ตอนที่ 456 ตระกูลจี้ ลูกพี่ลูกน้อง พบตับที่เข้ากันได้
นักแข่งรถตายทันที ส่วนเธอก็บาดเจ็บสาหัส
ซิวอวี่ก็เคยคิดว่ามีคนทำ แต่ถนนช่วงนั้นก็อันตรายมากจริงๆ หากไม่ระวังก็อาจเกิดอุบัติเหตุถึงตายได้
แต่คนที่เธอเป็นเนวิเกเตอร์ให้คือนักแข่งอันดับหนึ่งเชียวนะ เคยคว้ารางวัลในการแข่งเอฟวัน
เป็นเรื่องน่าแปลกที่เขาจะทำพลาด
“อืม ฉันกับพี่ชายไปตรวจสอบรายงานชันสูตรพลิกศพของนักแข่งคนนี้ในตอนนั้นมา” อิ๋งจื่อจินพูด “พบจุดที่น่าสงสัย สมองของเขามีเงาดำที่จางมาก”
“ซึ่งก็หมายความว่าตอนนั้นสติของเขาไม่เต็มร้อย”
เวลานี้ความทรงจำปรากฏขึ้นในสมองอีกครั้ง ซิวอวี่พึมพำ “มิน่าล่ะ…”
มิน่าล่ะ หลังจากเธอออกคำสั่ง นักแข่งกลับตอบสนองช้าไปหนึ่งในสี่วินาทีเสมอ
ถึงแม้จะเป็นเวลาแค่เพียงหนึ่งในสี่วินาที แต่ในระหว่างการแข่งรถกลับเพียงพอให้ถึงตายได้
“ยังสืบอยู่” อิ๋งจื่อจินนั่งพิงเก้าอี้ หาวออกมา “ไม่แน่ว่าจะเป็นฝีมือตระกูลซิว อาจเป็นพวกตระกูลเมืองนอกก็ได้”
ตระกูลที่อยากเข้าหาตระกูลแมนสันมีเยอะแยะมากมาย
นักแข่งรถของตระกูลซิวเก่งมาก การที่ถูกจ้องเล่นงานก็เป็นเรื่องปกติ
“จึ๊” ซิวอวี่ยักไหล่ “ดูท่าฉันจะเป็นคนโชคไม่ดี เป็นประเภทที่ว่าเดินๆ อยู่ก็ตกท่อได้”
“ไม่ คนที่พวกเขาจ้องเล่นงานไม่ใช่นักแข่งที่เธอเป็นเนวิเกเตอร์ให้ อย่างไรเสียเขาก็ใกล้ปลดระวางแล้ว” อิ๋งจื่อจินมองซิวอวี่ “เธอเป็นนักแข่งรถที่มีพรสวรรค์ ทางนั้นต้องการให้เธอลงแข่งรถไม่ได้อีก”
ซิวอวี่พยักหน้าช้าๆ “ฉันเข้าใจแล้ว พ่ออิ๋ง รบกวนเธอแล้วจริงๆ”
“ไม่ต้องเกรงใจ”
โทรศัพท์มือถือดังขึ้นในเวลานี้
อิ๋งจื่อจินกดรับ “สวัสดีค่ะศาสตราจารย์จั่ว”
“นักเรียนอิ๋ง เธอมาตี้ตูแล้วหรือยัง” ทางด้านจั่วหลีเสียงลมแรงมาก “มีที่อยู่ไหม”
“ค่ะ มีอะไรเหรอคะ”
“พวกศาสตราจารย์อยากส่งของบำรุงไปปลอบโยนเธอหน่อย”
อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “มีของบำรุงอะไรบ้างคะ”
เธอไม่ต้องการพวกของบำรุง แต่สามารถแบ่งให้พวกมู่เฮ่อชิงได้
“ขอนึกก่อนนะ…” จั่วหลีพูด “เอ่อ อาจารย์จำไม่ค่อยได้แล้ว เอาเป็นว่าพวกน้ำมันตับปลามีแน่นอน อ้อ จริงสิ ยังมีตับหมูสิบลัง! บำรุงเลือด!”
อิ๋งจื่อจิน “…”
เธอกดตัดสายทิ้งทันที
จั่วหลีที่รอจดที่อยู่ “?”
