ตอนที่ 430 ความน่ากลัวที่มีเทพอิ๋งค้ำชู
คนที่เข้ามาเป็นชายหนุ่มผมสีบลอนด์ทอง
ดวงตาเว้าลึก จมูกโด่ง หล่อแบบคมชัด
นี่คือแอนโทนี่ ผู้บัญชาการทางอากาศของไอบีไอ
“นายมาหาผู้บัญชาการเหรอ” สายตาของลิซิเนียสกลับมาที่คอมพิวเตอร์ “เขาเพิ่งออกไป”
“ฉันเห็นแล้ว” แอนโทนี่เดินเข้ามา นั่งไขว่ห้างบนโต๊ะ “ฉันก็แค่สงสัยอยู่เรื่องหนึ่ง อยากถามนายหน่อย”
ลิซิเนียสไม่ได้เงยหน้าขึ้น “เรื่องอะไร”
แอนโทนี่กำมือวางที่ริมฝีปาก พูดด้วยเสียงที่เบามาก “นายไปช่วยครั้งนี้ ได้เห็นหน้าแฟนผู้บัญชาการแล้วใช่ไหม เร็วเข้า รีบเล่ามาว่าหน้าตาเป็นไง”
เขาสงสัยจริงๆ
ว่าผู้หญิงแบบไหนกันที่เอาผู้บัญชาการของพวกเขาที่ไม่เข้าใกล้คนต่างเพศจนอยู่หมัด
ถึงแม้พนักงานเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ของไอบีไอจะไม่เคยเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของฟู่อวิ๋นเซิน แต่ต่างก็เคยแอบตั้งฉายาให้เขาอย่างลับๆ
นักพรตตบะแตก
พอมีผู้หญิงถูกใจมาตรงหน้าเขาก็ตบะแตกทันที
แอนโทนี่คิดมาตลอดว่าฟู่อวิ๋นเซินจะอยู่เป็นโสดไปจนตาย
พอได้ยินแบบนี้ลิซิเนียสถึงเงยหน้าขึ้น
เขาเหลือบมองแอนโทนี่ นั่งพิงเก้าอี้ ค่อยๆ พูดขึ้น “ข่าวกรองลับเฉพาะ ตามกติกา โอนเงินมาก่อน”
แอนโทนี่ “…”
ให้ตายเหอะ
ไอ้พวกหน้าไม่อาย แม้แต่คนกันเองก็จะเอาเงิน
แต่หนึ่งนาทีต่อมาแอนโทนี่ก็ทนความอยากรู้ของตัวเองไม่ไหว กดโอนเงินให้
ลิซิเนียสมองโทรศัพท์มือถือ กดรับเงิน จากนั้นถึงเอ่ยขึ้นอย่างใจเย็น “แค่นี้นายก็เชื่อละ ฉันจะเอาผู้บัญชาการมาขายได้ยังไง เสียแรงที่นายเป็นถึงผู้บัญชาการทางอากาศของพวกเรา ไอคิวแค่นี้เหรอ”
แอนโทนี่ฟังแล้วก็ตะลึง “ไอ้…”
ลิซิเนียสหอบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเดินออกจากห้องทำงานอย่างอารมณ์ดี
แอนโทนี่ที่อยู่ด้านหลังโมโหเหมือนพายุลง “ลิซิเนียส นายมันหน้าไม่อายจริงๆ ฉันจะไปโพสต์กระทู้ในเว็บบอร์ด!”
