ตอนที่ 476 ซิวเหยียนถูกทิ้ง
ปีนี้จี้อวิ๋นตงอายุยี่สิบสองปี เนื่องจากจี้อี้หยวนมีผลงานมากพอสมควร เขาจึงเป็นกลุ่มที่ได้เลื่อนขั้นเข้าห้องทดลอง
จี้อวิ๋นตงก็รู้ว่า ความสามารถของเขาในด้านงานวิจัยไม่ได้โดดเด่น ไม่มีพรสวรรค์อะไร
แต่คนอื่นๆ ในตระกูลจี้ที่รุ่นเดียวกันกับเขาต่างจะมาประจบเขาเพื่อหวังเข้าพวกห้องทดลองที่อยู่ในมือจี้อี้หยวน
แต่ไหนแต่ไรมาจี้อวิ๋นตงได้รับคำเยินยอและสายตาอิจฉาจากคนรุ่นเดียวกัน
แต่ฟู่อวิ๋นเซินที่อายุมากกว่าเขาแค่ปีเดียวกลับได้นั่งแท่นประธานกลุ่มบริษัทที่มูลค่าเป็นแสนล้านแล้ว
ความแตกต่างระหว่างมนุษย์ด้วยกันมันช่างมากมายเหลือเกิน
จี้อวิ๋นตงเกิดความรู้สึกอิจฉานิดๆ เจือไปได้ด้วยความไม่สบอารมณ์เท่าไรในใจ
พอเขาถือแก้วไวน์เข้าไปก็ถูกกันออก
ถูกดันออกค่อนข้างแรง จี้อวิ๋นตงเซเล็กน้อย รู้สึกโมโห แต่กลับจำต้องข่มอารมณ์ไว้
“ขอโทษครับ” อวิ๋นซานไม่แม้แต่จะยิ้ม พูดเสียงแข็ง “ประธานฟู่ของเราไม่ดื่มเหล้า”
ขาดก็แค่คำพูดที่ว่า ‘อย่ามาทำตีสนิท’ ตอกใส่หน้า
แต่คำพูดนี้เป็นเรื่องจริง
ฟู่อวิ๋นเซินไม่ดื่มเหล้า เพราะเขาต้องเตือนตัวเองตลอดเวลาถึงความแค้นของตระกูลฟู่ ห้ามมีชั่วขณะที่ตัวเองไม่มีสติ
แขกที่อยู่โดยรอบสังเกตเห็นฟู่อวิ๋นเซินนานแล้ว มองมาตลอด
ตอนนี้จี้อวิ๋นตงชวนดื่มเหล้าไม่สำเร็จ กลับถูกหักหน้ากลับมา ยืนกระอักกระอ่วนอยู่ตรงนั้น
มองสายตาคนอื่นที่จ้องมาไม่หยุด เขาจะเข้าก็ไม่ได้ ถอยก็ไม่ดี
ฟู่อวิ๋นเซินไม่ได้สนใจ ดวงตาดอกท้อหลุบลง ไม่มองจี้อวิ๋นตง เดินตรงไปที่อีกด้านของห้องโถงใหญ่
อวิ๋นซานเดินตาม
จี้อวิ๋นตงถึงได้ยกเท้าที่หนักอึ้ง เขาไม่รู้ว่าตัวเองกลับเข้าไปหาจี้อี้หยวนได้อย่างไร
เขากัดฟัน รู้สึกรับไม่ได้ “พ่อ ดูเขานะ พอเป็นประธานโซนเอเชียแปซิฟิกก็ไม่เห็นคนอื่นในสายตาแล้ว”
จี้อี้หยวนก็รู้สึกขายหน้า
คนตั้งมากมายขนาดนี้มองอยู่ ไม่แม้แต่จะยิ้มให้ ไม่ให้เกียรติพวกเขาขนาดนี้เลยเหรอ
แต่จี้อี้หยวนสุขุมกว่า “ยังไงซะเขาก็มาร่วมงานหมั้นของแกแล้ว จะช้าหรือเร็วก็ต้องได้รู้จักกัน อีกอย่างพวกเราก็ใช่ว่าจะต้องง้อเขาคนเดียว”
