ตอนที่ 484 แบบนี้เรียกธรรมดาเหรอ!
เดิมทีอันโหรวจิ่นคิดว่า เธออดทนรอสักห้าปี ตั้งใจคลอดลูกชายให้เวินเฟิงเหมียนสักคน
เพื่อครอบครัว เวินเฟิงเหมียนจะต้องกลับตระกูลจี้แน่นอน คงไม่มีทางใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่เล็กๆ อย่างอำเภอชิงสุ่ยไปทั้งชีวิตหรือเปล่า
ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีห้างสรรพสินค้า เธออยู่ไม่ได้
แน่นอนว่าหลังจากเวินเฟิงเหมียนเอาเงินให้เธอแล้ว เธอจะไปใช้ชีวิตร่ำรวยอยู่ในเมืองข้างๆ ก็ได้
แต่อันโหรวจิ่นไม่รู้จักพอ มันแตกต่างจากจุดประสงค์ในตอนแรกของเธอ
แค่สามล้าน ใช้ทั้งชีวิตไม่ได้เสียหน่อย
อีกทั้งนอกจากเงิน อำนาจกับสถานะสำคัญยิ่งกว่า
อันโหรวจิ่นตั้งเป้าหมายให้ตัวเองอย่างชัดเจนมาตลอด เธอทำอย่างอื่นไม่เป็น ข้อดีเพียงอย่างเดียวคือหน้าตาดี เลือกแต่งกับคนฐานะดีได้
เธอควรใช้ข้อดีนี้ในการยกระดับตัวเอง
ถึงแม้จะมีคนมากมายดูถูกเธอที่มีความคิดแบบนี้ แต่แล้วไงล่ะ
ตอนนี้เธอก็กลายเป็นนายหญิงตระกูลหลินแล้วไม่ใช่เหรอ จอมยุทธ์มากมายต้องทำตัวนอบน้อมใส่เธอ
ดีกว่าอยู่กับเวินเฟิงเหมียนตั้งเยอะ
อันโหรวจิ่นนึกไม่ถึงจริงๆ ว่าเธอจะบังเอิญเจอเวินเฟิงเหมียนในโลกจอมยุทธ์
แต่ก็พอจะเข้าใจสาเหตุได้
ในเมื่อเวินเฟิงเหมียนกลับเข้าตระกูลจี้แล้ว ก็ย่อมได้คืนสถานะกับตัวตน
คนของตระกูลจี้ในโลกจอมยุทธ์จะให้เขามาร่วมงานประมูลก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
ส่วนใหญ่อันโหรวจิ่นจะใช้ชีวิตอยู่ในโลกจอมยุทธ์ ผ่านมาหลายปีขนาดนี้ก็ชินกับชีวิตในโลกจอมยุทธ์แล้ว ไม่มีโทรศัพท์มือถือไม่มีอินเตอร์เน็ต
เธอออกไปบ้างครั้งสองครั้งก็แค่ช้อปปิ้งให้เต็มที่ ไม่มีทางเข้าเน็ตติดตามข่าวสาร
เธอก็เลยไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเวินเฟิงเหมียนกับอิ๋งจื่อจิน คิดว่าเป็นแค่เด็กรุ่นลูกธรรมดา
“คุณนายหลิน” สายตาของจี้เทียนฮ่าวทอประกายเฉียบคม ครั้งนี้เรียกแซ่ด้วย “แบบนี้คือคุณนายอยากแทรกแซงเรื่องในตระกูลจี้เหรอครับ”
ตระกูลจี้เป็นฝ่ายตระกูลเซี่ย ถึงแม้จะไม่ถือเป็นศัตรูกับตระกูลหลิน แต่ก็ไม่ใช่พันธมิตรแน่นอน
จี้เทียนฮ่าวก็รู้ว่า คุณนายหลินคนนี้ต่างหากที่เป็นคนธรรมดาอย่างแท้จริง
หลินจิ่นอวิ๋นนายใหญ่ตระกูลหลินถ่ายทอดวิชากำลังภายในให้เธอโดยเฉพาะ แต่เธอก็ไม่เคยฝึกออกมาได้