…
กระแสในเน็ตมีความเคลื่อนไหว ในโทรทัศน์ก็ออกข่าวที่ตระกูลอิ๋งถูกแบน
“ทำดีมาก” จี้อี้หางตบโต๊ะอย่างแรง เขาโมโหมาก “ตระกูลอิ๋งมันไม่ใช่คนแล้ว”
“นั่นสิคะ” จี้หลีก็โมโหมาก “ทำบาปไว้ต้องได้รับกรรม ในที่สุดก็ได้รับแล้ว”
จี้อี้หางหันมา พบว่าจี้หลีก็กำลังติดตามข่าวอยู่ ทั้งยังถือโทรศัพท์มือถือ เขาอดอึ้งไม่ได้ “เสี่ยวหลี ลูกทำอะไรน่ะ”
จี้หลีส่งเสียงตอบรับ พูดด้วยความภูมิใจ “หนูกำลังช่วยดันแฮชแท็กให้เทพอิ๋งค่ะ”
จี้อี้หางงงมาก “ดันแฮชแท็กคืออะไร”
“ไอ๊หยา คุณพ่อแก่แล้วไม่เข้าใจ” จี้หลีทำต่ออย่างมีความสุข “เอาเป็นว่าเทพอิ๋งเป็นไอดอลของหนู ถ้าไม่ติดว่าหนูยังต้องทำการทดลอง หนูจะลงแข่งไอเอสซีแน่นอน”
จี้หลีทำคะแนนสอบเข้ามหาวิทยาลัยของตี้ตูติดร้อยอันดับแรก เธอเองก็เก่งมาก
เพียงแต่ลูกหลานสายตรงของตระกูลจี้ล้วนต้องเข้าศูนย์วิจัย
พวกเขาเริ่มลงมือทำการทดลองง่ายๆ ตั้งแต่สิบขวบแล้ว
การทดลองแต่ละครั้งล้วนเป็นการวัดผล
เมื่อถึงเวลาก็จะถูกจัดไปอยู่ห้องทดลองที่ระดับต่างกันจากสถิติการวัดผล
จี้หลีมีเวลาน้อยเกินไป เธอต้องรอสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จถึงจะว่างดูการแข่งขันไอเอสซีรอบชิงชนะเลิศย้อนหลัง
จากนั้นก็โดนตกเป็นแฟนคลับ
“ขนาดนั้นเลยเหรอ” จี้อี้หางก็อารมณ์ดีตามไปด้วย “ไว้พ่อเจอเฟิงเหมียน ไม่แน่ลูกอาจได้เจอไอดอลของลูกด้วย ลองนับดูเธอก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของลูก”
ขณะพูดจี้อี้หางก็ลุกไปห้องนอน
เขาไปฮู่เฉิงมาแต่กลับไม่เจอตัว ช่วงนี้มีข่าวว่าเวินเฟิงเหมียนมาปรากฏตัวที่ตี้ตูแล้ว
เขาจะลองไปหาดูอีกที
“เสี่ยวหลี” คุณนายจี้ขมวดคิ้วมองไปทางห้องนอนแล้วพูดเสียงเบา “ลูกไม่มีไอดอล และก็ไม่มีลูกพี่ลูกน้อง ได้ยินไหม”
จี้หลีอึ้ง “แม่คะ?”