“สำนักงานใหญ่ในยุโรปต่างหากที่เป็นศูนย์บัญชาการใหญ่ของวีนัสกรุ๊ป พวกเราติดต่อสำนักงานใหญ่โดยตรงก็ได้”
ฟู่อวิ๋นเซินเป็นตัวเลือกที่อยู่ใกล้สุด อีกทั้งยังเป็นคนจีน
โซนเอเชียแปซิฟิกของวีนัสกรุ๊ปเพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน อำนาจในมือฟู่อวิ๋นเซินย่อมมีอยู่ไม่เท่าไร
ยิ่งไปกว่านั้นเครือบริษัทที่ใหญ่ขนาดนี้ การแข่งขันภายในไม่มีทางน้อย พวกเขาไปเลือกผู้บริหารระดับสูงที่เป็นศัตรูกับฟู่อวิ๋นเซินก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ
จี้อี้หยวนไม่ได้คิดมาก คุยกับผู้เฒ่าซิวต่อ
อีกด้านหนึ่งของห้องโถงใหญ่
“คุณชายเจ็ด” เนี่ยเฉาเห็นฟู่อวิ๋นเซินเดินมา ในที่สุดก็ได้พูดความในใจแล้ว “มันน่าโมโหตระกูลซิวจริงๆ ฉันมาเพราะซิวอวี่ แต่พอมาถึง พวกเขากลับบอกว่าอีกเดี๋ยวจะมีงานหมั้นของซิวเหยียน”
ตระกูลเนี่ยกับตระกูลมู่ไม่รู้แผนที่อยู่ในใจผู้เฒ่าซิว คิดแค่ว่าเป็นตระกูลเศรษฐีชั้นแนวหน้าของตี้ตูเหมือนกัน ไม่ได้ตั้งใจไปสืบต่อแบบอวิ๋นซาน
กอปรกับผู้เฒ่าซิวเจตนาปิดบัง ก็แค่ปิดบังวีนัสกรุ๊ปไม่ได้
“อืม” ฟู่อวิ๋นเซินเหลือบตาขึ้น “ฉันรู้”
“งั้นยังจะรออะไร” เนี่ยเฉาโมโหยิ่งกว่าเดิม “ฉันจะลุยเข้าไปเดี๋ยวนี้”
“ไม่ต้อง” ฟู่อวิ๋นเซินพูด “รออีกเดี๋ยว”
“หา?” เนี่ยเฉางง “รอทำไมอีก”
“ทำภารกิจของแฟนฉันให้เสร็จก่อน”
“…”
เนี่ยเฉายังคงจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่ฟู่อวิ๋นเซินพูดขนาดนี้แล้ว เขาก็ได้แค่รอ
เวลาห้าโมงครึ่งงานเลี้ยงก็เริ่มอย่างเป็นทางการ
พวกสื่อที่ได้รับเชิญมาถึงกันแล้ว พวกเขารับหน้าที่ถ่ายภาพในวันนี้
“ขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมาร่วมงานหมั้นของหลานสาวผมในวันนี้ครับ” ผู้เฒ่าซิวรับไมโครโฟนมาจากพิธีกร เขายังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็น พูดขึ้น “วันนี้ผมขอแนะนำหลานสาวของผมให้ทุกคนได้รู้จัก ซิวเหยียนครับ”
“เด็กคนนี้อยู่ไม่เป็นสุข หนีไปเที่ยวเล่นในวงการบันเทิงมาสองปี ตอนนี้กลับมาแล้วครับ”
ซิวเหยียนอยู่ในชุดราตรีสั่งตัดอย่างดี เดินขึ้นเวทีจากอีกด้านหนึ่ง ยิ้มให้บรรดาแขกเหรื่อที่อยู่ด้านล่าง