เคยเชิญแพทย์แผนโบราณมาฝังเข็มเพื่อกระตุ้นจุดลมปราณแล้วก็ยังคงไม่มีประโยชน์
ทำให้คนที่ไม่มีพรสวรรค์จอมยุทธ์มีพรสวรรค์ขึ้นมา จนถึงตอนนี้ก็มีแค่การใช้วิธีฝังเข็ม
แต่น่าเสียดายที่คนที่สำเร็จมีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย
มีบันทึกในโลกจอมยุทธ์บอกไว้ว่า เมื่อสองสามร้อยปีก่อนแพทย์แผนโบราณสามารถปรุงยาที่ทำให้คนมีพรสวรรค์จอมยุทธ์ได้
แต่ต่อมาตำรับยานี้ก็ขาดการสืบทอด มีแค่ผู้นำตระกูลอาวุโสของตระกูลใหญ่ไม่กี่คนที่รู้
แต่ก็ใช่ว่าหลินจิ่นอวิ๋นจะเชิญผู้นำตระกูลอาวุโสเหล่านี้มาได้
ถึงแม้การให้ผู้นำตระกูลหลินไปเชิญผู้นำตระกูลฝูก็อาจทำให้ได้ยาที่อันโหรวจิ่นกินแล้วมีพรสวรรค์จอมยุทธ์ได้
แต่ทั่วทั้งโลกจอมยุทธ์มีใครไม่รู้บ้างว่า การที่ทุกวันนี้อันโหรวจิ่นขึ้นมานั่งตำแหน่งนายหญิงตระกูลหลินได้เป็นเพราะความสามารถอันโดดเด่นของหลินชิงจยา
ผู้นำตระกูลหลินมาด้วยตัวเองเพื่อหลินชิงจยาได้ แต่อันโหรวจิ่นไม่มีคุณสมบัตินั้น อย่างมากก็ได้แค่ให้ยาคงความอ่อนเยาว์ ไม่ถึงกับแก่ชราเร็วเกินไป
ขอแค่เธอทำตัวเป็นแจกันดอกไม้ให้ดี ไม่ทำเรื่องให้ตระกูลหลินเสียหาย เธอก็จะเป็นนายหญิงของตระกูลหลินไปได้ตลอด
แต่หลินจิ่นอวิ๋นก็ชอบอันโหรวจิ่นมากจริงๆ อย่างไรเสียเธอก็งดงามมาก
จี้เทียนฮ่าวก็เป็นหนึ่งในผู้คลั่งไคล้หลินชิงจยา
ผู้หญิงอย่างหลินชิงจยาที่เป็นทั้งจอมยุทธ์และแพทย์แผนโบราณ ความสามารถสูง หน้าตาเลอโฉม ใครบ้างไม่ชอบ
หลังจากจี้เทียนฮ่าวดูรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 เขารู้สึกว่าอิ๋งจื่อจินสวยจนน่าตะลึง สวยยิ่งกว่าหลินชิงจยา แต่เขาก็ไม่ได้เก็บอิ๋งจื่อจินมาใส่ใจ
สิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญมากที่สุดคือความสามารถ
คนธรรมดาอย่างอิ๋งจื่อจินก็เป็นได้แค่แจกันประดับแบบอันโหรวจิ่น
จี้เทียนฮ่าวหวั่นไหวขึ้นมาจริง แต่อยู่ๆ อันโหรวจิ่นพูดแบบนี้ เขาก็จำต้องรู้สึกหวาดระแวง
ช่วงนี้ศาลสถิตยุติธรรมจับตาดูแต่ละตระกูลใหญ่เข้มงวดมาก ตระกูลหลินอยากกำจัดตระกูลจี้ของพวกเขาหรือเปล่า ถึงได้ให้อันโหรวจิ่นมาตีสนิทเพื่อให้พวกเขาลดความหวาดระแวง
“หา?” พอได้ยินแบบนี้อันโหรวจิ่นก็งงนิดหน่อย “เธอชอบผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เหรอ เธอเป็นผู้ชาย กล้าๆ ไปจีบหน่อย ไม่อย่างนั้นพลาดไปจะมานั่งเสียดาย”
