ตอนที่ 457 เกิดกระแสอีกครั้ง หลักฐานมัดอิ๋งเจิ้นถิงกับอิ๋งเย่ว์เซวียนแน่น
เนื่องจากเมื่อวานอิ๋งเย่ว์เซวียนช็อกกับข้อมูลพวกนั้นในเน็ตจนยากเกินกว่าจะรับได้ ดังนั้นพออิ๋งเจิ้นถิงออกจากห้องไอซียูกลับมาอยู่ในห้องพักผู้ป่วยเธอจึงรีบออกจากโรงพยาบาลทันที จนลืมไปว่ายังมีเรื่องผลตรวจความเข้ากันของตับด้วย
“มีตับที่เหมาะสมแล้วเหรอคะ” จงมั่นหวาคิดว่าทางโรงพยาบาลช่วยหาให้ รู้สึกโล่งอกขึ้นมาหน่อย
“ขอดูหน่อยค่ะ”
เธอรับผลตรวจมาดู
ในนั้นมีศัพท์การแพทย์ และตัวเลขมากมาย จงมั่นหวาอ่านไม่เข้าใจ แต่ตรงท้ายสุดของเอกสารเขียนว่า ปลูกถ่ายได้
“งั้นก็ผ่าตัดเลยค่ะ” จงมั่นหวาพยักหน้า “ยิ่งเร็วยิ่งดี”
หมอเจ้าของไข้พยักหน้า “ครับ เชิญตามผมมาครับ ไปจ่ายเงินทางนั้น”
ค่าใช้จ่ายในการปลูกถ่ายตับเป็นจำนวนเงินไม่น้อย เริ่มต้นที่ห้าแสน
อีกทั้งหลังออกจากโรงพยาบาลยังต้องจ่ายค่าดูแลรักษาเป็นเงินที่สูงมากทุกปี
เส้นทางการทำธุรกิจของตระกูลอิ๋งถูกปิดกั้นอย่างสิ้นเชิงแล้ว แต่ยังดีที่มีเงินฝากอยู่ไม่น้อย
จงมั่นหวาเดินตามไป “คุณหมอคะ เป็นตับของใครเหรอคะ ฉันจะไปขอบคุณพวกเขาหน่อย”
“ไม่ใช่ใครอื่นครับ” หมอเจ้าของไข้เขียนใบรายการ ตอบโดยไม่เงยหน้า
“ลูกสาวของคุณ ก็เลยลดค่าใช้จ่ายไปส่วนหนึ่งครับ”
จงมั่นหวาอึ้ง “ลูกสาวฉันเหรอคะ”
เธอกับอิ๋งจื่อจินฉีกหน้ากันไปเรียบร้อยแล้ว
ยังจะมีลูกสาวที่ไหนอีก
ทันใดนั้นจงมั่นหวาก็นึกถึงอิ๋งเย่ว์เซวียน
ตับของอิ๋งเย่ว์เซวียนเข้ากันได้กับร่างกายของอิ๋งเจิ้นถิง เป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ
อย่างไรเสียคนที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดแต่ตับสามารถเข้ากันได้ก็มีน้อยมาก ดังนั้นการรอบริจาคตับถึงรอได้ยาก
จงมั่นหวาไม่คิดอะไรมาก คิดเพียงว่าอิ๋งเจิ้นถิงมีโอกาสหายแล้ว
…
ณ เมืองตี้ตู
ฟู่อวิ๋นเซินกำลังติดต่อฉินหลิงเยี่ยน
“เหล่าฟู่ รวบรวมหลักฐานไว้หมดแล้ว รับรองอิ๋งเจิ้นถิงไม่รอด” ฉินหลิงเยี่ยนทำเสียงจึ๊
“พอถึงเวลายัยป้านั่นก็ต้องสติแตกแน่”
เอาลูกสาวแท้ๆ ของตัวเองไปขายเพื่อลูกสาวนอกสมรส จงมั่นหวาจะรับได้เหรอ
“อืม” ดวงตาดอกท้อของฟู่อวิ๋นเซินหรี่ลง “ปล่อยออกไปพร้อมกัน”
ตอนนี้ตระกูลอิ๋งล้มแล้ว อิ๋งเย่ว์เซวียนยังจะบริจาคตับให้อิ๋งเจิ้นถิงอีกเหรอ
เช่นเดียวกัน เรื่องที่จิ่งหงเจินเริ่มโยกย้ายทรัพย์สินของอิ๋งเจิ้นถิง พวกเขาก็จะไม่ยุ่ง
ตระกูลอิ๋งเดินมาถึงขั้นนี้แล้วก็ต้องรับกรรม
“อือ ได้ๆ” ฉินหลิงเยี่ยนขานรับ
มือของเขาเพิ่งเคาะแป้นคีย์บอร์ด ทันใดนั้นก็ฉุกคิดขึ้นได้เรื่องหนึ่ง
ทำไมเขากลายเป็นกรรมกรใช้แรงงานอีกแล้วล่ะ!