แขกไฮโซของตี้ตูจำนวนไม่น้อยที่ได้รับเชิญมางานนี้ต่างสีหน้าเปลี่ยน
บัตรเชิญที่พวกเขาได้รับคืองานเลี้ยงต้อนรับซิวอวี่ ไม่รู้ว่ายังมีงานหมั้นของซิวเหยียนอีกด้วย
ผู้เฒ่าซิวแนะนำต่อ “ส่วนคนนี้คือคุณชายจี้ จี้อวิ๋นตงครับ”
ชื่อของจี้อวิ๋นตงไม่เป็นที่รู้จักนัก แต่แซ่ ‘จี้’ พวกแขกไฮโซของตี้ตูต่างรู้จัก
ตระกูลซิวทำธุรกิจ ตระกูลจี้วิจัยวิทยาศาสตร์ นี่ถือเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง
หากให้เวลาอีกหน่อย ตระกูลซิวจะต้องเจริญรุ่งเรืองกว่าตระกูลเนี่ยและตระกูลมู่แน่นอน
คราวนี้คนที่อยากกลับเริ่มเกิดความลังเล
พิธีหมั้นได้เริ่มขึ้นท่ามกลางสายตามากมาย
หลังจากเห็นซิวเหยียนกับจี้อวิ๋นตงผลัดกันใส่แหวนจนเสร็จ ผู้เฒ่าซิวถึงยิ้มออก
เขามั่นใจว่าต่อหน้าสื่อมากมายขนาดนี้ ตระกูลเนี่ยกับตระกูลมู่ไม่มีทางหักหน้าเขากับตระกูลซิวเพราะซิวอวี่แค่คนเดียวแน่นอน
ไม่ว่าอย่างไรซิวอวี่ก็เป็นแค่เด็ก ตระกูลซิวยังมีสมาชิกอีกมากมายหลายคน
สมัยเขาหนุ่มๆ ก็เคยสนิทกับมู่เฮ่อชิง รวมถึงผู้เฒ่าเนี่ย
ตระกูลมู่กับตระกูลเนี่ยจะกล้าฉีกหน้าพวกเขาต่อหน้าคนมากมายเพราะเด็กสาวเพียงคนเดียวได้เลยเหรอ
เรื่องแค่นี้ไปคุยกันทีหลังเป็นการส่วนตัวก็ได้
ทันใดนั้นได้มีเสียงทุ้มต่ำดังขึ้น ไม่ดังมาก แต่รับรองว่าได้ยินกันทุกคน
ฟู่อวิ๋นเซินเงยหน้าขึ้น ยิ้มมุมปาก “รอเดี๋ยวครับ ผมมีคำถาม”
ฟึ่บ สายตาทุกคู่และกล้องทุกตัวต่างเบนไปที่ฟู่อวิ๋นเซิน
พวกสื่อก็สังเกตเห็นแล้วว่าฟู่อวิ๋นเซินอยู่ในงานด้วย
สำหรับพวกเขา วีนัสกรุ๊ปย่อมเป็นประเด็นได้ดีกว่าตระกูลซิวมากทีเดียว
“ประธานฟู่ครับ คุณก็มาร่วมงานหมั้นของคุณหนูซิวเหยียนกับคุณชายจี้อวิ๋นตงเหรอครับ” มีนักข่าวคนหนึ่งกล้ายื่นไมค์ไปถาม “ไม่ทราบว่าอยากอวยพรอะไรให้ทั้งคู่ไหมครับ”
ฟู่อวิ๋นเซินประสานมือไว้ด้านหน้า พอได้ยินแบบนั้นก็หันไป พูดเสียงเนือย แต่ถามอย่างจริงจัง “ซิวเหยียนคือใคร”
“…”
เกิดความเงียบขึ้นในห้องโถง
รอยยิ้มบนใบหน้าซิวเหยียนค้างเติ่ง สีหน้าเริ่มซีดลงทีละนิด
“คุณไม่รู้จักคุณหนูซิวเหยียนเหรอครับ” นักข่าวอึ้งเสร็จก็ถามต่อ “หรือว่าที่คุณมา…”