ครั้นแล้วเช้ามืดของวันนั้น ในเว็บบอร์ดเอ็นโอเคก็มีกระทู้ที่เกี่ยวข้องกับไอบีไอ
[กระทู้แฉ]
[แฉด่วน! ประธานไอบีไอเห่าเหมือนหมาต่อหน้าทุกคน มีเสียงบันทึกของจริงเสียงจริง]
แนบคลิปเสียงล่างกระทู้
ในนั้นเป็นเสียงสุนัขเห่า ความยาวสามนาที
พอมีคำว่าไอบีไอ ความนิยมก็ย่อมสูง ไม่นานก็มีคนจำนวนมากกดเข้ามา
แต่ไม่ถึงหนึ่งนาทีก็โดนเปิดโปง
[คลิปเสียงบ้าบออะไร นี่มันคนเห่าที่ไหน ฉันเป็นคนรักสุนัข เลี้ยงหมาร้อยกว่าตัวในบ้าน นี่มันสุนัขต้อนแกะของสกอตแลนด์ชัดๆ แถมยังอายุสามปีด้วย ตอนโพสต์ไม่รู้จักดูให้ดีก่อน]
[แยกย้ายๆ ดูจากหัวข้อก็รู้แล้วว่าไอบีไอเริ่มแฉกันเองอีกแล้ว]
[เข้ามาด้วยสีหน้าร่าเริง ออกไปด้วยสีหน้าโมโห]
[ข้อมูลปลอมเหรอ เกินไปแล้วนะ ฉันอุตส่าห์คิดจริงว่าประธานเห่าเสียงหมา]
[ฉันว่าคนตั้งกระทู้นี้คือผู้บัญชาการแอนโทนี่ เพราะเขาอายุน้อยสุดในบรรดาผู้บัญชาการ ก็เลยชอบทำเรื่องเด็กๆ]
บรรดาผู้บัญชาการของไอบีไอไม่ใช่ความลับอะไรสำหรับโลกภายนอก
อย่างไรเสียพวกเขาก็มักปรากฏตัวตามสถานที่ต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง ทั้งยังเคยออกโทรทัศน์ให้สัมภาษณ์ต่างๆ
มีเพียงผู้บัญชาการสูงสุดคนเดียวที่พวกบอสขุดกันอยู่นานก็ยังไม่เจอคนที่ตรงตามเงื่อนไข
สุดท้ายกระทู้นี้ก็ถูกผู้ดูแลลบทิ้ง โดยให้เหตุผลว่านำเสนอข้อมูลปลอม
…
อิ๋งจื่อจินพักอยู่ที่บ้านตระกูลเยี่ยได้สัปดาห์กว่าแล้ว ร่างกายก็ดีขึ้นมาก ยิ่งไม่อยากขยับตัวเข้าไปใหญ่
ไม่ว่าจะคุณภาพอากาศหรือสภาพอากาศของโลกจอมยุทธ์ก็ล้วนแต่ดีกว่าโลกภายนอกทั้งนั้น
เมืองใหญ่อย่างตี้ตูกับฮู่เฉิงอากาศมีมลพิษหนักเกินไป
และที่สำคัญที่สุดคือ แต่ละพื้นที่ในโลกจอมยุทธ์ล้วนเทียบได้กับพื้นที่ฮวงจุ้ยดีของโลกภายนอก
ฮวงจุ้ยหล่อเลี้ยงคน ไม่ใช่คำพูดเลื่อนลอย
ฟู่อวิ๋นเซินก็กลับมาจากไอบีไอตามสัญญา มารับเธอด้วยตัวเอง
นายใหญ่ตระกูลเยี่ยออกมาส่ง
เขาโค้งตัวให้ฟู่อวิ๋นเซินก่อน จากนั้นถึงหันไปพูดกับอิ๋งจื่อจิน “คุณอิ๋งครับ รับป้ายผ่านทางนี่ไปนะครับ ต่อไปมาได้บ่อยๆ เสี่ยวหลิงชอบคุณมากครับ”
นี่คือป้ายผ่านทางสำหรับเข้ามาในโลกจอมยุทธ์
หากมีป้ายอันนี้ คนทั่วไปก็สามารถเข้ามาในโลกจอมยุทธ์ได้
อิ๋งจื่อจินส่ายหน้าเล็กน้อย ปฏิเสธอย่างสุภาพ “ไม่ดีกว่าค่ะนายใหญ่ตระกูลเยี่ย”
นายใหญ่ตระกูลเยี่ยคิดแล้วก็รู้สึกว่าจริง
มีฟู่อวิ๋นเซินอยู่ ยังต้องใช้ป้ายผ่านทางอีกเหรอ
เขาอดเขินไม่ได้ “โทษผมครับ ผมคิดมากเกินไป”
“ช่วงหลายวันมานี้ลำบากแย่” ฟู่อวิ๋นเซินพยักหน้าเบาๆ “รบกวนให้พวกคุณดูแลสาวน้อยของผม”
