดก่อน
เดิมทีลั่วเหวินปินอยากไปเสนอให้ซังเย่าจือย้ายสังกัดก่อน อย่างไรเสียดาราที่เพียบพร้อมไปด้วยศักยภาพและหน้าตาในวงการบันเทิงก็มีอยู่ไม่มากแล้ว
แต่ซังเย่าจือไม่แม้แต่จะให้คนของเขาเข้าพบ ปฏิเสธทันที
ในเมื่อครอบครองไม่ได้ก็ทำได้แค่ทำลาย
“เข้าใจแล้วครับ”
เลขาออกจากห้องทำงานไปจัดการ
…
ในเวลาเดียวกัน ณ มหาวิทยาลัยนอร์ตัน
ช่วงหลายวันมานี้รองอธิการบดีไปป้วนเปี้ยนอยู่แถวคณะเล่นแร่แปรธาตุและคณะดาราศาสตร์
ถึงแม้เขาจะไม่เป็นวิชาเล่นแร่แปรธาตุ แต่ก็เคยหานักศึกษามาให้นอร์ตันไม่น้อย ย่อมมีความรู้ในเชิงทฤษฎีอยู่บ้าง
คณะระดับดับเบิลเอส (SS) สองคณะนี้ไม่ได้รับนักศึกษาใหม่มานานมากแล้ว รองอธิการบดีก็กลุ้มใจมาก
คณะเล่นแร่แปรธาตุยังพอไหว แต่คนที่มีพรสวรรค์ในการทำนายมีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย
พอรองอธิการบดีออกมาจากคณะดาราศาสตร์ก็เตรียมไปป้วนเปี้ยนแถวคณะเครื่องกลของเวินทิงหลานต่อ
หัวหน้าฝ่ายรับนักศึกษารีบเดินเข้ามาในเวลานี้ ร้อนรนหายใจแทบไม่ทัน “ท่านรองอธิการ เกิดเรื่องแล้ว เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ!”
“เรื่องอะไร” รองอธิการบดีรินน้ำให้เขา รีบพูดปลอบ “ใจเย็นๆ ค่อยๆ พูด”
“ท่านรู้เรื่องการแข่งรอบชิงชนะเลิศของไอเอสซีใช่ไหมครับ เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่นั่น มีคนถูกฝังเยอะเลยครับ” หัวหน้าฝ่ายรับนักศึกษาหายใจหอบ “นักเรียนที่พวกเราให้ความสนใจหลายคนถูกฝังอยู่ในศูนย์กลางที่ระเบิดครับ!”
รองอธิการบดีสีหน้าเปลี่ยน “นักเรียนของประเทศจีนก็อยู่ด้วยไหม”
“ครับ อิ๋งจื่อจินก็อยู่ด้วย” หัวหน้าฝ่ายรับนักศึกษาเช็ดเหงื่อ “โดรนไปถึงช้า จับภาพได้แค่ว่าเธอถูกฝังอยู่ด้านล่าง”
คราวนี้รองอธิการบดีเริ่มกระวนกระวาย แทบอยากไปเมืองมหาวิทยาลัยในยุโรปทันที
แต่เขารู้ว่าเขาออกไปไม่ได้เด็ดขาด
มีคนจำนวนมากจับตาดูเขาอยู่
พูดให้ถูกคือไม่ได้จับตาดูเขา แต่จับตาดูเทพพยากรณ์
ถึงแม้จนถึงตอนนี้อิทธิพลของฝ่ายศัตรูจะยังสืบไม่ได้ว่าเทพพยากรณ์คือใคร แต่ก็ไม่เคยล้มเลิกความตั้งใจ
มหาวิทยาลัยนอร์ตันกับตระกูลลอเรนท์ล้วนเป็นเป้าหมายที่พวกเขาให้ความสำคัญ
และพวกอิทธิพลเหล่านี้ต่างก็ยอมฆ่าคนจำนวนมากดีกว่าปล่อยให้รอดไปสักคน
ถ้าเขากล้าไปในที่เกิดเหตุตอนนี้ อิ๋งจื่อจินจะถูกหมายหัวว่าเป็น ‘ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นเทพพยากรณ์’ ทันที
แบบนั้นจะยิ่งอันตราย
“รีบส่งทีมกู้ภัยของมหาวิทยาลัยไปเดี๋ยวนี้! เอาทีมที่ยอดเยี่ยมที่สุด” รองอธิการบดีตะโกน “ไปช่วย! ต้องช่วยออกมาทั้งหมด!”