“คุณหนูซิวอวี่เป็นเพื่อนสนิทของคุณชายเนี่ยเฉา ผมถึงได้มา ถ้าอย่างนั้น…” สายตาของฟู่อวิ๋นเซินค่อยๆ เบนไปที่ผู้เฒ่าซิว “ที่ตระกูลซิวบอกว่าเป็นงานเลี้ยงต้อนรับคุณหนูซิวอวี่กลับมาก็คือหลอกผมเหรอครับ หืม”
ผู้เฒ่าซิวสีหน้าเปลี่ยน
จี้อี้หยวนก็ตะลึง เขาหันไปมองผู้เฒ่าซิว สีหน้าขรึมลง
ที่แท้เขาก็ถูกหลอกแล้ว
ผู้เฒ่าซิวไม่ได้บอกเขาว่ายังมีงานเลี้ยงต้อนรับกลับมาอะไรนี่ด้วย
“ดูท่าตระกูลซิวจะหลอกผมแล้วสินะครับ” ฟู่อวิ๋นเซินยิ้ม น้ำเสียงนุ่มนวล “ก็ดีครับ”
“ประธานฟู่ นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิดครับ” ผู้เฒ่าซิวจำต้องพูดขึ้น ก้มหัวให้ฟู่อวิ๋นเซิน “งานเลี้ยงต้อนรับเสี่ยวอวี่ก็มีครับ อยู่ถัดจากงานหมั้นของเสี่ยวเหยียน ทั้งสองคนเป็นหลานสาวของผมทั้งนั้น ผมจะไม่ให้ความสำคัญได้ยังไงครับ”
“งั้นเหรอครับ” ฟู่อวิ๋นเซินลุกขึ้น เอามือลูบตรงอกเสื้อ โทนเสียงเย็นชา “ต่อไปถ้าไม่ใช่คุณหนูซิวอวี่เป็นคนจัดการเรื่องในตระกูลซิว สินค้าทุกตัวที่อยู่ในความดูแลของผมภายใต้วีนัสกรุ๊ปจะไม่มีทางร่วมงานกับตระกูลซิว”
“เว้นเสียแต่คุณหนูซิวอวี่จะมาด้วยตัวเอง”
พอเขาพูดจบ ทุกคนในห้องโถงต่างก็ตะลึง
คนที่อยู่ในงาน นอกจากอวิ๋นซานแล้วก็มีแค่เนี่ยเฉาที่รู้ว่าเขาทำตัวเสเพลไม่เอาไหนมาตลอด แท้จริงแล้วเป็นซีอีโอของวีนัสกรุ๊ป
คำพูดนี้ถือเป็นการตัดสัมพันธ์ระหว่างตระกูลซิวกับวีนัสกรุ๊ปทั้งหมด
ฟู่อวิ๋นเซินลุกออกจากห้องโถง
พอเขาออกไปแบบนี้เนี่ยเฉาก็ย่อมไม่มีทางอยู่ต่อ
บรรดาแขกไฮโซในงานชั่งน้ำหนักหากตระกูลซิวกับตระกูลจี้เกี่ยวดองกัน สุดท้ายไม่ว่าอย่างไรก็สู้วีนัสกรุ๊ปไม่ได้ จึงเลือกที่จะกลับเช่นกัน
สื่อมวลชนเมื่อถ่ายภาพได้ข่าวใหม่ที่ตัวเองต้องการแล้วก็พากันแยกย้ายเดินออก
ภายในเวลาไม่กี่นาทีนี้ ห้องจัดงานก็โล่งไปถึงสามในสี่
คนที่เหลืออยู่เป็นผู้อาวุโสในตระกูลซิวส่วนหนึ่งที่อยู่ฝ่ายผู้เฒ่าซิว
“ของปลอมก็คือของปลอมอยู่วันยังค่ำ ลูกเมียน้อยยังจะมาแสร้งทำตัวเป็นคุณหนูใหญ่” สาวไฮโซคนหนึ่งเดินออกมา เหลือบมองซิวเหยียนที่หน้าซีดเป็นกระดาษพลางทำเสียงจึ๊ใส่ “น่าสงสารจริงๆ”
ผู้เฒ่าซิวกำลังโมโหเลือดขึ้นหน้า ในที่สุดก็ระเบิดออกมา “ซิวเซ่าหว่าน!”