ขณะพูดเธอก็ยิ้ม “เรื่องแบบนี้ฉันก็บอกแค่กับลูกชายตัวเองเท่านั้น แต่เขายังเด็ก ต่อไปต้องเรียนรู้อีกมาก”
แน่นอนว่าลูกชายของเธอไม่ใช่เด็กซื่อบื้อที่มีปัญหาด้านสภาพจิตใจอย่างรุนแรง เก็บกดไม่พูดไม่จา
เธอกับหลินจิ่นอวิ๋นมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน ชื่อหลินเซ่า ปีนี้อายุสิบขวบ
สิ่งที่ทำให้อันโหรวจิ่นแปลกใจก็คือ พรสวรรค์จอมยุทธ์ในตัวหลินเซ่าธรรมดามาก ห่างชั้นกับหลินชิงจยาลิบลับ
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเป็นสมาชิกสายตรง พรสวรรค์จอมยุทธ์แย่ขนาดนี้ได้ถูกไล่ไปตระกูลสายอื่นนานแล้ว
แต่หากว่ากันตามหลักพันธุกรรม มันก็ดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไร
หลินจิ่นอวิ๋นเป็นนายใหญ่ตระกูลหลินได้ พรสวรรค์จอมยุทธ์ของเขาย่อมล้ำเลิศที่สุดในรุ่น
แล้วทำไมลูกชายของเธอกับหลินจิ่นอวิ๋นถึงได้มีพรสวรรค์จอมยุทธ์ด้อยกว่าลูกที่เธอมีกับเวินเฟิงเหมียนอีก
ต่อมาเธอกลับไปดูที่อำเภอชิงสุ่ย เวินเฟิงเหมียนก็ไม่ได้มีพรสวรรค์จอมยุทธ์
น่าแปลกจริงๆ
แต่อันโหรวจิ่นก็รู้สึกโชคดีที่หลินเซ่าไม่ได้เป็นเหมือนเจียงหรานคุณชายตระกูลหลิงที่ใช้แซ่ตามแม่ รายนั้นพอเกิดมากำลังภายในก็แปรปรวนจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
“ก็มีเหตุผลครับ” ความระแวงในแววตาของจี้เทียนฮ่าวหายไปบ้าง “ขอบคุณคุณนายที่แนะนำครับ ผมรู้ว่าควรทำยังไง”
“ฉันไม่ค่อยสบาย อยู่นานไม่ได้” อันโหรวจิ่นกระแอมสองที “ลุงหลินของเธอจะมาแล้ว ฉันต้องกลับไปอยู่กับเขา”
จี้เทียนฮ่าวคารวะอีกครั้ง “คุณนายเดินระวังครับ”
อันโหรวจิ่นเอาผ้าเช็ดหน้ามาบังไว้ครึ่งหน้า คล้ายหญิงงามในยุคโบราณ จากนั้นค่อยๆ เดินออกไป
เธอยิ้มมุมปากแบบที่สังเกตเห็นได้ยาก
ตอนนี้เธอไม่ต้องการเวินเฟิงเหมียนแล้ว เธอมีสามีที่ดีกว่า
แต่เวินเฟิงเหมียนจะมาปรากฏตัวให้ได้ งั้นก็ช่วยไม่ได้
…
งานประมูลจะเริ่มอย่างเป็นทางการในเวลาทุ่มตรง
แต่หกโมงครึ่งเจ้าหน้าที่ดูแลของศาลสถิตยุติธรรมก็ยังมาไม่ถึงงาน
เรื่องแบบนี้พบเห็นได้บ่อยมาก นั่นก็หมายถึงยังเตรียมตัวไม่พร้อม
ชั้นหนึ่งมีคนมาถึงสามในสี่แล้ว ห้องด้านบนก็นั่งกันจนเต็ม
ภายในงานประมูลก็ได้เตรียมอาหารชั้นดีไว้ให้แขก หนึ่งในนั้นมีเมนูปลาหงส์
ปลาหงส์ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหงส์ ก็แค่หางปลาคล้ายปีกนก