“ผมอนุญาตให้พวกคุณใช้อุปกรณ์ทุกอย่าง!”
มือของเขากำลังสั่น
ห้ามเกิดอะไรขึ้นกับอิ๋งจื่อจินเด็ดขาด
ถ้าเธอเป็นอะไรไป ยังไม่ต้องพูดถึงตอนนอร์ตันกลับมา แม้แต่ตัวเขาเองก็จะไม่ให้อภัยตัวเอง
หัวหน้าฝ่ายรับนักศึกษาสูดลมหายใจเข้าลึก “ส่งคนไปแล้วครับ แต่เวลากระชั้นเกินไป ต่อให้ใช้เครื่องบินลำใหม่ล่าสุดก็ต้องใช้เวลาสองชั่วโมงอยู่ดีครับ”
เวลาสองชั่วโมงเกิดเรื่องได้มากมาย
มหาวิทยาลัยนอร์ตันอยู่ห่างจากเมืองมหาวิทยาลัยของยุโรปถึงสี่พันกิโลเมตร
ถ้าไม่คิดค้นเครื่องบินรุ่นใหม่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไปถึงในเวลาอันสั้น
“ศาสตราจารย์โยเซฟ ตัดขาดอินเตอร์เน็ตที่คณะเครื่องกลของพวกคุณใช้โอนถ่ายข้อมูลกับโลกภายนอก” รองอธิการบดีนึกเรื่องสำคัญที่สุดขึ้นมาได้จึงรีบโทรศัพท์ “อย่าให้นักศึกษาเวินรู้เรื่องเหตุการณ์ระเบิด”
ด้วยนิสัยของเวินทิงหลาน ถ้ารู้ข่าวนี้จะต้องคลั่งแน่นอน
“เกรงว่าจะสายไปแล้วครับ” เห็นได้ชัดว่าศาตราจารย์โยเซฟที่อยู่ปลายสายก็รู้เรื่องที่ข้างนอกเกิดเหตุร้ายขึ้นแล้ว เขายิ้มเศร้า “ช่วงสามวันนี้ทิงหลานดูถ่ายทอดสด และก็ให้ความสนใจข่าวอื่นๆ อะไรที่เขาควรได้รู้ก็รู้หมดแล้วครับ ตัดไปก็ไม่มีประโยชน์”
มหาวิทยาลัยนอร์ตันมีระบบอินเตอร์เน็ตภายในและภายนอก
อินเตอร์เน็ตภายในจะเชื่อมต่อกับข้อมูลที่เป็นความลับทั้งหมดของมหาวิทยาลัยนอร์ตัน เช่น วิชาเล่นแร่แปรธาตุ วิชาดาราศาสตร์ อาวุธเทคโนโลยีขั้นสูง เป็นต้น
หากไม่มีรหัสนักศึกษาจะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้
เพื่อป้องกันการโจมตีจากฝ่ายศัตรู อินเตอร์เน็ตภายนอกพร้อมที่จะถูกปิดตลอดเวลา
“งั้นก็ขวางไว้” รองอธิการบดีตึงเครียดแบบที่เห็นได้ยาก “บอกเขาว่าพี่สาวของเขาไม่มีทางอยากเห็นเขาเป็นอะไรไป”
“ถ้าเขาอยากทำเพื่อพี่สาวจริง งั้นก็เรียนให้จบมหาวิทยาลัยนอร์ตันแล้วค่อยออกไป ไม่อย่างนั้นมีแต่จะออกไปเป็นเป้าให้คนอื่นโจมตี”
เขาไม่รู้ว่าเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้พุ่งเป้ามาที่อิ๋งจื่อจินหรือเปล่า
เรื่องเดียวที่แน่ใจได้คือ พุ่งเป้าไปที่เด็กอัจฉริยะเหล่านั้นแน่นอน
อิ๋งจื่อจินก็แค่อยู่ในนั้นพอดี