“ไม่รบกวนเลยครับไม่รบกวน” นายใหญ่ตระกูลเยี่ยตกใจ “ผมสมควรทำอยู่แล้วครับ”
ฟู่อวิ๋นเซินจับมืออิ๋งจื่อจิน “เยาเยา ไปเถอะ”
ทั้งสองคนออกจากโลกจอมยุทธ์ อวิ๋นซานขับรถมาแล้ว
พวกเขาเตรียมพักที่ตี้ตูหนึ่งวัน จากนั้นค่อยกลับฮู่เฉิง
อิ๋งจื่อจินนั่งอยู่เบาะหลัง คาดเข็มขัดนิรภัย หันหน้ามา “คุณมีสถานะอะไรในโลกจอมยุทธ์ ทำไมพวกเขากลัวคุณขนาดนี้ แต่ดูเหมือนก็ไม่ใช่ทุกคนจะรู้จักคุณ”
“อืม…” ฟู่อวิ๋นเซินเงียบไปชั่วครู่ “เดาดูสิ”
“อ่อ งั้นไม่เดา” อิ๋งจื่อจินพิงเบาะ “ถ้าคุณไม่บอกฉัน งั้นคุณก็จะไม่มีแฟนอีกต่อไป”
“…”
เขาสงสัยเหลือเกินว่า ช่วงหลายวันมานี้ถึงแม้เด็กน้อยของเขาจะพักอยู่บ้านตระกูลเยี่ย แต่ต้องแชทคุยกับหลิงเหมียนซีบ่อยๆ แน่นอน
ถูกล้างสมองไปแล้ว
อวิ๋นซานที่ขับรถอยู่มองตรงไปข้างหน้า เลือกที่จะทำเป็นเหมือนไม่ได้ยิน
ผ่านไปสักพักเขาถึงพูดขึ้น “คุณชายครับ ผมสืบเรื่องตระกูลเซี่ยมาแล้วครับ”
“ที่สถานสถิตยุติธรรมมีบันทึกไว้ เมื่อเดือนพฤษภาคมตระกูลเซี่ยส่งคุณชายรองไปที่ฮู่เฉิง คุณชายรองไปที่บ้านตระกูลอิ๋งเพื่อต้องการเอาตัวคุณหนูใหญ่ตระกูลอิ๋งครับ”
“แต่ต่อมาพวกเขาก็กลับบ้านมือเปล่า”
“คุณหนูใหญ่ตระกูลอิ๋งเหรอ” แววตาของฟู่อวิ๋นเซินขรึมลง “พวกเขาช่างกล้าจริงๆ”
เขาย่อมรู้ว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลอิ๋งที่ตระกูลเซี่ยพูดถึงหมายถึงใคร
อิ๋งจื่อจินเงยหน้า
“ตระกูลเซี่ยมีผู้อาวุโสคนหนึ่ง ความสามารถในการพยากรณ์เป็นรองแค่ตี้อู่ชวน” ฟู่อวิ๋นเซินก้มมองเธอ “บังเอิญมาก ปีนี้เกิดเรื่องขึ้นกับคุณชายใหญ่ตระกูลเซี่ย เขาหมดสติมาตลอด เชิญแพทย์แผนโบราณมารักษาก็ยังไม่ได้ผล ทำได้เพียงประคับประคองให้เขาไม่หมดลมหายใจ”
“เกรงว่าตระกูลเซี่ยคงทำนายได้ดวงชะตาของเธอพอดี จากนั้นก็อยากให้เธอแต่งงานกับเซี่ยอวี้ เพื่อเสริมดวง”
อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเบาๆ “เข้าใจแล้ว”
ที่แท้ตระกูลเซี่ยก็ไม่ได้เพิ่งทำนายดวงของเธอเป็นครั้งแรก
เพียงแต่ตอนนั้นญาณพยากรณ์ของเธอถูกผนึกไว้ ก็เลยสัมผัสไม่ได้
“วางใจได้” ฟู่อวิ๋นเซินลูบหัวเธอ “พี่ชายบอกแล้วว่าถ้าเธอมีเรื่องกับใคร พี่ชายจะช่วยเอาคืนให้”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนมาก แต่อวิ๋นซานกลับฟังแล้วขนลุก
ตระกูลเซี่ยจะมาแย่งผู้หญิงกับคุณชายของพวกเขา นี่มันรนหาที่ตายชัดๆ
…
นักเรียนที่ปีนี้สอบข้อสอบรวมของทั้งประเทศมีเกือบแปดล้านคน
ส่วนจำนวนผู้เข้าสอบทั้งหมดคือสิบล้านต้นๆ
