ตอนที่ 449 อิ๋งเย่ว์เซวียนก็ไปตรวจความเข้ากันได้
ถึงแม้เทียนสิงมีเดียจะยื่นล้มละลายแล้ว แต่ก็ยังมีพนักงานจำนวนไม่น้อยที่ไม่มีที่ไป
ซิวเหยียนอยู่ในวงการบันเทิงมาหลายปี เทียนสิงมีเดียก็หางานดีๆ มาให้เธอตลอดเพราะเธอเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลซิว
เธอย่อมรู้ว่าลั่วเหวินปินเป็นคนยังไง
มีแค้นก็ต้องชำระ
ตัวเองย่อยยับก็ต้องลากคนอื่นพังพินาศตามไปด้วย
ถึงขนาดที่ว่าเธอไม่ต้องติดต่อไปหาลั่วเหวินปิน แค่ให้พวกพนักงานแกล้งปล่อยข่าวออกไป เดี๋ยวลั่วเหวินปินก็รู้ว่าต้องจัดการยังไง
เรื่องที่เคทีวีไดนาสตี้ครั้งก่อน เป็นเพราะเธอจัดการไม่แนบเนียน เลยถูกหาหลักฐานเจออยู่บ้าง
แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน
เธอจะกันตัวเองออกมาอย่างสิ้นเชิง
จะไม่มีใครคาดคิดว่าเรื่องนี้มีเธอเป็นคลื่นใต้น้ำ
บอดี้การ์ดได้ยินเธอพูดแบบนี้ก็พยักหน้า
“งั้นผมกลับก่อนนะครับ ถ้าคุณหนูยังมีเรื่องอะไรอีกก็เชิญสั่งมาได้เลยครับ”
ซิวเหยียนส่ายมือ “ไปเถอะ”
พอบอดี้การ์ดออกไปแล้ว ภายในคอนโดส่วนตัวก็เหลือแค่ซิวเหยียนคนเดียว
สายตาของเธอดุดัน สีหน้าเย็นชา
หลังจากอิ๋งจื่อจินให้ชูกวงมีเดียเปิดโปงเรื่องที่เทียนสิงมีเดียทำ เธอก็ย่อมสูญเสียงานกับผู้จัดการส่วนตัวไป
เทียนสิงมีเดียเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ของรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 101 วงเกิร์ลกรุ๊ปเก้าคนของพวกเธอเป็นวงที่มีกำหนดระยะเวลา
ครบหนึ่งปีแล้ว ตอนนี้จึงแยกวงกันไป
และก็เป็นเพราะรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 ดังมาก ดังไปถึงต่างประเทศ ทำให้ไม่มีใครสนใจเธออีก
ผู้เฒ่าซิวไม่ได้ให้การสนับสนุนใดๆ กับเธอในวงการบันเทิง อย่างไรเสียตระกูลเศรษฐีอย่างตระกูลซิวก็ไม่มีทางอนุญาตให้ลูกหลานไปเข้าวงการบันเทิง
แค่เข้าสนุกๆ พอได้ แต่เรื่องอื่นไม่ต้องพูด
ในขณะเดียวกันซิวเหยียนก็นึกเสียใจ
เรื่องที่ชูกวงมีเดียเปลี่ยนซีอีโอ เธอได้ยินมาตั้งแต่ช่วงหยุดหน้าร้อนปีที่แล้ว
ซึ่งก็หมายความว่า ตอนที่เธอเจออิ๋งจื่อจิน อิ๋งจื่อจินก็คือซีอีโอของชูกวงมีเดีย
ถ้าตอนนั้นเธอยอมลดทิฐิแล้วไปผูกมิตรกับอิ๋งจื่อจิน ตอนนี้เธอคงได้เซ็นสัญญาระดับเอกับชูกวงมีเดียไปแล้ว
แต่เสียใจไปก็ไม่มีประโยชน์
เพื่อนของซิวอวี่ก็คือศัตรูของเธอ
เธอต้องกำจัดทิ้ง
…