เมื่อจอมยุทธ์กินเข้าไปช่วยบำรุงกำลังได้ แต่ห้ามกินเยอะเพราะจะร้อนในได้ง่าย
ปลาหงส์มีแค่ในโลกจอมยุทธ์เท่านั้น ศาลสถิตยุติธรรมเปิดอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่หลายแห่งเพื่อเลี้ยงปลาหงส์โดยเฉพาะ
ไม่มีตระกูลจอมยุทธ์ตระกูลไหนที่จะเล่นใหญ่ขนาดนี้ได้เท่าศาลสถิตยุติธรรม
อิ๋งจื่อจินเปิดม่านเล็กน้อย มองลงไปข้างล่าง “ดูท่างานประมูลจะเริ่มช้า”
เธอครุ่นคิดชั่วครู่แล้วลุกขึ้น “พ่อรออยู่ที่นี่นะคะ หนูจะออกไปหน่อย”
เวินเฟิงเหมียนพยักหน้า “ไปเถอะ ระวังตัวด้วย ไม่ต้องห่วงพ่อ”
เขามีวรยุทธ์ขั้นพื้นฐานที่สุดแล้วด้วยความช่วยเหลือของอิ๋งจื่อจิน
อิ๋งจื่อจินยังได้ช่วยเลื่อนขั้นวรยุทธ์ของเขาขึ้นไปสิบปีโดยใช้วิธีเปิดลมปราณ ใช้ป้องกันตัวเองก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
เขาไม่มีทางถามว่าทำไมอยู่ๆ อิ๋งจื่อจินก็ทำอะไรเป็นมากขนาดนี้
โลกนี้กว้างใหญ่ เรื่องแปลกๆ มีอยู่มากมาย
ลูกสาวของเขา เขารู้จักดี
อิ๋งจื่อจินเข้าห้องน้ำที่อยู่ในห้องแล้วเริ่มแปลงโฉม
บางครั้งเธอก็ชอบโลกจอมยุทธ์ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปเมื่อหลายร้อยปีก่อน
ไม่มีกล้องวงจรปิด ไม่มีเทคโนโลยีขั้นสูง จะทำอะไรก็สะดวกมาก
สิบนาทีต่อมาเธอก็ออกจากภัตตาคารไปยังสถานที่ที่นัดฟู่อวิ๋นเซินไว้
อวิ๋นซานกับอวิ๋นอู้ก็อยู่
ทั้งสามคนต่างใส่หน้ากาก
หน้ากากเป็นสีดำ วาดลวดลายด้วยสีทองเข้ม ดูลึกลับแบบยุคโบราณ
ฟู่อวิ๋นเซินพิงกำแพง เดิมทียืนเรื่อยเปื่อยอยู่
แต่พอเห็นเธอเขาก็ยืดตัวตรง กวักมือเรียก ดวงตาดอกท้อโค้งมน “เยาเยา มานี่”
อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้วเล็กน้อย “ฉันปลอมตัวขนาดนี้ยังจำได้อีกเหรอ”
ไม่เพียงแต่เธอจะแปลงโฉม ยังเปลี่ยนรูปร่างด้วย
ขนาดเวินเฟิงเหมียนยังจำไม่ได้
“คนที่พี่ชายชอบ จะจำไม่ได้ได้ยังไง” ฟู่อวิ๋นเซินรับหน้ากากมาจากอวิ๋นซานแล้วก้มหยิกแก้มเธอเบาๆ “ต่อให้เธอกลายเป็นเด็กทารกพี่ชายก็จำได้”
อิ๋งจื่อจินเหล่มองเขา “คุณไม่น่าจะมีโอกาสนั้นแล้ว”
ฟู่อวิ๋นเซินขมวดคิ้วเล็กน้อย เริ่มใส่หน้ากากให้เธอ
หนึ่งวินาทีก่อนใส่หน้ากาก เปลือกตาของเขาขยับ เอียงหน้าประทับริมฝีปากเธอ
ถึงแม้จะแผ่วเบาดุจแมลงปอแตะผิวน้ำ แต่อ่อนโยน รู้สึกได้ถึงความร้อนแรง
อิ๋งจื่อจินคาดไม่ถึงว่าจะมีจูบที่มาอย่างกะทันหัน เธอค่อยๆ เหลือบตาขึ้น