นอกจากตี้ตูกับพวกเขตห่างไกลที่ไม่ได้ใช้ข้อสอบรวมของทั้งประเทศ ส่วนใหญ่เมืองและมณฑลที่เหลือจะใช้ข้อสอบรวมกันหมด
ดังนั้นนอกจากจะมีการจัดอันดับตามเมืองและมณฑลแล้ว สุดท้ายผู้เข้าสอบข้อสอบรวมจะถูกจัดอันดับทั้งประเทศอีกด้วย
ผลสอบของฮู่เฉิงจะออกวันที่ยี่สิบสี่มาตลอด
แต่ในความเป็นจริงวันที่ยี่สิบเอ็ดผลสอบก็ออกแล้ว
ช่วงวันที่ยี่สิบเอ็ดถึงยี่สิบสามจะเป็นวันที่บรรดามหาวิทยาลัยชื่อดังรีบไปแย่งตัวเด็กเก่งๆ
พอถึงวันที่ประกาศผลสอบในเน็ตอย่างเป็นทางการ ส่วนใหญ่การแย่งชิงตัวเด็กก็จะจบลงแล้ว
บ่ายวันที่ยี่สิบเอ็ด ทางโรงเรียนมัธยมชิงจื้อก็ได้รับใบรายชื่อนักเรียนที่สอบได้คะแนนเป็นอันดับต้นๆ
รายชื่ออยู่ที่ฝ่ายวิชาการ อาจารย์ฝ่ายวิชาการจึงเอาไปส่งที่ห้องทำงานผู้อำนวยการ
ผู้อำนวยการสวมแว่นตา เริ่มเปิดดูทีละหน้า
ในเวลาเดียวกันก็พอเข้าใจทั้งหมดแล้ว
โจทย์ของข้อสอบรวมในปีนี้ยากมาก ทุกคนต่างยอมรับ
รวมถึงในส่วนของเรียงความ
ตอนนั้นพอเสร็จสิ้นการสอบก็มีผู้เชี่ยวชาญจำนวนไม่น้อยที่ออกมาวิจารณ์โจทย์เรียงความในครั้งนี้
นักเรียนจำนวนไม่น้อยของชิงจื้อก็บอกว่าพวกเขาเขียนออกทะเลไปไกล
ด้วยเหตุนี้ผู้อำนวยการจึงตั้งความหวังให้น้อยลง แต่ผลลัพธ์กลับออกมาดีกว่าที่เขาคิดไว้
คนที่ได้เกินเจ็ดร้อยคะแนนเยอะกว่าปีก่อนๆ เสียอีก
มีทั้งหมดเจ็ดสิบคน
สามสิบอันดับแรกของเมืองเป็นนักเรียนชิงจื้อทั้งหมด
อีกทั้งผู้อำนวยการคาดไม่ถึงว่าห้องสิบเก้าจะมีคนได้เกินเจ็ดร้อยคะแนนถึงสิบคน
ผลสอบระดับนี้ถือว่าสู้คลาสทดลองวิทยาศาสตร์ได้แล้ว
ไม่มีใครคาดคิดว่า เด็กห้องที่เมื่อก่อนไม่ชอบเรียน ความพยายามหนึ่งปีครึ่งจะทำให้สอบได้คะแนนดีแบบนี้
ผู้อำนวยการดูผลสอบเสร็จถึงได้พบว่าไม่มีอิ๋งจื่อจิน
เขาขมวดคิ้ว ขณะที่เตรียมโทรไปสอบถามก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
คนที่เข้ามาคืออาจารย์ฝ่ายวิชาการ
เขาหายใจหอบ “ผะ ผอ. ขอโทษครับ ผมตื่นเต้นเกินไป ลืมเอาผลสอบของนักเรียนอิ๋งมาให้”
“คุณสั่งพิมพ์แยกออกมาต่างหากเลยเหรอ” ผู้อำนวยการดันแว่นตา น้ำเสียงใจเย็น “ก็แค่ที่หนึ่งไม่ใช่เหรอ มีอะไรให้น่าตื่นเต้นอีก อันดับหนึ่งปีก่อนๆ ก็โรงเรียนเราไม่ใช่เหรอ”
ถ้าอันดับหนึ่งไม่อยู่ชิงจื้อสิแปลก
อาจารย์ฝ่ายวิชาการมุมปากกระตุก “ผอ.ดูเอาเองเลยครับ อันดับหนึ่งคนนี้ไม่ธรรมดา”
เขาช็อกเกือบขิตเลยนะ
ผู้อำนวยการก้มหน้ามองผลสอบของอิ๋งจื่อจิน
ชื่อ-นามสกุล : อิ๋งจื่อจิน
ภาษาจีน : 150
คณิตศาสตร์ : 150
ภาษาอังกฤษ : 150
วิทยาศาสตร์ : 300
คะแนนรวม : 750
อันดับของเมือง : 1
อันดับของทั้งประเทศ : 1