“พ่อของลูกก็ไม่มีทางรับพวกเขาสองพ่อลูกกลับมา” คุณนายจี้เน้นย้ำ “ไปอ่านหนังสือได้แล้ว อย่าคิดเรื่องพวกนี้อีก”
จี้หลีเม้มริมฝีปาก วางโทรศัพท์ลงแล้วไปที่ห้องหนังสือ
จี้อี้หางเดินออกมา ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
ขณะที่เขาเตรียมออกไป คุณนายจี้ก็เรียกเขา
“จี้อี้หาง กว่าคุณจะได้เลื่อนมาอยู่จุดนี้ไม่ใช่ง่ายๆ” คุณนายจี้หลับตา “ทำไมคุณยังต้องเอาอนาคตของคุณไปเดิมพันด้วย คุณลืมแล้วเหรอว่าเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนคุณถูกดึงติดร่างแหยังไง”
ศูนย์วิจัยของตระกูลจี้ไม่ได้มีแค่คนในตระกูลจี้ ยังมีคนเก่งๆ ที่พวกเขารับเข้ามาด้วย
คุณนายจี้เป็นลูกสาวของรองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยในตอนนั้น
สาเหตุที่เธอจำเวินเฟิงเหมียนได้ไม่ใช่เพราะเคยเจอ แต่เป็นเพราะตอนนั้นเวินเฟิงเหมียนโด่งดังมากในตระกูลจี้
อัจฉริยะมากความสามารถ ไม่มีใครในตระกูลจี้ไม่รู้จัก
ตอนที่คุณนายจี้รู้จักกับจี้อี้หาง พ่อของเธอเกษียณออกมาแล้ว
และตอนนั้นก็เป็นเพราะจี้อี้หางติดร่างแหจากเหตุการณ์ห้องทดลองลับบนเกาะล้มเหลว จึงถูกถอดออกจากตำแหน่ง
จากที่ใกล้เลื่อนขั้นเป็นนักวิจัยอย่างเป็นทางการก็กลายเป็นสมาชิกทั่วไปในตระกูลที่ไม่ได้มีอำนาจอะไร
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเวินเฟิงเหมียน
เดิมทีตระกูลจี้ในตี้ตูก็เป็นสายหนึ่งที่แตกมาจากตระกูลจี้ในโลกจอมยุทธ์ มีเพียงคนส่วนน้อยที่ยีนมีความพิเศษ มีพรสวรรค์จอมยุทธ์
ลูกหลานที่มีพรสวรรค์จอมยุทธ์จะถูกรับกลับเข้าวงการจอมยุทธ์อีกครั้ง
ด้วยเหตุนี้ตระกูลจี้จึงยังคงเป็นไปตามธรรมเนียมดั้งเดิมของตระกูลในโลกจอมยุทธ์ แก่งแย่งชิงดีภายในอย่างรุนแรง มักมีนักวิจัยถูกฆ่าตายอย่างลับๆ
ตอนนั้นจี้อี้หางก็เกือบไม่รอดแล้ว แต่ได้คุณนายจี้ช่วยเอาไว้
ดังนั้นคุณนายจี้ถึงไม่ได้รู้สึกดีต่อน้องชายสามีที่ไม่เคยเจอหน้ากันคนนี้เลยสักนิด
“ฉันไม่เห็นด้วยที่เขาจะกลับมา” คุณนายจี้สูดลมหายใจเข้าลึก “อีกอย่างคุณรู้หรือเปล่าว่ามีคนในตระกูลจี้ตั้งเท่าไรที่อยากฆ่าเขา เขาจะทำคุณเดือดร้อนอีกครั้งคุณรู้หรือเปล่า!”
ตอนที่เธอเห็นเวินเฟิงเหมียนในโทรทัศน์ก็เกิดความหวาดกลัวที่นอกเหนือจากความตะลึง
ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่อยากให้เวินเฟิงเหมียนกลับมา
ปกป้องตัวเองไว้ก่อน
นี่คือความคิดของทุกคน
“ผมรู้ว่าคุณเป็นห่วง คุณเองก็ทำเพื่อผม” จี้อี้หางแต่งตัว เขาส่ายหน้า “แต่เขาเป็นน้องชายของผม แถมยังลำบากอยู่ข้างนอกมาตั้งมากขนาดนั้น เหตุการณ์ห้องทดลองในตอนนั้น คุณคิดว่าคนในตระกูลจี้ไม่มีส่วนจริงเหรอ”
“ต่อให้ผมไม่ทำอะไร คนอื่นในตระกูลจี้ก็ทำอยู่ดี พอถึงเวลาต้องสูญเสีย คุณกับผมอาจแบกรับไม่ไหวก็ได้”
คุณนายจี้อึ้ง
“ในเมื่อเขาเผยตัวออกมาแล้ว ก็แสดงว่าเขาเดินออกมาแล้ว ผมต้องช่วยเขา ผมไม่มีทางปล่อยให้พวกคุณได้รับอันตราย ถ้าเกิดเรื่อง ผมจะรับผิดชอบทั้งหมดเอง”
จี้อี้หางเปิดประตูเดินออกไป
คุณนายจี้ยังคงอึ้งอยู่ที่เดิม
สุดท้ายเธอก็ถอนหายใจ
…
ณ เมืองฮู่เฉิง
จงมั่นหวาออกจากตี้ตูประหนึ่งหลบหนี
แม้แต่ตอนอยู่บนเครื่องบินก็ยังมีคนจำเธอได้
มีคนถ่ายรูปเธอไม่หยุด ซุบซิบนินทา บอกว่าเธอไม่คู่ควรเป็นแม่คน
จงมั่นหวาใกล้สติแตกเต็มที
เธออยากเด่นอยากดังมาตลอด แต่นึกไม่ถึงว่าจะดังในรูปแบบนี้
ตระกูลเนี่ย ตระกูลมู่ ตระกูลตี้อู่…
จงมั่นหวาอ่านข่าวในโทรศัพท์มือถือ แม้แต่หัวใจยังสั่น
อิ๋งจื่อจินไปรู้จักมหาเศรษฐีชั้นแนวหน้าตั้งมากมายขนาดนั้นได้อย่างไร
ตอนที่เห็นชื่อเนี่ยอวิ๋นเจี้ยนกับมู่เฮ่อชิง เธอยิ่งนั่งไม่ไหว เบื้องหน้าเริ่มมืด
ที่แท้ตอนนั้นคนที่เอาเช็คมาฟาดหน้าก็คือคนที่มู่เฮ่อชิงส่งมา!