ซิวเซ่าหว่านคือน้องสาวพ่อแม่เดียวกันกับซิวเซ่าหนิง หรือก็คืออาหญิงของซิวอวี่
“อาคะ เดี๋ยวหนูพาไปร่อน” ซิวอวี่ดึงตัวอาหญิงของตัวเองไว้ “หนูเพิ่งซื้อรถใหม่ มันเยี่ยมมากเลยค่ะ”
ซิวเซ่าหว่านก็ไม่ได้ไว้หน้าผู้เฒ่าซิว เดินออกไปกับซิวอวี่
งานหมั้นครั้งนี้กลายเป็นเรื่องขบขันในทันที
ต่อให้ซิวเหยียนอดทนแค่ไหน สุดท้ายก็น้อยใจจนร้องไห้ออกมา “คุณปู่คะ…”
“ท่านผู้เฒ่า หมายความว่าไงครับ” สีหน้าของจี้อี้หยวนก็บึ้งตึง คนพวกนี้ไม่ได้มาเพราะคู่หมั้นของอวิ๋นตงเหรอครับ”
เหมือนเป็นการตบหน้าเขาชัดๆ
เขาเคยถูกหักหน้าแบบนี้ที่ไหนกัน
จี้อี้หยวนยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห “ถ้าเป็นแบบนี้ อวิ๋นตงของเราก็ไม่เอาคู่หมั้นคนนี้ครับ”
จี้อวิ๋นตงรักศักดิ์ศรียิ่งกว่าจี้อี้หยวน เขาถอดแหวนหมั้นโยนลงพื้น
ผู้เฒ่าซิวยังไม่ทันได้ห้ามก็เห็นจี้อี้หยวนกับจี้อวิ๋นตงเดินออกไปแล้ว
พ่อบ้านอ้าปากค้าง “คุณท่าน คือ…”
“ผิดแผนไปหมด” ผู้เฒ่าซิวโมโหมาก “คราวนี้ไม่มีใครเอาซิวเหยียนแล้ว งั้นก็ช่างเถอะ”
อย่างไรเสียเขาก็ต้องการยกตระกูลซิวให้น้องชายของซิวเหยียน ซิวเหยียนก็แค่ผลพลอยได้ ไม่ได้สำคัญ
“เตรียมส่งเธอไปเมืองนอก” ผู้เฒ่าซิวสั่ง “อย่าให้เธอกลับมาอีก”
ซิวเหยียนดูภายนอกเหมือนว่านอนสอนง่าย แต่ลับหลังทำเรื่องสกปรกอยู่ไม่น้อย
ผู้เฒ่าซิวรู้จุดนี้ เขาไม่มีทางปล่อยให้ซิวเหยียนทำเรื่องไม่ดีได้อีก
พ่อบ้านเช็ดเหงื่อ ขานรับ
คนของตระกูลใหญ่ต่างรู้ว่า การส่งไปเมืองนอกภายใต้สถานการณ์แบบนี้ก็คือการทอดทิ้ง
…
บนรถที่จอดอยู่ด้านนอก
เนี่ยเฉากับอวิ๋นซานนั่งอยู่ด้านหน้า
ฟู่อวิ๋นเซินนั่งเบาะหลัง ขายาวงออยู่ กำลังคุยโทรศัพท์ “จัดการเรื่องที่แฟนสาวสั่งมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว”
“ลำบากคุณแล้ว ฉันสืบมาได้หน่อย” อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “พ่อของซิวเหยียนไม่ใช่ซิวเซ่าหนิง พ่อของเธอคือลูกชายของผู้เฒ่าซิวกับรักแรก สองแม่ลูกเสียไปนานแล้ว ชีวิตก็ลำบาก”
“ฉันคิดว่าผู้เฒ่าซิวคงอยากให้สถานะที่ถูกต้องกับเธอ ถึงได้บังคับให้ลูกกับภรรยาของเขามาอยู่ในนามของซิวเซ่าหนิง”
แน่นอนว่าข้อมูลพวกนี้เธอไม่ได้สืบมา แต่ใช้การพยากรณ์