คนโสดไม่มีสิทธิ์อะไรเลย
ฉินหลิงเยี่ยนโมโหฟึดฟัด ทำได้เพียงพิมพ์ต่อไป
ในเวลาหนึ่งวัน ไม่เพียงแต่กระแสบนเวยปั๋วจะไม่ซาลง
ทันใดนั้นได้มีข่าวใหญ่หล่นโครมใส่ชาวเน็ตอีกครั้ง
[ข่าวลับเฉพาะ จริงแท้แน่นอน ทุกคนรู้หรือเปล่าว่าตอนนั้นลูกเลี้ยงที่ตระกูลอิ๋งเอามาเลี้ยงแทนอิ๋งจื่อจินแท้จริงแล้วไม่ใช่เด็กกำพร้า
ลูกเลี้ยงที่ชื่ออิ๋งเย่ว์เซวียนคนนี้จริงๆ แล้วเป็นลูกสาวของอิ๋งเจิ้นถิงกับเมียน้อย มีรูปเป็นหลักฐาน
ฉันสงสัยว่าตอนนั้นที่อิ๋งจื่อจินถูกอิ๋งลู่เวยขโมยออกจากบ้านไปได้ง่ายขนาดนั้น ผู้ชายเฮงซวยคนนี้ก็น่าจะมีส่วนเอี่ยวด้วย]
รูปภาพเป็นผลตรวจดีเอ็นเอ ประทับตราโรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือ
ฉินหลิงเยี่ยนพิมพ์โค้ดเพื่อดันเวยปั๋วโพสต์นี้ให้ขึ้นอันดับหนึ่งคำค้นยอดนิยม
แบบที่พวกช่างเทคนิคก็แตะต้องไม่ได้
แฮชแท็กอิ๋งเย่ว์เซวียนเป็นลูกเมียน้อย
[อื้อหือ ลูกเมียน้อยเหรอ]
[อิ๋งเจิ้นถิงจะน่าขยะแขยงเกินไปแล้วหรือเปล่า ลูกสาวสองคนของเขาน่าสงสารมาก]
[หวังว่าโรคร้ายจะเอาชนะอิ๋งเจิ้นถิงได้ทันที(อีโมชันยิ้ม)]
[เทพอิ๋งน่าสงสาร แต่อิ๋งเย่ว์เซวียนไม่น่าสงสารแน่นอน นักเรียนในชิงจื้อต่างรู้ว่าอิ๋งเย่ว์เซวียนชอบแอบทำลายชื่อเสียงของเทพอิ๋งลับหลัง ทั้งยังยึดสถานะของเทพอิ๋งไปสิบกว่าปี มีอะไรน่าสงสาร]
ไม่นานก็มีคนเริ่มออกมาแฉมากขึ้นเรื่อยๆ
[ฉันเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันรอบชิงชนะเลิศไอเอสซี พวกเธออาจไม่รู้ว่าอิ๋งเย่ว์เซวียนถูกทางคณะกรรมการการแข่งขันตัดสิทธิ์ แถมยังถูกไล่กลับประเทศด้วยนะ ห้ามเหยียบเข้ายุโรปอีกแม้แต่ครึ่งก้าว ความผิดเทียบเท่านักโทษระดับสาม
ถ้าเธอปรากฏตัวที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองในสนามบิน เจ้าหน้าที่ก็จะเห็นข้อมูลทันที
รู้สาเหตุไหมว่าเพราะอะไร
เธอใส่ร้ายเทพอิ๋งว่าขโมยข้อมูลการทดลองของศูนย์วิจัยเมืองมหาวิทยาลัยในยุโรป ตอนนั้นทีมสืบสวนมากันหมด
โชคดีที่เทพอิ๋งมีไหวพริบ งัดหลักฐานออกมาได้ ไม่อย่างนั้นตอนนี้คนที่ถูกห้ามเข้ายุโรปก็คือเทพอิ๋งไปแล้ว
อิ๋งเย่ว์เซวียนน่าเห็นใจก็จริง แต่ก็น่ารังเกียจในเวลาเดียวกัน ไม่ควรค่าให้สงสารหรอกนะ]
เรื่องที่ทำให้ชาวเน็ตตะลึงก็คือ ต่อมามหาวิทยาลัยตี้ตูก็แชร์โพสต์นี้
ถึงแม้จะไม่พูดอะไร แต่ก็คือการยืนยันความจริง
[ครอบครัวนี้มันมีแต่ความเลว]