สมองของรองอธิการบดีไล่หารายชื่ออิทธิพลฝ่ายศัตรูทั้งหมด แต่ก็ไม่เจออิทธิพลที่สอดคล้องกับเหตุก่อการร้ายครั้งนี้
เป็นฝ่ายไหนกันแน่ที่ต้องการเล่นงานคนจำนวนมากขนาดนั้น
“พาผมไปที่ห้องสั่งการของมหาวิทยาลัย” รองอธิการบดีสวมเสื้อผ้าแล้วรีบเดินออก “ผมจะสั่งการจากทางไกล”
…
ทางด้านเมืองมหาวิทยาลัยของยุโรป ในที่สุดการระเบิดต่อเนื่องสองชั่วโมงก็หยุดลง
ทีมกู้ภัยออกปฏิบัติการ
และเรื่องโชคดีก็คือ ขอบเขตพื้นที่ที่ถูกระเบิดไม่ได้กว้างมาก แต่คนที่ได้รับบาดเจ็บก็มีมากพอสมควร
ทีมกู้ภัยแบ่งออกเป็นสามกลุ่มเพื่อเข้าช่วยเหลือตามลำดับ
ไม่นานนักเรียนกับศาสตราจารย์ที่หนีออกมาไม่ทันจนถูกฝังก็ถูกหามออกมาจำนวนมาก นอนบนเปลหาม ถูกส่งออกไปนอกเมืองทันที
ยอดคนตายน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ จนถึงตอนนี้มีทั้งหมดเก้าคน
“หัวหน้าครับ ในรายชื่อยังขาดอีกสิบกว่าคน” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งพูดขึ้น “พวกเราตรวจสอบพื้นที่นี้แล้ว ยอดคนตายไม่น่าจะเพิ่มแล้วครับ”
“เร่งจัดการ” หัวหน้าทีมกู้ภัยเช็ดเหงื่อ “ตายหนึ่งคนถือเป็นการสูญเสียระดับโลก”
คนที่ถูกฝังอยู่ข้างใต้คือใคร
อัจฉริยะของแต่ละประเทศ
นี่เป็นการก่อการร้าย
พวกลูกน้องก็ไม่ได้แอบอู้ บ้างก็เร่งตรวจหา บ้างก็ช่วยเปิดทาง
เวลานี้ได้เกิดควันสีขาวจางๆ
แขนของเจ้าหน้าที่กู้ภัยคนหนึ่งถูกกัดกร่อน ชุดป้องกันสีขาวกลายเป็นสีดำไหม้
“มีควันพิษ!” พอเห็นแบบนี้หัวหน้าทีมกู้ภัยก็สีหน้าเปลี่ยน “ถอย รีบถอย!”
แต่ไหนแต่ไรมาเหตุการณ์ระเบิดมักจะมีควันพิษตามมาด้วยเสมอ พวกเขาถึงต้องสวมชุดป้องกัน
สวมชุดป้องกันระดับเอเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิด
แต่ตอนนี้ ภายใต้ควันสีขาวที่ไม่ทราบชนิด ชุดป้องกันระดับเอได้ถูกกัดกร่อนไปอย่างรวดเร็ว
หัวหน้าทีมกู้ภัยคาดการณ์ว่า ชุดกู้ภัยอาจถูกกัดกร่อนได้ภายในเวลาไม่กี่นาที
นี่เป็นเรื่องที่พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนในชีวิตที่ทำงานกู้ภัยมา!
“แต่หัวหน้าครับยังมีอีกหลายคน” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งถอยหลังไปหลายก้าว “ยังช่วยคนที่อยู่ในรายชื่อออกมาได้ไม่หมดเลยครับ!”