ซิวเหยียนเป็นคนธรรมดา เธอสามารถพยากรณ์ญาติสายตรงของซิวเหยียนได้อย่างง่ายดาย
“อืม” ฟู่อวิ๋นเซินสีหน้าเรื่อยเปื่อย “พี่ชายจะไปหาหลักฐาน ไว้ถึงเวลาค่อยปล่อยออกมา”
หลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จเขาก็ส่งข้อความออกไปหลายข้อความเพื่อให้คนไปสืบ
สามสิบนาทีต่อมารถก็หยุดลงหน้าคฤหาสน์บ้านตระกูลเนี่ย
“ไอ๊หยา ให้ตายเถอะ ซิวเหยียนนี่ช่างรู้จักชุบตัวจริงๆ เลยนะ” เนี่ยเฉาลงจากรถพลางไถโทรศัพท์ ทันใดนั้นก็พูดขึ้น “ยังจะสืบทอดมรดกร้อยล้านพันล้านอีกเหรอ หน้าไม่อาย”
อวิ๋นซานชะโงกหน้าไป พูดด้วยความตื่นเต้น “อะไรเหรอครับ”
เป็นโพสต์เวยปั๋วของพวกแอ๊กเคานท์เชิงพาณิชย์
เวลาที่โพสต์คือเที่ยงวันนี้ ตอนที่โพสต์ยังไม่เกิดเรื่องในงานหมั้น
[ข่าวเม้าท์ ไม่ใช่แค่ซิวเหยียนกลับไปอยู่บ้านแล้ว ยังจะแต่งงานด้วย เจ้าบ่าวเป็นคุณชายคนหนึ่งของตระกูลจี้
หลายคนอาจไม่เคยได้ยินตระกูลจี้ แต่ตระกูลนี้สุดยอดมากนะ ของหลายอย่างที่พวกเราใช้ก็พวกเขานี่แหละที่คิดค้น ห้องทดลองนึงมีตั้งหลายร้อยสิทธิบัตร มีสถานะที่สูงมากในวงการวิจัยวิทยาศาสตร์ระดับโลก อยู่ระดับที่พวกเราเอื้อมไม่ถึง
ต้องพูดเลยว่านี่เป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งมาก]
บรรดาแฟนคลับของซิวเหยียนพากันดีใจ
[พี่สาวฉันสุดยอดไปเลย!]
[เบบี๋เหยียนเก่งที่สุด]
การเกี่ยวดองของคนรวยเป็นเรื่องน่าสนใจ เกิดกระแสอย่างรวดเร็ว
ตั้งแต่ตอนเที่ยงจนถึงตอนนี้ผ่านไปหกชั่วโมงกว่าแล้ว แฮชแท็กขึ้นอันดับสาม
#ซิวเหยียนคนวาสนาดี#
[จึ๊ๆ ตระกูลซิวรับลูกเมียน้อยกลับไปแล้วไงล่ะ ก็ไม่เห็นจะมีสถานะอะไร เอาไปถือรองเท้าให้เบบี๋เหยียนเหรอ]
[นั่นสิ ตระกูลนักวิจัยอย่างตระกูลจี้สูงส่งมาก ไม่มีทางอยากได้ลูกเมียน้อยหรอก]
[ได้ชื่อมาแล้ว ซิวอวี่ ชื่อไม่เห็นเพราะเท่าเบบี๋เหยียนของพวกเราเลย]
[ไม่ใช่แค่ไม่เพราะนะ เป็นผู้หญิงยังจะขี่มอเตอร์ไซค์อีก ไม่อ่อนโยนเหมือนเบบี๋เหยียนของพวกเรา]
ในขณะที่แฟนคลับของซิวเหยียนกำลังเฉลิมฉลองอย่างมีความสุข ชาร์ตคำค้นยอดนิยมก็เกิดการเปลี่ยนแปลง
ปรากฏสองแฮชแท็กใหม่ที่ขึ้นไปยึดครองสองอันดับแรกไว้อย่างมั่นคง
#วีนัสกรุ๊ปประกาศไม่ร่วมงานกับตระกูลซิวอีก#
#ซิวเหยียนลูกเมียน้อย#