คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 422 ตระกูลลอเรนท์ไม่พอ ต้องวีนัสกรุ๊ปด้วย

ตอนที่ 422 ตระกูลลอเรนท์ไม่พอ ต้องวีนัสกรุ๊ปด้วย

แต่เธอก็ไม่เห็นอะไรนอกจากต้นไม้

จงมั่นหวาข่มความหงุดหงิดใจ เรียกอีกครั้ง “เสี่ยวเซวียน”

“คะ?” อิ๋งเย่ว์เซวียนสะดุ้งได้สติกลับมา เธอเม้มริมฝีปาก “ขอโทษค่ะคุณแม่ เมื่อกี้หนูเหม่อไปหน่อย”

“จะเข้าสนามสอบแล้วนะ” จงมั่นหวาทำเสียงดุเล็กน้อย “อย่าคิดอะไรฟุ้งซ่าน ต้องสอบให้ดีเท่านั้นถึงจะมีอนาคต”

อิ๋งเย่ว์เซวียนบังคับให้ตัวเองละสายตากลับมา แต่มือกลับสั่น ฝ่ามือมีเหงื่อออก

ดูเหมือนเธอจะเห็นอิ๋งจื่อจิน

แต่จะเป็นไปได้ได้อย่างไร

ไม่มีทาง

เธอต้องตาฝาดไปเองแน่นอน

อิ๋งจื่อจินยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลที่ยุโรป ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจกับให้กลูโคสถึงจะประคองชีวิตได้ แล้วจะมาเข้าร่วมการสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้อย่างไร

ไม่แน่อาจตายไปแล้วด้วยซ้ำ

อันดับหนึ่งของประเทศต้องเป็นเธอเท่านั้น

ไม่มีทางเป็นคนอื่น

เธอไม่ยอม

เสียงออดดังขึ้นในเวลานี้

อิ๋งเย่ว์เซวียนจิกฝ่ามือ ทำให้ตัวเองใจเย็นลง “หนูเข้าแล้วนะคะคุณแม่”

“ไปเถอะ” จงมั่นหวาพยักหน้า “แม่เป็นกำลังใจให้นะ”

อีกด้านหนึ่ง

ตรงหัวมุมถนน เป็นจุดที่พ้นบริเวณของกล้องวงจรปิด

ฟู่อวิ๋นเซินหยิบกระเป๋าปากกาที่เตรียมไว้ออกมา รวมถึงบัตรประจำตัวเข้าสอบ วางใส่มืออิ๋งจื่อจิน “พยายามอย่าให้คนเห็น”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “ฉันรู้”

เธอมีไหวพริบในการสังเกตดีมาก

ไม่อย่างนั้นเมื่อหลายร้อยปีก่อนตอนอยู่ยุโรปเธอคงหนีไม่พ้นการไล่ฆ่าหลายครั้ง

“สู้ๆ นะบอส!” เนี่ยเฉาให้กำลังใจอยู่ข้างๆ เขาตื่นเต้นมาก “ไว้บอสมาตี้ตูเมื่อไรผมจะให้ทางบริษัทถ่ายละครน้ำเน่าให้บอสดูเยอะๆ”

เดิมทีเขามาไม่ได้ ภาระหนักของตระกูลเนี่ยตกมาอยู่กับเขา

แต่พอผู้เฒ่าเนี่ยรู้ว่าเขาจะมาส่งอิ๋งจื่อจินเข้าสอบมหาวิทยาลัยจึงตั้งใจอนุญาตให้เขาหยุดโดยเฉพาะ

เนี่ยเฉาเศร้ามาก แต่ก็จำต้องยอมรับความจริง

อิ๋งจื่อจินเหมือนหลานสาวของผู้เฒ่าเนี่ยมากกว่าเขา

อิ๋งจื่อจินเหลือบมองเขา “งั้นฉันจะรอ”

พอนักเรียนทั้งหมดเข้าไปแล้วอิ๋งจื่อจินถึงเข้าไป

สองมือของฟู่อวิ๋นเซินล้วงกระเป๋ากางเกง มองส่งเธอเข้าไปด้วยสายตาอ่อนโยน

“คุณชายเจ็ด” เนี่ยเฉาเอามือตบบ่าฟู่อวิ๋นเซิน แอบอิจฉานิดหน่อย “มาส่งแฟนสาวสอบเข้ามหาวิทยาลัย ความรู้สึกแบบนี้ดูแปลกใหม่ใช่ไหมล่ะ”