เวลานี้จงมั่นหวานึกเรื่องที่นานกว่านั้นขึ้นมาได้
ที่แท้รถคันนั้นที่เธอกับคุณนายมู่เห็นก็คือรถของมู่เฮ่อชิง
อิ๋งจื่อจินก็คือหมอเทวดาที่ช่วยชีวิตมู่เฮ่อชิง
มู่เฮ่อชิงรู้จักกับอิ๋งจื่อจินตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
ที่น่าตลกก็คือ เธอกับคุณนายมู่ต่างดูถูกอิ๋งจื่อจินทั้งคู่
เธอรังเกียจที่จะให้อิ๋งจื่อจินมาปรากฏตัวต่อหน้าคุณนายมู่ มีแต่จะทำให้ดวงตาของคุณนายมู่แปดเปื้อน
หลังเกิดเรื่องก็มีคอมเมนต์มากมายที่ใต้โพสต์เวยปั๋วทางการของอิ๋งซื่อกรุ๊ป
แปดสิบเปอร์เซ็นต์คือมาไล่บี้ถามเธอ แถมยังเป็นคำถามที่เหมือนๆ กัน
[จงมั่นหวา นึกเสียใจหรือเปล่า ถ้าเสียใจพวกเราก็มีความสุขแล้ว ขอให้จมอยู่กับความเสียใจไปทั้งชีวิตนะ เชิญกอดลูกเลี้ยงไปตามสบาย (ยิ้ม)]
จะไม่นึกเสียใจได้ยังไง
จงมั่นหวาอึดอัดใจมาก หายใจไม่ออก
ยิ่งอ่านข่าวก็ยิ่งรู้สึกแย่
เมื่อจงมั่นหวารีบร้อนไปถึงโรงพยาบาล อิ๋งเย่ว์เซวียนก็ออกไปแล้ว
พวกหมอยื้อชีวิตอิ๋งเจิ้นถิงกลับมาได้อีกครั้ง เพียงแต่เขายังไม่ฟื้น ยังคงหมดสติอยู่
จงมั่นหวารู้สึกโชคดีที่อิ๋งเจิ้นถิงหมดสติ ไม่อย่างนั้นถ้ารู้เรื่องในเน็ตจะต้องอาละวาดใส่เธอแน่นอน
เวลานี้หมอเจ้าของไข้เดินเข้ามาพร้อมเอกสารฉบับหนึ่ง “มีข่าวดีครับคุณอิ๋ง”
แม้แต่จะยิ้มจงมั่นหวาก็ยิ้มไม่ออก “ยังจะมีข่าวดีอะไรได้อีกคะ”
ตระกูลอิ๋งถูกแบน อิ๋งเจิ้นถิงสลบไม่ฟื้น เธอเองก็แทบตายจากสังคมแล้ว
“มีตับที่เข้ากับคุณอิ๋งได้ครับ” หมอเจ้าของไข้ยื่นผลตรวจในมือให้พลางถาม “พวกคุณอยากให้ผ่าตัดเมื่อไรดีครับ”