[อื้อหือ อิ๋งเย่ว์เซวียนทำแบบนี้เท่ากับอยากตัดเส้นทางการเป็นนักวิจัยวิทยาศาสตร์ของเทพอิ๋งเลยนะ คิดจะทำลายอัจฉริยะทางวิทยาศาสตร์ส่งเดชแบบนี้เลยเหรอ]
[ข่าววงในเชื่อถือได้บอกว่า มหาวิทยาลัยทั่วประเทศสั่งแบนไม่ให้อิ๋งเย่ว์เซียนเข้าเรียน แต่นึกไม่ถึงว่าคะแนนสอบของเธอผ่านเกณฑ์มหาวิทยาลัยชั้นนำมาแบบคาบเส้น ไม่ได้สัมผัสแม้แต่มหาวิทยาลัยชั้นแนวหน้า ทำกรรมไว้ก็ชดใช้ไปนะจ๊ะ]
[อุ้มเทพอิ๋งติดสปีดวิ่งห้าสิบเมตร หนีสามคนนี้ไปให้ไกล]
ฟู่อวิ๋นเซินอ่านคอมเมนต์นี้เสร็จก็เลิกคิ้ว
เขาวางโทรศัพท์มือถือลง เดินไปที่ระเบียง
อิ๋งจื่อจินสวมเสื้อแขนสั้นสีขาวนั่งอยู่ตรงนั้น
แสงแดดตกกระทบแผ่นหลังของเธอ ฉาบเป็นสีทองบางๆ
ดูสงบและงดงาม…
แววตาของฟู่อวิ๋นเซินวูบไหว เขาโน้มตัว กอดเธอจากด้านหลัง ริมฝีปากโค้งมน “เด็กน้อย”
อิ๋งจื่อจินกำลังแบ่งสมุนไพรที่เธอซื้อมาจากเว็บบอร์ดเอ็นโอเค อยู่ๆ ก็ถูกรบกวน มือหยุดชะงัก
เธอเช็ดมือแล้วหันไปมองเขา “อยู่ๆ มากอดฉันทำไม”
“พิสูจน์ว่าพวกเขาก็ได้แค่คิดกันในเน็ต แต่พี่ชายลงมือทำได้จริง” คางของฟู่อวิ๋นเซินเกยอยู่ บนบ่าของเธอ ใบหน้าของทั้งสองคนแนบชิด น้ำเสียงอ่อนโยน
“แขนของพี่ชายแรงดีมาก อุ้มเธอวิ่งห้ากิโลเมตรได้สบาย”
อิ๋งจื่อจินเหลือบมองเขา “คุณดูแปลกๆ”
เธอไม่รู้ว่าวันๆ เขาคิดอะไรอยู่
ฟู่อวิ๋นเซินใช้มือข้างหนึ่งกอดเธอ ส่วนมืออีกข้างดึงแก้มของเธอ หัวเราะเบาๆ
“แฟนสาว ขอหอมได้ไหม”
“ตอนนี้คนอยู่เยอะ” อิ๋งจื่อจินชะงัก ก้มหน้าแบ่งสมุนไพรต่อ “รอตอนไม่มีคน”
ด้านซ้ายเป็นห้องของซิวอวี่ ด้านขวาเป็นห้องของเจียงหราน
พอเสร็จเรื่องตระกูลซิวเธอค่อยย้ายออกจากบ้านตระกูลเนี่ย
“ตอนไม่มีคนเหรอ” ฟู่อวิ๋นเซินครุ่นคิด “ได้”
เขาย่อตัว อยากช่วยเธอแบ่งสมุนไพร
พอเอื้อมมือไปกลับถูกตี
“ฉันเพิ่งแบ่งเสร็จ ชั่งน้ำหนักเรียบร้อยแล้ว อย่าซน”
“…”
…
หลังจากจงมั่นหวาจ่ายเงินเสร็จก็ไปเฝ้าอิ๋งเจิ้นถิงจนเย็นแล้วถึงกลับบ้าน
ถูกด่าเยอะจนไม่กล้าเข้าเน็ต เธอปิดเน็ตสี่จีในโทรศัพท์มือถือ
อิ๋งเย่ว์เซวียนไม่อยู่บ้าน
จงมั่นหวาคิดว่าช่วงหลายวันมานี้เธอทำไม่ดีกับอิ๋งเย่ว์เซวียนไว้มาก แต่อิ๋งเย่ว์เซวียนก็ยังไปตรวจให้ จึงอดรู้สึกผิดไม่ได้
ครั้นแล้วจึงโทรเรียกให้กลับมา
อิ๋งเย่ว์เซวียนได้ยินจงมั่นหวาถามสารทุกข์สุขดิบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนในโทรศัพท์ก็อดตกใจไม่ได้