ไม่เหนือความคาดหมายของซิวเหยียน หลังจากลั่วเหวินปินได้รู้เรื่องตระกูลอิ๋งกับรายการสายใยหมื่นลี้ที่ตามหาญาติ เขาก็ให้พนักงานคนหนึ่งติดต่อตระกูลอิ๋งทันที
ภายในระยะเวลาสั้นๆ แค่สองวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจกับเจ้าหน้าที่ยึดทรัพย์ก็ได้มาทำการยึดทรัพย์ของเทียนสิงมีเดีย
ศาลยังไม่เริ่มไต่สวน แม้ลั่วเหวินปินจะออกไปไหนไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ติดต่อคนอื่นได้
ตอนที่พนักงานคนนั้นติดต่อตระกูลอิ๋งก็ได้พูดชื่อตระกูลซิวแบบอ้อมๆ
ถ้าพวกเขาไปออกรายการสายใยหมื่นลี้ที่ตามหาญาติ อีกทั้งตอนสุดท้ายประสบความสำเร็จ ก็จะได้รับความสนใจจากตระกูลซิว
ช่วงสองวันนี้จงมั่นหวากินไม่ได้นอนไม่หลับ
พอได้รับโทรศัพท์สายนี้เธอก็อดตกใจไม่ได้ “ตระกูลซิวเหรอ”
ในความเข้าใจของคนส่วนใหญ่ ตระกูลซิวด้อยกว่าตระกูลมู่กับตระกูลเนี่ยหนึ่งระดับ แต่ก็เป็นตระกูลเศรษฐีชั้นแนวหน้าของตี้ตูเหมือนกัน
ตระกูลอิ๋งของพวกเขายังต้องไปตีสนิทตระกูลหยวน ถึงจะมีความเป็นไปได้ในการผูกมิตรกับตระกูลชั้นแนวหน้าเหล่านี้ของตี้ตู
ตอนนี้อาจได้ติดต่อกับตระกูลซิวโดยตรงเลยเหรอ
“พวกเราก็เข้าใจความรู้สึกของคุณนายอิ๋งนะคะ คุณอิ๋งป่วยหนักมาก อีกทั้งพวกคุณยังหาตับที่เข้ากันไม่ได้” ปลายสายยังคงพูดต่อ “หากว่ากันตรงๆ ต่อให้ตับของคุณหนูอิ๋งเข้ากันไม่ได้ แต่เธอรู้จักคนตั้งมากขนาดนั้น ย่อมช่วยเหลือพวกคุณได้แน่”
ฟังถึงตรงนี้จงมั่นหวาก็ลังเล สุดท้ายก็ตอบตกลง
อาการป่วยของอิ๋งเจิ้นถิงรอไม่ได้
ถึงแม้พวกหมอต่างพูดว่า กรุ๊ปเลือดของอิ๋งจื่อจินพิเศษเกินไป แทบไม่มีทางเข้ากับร่างกายของอิ๋งเจิ้นถิงได้
แต่ถ้าลองดูล่ะ
ลองดูก็ไม่เห็นเสียหายอะไร อีกอย่างเธอก็หาตัวอิ๋งจื่อจินไม่เจอจริงๆ
ขอเพียงแต่เธอยอมสำนึกผิดในรายการสายใยหมื่นลี้ สุดท้ายก็จะคืนดีกับอิ๋งจื่อจินได้
ระหว่างแม่กับลูกสาวจะเป็นศัตรูกันไปตลอดชาติได้ยังไง
“ทีมงานถ่ายทำรายการสายใยหมื่นลี้อยู่ที่ตี้ตู ตอนต่อไปใกล้เริ่มแล้วค่ะ” ปลายสายพูดต่อ “คนที่อยากออกรายการนี้มีเยอะมาก คุณนายอิ๋งจัดสรรเวลาดีๆ นะคะ เกิดผิดพลาดเดี๋ยวจะช่วยคุณอิ๋งไม่ได้”
ฟังถึงตรงนี้จงมั่นหวาก็ตัดสินใจได้แล้วว่าจะไปออกรายการสายใยหมื่นลี้
เธอโทรให้อิ๋งเทียนลี่ว์มาเฝ้าอิ๋งเจิ้นถิง จากนั้นก็จองตั๋วเครื่องบินไปตี้ตู
…
อีกด้านหนึ่ง
ภายในห้องคอนโด