“อืม” สายตาของฟู่อวิ๋นเซินเหม่อลอย “เป็นความรู้สึกแบบ ‘ผู้หญิงของผมเริ่มโตเป็นสาวแล้ว’”

เนี่ยเฉา “…”

แฟนหนุ่มอารมณ์พ่อสินะ

เนี่ยเฉาลังเล ถูมือ ดวงตาเป็นประกาย “คุณชายเจ็ด นายว่าแฟนในอนาคตของฉันจะยังเพิ่งอยู่มอต้นหรือเปล่า ไม่แน่วันหน้าฉันก็จะได้สัมผัสความรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน”

ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบมองเนี่ยเฉา ทันใดนั้นเขาก็ยกมุมปาก พูดเสียงกวน “อัดเสียงไว้แล้ว ฉันจะส่งให้พี่ใหญ่กับปู่ของนายฟัง”

เนี่ยเฉา “?”

ภายในสนามสอบ

ตอนอิ๋งจื่อจินเข้าไป นักเรียนคนอื่นนั่งประจำที่กันหมดแล้ว

มีหลายคนเหลือบมองเธอ แต่ก็ละสายตาอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าจำเธอไม่ได้

มีแค่นักเรียนของคลาสเด็กอัจฉริยะที่ถูกจัดให้สอบในสนามสอบเดียวกัน นักเรียนชิงจื้อที่เหลือจะถูกกระจายไปตามสนามสอบพื้นที่ต่างๆ

เธอถูกจัดให้มาอยู่ที่นี่พอดี ไม่มีนักเรียนชิงจื้อที่อยู่สนามสอบเดียวกัน

อิ๋งจื่อจินคาดผ้าปิดปากแน่น นั่งลงแล้วจัดวางเครื่องเขียนให้เรียบร้อย

เซ็นชื่อก่อน อาจารย์คุมสอบเอาใบรายชื่อให้เซ็นโดยเริ่มจากโต๊ะแรก

เมื่อมาถึงอิ๋งจื่อจิน เนื่องจากต้องยืนยันตัวตนว่าไม่ได้มีพฤติกรรมให้คนมาสอบแทน จึงต้องถอดผ้าปิดปากออก

อิ๋งจื่อจินดึงผ้าปิดปากออก

ใบหน้าของเธอแยกง่าย โดดเด่นเกินไป

อาจารย์คุมสอบจำเธอได้ในทันที ตะลึงไปชั่วขณะ “เธอคืออิ๋ง…”

อิ๋งจื่อจินส่ายหน้าให้เธอ นิ้วแตะที่ริมฝีปากเบาๆ เพื่อบอกว่าอย่ากระโตกกระตาก

อาจารย์คุมสอบกลืนคำพูดได้ทันเวลา พยักหน้าอย่างเกร็งๆ

พอให้เธอเซ็นชื่อเสร็จก็เดินอึ้งๆ ไปยังโต๊ะถัดไป

อิ๋งจื่อจินคาดผ้าปิดปากอีกครั้ง เธอก้มหน้า

เสียงออดเตรียมตัวดังขึ้น อาจารย์คุมสอบสองคนเริ่มแจกข้อสอบ

อิ๋งจื่อจินกรอกข้อมูลส่วนตัวเสร็จก็กวาดตามองโจทย์เรียงความ

เธอนวดข้อมือตัวเอง ถอนหายใจเบาๆ

เขียนก็เขียน

ยังไงซะก็มีแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว

หวังว่าต่อไปเธอจะไม่ต้องมาเจอข้อสอบเขียนเรียงความที่ขัดใจมนุษย์อีกแล้ว

เวลาห้าโมงครึ่งของวันที่แปดมิถุนายน สิ้นสุดการทำข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการ

อิ๋งจื่อจินดูสะดุดตามากท่ามกลางพวกนักเรียนที่วิ่งออกไปอย่างบ้าคลั่ง

เธอเดินช้ามาก ถึงขั้นที่เอื่อยเฉื่อย

ฟู่อวิ๋นเซินรออยู่ด้านนอก

รูปลักษณ์ของเขาโดดเด่นกว่าใครเหมือนกัน เขาจึงคาดผ้าปิดปาก

แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ รูปร่างที่สมบูรณ์แบบของเขาก็ยังชวนให้คนจำนวนมากเหลียวมองบ่อยครั้ง