จิ่งหงเจินก็ไม่รู้ไปไหนแล้ว เธอจึงกลับไปคฤหาสน์บ้านตระกูลอิ๋ง
“แม่คะ” อิ๋งเย่ว์เซวียนหน้าซีด เธอเม้มริมฝีปาก “พวกเราจะทำไงดีคะ”
จงมั่นหวากระวนกระวายใจ
เธอไม่รู้เรื่องการทำธุรกิจ งานเลี้ยงสังสรรค์ก็แค่ไปเป็นเพื่อนอิ๋งเจิ้นถิง
ตระกูลในตี้ตูออกประกาศแบนตระกูลอิ๋งกันถ้วนหน้าแบบนี้ ตระกูลอิ๋งก็ต้องจบเห่แน่แล้ว
จงมั่นหวาสูดลมหายใจเข้าลึก “ไว้รอพ่อของลูกฟื้น พวกเราเก็บของแล้วไปอยู่เมืองนอกกัน”
อยู่ในประเทศไม่ได้แล้ว เงินที่พวกเขาฝากไว้สามารถไปกินใช้อย่างสุขสบายที่ต่างประเทศตลอดชีวิตได้ไม่มีปัญหา
ส่วนพวกผู้ถือหุ้นของอิ๋งซื่อกรุ๊ปควรทำยังไง จงมั่นหวาไม่มีทางคำนึงถึง
อิ๋งเย่ว์เซวียนสีหน้าเปลี่ยน
เธอถูกห้ามเข้ายุโรปแล้ว จะไปได้ยังไง
“เสี่ยวเซวียน แม่ขอโทษนะลูก” จงมั่นหวาไม่สังเกตเห็นความผิดปกติของอิ๋งเย่ว์เซวียน พูดเสียงเบา
“เมื่อหลายวันก่อนแม่โมโหเกินไป ถึงได้ว่าลูก”
เมื่อเทียบกันแล้ว ลูกที่รับเลี้ยงผูกพันมากกว่าลูกแท้ๆ เสียอีก
บนโลกมนุษย์ยังมีความรักความผูกพันอยู่ หัวใจของเธอถึงรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง
เวลานี้มีบุรุษไปรษณีย์มาที่ประตูรั้ว ยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้ “มีจดหมายครับคุณนายอิ๋ง”
จงมั่นหวาอึ้ง!
สมัยนี้ยังมีคนส่งจดหมายอีกเหรอ!
เธอเซ็นรับเสร็จก็เอาจดหมายฉบับนั้นมา
บนซองมีชื่อเธอ ส่งมาจากตี้ตู
ตรงชื่อคนส่งว่างเปล่า ไม่ได้ลงชื่อไว้
จงมั่นหวาใจคอไม่ดี…หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก
เธอแกะซองจดหมาย ในนั้นเป็นเอกสารตรวจดีเอ็นเอ
ทันใดนั้นอิ๋งเย่ว์เซวียนที่อยู่ข้างๆ ก็ตระหนักบางอย่างขึ้นมาได้ จะเข้าไปห้าม
เธอห้ามไม่สำเร็จ แถมยังทำให้รูปถ่ายที่อยู่ในซองจดหมายหล่นลงบนพื้น
อิ๋งเย่ว์เซวียนเบิกตาโพลง
รูปถ่ายพวกนั้นเป็นภาพแนบชิดสนิทสนมระหว่างจิ่งหงเจินกับอิ๋งเจิ้นถิง แถมยังขยายมาเป็นรูปใหญ่
จงมั่นหวาพลิกเอกสารตรวจเอ็นเอไปที่หน้าสุดท้าย
[ผลวิเคราะห์]
ดำเนินการพิสูจน์ดีเอ็นเอตามกฎของเมนเดลและการประยุกต์ใช้ต่างๆ จาก STR เก้าตำแหน่ง เช่น DBS1179 ซึ่งเป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่สืบทอดกันมาของมนุษย์ อัตราความเป็นไปได้ที่ไม่ใช่บิดาคือ 0.99999999989
[สรุปผล]
จากการพิสูจน์ดีเอ็นเอของศูนย์ตรวจดีเอ็นเอพบว่า อิ๋งเย่ว์เซวียนเป็นบุตรสาวของอิ๋งเจิ้นถิง