“โทษที” ฟู่อวิ๋นเซินลูบศีรษะเธอ กอดเธอไว้แน่น สัมผัสความอ่อนนุ่มที่อยู่ในอ้อมกอด “อดใจไม่ไหว ตีพี่ชายได้นะ”
อิ๋งจื่อจินหันหน้าหนี “ช่างเถอะ ทำไม่ลง”
อวิ๋นซานร้องซี้ด รีบเอามือปิดตา
มองไม่ได้ ห้ามมองเลยจริงๆ
อวิ๋นอู้ยังคงหน้าตาย แต่กล้ามเนื้อกระตุกเบาๆ
อิ๋งจื่อจินปล่อยให้เขากอดจนพอใจ จากนั้นก็ถอยหนึ่งก้าว “ผู้บัญชาการ สถานที่เปิดโล่ง ระวังภาพพจน์ด้วย”
“ต้องระวังจริงด้วย” ฟู่อวิ๋นเซินหัวเราะ เงยหน้าขึ้น “ไปคลังสินค้า”
คลังสินค้าเป็นสถานที่เก็บของประมูลทั้งหมด กุญแจอยู่ที่หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยของศาลสถิตยุติธรรม มีทั้งหมดสิบดอก
กุญแจสิบดอกนี้ทำจากโลหะชนิดพิเศษ มีข้อจำกัดในการใช้ แต่ละดอกใช้ได้แค่ห้าครั้ง
ปรากฏว่าวันนี้ไม่รู้เกิดเรื่องอะไร มีกุญแจสามดอกที่ยังถูกใช้ไม่ครบห้าครั้งด้วยซ้ำ กลับแตกหักหมด
นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้
พวกเขาไม่มีกุญแจสำรอง จะให้หลอมใหม่ทันทีก็ไม่ทัน ทำได้เพียงพังเข้าไป
หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยเดินเข้ามาหาด้วยความนอบน้อม “นายท่าน”
เขาสังเกตเห็นว่าข้างกายฟู่อวิ๋นเซินยังมีผู้หญิงอีกคนจึงสงสัย “ท่านนี้คือ?”
อวิ๋นซานตอบทันที “คุณผู้หญิงท่านนี้เป็นคนธรรมดา”
พอได้ยินแบบนี้อวิ๋นอู้ก็เกือบหลุดหัวเราะ
หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยมองสำรวจเด็กสาวด้วยสีหน้าสงสัย เมื่อแน่ใจว่าเธอไม่มีกำลังภายในถึงเชื่อคำพูดของอวิ๋นซาน
หลักๆ คือฟู่อวิ๋นเซินอยู่ศาลสถิตยุติธรรมทำอะไรรัดกุมมาก ลูกน้องของเขาก็เหมือนกัน
หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องที่ว่าเขาจะถูกต้มแม้แต่น้อย
อิ๋งจื่อจินมองประตูที่ทำจากโลหะ “ต้องการเปิดประตูใช่ไหม”
“อืม” ฟู่อวิ๋นเซินพยักหน้าเบาๆ “ปิดกลไก”
หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยรีบปิดกลไกอย่างรวดเร็ว
ฟู่อวิ๋นเซินขึ้นหน้า
แต่เขายังไม่ทันทำอะไรอิ๋งจื่อจินที่อยู่ข้างๆ ก็ยกเท้าถีบเข้าไปที่ประตูโลหะ
ปัง เสียงดังสนั่น ประตูโลหะเกิดรอยแยก
สีหน้าของฟู่อวิ๋นเซินชะงัก
อิ๋งจื่อจินตบบ่าของเขา พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “อดไม่ได้ ไม่ต้องขอบคุณ”
หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัย “…”
นี่เหรอวะคนธรรมด๊า!