“เป็นไงบ้าง” ฟู่อวิ๋นเซินกอดเธอ มือโอบเอวเธอไว้ “ข้อสอบไม่ยากใช่ไหม”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเบาๆ “ระดับเด็กประถม”

ฟู่อวิ๋นเซินลูบหัวเธอพลางพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “กลับบ้านกินข้าว คุณตากับคุณลุงรออยู่”

“ฉันไม่อยากเดิน”

“ขึ้นหลังสิ”

อิ๋งจื่อจินไม่ปฏิเสธ เธอขึ้นหลังของเขา

แขนของฟู่อวิ๋นเซินล็อกขาของเธอไว้แน่น ดวงตาหลุบลง ยิ้มออกมา

ยังดีที่เด็กน้อยของเขาอ้อนแค่เขาคนเดียว

ดุกับคนนอกมาก

เดิมทีอิ๋งจื่อจินอยากหลับสักงีบ แต่โทรศัพท์มือถือกลับดังขึ้น

เธอเหลือบมองแล้วกดรับ

เกอร์เวนโทรมา

ช่วงที่เกิดเหตุระเบิด เกอร์เวนก็นอนไม่หลับหลายคืน เฝ้าอยู่ที่โรงพยาบาลตลอด

จนกระทั่งอิ๋งจื่อจินพ้นขีดอันตรายอย่างสิ้นเชิง เขาถึงกลับห้องทดลอง

“อิ๋ง ทางห้องทดลองตัดสินใจจัดประชุมรายงานโปรเจ็กต์ยานอวกาศข้ามจักรวาลในวันพรุ่งนี้” เกอร์เวนถาม “คุณมีเวลามาเข้าร่วมไหม”

อิ๋งจื่อจินครุ่นคิดชั่วครู่ สุดท้ายก็ปฏิเสธ “ไม่ดีกว่าค่ะศาสตราจารย์ ตอนนี้ไม่เหมาะที่ฉันจะออกไป เกรงว่าจะสร้างความเดือดร้อนให้ศาสตราจารย์มากกว่าค่ะ”

พวกคนบาดเจ็บที่ประสบเคราะห์สูดดมควันพิษเหมือนกับเธอ ถึงแม้มหาวิทยาลัยนอร์ตันจะส่งยาถอนพิษมาให้แล้ว แต่จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่ฟื้น

ถ้ามีคนรู้เรื่องที่เธอฟื้นขึ้นมาก่อนมากเกินไป จะไม่ดีต่อสถานการณ์

“ได้ งั้นพักผ่อนให้สบายนะ ดูแลตัวเองให้ดีๆ” เกอร์เวนถอนหายใจ “นี่เป็นโปรเจ็กต์ระยะยาว คุณจะมาเมื่อไรก็ได้”

ยุโรป

ทางด้านตระกูลแพชช์ก็ได้ทราบข่าวเรื่องการจัดประชุมรายงานโปรเจ็กต์

“นายท่านครับ โชคดีที่นายท่านฉลาดหลักแหลม ถอนเงินทุนออกมาก่อน ไม่อย่างนั้นพวกเราได้ถูกฉุดลงต่ำไปด้วยแน่ครับ” คนดูแลยิ้ม “เกอร์เวนยังจะกล้าเปิดเผยโปรเจ็กต์ของตัวเองอีกก็ไม่รู้ว่าจะถูกคนหยามเหยียดเท่าไร”

นายใหญ่ตระกูลแพชช์อายุเกินห้าสิบแล้ว ยังคงดูมีบารมี ใบหน้ายังพอเห็นเค้าความหล่อสมัยหนุ่มๆ

ร่างกายของเขาแข็งแรงไม่แพ้คนหนุ่ม

ชายวัยกลางคนหรี่ตาลงเล็กน้อย “พวกเราจะไปงานประชุมครั้งนี้ด้วย”

คนดูแลตะลึง “นายท่าน”