“คุณชายครับ” อวิ๋นซานปรากฏตัวอย่างเงียบๆ กำมือคารวะผู้ชายที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์ จากนั้นถึงพูดเสียงเบา
“ทางด้านตระกูลอิ๋งมีความเคลื่อนไหว จงมั่นหวาจะออกจากฮู่เฉิงไปตี้ตูครับ”
ดวงตาดอกท้อของฟู่อวิ๋นเซินหรี่ลง “ไปตี้ตูตอนนี้เหรอ”
พวกเขาจับตาดูเรื่องพวกนั้นของตระกูลอิ๋งมาตลอด ก็แค่ไม่เข้าไปยุ่ง
ถึงขั้นที่พวกเขารู้นานแล้วว่าอาการตับวายเฉียบพลันครั้งนี้ของอิ๋งเจิ้นถิงเกิดจากฝีมือของจิ่งหงเจิน
อิ๋งเจิ้นถิงจะเป็นหรือตายก็ล้วนแต่เป็นผลกรรมของตัวเองทั้งนั้น อันที่จริงไม่เกี่ยวกับพวกเขาเลยสักนิด
ถ้าตระกูลอิ๋งไม่ได้เห็นอิ๋งจื่อจินเป็นเครื่องมือ หรือกลับตัวกลับใจได้ทันเวลา พวกเขาก็จะยื่นมือเข้าช่วย
แต่ไม่มีเลย…
จิ่งหงเจินถึงขั้นที่ทำให้อิ๋งเจิ้นถิงเกิดภาวะตับวายเฉียบพลัน แถมยังไม่ได้คิดเล่นงานแค่อิ๋งเจิ้นถิง ยังมีอิ๋งเทียนลี่ว์อีกคน
ขอเพียงแต่ทำให้อิ๋งเทียนลี่ว์เกิดเหตุไม่คาดคิดระหว่างผ่าตัดบริจาคตับได้ ตายบนเตียงผ่าตัด ก็เรียกได้ว่าตระกูลอิ๋งสิ้นผู้สืบทอดแล้ว
พออิ๋งเจิ้นถิงฟื้นขึ้นมา ต่อให้ไม่พอใจอิ๋งเย่ว์เซวียนอย่างไรก็ทำได้แค่ยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตระกูลอิ๋งให้อิ๋งเย่ว์เซวียน
เพียงแต่น่าเสียดายที่ตับของอิ๋งเทียนลี่ว์ไม่เข้ากับร่างกายของอิ๋งเจิ้นถิง
แผนนี้ของจิ่งหงเจินไม่สำเร็จ เกรงว่ายังจะมีแผนอื่นอีก
ด้วยเหตุนี้พวกเขาถึงส่งคนไปอยู่รอบตัวอิ๋งเทียนลี่ว์หลายคน
พวกเขาจะปกป้องอิ๋งเทียนลี่ว์ ส่วนจงมั่นหวากับอิ๋งเจิ้นถิง อย่าแม้แต่จะคิด
ทุกอย่างล้วนเป็นผลกรรมที่พวกเขาก่อเอง
ทำกรรมไว้ก็ต้องรับกรรม นี่คือเหตุและผล
“ครับ จงมั่นหวาไปตี้ตู จะไปออกรายการตามหาญาติครับ” อวิ๋นซานรายงานต่อ “จากนั้นเธออยากให้รายการนี้ช่วยตามหาคุณอิ๋ง เพื่อให้คุณอิ๋งกลับมาบริจาคตับให้อิ๋งเจิ้นถิงครับ”
แววตาของฟู่อวิ๋นเซินขรึมลง
ฉายแววอาฆาตในชั่วพริบตา
รังสีอำมหิตแผ่ซ่านขึ้นมาอย่างรวดเร็ว อวิ๋นซานอดถอยหลังไปหลายก้าวไม่ได้ รู้สึกตกใจมาก
เขารู้ว่าฟู่อวิ๋นเซินมีวิทยายุทธ์สูงส่ง แต่เห็นได้ชัดว่าดูเหมือนช่วงนี้จะสูงขึ้นไปอีกมาก
พลังกดดันมหาศาลนี้ แม้แต่ผู้อาวุโสบางคนของตระกูลหลินก็ยังไม่มี
ผู้อาวุโสเหล่านั้นฝึกวิทยายุทธ์มาเกินร้อยปีแล้ว
“คุณชายครับ ตระกูลอิ๋งทำให้ผมตะลึงได้ทุกครั้งเลยครับ” อวิ๋นซานโมโหมาก
“คิดดูสิครับ คนเป็นพ่อเป็นแม่ ทำไมถึงได้มีพวกที่ไม่คู่ควรแบบนี้ด้วย”
พ่อแม่บางคนสามารถยกโอกาสในการมีชีวิตรอดให้ลูกได้ แต่พ่อแม่บางคนก็คิดแต่จะกอบโกยจากลูก
“ไม่แปลก” ฟู่อวิ๋นเซินระงับอารมณ์ “ฉันจะถามคำถามเกี่ยวกับจิตวิทยา นายตอบแล้วจะเข้าใจ”
อวิ๋นซานเกาหัว “คุณชายถามได้ครับ แต่ก็ไม่แน่ว่าผมจะเข้าใจ”
เขาเป็นคนดิบเถื่อน ให้เขาเอากระสอบไปลักพาตัวคนยังพอไหว
แต่ให้ฟังคำถามเฉพาะทาง เขาไม่เข้าใจจริงๆ
“นายเป็นคนธรรมดา ตรงหน้านายมีคนสองคน นายต้องต่อยหนึ่งหมัด ไม่เลือกไม่ได้” ฟู่อวิ๋นเซินเล่นช้อนคนชา ไอร้อนจากถ้วยชาลอยบดบังใบหน้าของเขา
“คนหนึ่งเป็นคนซื่อจิตใจดี อีกคนเป็นคนเลวที่เคยฆ่าคน นายจะต่อยใคร”
อวิ๋นซานตอบโดยไม่ลังเล “ก็ต้องต่อยคนซื่อสิครับ ไม่สิ ผม…”
“ดูสิ นี่ก็คือความคิดที่แท้จริงของคนเรา” ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้นอย่างใจเย็น
“ในสายตาของพวกเขา เยาเยาก็คือคนซื่อคนนั้น จะรังแกยังไงก็ได้ มันกลายเป็นความคิดที่ฝังรากลึกไปแล้ว”
“ต่อให้คนซื่อไม่ได้ทำอะไรผิด สุดท้ายก็ยังเลือกเธออยู่ดี”
“ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นนะครับ” อวิ๋นซานเงียบไปเล็กน้อย “คุณชาย พวกเราจะทำไงดีครับ”
“พวกเขาต้องการตับไปปลูกถ่ายไม่ใช่เหรอ ได้” ฟู่อวิ๋นเซินยิ้ม สายตาเย็นชา
“ไม่ใช่แค่เยาเยาเสียหน่อยที่เป็นลูกสาวของอิ๋งเจิ้นถิง พวกเขายังมีลูกสาวอีกคนที่รักทะนุถนอมมาหลายปี ก็ไปตรวจความเข้ากันได้เหมือนกัน จะละเลยความสำคัญไปได้ยังไง”
อวิ๋นซานอึ้ง “นั่นสิครับ ยังมีอิ๋งเย่ว์เซวียนอีกคน นั่นก็ลูกสาวของอิ๋งเจิ้นถิงเหมือนกัน”
ฟู่อวิ๋นเซินพูด “แค่คลอดไม่เลี้ยง เคยเกือบเอาชีวิตเธอ ตอนนี้ยังจะมาให้เธอช่วยอีก มีเรื่องดีแบบนั้นที่ไหนกัน”
“พวกเขาแตะต้องคุณอิ๋งไม่ได้” อวิ๋นซานพยักหน้ารับทราบ “คุณชายครับ งั้นรายการนั้นให้ทางสถานีโทรทัศน์ยุบรายการไปเลยไหมครับ”
“ผมคิดว่าจงมั่นหวาไปออกรายการนี้ก็แค่ไปทำตัวน่าสงสารอ้างเรื่องศีลธรรม กลัวจะทำให้คุณอิ๋งเสื่อมเสียชื่อเสียง”
“ไม่ต้อง ปล่อยไป เอาตามที่ตระกูลอิ๋งต้องการ” ฟู่อวิ๋นเซินเอามือลูบอก ยิ้มมุมปาก เป็นรอยยิ้มที่เย็นชา “อยากเปิดเผยก็เปิดเผยไป ฉันไม่มีทางปล่อยให้เยาเยาเสื่อมเสียชื่อเสียง”
เขาหยุดเล็กน้อยแล้วพูดต่อ
“แต่ต้องไปบอกกับทางสถานีโทรทัศน์หน่อยว่าต้องเปลี่ยนขั้นตอน แต่เรื่องนี้ให้ทางชูกวงมีเดียไปจัดการก็ได้”