“คุณดูให้ดี ควันพิษมันออกมาจากในซากตึกพวกนี้” หัวหน้าทีมกู้ภัยสูดลมหายใจเข้าลึก “คนที่อยู่ในนั้นยังรอดได้อีกเหรอ”
เขาออกคำสั่งอีกครั้ง “ถอย ส่งผู้บาดเจ็บคนอื่นออกไปก่อน”
…
นอกเมืองมหาวิทยาลัย
ผู้เฒ่าจงมองคนที่ถูกหามออกมา แต่กลับไม่มีอิ๋งจื่อจิน
เขาเครียดมาก เริ่มจะไม่ไหวแล้ว
ตอนเกิดระเบิด เขาอยู่ระหว่างทางไปโรงแรมที่ฟู่อวิ๋นเซินจองไว้
เนื่องจากอยู่ไกล จึงถูกตำรวจพาออกจากเมืองทันที
“ทะ เทียนลี่ว์” ผู้เฒ่าจงจับแขนของอิ๋งเทียนลี่ว์ พูดเสียงสั่น “จื่อจิน จะไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
“ไม่หรอกครับ ไม่มีทาง” อิ๋งเทียนลี่ว์พยายามใจเย็น “คุณตา น้องต้องไม่เป็นไรแน่นอน ต้องเชื่อในตัวน้องนะครับ ทีมกู้ภัยอยู่ในนั้น น้องต้องออกมาแน่”
“ไม่ได้ ตาไม่วางใจ” ร่างกายผู้เฒ่าจงเริ่มโงนเงน ผลักอิ๋งเทียนลี่ว์ออก “ตาจะเข้าไป ตาจะเข้าไปช่วยจื่อจินด้วยตัวเอง!”
อิ๋งเทียนลี่ว์จับตัวผู้เฒ่าจงไว้ อดยิ้มเศร้าไม่ได้
เมื่อครู่เขาจะเข้าไป แต่ถูกผู้เฒ่าจงห้ามไว้
ตอนนี้กลับกลายเป็นผู้เฒ่าจงจะเข้าไปเสียเอง
แต่พวกเขาก็ช่วยอะไรไม่ได้ เข้าไปก็มีแต่จะสร้างความวุ่นวาย
อิ๋งเทียนลี่ว์ก้าวเดินไป อยากดูสถานการณ์ภายในเมือง
แต่กลับเห็นทีมกู้ภัยรีบวิ่งออกมา
พวกเขาวางเปลหามสิบกว่าเปลลงบนพื้น บรรดานักเรียนกับศาสตราจารย์ที่อยู่บนเปลหามต่างยังไม่ได้สติ
อิ๋งเทียนลี่ว์เดินเข้าไปดู ยังคงไม่เห็นอิ๋งจื่อจิน
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป พูดเสียงขรึม “ช่วยหมดแล้วเหรอครับ น้องสาวของผมยังไม่ออกมาเลยนะครับ! ทำไมพวกคุณออกมาแล้ว”
“ในนั้นเกิดควันพิษครับ” หัวหน้าทีมกู้ภัยถอดชุดป้องกันที่กลายเป็นสีดำทั้งหมด ในที่สุดก็หายใจได้สะดวก “มองเห็นทางไม่ชัดแล้วครับ เข้าไปช่วยไม่ได้”
ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาหนีออกมาได้เร็ว ชุดป้องกันคงเอาไม่อยู่
อิ๋งเทียนลี่ว์ตกใจ แทบไม่อยากเชื่อ “ว่าไงนะครับ”
ยังมีควันพิษอีกเหรอ
ผู้เฒ่าจงก็ได้ยินแล้ว เข่าแทบทรุด น้ำตานองหน้า “ขอร้องล่ะ ผมขอร้อง ช่วยหลานสาวผมด้วย เธออยู่ในนั้น เธอยังมีชีวิตอยู่แน่นอน พวกคุณรีบเข้าไปช่วยเธอหน่อย!”