“กลัวว่าเกอร์เวนจะหาคนมาลงทุนได้จริงๆ แล้วน่ะสิ” ชายวัยกลางคนพูด “พวกเราจะไปข่มนักลงทุนที่ไม่รู้จักดูตาม้าตาเรือพวกนั้น”

“พอถึงตอนนั้นจะให้พวกเขาถอนทุนในงานทันที”

พวกเขาบรรลุความร่วมมือกับตระกูลเทเลอร์แล้ว ต่างลงทุนในห้องทดลองของมานูเอล

วงการวิจัยวิทยาศาสตร์ต่างก็รู้ว่ามานูเอลกับเกอร์เวนเทียบกันไม่ได้

มานูเอลคิดค้นเครื่องพ่นรูปตัวแอลสำหรับรักษาบาดแผลออกมาได้แล้ว แต่ช่วงสองปีมานี้เกอร์เวนกลับไม่มีผลงานอะไรเลย

ใครกันแน่ที่ก้าวหน้ากว่า แค่ดูก็รู้

“จากนั้นก็ทำตามความต้องการของพวกเกอร์เวน” ชายวัยกลางคนพูดต่อ “กระจายข่าวเรื่องงานประชุมโปรเจ็กต์ คนสนับสนุนเขาก็จะลดน้อยลงเรื่อยๆ”

เกอร์เวนถูกยกย่องว่าเป็นนักฟิสิกส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดถัดจากไซมอน แบรนด์

ในเมื่อพวกเขาตัดสินใจยืนอยู่ฝั่งมานูเอลก็ย่อมต้องช่วยข่มเกอร์เวน

ก่อนอื่นต้องลดระดับชื่อเสียงกับความน่าเชื่อถือของเกอร์เวน

คนดูแลเข้าใจแล้ว “ครับนายท่าน”

เขารีบออกไปจัดการ

ไม่นานบนแพลตฟอร์มโซเชียลขนาดใหญ่ของยุโรปก็ปรากฏข่าวเกี่ยวกับยานอวกาศข้ามจักรวาลภายใต้การดันกระแสของตระกูลแพชช์

ชาวจีนที่รู้จักเกอร์เวนมีน้อยมาก แต่คนยุโรปส่วนใหญ่รู้จัก

เกิดเสียงฮือฮาในเน็ตทันที

[ศาสตราจารย์เกอร์เวนสุดยอดเลย! ยานอวกาศข้ามจักรวาล!]

[คุณพระ ฉันเคยเห็นยานบินแบบนี้แค่ในหนัง ก็มีแค่ศาสตราจารย์เกอร์เวนเท่านั้นแหละที่พูดออกมาได้]

แต่ที่มากกว่าคือเสียงคัดค้านและดูถูก

[ฉันยอมรับนะว่าเกอร์เวนเป็นคนเก่ง แต่นี่มันจะเพ้อเจ้อเกินไปหรือเปล่า ยานอวกาศข้ามจักรวาลเหรอ หึๆ ฝันกลางวันเหรอ]

[ยังไม่เข้าใจอีกเหรอว่าทำไมตระกูลแพชช์ถึงได้ถอนเงินทุน เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะโปรเจ็กต์นี้มันเลื่อนลอยเกินไป จึ๊ ฉันแนะนำให้ทุกคนไปดูหนังแนวอวกาศจะดีกว่านะ อยากได้ยานอวกาศมากแค่ไหนก็มีหมด]

[ฉันอยากรอดูว่าจะมีนักลงทุนคนไหนที่ยังจะโง่มาลงทุนให้โปรเจ็กต์นี้อีก มีเวลาเอาเงินไปเผาทิ้งในโปรเจ็กต์ที่ดูไร้แก่นสารแบบนี้ ไม่สู้ไปทำสาธารณประโยชน์ รู้ไหมว่าบนโลกนี้ยังมีคนตกยากที่กำลังลำบากอยู่เท่าไร]

[อ้อจริงสิ พอตระกูลแพชช์ถอนเงินทุนน่าจะไม่มีนักลงทุนคนไหนตาถั่วไปลงทุนอีก แต่ก็มีนักลงทุนอยู่สองคนที่ไม่มีทางกลัวตระกูลแพชช์ ก็คือตระกูลลอเรนท์กับวีนัสกรุ๊ป แต่จะชวนมาได้เหรอ(ยิ้ม)(ยิ้ม)]

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset