ตอนที่ 444 ตระกูลหยวนถอนหมั้น อิ๋งเย่ว์เซวียนสติแตก
หนังสือพิมพ์ตี้ตูรายวันไม่ได้ตระหนี่พื้นที่สื่อ แถมยังทำตัวหนาให้พาดหัวข่าว
เมิ่งหรูอึ้งไปชั่วขณะ
เพราะเธอเป็นคนจัดการเรื่องทุกอย่างของอิ๋งเย่ว์เซวียนในตี้ตู เธอจึงคุ้นชื่อนี้มาก
เมิ่งหรูก็รู้ว่าอิ๋งจื่อจินอยู่ชิงจื้อ เรียนไม่แย่ แต่ไม่เคยให้ความสนใจจริงจัง
ต่อให้เรียนดีแค่ไหนอย่างมากก็ได้แค่เหมือนอิ๋งเย่ว์เซวียน
อีกทั้งยังไม่เหมือนอิ๋งเย่ว์เซวียนที่เขียนโค้ดได้
อิ๋งเย่ว์เซวียนเป็นเด็กที่คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งมอบให้พวกเขาด้วยตัวเอง คุณหนูใหญ่ตระกูลอิ๋ง หากว่าด้วยเรื่องภูมิหลังไม่ว่ายังไงก็อยู่สูงกว่าลูกเลี้ยง
ตระกูลหยวนเหนื่อยกับการบ่มเพาะอิ๋งเย่ว์เซวียนไปมาก ไม่มีเวลาจะไปสนใจอิ๋งจื่อจินเพิ่มอีก
แต่ตอนนี้
เมิ่งหรูรีบคว้าหนังสือพิมพ์มาจากมือของพ่อหยวน
เดิมทีเธอคิดว่าคนชื่อซ้ำ แต่ด้านล่างพาดหัวข่าวยังมีรูปสีขนาดใหญ่
เด็กสาวอยู่ในชุดนักเรียนโรงเรียนมัธยมชิงจื้อ สีหน้าเย็นชา คล้ายหมอกเหนือเขาสูงที่อยู่ไกลๆ จนไม่อาจเอื้อม
เมิ่งหรูมือสั่น
สอบได้อันดับหนึ่ง แถมยังเป็นอันดับหนึ่งที่ได้คะแนนเต็ม!
“เป็นอะไรไป” เป็นครั้งแรกที่พ่อหยวนเห็นเมิ่งหรูออกอาการแบบนี้ “คุณรู้จักเหรอ”
“ฉัน ฉันรู้จัก” เมิ่งหรูพยายามข่มอารมณ์ตัวเอง พูดด้วยน้ำเสียงสม่ำเสมอ “เธอ เธอก็คือลูกเลี้ยงตระกูลอิ๋งที่ฉันเคยเล่าให้คุณฟัง”
พ่อหยวนก็ตกใจด้วย “เป็นเธอเหรอ”
เมิ่งหรูไม่ตอบ เธอหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาทันทีแล้วโทรหาอิ๋งเย่ว์เซวียน
ดังอยู่เจ็ดแปดครั้งถึงจะมีคนรับ
น้ำเสียงของอิ๋งเย่ว์เซวียนที่อยู่ปลายสายเจือไปด้วยความหวาดหวั่น “คุณนายหยวนมีเรื่องอะไรเหรอคะ”
“อิ๋งเย่ว์เซวียน” เมิ่งหรูน้ำเสียงเย็นชา “เธอบอกฉันมาว่าเธอสอบได้คะแนนเท่าไร”
ตอนอิ๋งเย่ว์เซวียนรับสายเธอยังอยู่บนถนน
เธอนึกไม่ถึงว่าเมิ่งหรูจะโทรหาเธอตอนนี้ ใจคอไม่ดี
เมิ่งหรูค่อนข้างยุ่งอยู่ตลอด ทำไมอยู่ๆ ถึงโทรมาถามคะแนนของเธอตอนนี้
อิ๋งเย่ว์เซวียนเม้มริมฝีปาก “คุณนายหยวนคะ หนู…”
เมิ่งหรูเป็นคนฉลาด พอได้ยินน้ำเสียงแบบนี้ก็รู้ว่าเกิดเรื่องแล้ว น้ำเสียงของเธอจึงเย็นชายิ่งกว่าเดิม “ทางที่ดีห้ามโกหกฉัน”
อิ๋งเย่ว์เซวียนรู้ว่าเธอปิดบังเมิ่งหรูไม่ได้ ทำได้เพียงบากหน้าพูดคะแนนสอบออกไป “ห้าร้อยสามสิบห้าค่ะ”
“ห้าร้อยสามสิบห้าเหรอ” เมิ่งหรูได้ฟังก็หัวเราะ “เธอบอกน้อยไปสองร้อยคะแนนหรือเปล่า เจ็ดร้อยสามสิบห้าฉันยังพอรับได้ เธอลองบอกมาซิว่าห้าร้อยสามสิบห้าคะแนนอยากเข้ามหาวิทยาลัยไหน”
“ไม่สิ ฉันควรพูดว่า เธอจะไปเข้าที่ไหนได้”
ห้าร้อยสามสิบห้าคะแนน ถ้าเป็นที่ฮู่เฉิง ยังอยากเข้ามหาวิทยาลัยดังๆ อีกเหรอ
อย่าว่าแต่มหาวิทยาลัยตี้ตูเลย ต่อให้เป็นมหาวิทยาลัยทั่วไปก็ใช่ว่าอิ๋งเย่ว์เซวียนจะเข้าได้
อีกทั้งต่อให้สุดท้ายผลออกมาว่าพวกมหาวิทยาลัยชั้นนำตัดกันที่ห้าร้อยสามสิบห้า แบบนั้นอิ๋งเย่ว์เซวียนก็ได้แค่ไปเข้ามหาวิทยาลัยรองๆ แล้ว
เมิ่งหรูยิ่งคิดก็ยิ่งหัวเราะ
เมล็ดพันธุ์ชั้นดีของคลาสคอมพิวเตอร์มหาวิทยาลัยตี้ตูกลับสอบได้คะแนนเท่านี้เหรอ
“คุณนายหยวนคะ หนูป่วยก็เลยทำได้ไม่เต็มที่ค่ะ” อิ๋งเย่ว์เซวียนรู้ว่าเธอจะปล่อยให้เมิ่งหรูทอดทิ้งเธอไม่ได้เด็ดขาด จึงพยายามอ้างเหตุผล “หนูเรียนซ้ำได้ค่ะ ปีหน้า เชื่อหนูนะคะ อันดับหนึ่งของฮู่เฉิงจะต้องเป็นของหนูแน่”
“เธอสอบได้ห้าร้อยสามสิบห้าคะแนน ลูกเลี้ยงบ้านเธอสอบได้เจ็ดร้อยห้าสิบคะแนน” เมิ่งหรูกลับไม่หลงกลอิ๋งเย่ว์เซวียน น้ำเสียงเย็นชา “แถมเด็กคนนั้นยังเคยประสบเหตุระเบิดที่ยุโรป ช่วงนั้นใกล้สอบแล้วด้วย อีกทั้งเธอยังอยู่ในศูนย์กลางจุดระเบิด”
“ขนาดเผชิญกับวินาทีเฉียดตายมายังสอบได้อันดับหนึ่ง แต่เธอแค่ป่วยก็ล้มไม่เป็นท่าขนาดนี้แล้ว คิดว่าฉันจะเชื่อเหรอ”
เมิ่งหรูก็ไม่ได้ดูรอบชิงชนะเลิศไอเอสซี รู้แค่ว่าประเทศจีนคว้าอันดับหนึ่ง ยังไม่ทันได้ฉลองก็เกิดเหตุระเบิด
ที่เธอรู้ว่าอิ๋งจื่อจินถูกฝังเป็นเพราะตอนนั้นหนังสือพิมพ์พาดชื่ออิ๋งจื่อจินพอดี
แตกต่างกันมากขนาดนี้ เป็นใครก็รู้สึกแย่
โดยเฉพาะทั้งสองคนยังมีความสัมพันธ์กันด้วย
เมิ่งหรูไม่อยากพูดกับอิ๋งเย่ว์เซวียนอีก พอวางสายเธอก็บล็อกเบอร์นี้
“ถอนหมั้น” พ่อหยวนฟังตั้งแต่ต้นจนจบ พูดขึ้นมาอย่างแน่วแน่ “ผมเคยบอกแล้วว่าเด็กคนนี้มีปัญหา คุณกลับบอกว่าให้รอดูไปก่อน ต้องถอนหมั้นเดี๋ยวนี้”
ยังดีที่ตอนนั้นพวกเขาจับอิ๋งเย่ว์เซวียนกับหยวนจยาเฉิงหมั้นกันโดยไม่ได้ป่าวประกาศไปทั้งวงการไฮโซตี้ตู
ไม่อย่างนั้นลูกชายคนโตตระกูลหยวนแต่งกับคนที่สอบเข้าไม่ได้แม้แต่มหาวิทยาลัยชั้นนำ ลือออกไปจะถูกคนหัวเราะเยาะขนาดไหน
อิ๋งเย่ว์เซวียนหน้าตาก็กลางๆ ดาราในวงการบันเทิงที่สวยกว่าเธอมีมากมาย แต่งเข้ามาแม้แต่จะให้เป็นหน้าเป็นตาก็ไม่ได้
เธอถูกใจอะไรในตัวอิ๋งเย่ว์เซวียน
ก็แค่ความฉลาดไม่ใช่เหรอ
“ต้องถอนจริงๆ แหละค่ะ” เมิ่งหรูสูดลมหายใจเข้าลึก “เห็นทีเกรงว่าตอนอยู่ยุโรปก็คงเกิดเรื่องอะไรขึ้นเธอถึงกลับมา ฉันประมาทเธอเกินไป อายุแค่นี้แต่กลับมีเล่ห์เหลี่ยม”
เมิ่งหรูไม่พูดพล่ามทำเพลง โทรไปที่บ้านตระกูลอิ๋ง
เธอเองก็ไม่ปล่อยให้จงมั่นหวาพูด บอกเรื่องถอนหมั้นทันที และถือโอกาสบล็อกช่องทางติดต่อกับตระกูลอิ๋งทั้งหมด
เมิ่งหรูก็ยังคงโมโหมาก “รู้แบบนี้ตอนนั้นฉันควรจะสืบให้มากหน่อย ตอนนี้คนที่พอจะรู้จักกับอันดับหนึ่งก็มีแค่พวกเราแล้ว”
เธอเป็นคุณนายไฮโซในตี้ตู มีเหรอจะไปสืบข้อมูลของลูกเลี้ยงโดยเฉพาะ
ให้เธอนั่งพิมพ์ชื่อในช่องค้นหาเธอยังรู้สึกว่าเสียเวลา
แต่เมิ่งหรูก็จำต้องยอมรับว่าเธอดูคนผิดไป
“ตอนนี้มาพูดพวกนี้ยังจะมีประโยชน์อะไร” พ่อหยวนส่ายหน้า “เลิกคิดเถอะ เด็กคนนั้นไม่ใช่คนที่เราจะเอื้อมถึงแล้ว”
ตระกูลมู่กับตระกูลเนี่ยก็กำลังตามล่าอัจฉริยะทางด้านวิทยาศาสตร์ อันดับหนึ่งที่ได้คะแนนเต็มจะตกมาถึงพวกเขาได้เหรอ
พ่อหยวนเข้าใจแจ่มแจ้ง
เมิ่งหรูกลับเหม่อ รู้สึกไม่ยอม
แค่ก้าวเดียวเท่านั้น
ตระกูลหยวนได้พลาดที่จะรู้จักกับอันดับหนึ่งไปแล้ว
เธอต้องคิดหาทางเข้าหาอิ๋งจื่อจิน
…
เมืองฮู่เฉิง
บนถนนเส้นหนึ่ง
อิ๋งเย่ว์เซวียนกลับบ้านตระกูลอิ๋งไม่ได้
เธอออกไปกับจงมั่นหวาตอนเที่ยงไม่ได้พกกุญแจบ้านมาด้วย
ตอนที่วิ่งกลับถึงบ้าน แม้แต่ประตูรั้วก็ถูกล็อก
อิ๋งเย่ว์เซวียนนึกไม่ถึงจริงๆ ว่าจงมั่นหวาจะถึงขั้นตัดขาดแบบนี้
เพราะเธอทำคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ไม่ดีเหรอ
การสอบเข้ามหาวิทยาลัยสำคัญก็จริง แต่จะมาตัดสินทั้งชีวิตไม่ได้
อิ๋งเย่ว์เซวียนเดินอยู่บนถนนอย่างหมดอาลัยตายอยาก แถมยังถูกเมิ่งหรูด่าใส่ยกใหญ่ สภาพจิตใจเหนื่อยล้าใกล้ระเบิดเต็มที
ปรากฏว่าพอเธอเงยหน้าก็ยังจะเห็นจอโฆษณาขนาดใหญ่ด้านบนเปลี่ยนโฆษณา
[แฟนคลับฉินหลิงอวี๋ขอแสดงความยินดีกับเบบี๋อิ๋งที่สอบได้คะแนนยอดเยี่ยม!]
ฝั่งตรงข้ามถนนก็มีหน้าจอโฆษณาขนาดใหญ่เหมือนกัน
[แฟนคลับซังเย่าจือขอแสดงความยินดีกับเบบี๋อิ๋งที่สอบได้คะแนนยอดเยี่ยม!]