“พวกคุณอยากได้อะไรผมจะให้ ขอแค่ช่วยเธอออกมาได้”
ชีวิตนี้เขาไม่เคยเจอเหตุการณ์อะไรบ้าง
ผู้เฒ่าจงเป็นคนกล้ามาแต่ไหนแต่ไร ไม่มีทางกลัว
แต่เวลานี้เขากลับรู้สึกกลัวจริงๆ
เขาจินตนาการไม่ออกเลยว่า ถ้าอิ๋งจื่อจินเป็นอะไรไปเขาจะทำอย่างไร
“ท่านผู้เฒ่า พวกเรารู้ว่าท่านผู้เฒ่าเป็นห่วงมาก แต่พวกเราก็จนปัญญาครับ” หัวหน้าทีมกู้ภัยใจเย็น จำต้องพูดออกไป “ตอนนี้ควันพิษรุนแรงมาก ท่านผู้เฒ่าก็เห็นแล้ว ชุดป้องกันเอาไม่อยู่ เข้าไปก็มีแต่ไปตายครับ”
“อีกทั้ง…”
ชะงักเล็กน้อย สุดท้ายก็ไม่ได้พูดคำที่เหลือออกมา
ควันพิษแบบนี้ เครื่องตรวจตรวจไม่พบว่าคืออะไร ขนาดใส่ชุดป้องกันยังเอาอยู่แค่ห้านาที
แล้วนับประสาอะไรกับผิวหนังคนเรา จะทนได้นานสักแค่ไหน
เกรงว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะหมดหนทางรอดแล้ว
เมืองมหาวิทยาลัยมีมาตรการป้องกันเหตุร้าย แต่การระเบิดครั้งนี้พวกเขาไม่ได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้า
ตอนนี้คนส่วนใหญ่ถูกช่วยออกมาได้แล้ว อีกไม่กี่คนที่เหลือทำได้เพียงพลีชีพ
ร่างกายของผู้เฒ่าจงโงนเงน ในที่สุดก็ทนรับไม่ไหว หมดสติไป
“คุณตา!” อิ๋งเทียนลี่ว์ตกใจ รีบเข้าไปประคอง
มีหมอเข้ามาทันที หามผู้เฒ่าจงไปนอนบนเปลด้านข้าง
รอบตัวมีเสียงร้องไห้ดังระงม ทั้งยังมีคนกรีดร้อง
หลังจากจั่วหลีปลอบพวกนักเรียนเสร็จก็เดินเข้ามา กัดฟันพูด “เป็นควันพิษอะไรครับ”
หัวหน้าทีมกู้ภัยส่ายหน้า “ตรวจไม่พบครับ”
“เอาชุดป้องกันมาให้ผมครับ” อิ๋งเทียนลี่ว์กัดฟัน “เอามาหลายๆ ชุดหน่อย พอชุดพังผมก็จะเปลี่ยน พวกคุณไม่ไปหาเดี๋ยวผมเข้าไปหาเอง”
“เป็นไปไม่ได้ครับ” หัวหน้าทีมกู้ภัยมีสีหน้าเคร่งเครียด บอกปฏิเสธโดยไม่ต้องคิด “คุณไม่มีเวลาเปลี่ยนหรอกครับ ตอนพวกเราออกมาก็ลองทดสอบแล้ว”
“แค่ผิวหนังโผล่ออกมาในเสี้ยววินาทีพิษก็เข้าสู่ร่างกายแล้วครับ”
“ผมไม่กลัว” อิ๋งเทียนลี่ว์ไม่ถอย เขาจ้องหัวหน้าทีมกู้ภัย “พวกคุณกลัวต้องรับผิดชอบใช่ไหมครับ เอาแบบนี้ ถ้าผมตาย ก็เป็นเพราะผมรนหาที่ตายเอง”
พูดมาถึงขนาดนี้แล้ว หัวหน้าทีมกู้ภัยก็ถูกบีบจนไม่มีทางเลือก
เขาหันไปสั่งลูกน้อง “เอาชุดป้องกันระดับเอให้เขา”
“เดธ”
เวลานี้ได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
ทุกคนต่างอึ้ง
อิ๋งเทียนลี่ว์รับชุดป้องกันมาแล้วหันไปมอง
ตอนที่เห็นว่าเจ้าของเสียงคือเวินเฟิงเหมียน เขาก็อดอึ้งไม่ได้ “คุณลุง?”
“นี่คือควันพิษเดธ มันจะทำลายปอด กระเพาะ และอวัยวะทั้งหมด” สีหน้าของเวินเฟิงเหมียนกลับดูใจเย็นผิดปกติ เขาพูดอย่างชัดเจน “ชุดป้องกันระดับเอก็เอาไม่อยู่ ผมรู้ว่าพวกคุณมีชุดป้องกันระดับเอส”
“เอาชุดป้องกันระดับเอสให้ผม ผมจะเข้าไป ไม่มีใครรู้จักควันพิษชนิดนี้ดีเท่าผมอีกแล้ว”