เห็นเขาตาบอดหรือไง
ประตูโลหะที่หนาและหนักขนาดนี้ ต่อให้จอมยุทธ์ต้องการพังก็ต้องมีวรยุทธ์อย่างน้อยห้าสิบปีขึ้นไป
พวกผู้อาวุโสของศาลสถิตยุติธรรมนั่งกันอยู่ที่สำนักงานใหญ่ หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยก็ไม่ได้มีวรยุทธ์สูงขนาดนั้น พอเขาได้ยินว่าปรมาจารย์ฟู่อวิ๋นเซินก็อยู่ที่งานประมูลด้วยจึงไปเชิญมา
“ต้องขอบคุณสิ” ฟู่อวิ๋นเซินยิ้ม “ขอกลับไปคิดก่อนว่าจะขอบคุณยังไง”
อิ๋งจื่อจินสีหน้าไร้อารมณ์ “งั้นไม่ต้องขอบคุณหรอก”
เธอพอจะคิดออกว่าเขาจะขอบคุณเธอยังไง
ประตูโลหะเกิดรอยแยกแล้วก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะพังเข้าไป
อวิ๋นซานกับอวิ๋นอู้รีบเข้าไปรื้อประตูโลหะออก
“ขอบคุณท่านคนคุ้มกันทั้งสอง” หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยเดินขึ้นหน้า มองไปทางฟู่อวิ๋นเซินกับอิ๋งจื่อจินที่เดินออกไป “คุณผู้หญิงคนนั้น…”
อวิ๋นซานกวาดตามองเขา “คุณเป็นคนของศาลสถิตยุติธรรม อะไรควรจำ อะไรไม่ควรจำ รู้ใช่ไหม”
หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยเช็ดเหงื่อ พูดเสียงสั่น “เข้าใจครับเข้าใจ ผมไม่กล้าเอาไปพูดอยู่แล้ว”
ตามคาด ในนี้ฝีมือของเขาอ่อนสุดแล้ว
…
เวลาทุ่มครึ่งเจ้าหน้าที่ดูแลของศาลสถิตยุติธรรมก็มาถึงงานประมูล
หลินชิงจยาถูกพ่อบ้านพาเข้าไปในห้องหอหยกงาม
เดิมทีหลินชิงจยาควรไปอยู่กับผู้อาวุโสตระกูลหลิน แต่อันโหรวจิ่นอยู่คนเดียวโดดเดี่ยว เธอก็เลยขอมาอยู่เป็นเพื่อน
อย่างไรซะเธอก็ไม่ต้องสนใจการประมูลเป็นพิเศษ อยากได้อะไรหลินจิ่นอวิ๋นก็ช่วยประมูลให้เธอ
“ชิงจยา” อันโหรวจิ่นเช็ดมุมปาก เม้มริมฝีปาก “แม่เจอพ่อของลูกด้วย”
หลินชิงจยาหันหน้ามา “หา คุณพ่อยังไม่มาไม่ใช่เหรอคะ เห็นว่าคุยกับตระกูลเทเลอร์อยู่ ไม่รู้คุยอะไรกัน”
“ไม่ใช่จิ่นอวิ๋น” อันโหรวจิ่นมีสีหน้ากลุ้มเล็กน้อย “พ่อแท้ๆ ของลูก”