นี่เป็นป้ายโฆษณาที่แฟนคลับของทั้งสองคนควักเงินจ่ายเองเพื่อแสดงความยินดีกับอิ๋งจื่อจิน
ก่อนหน้านี้พวกเขาจะทำแบบนี้ก็ต่อเมื่อเป็นวันเกิดของไอดอลที่ตัวเองชอบเท่านั้น
ซื้อป้ายโฆษณาที่ใหญ่ขนาดนี้หนึ่งป้ายบนถนนใจกลางฮู่เฉิง หนึ่งวินาทีเป็นเงินหลายแสน
วันนี้เรียกได้ว่าเป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองทั่วทั้งโลกโซเชียล
ถูกล้อมด้วยแผ่นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่สองฝั่ง อิ๋งเย่ว์เซวียนรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออกแบบที่เห็นได้ยาก
เนื่องจากผลคะแนนของเธอในโรงเรียนแตกต่างกับผลคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยมากทีเดียว อาจารย์ฝ่ายวิชาการก็เลยยื่นขอดูข้อสอบจากคณะกรรมการพิจารณาข้อสอบ
ข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยของเมืองฮู่เฉิงถูกตรวจโดยคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยฮู่เฉิง
อิ๋งเย่ว์เซวียนถึงได้ค้นพบอย่างน่าตกใจว่า เธอฝนคำตอบข้อสอบคณิตศาสตร์ผิดข้อ ทำให้ข้อหลังๆ เคลื่อนไปหมด จึงไม่ได้สักคะแนน
ไม่ว่าจะเป็นข้อสอบแบบเลือกทำของคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ เธอทำหมดแล้ว แต่ว่าลืมฝนคำตอบ
นี่เป็นเรื่องที่แม้จะถึงการจำลองการสอบครั้งสุดท้ายของมอหก อาจารย์ก็ยังต้องคอยเน้นย้ำอยู่เสมอ
ไม่ฝนคำตอบ ต่อให้ทำมาถูกแล้วก็จะไม่ได้สักคะแนน
แต่ก็ไม่มีโอกาสแล้ว
อิ๋งเย่ว์เซวียนเสียใจมาก ทำไมเธอถึงได้ลงมือเร็วขนาดนั้นเพื่อจะกำจัดอิ๋งจื่อจิน
ถ้าเธออดทนรออีกหน่อย ไม่แน่อาจมีโอกาสดีกว่านี้
ตอนนี้เธอทำพังหมดทุกเส้นทาง
แม้แต่จงมั่นหวาที่รักและเอาใจเธอมาตลอดก็ทอดทิ้งเธอไปทั้งแบบนี้
อิ๋งเย่ว์เซวียนเคว้งคว้าง ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร
เธอเดินต่ออีกสักพัก ไร้บ้านให้กลับ ทำได้เพียงฝืนใจติดต่อจิ่งหงเจินอีกครั้ง
…
เวลาหกโมงเย็น
ณ คฤหาสน์ตระกูลเนี่ย
ผู้เฒ่าเนี่ยให้ห้องครัวเตรียมอาหารตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้ว
มู่เฮ่อชิงก็อยู่
เนื่องจากตี้อู่ชวนสุขภาพไม่ดี ไม่สะดวกเดินทาง จึงไม่ได้มา
สองผู้เฒ่ามีความสุขมาก ราวกับหลานสาวตัวเองสอบได้คะแนนเต็ม
เนี่ยเฉากอดตะกร้าเชอร์รี่นั่งกินอยู่ ดูข่าวสอบเข้ามหาวิทยาลัยในทีวีอย่างไม่วางตา
สถานีโทรทัศน์ของแต่ละมณฑลต่างกำลังออกข่าวที่อิ๋งจื่อจินสอบได้อันดับหนึ่ง
“ดูแกซิ” ผู้เฒ่าเนี่ยโมโห ยกเท้าถีบก้นเนี่ยเฉา “เช้าจรดเย็นเหมือนหมีไม่มีผิด รู้จักแต่กินแล้วก็นอน”
เนี่ยเฉาถูกถีบกระเด็น แต่เชอร์รี่ในอ้อมอกไม่ร่วงแม้แต่เม็ดเดียว “ผมยังหาเงินเป็นนะปู่”
อิ๋งจื่อจินได้ฟังก็หันมาพยักหน้านิดหน่อย “เก่งใช้ได้”
เนี่ยเฉายืดขึ้นมาทันที “ได้ยินไหมปู่”
ผู้เฒ่าเนี่ยทำเสียงฮึดฮัด “ท่าทางพึ่งพาไม่ได้ แต่กลับมีชีวิตดี”
ถึงเขาจะพูดแบบนั้น แต่อารมณ์ก็ดีมาก
อีกด้านหนึ่งของโซฟา ฟู่อวิ๋นเซินยกตูตูขึ้นมาวางบนตุ๊กตาหมูที่เขาซื้อมา
จากนั้นก็เอานิ้วจิ้มท้องน้อยๆ ของตูตู “หน้าตาเหมือนแกเลย เอามาให้แกนั่งขี่ เป็นไงบ้าง”
ตูตูไม่อยากสนใจเขา มันหมุนตัวหันก้นให้เขาแทน