ตอนที่ 504 พวกบอสชอบเล่นแผลงๆ
[เป็นรถตระกูลทีจริงด้วย! ถึงพวกเขาจะไม่ผลิตรถแข่งแล้ว แต่รถทั่วไปยังมี มักได้ขึ้นนิตยสารรถชื่อดัง! ฉันจำสัญลักษณ์ได้!]
[ตอนนั้นมีข่าวลือว่า สาเหตุที่ตระกูลทีเลือกถอนตัวออกจากวงการรถแข่งเป็นเพราะไร้คู่แข่ง ย้อนกลับไปดูรายการแข่งขันใหญ่ๆ เมื่อยี่สิบปีก่อน รถตระกูลทีทั้งนั้นที่ได้แชมป์ ไม่มีกรณียกเว้น]
ในการแข่งรถ นอกจากจะประกาศทีมรถแข่ง อันดับนักแข่ง ยังมีการประกาศยี่ห้อรถแข่งชื่อดังอีกด้วย มีการจัดอันดับ
[คุ้มแล้วๆ พ่อฉันคุยโม้ให้ฟังแต่เด็กว่าเขาเคยเห็นรถแข่งตระกูลที ถ้าไม่มีรถแข่งตระกูลทีเขาจะไม่ดูแข่งรถ ตอนนี้พ่อลงไปเล่นไพ่นกกระจอกแล้ว ฉันไม่บอกพ่อหรอก ฮี่ๆ]
[อ๊ากกก เนวิเกเตอร์ของนักแข่งเบอร์สิบเอ็ดคือใคร บังหน้าไว้มองไม่เห็น แต่ดูเหมือนจะเป็นผู้หญิง หุ่นดีด้วยนะ!]
เนื่องจากปัญหาด้านสมรรถภาพร่างกาย เดิมทีนักแข่งหญิงก็น้อยอยู่แล้ว ในสามสิบกว่าปีที่ตระกูลแมนสันจัดการแข่งรถแรลลี่ก็เคยมีนักแข่งหญิงปรากฏอยู่แค่ห้าคน
สามารถมาเป็นเนวิเกเตอร์ให้ซิวอวี่ได้ ความรู้ที่เกี่ยวกับรถแข่งย่อมไม่มีทางด้อยไปกว่าเธอ
นักพากย์ก็ตื่นเต้นมาก “ที่แท้นักแข่งเบอร์สิบเอ็ดของเราก็รอเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่นี่เอง ทุกท่านคงเห็นแล้ว นี่เป็นรถตระกูลที ผมเองก็เพิ่งเห็นรถตระกูลทีออกมาลงแข่งอีกครั้งครับ”
การแข่งขันแรลลี่รถแข่งที่ตระกูลแมนสันจัด นอกจากกำหนดเรื่องขนาดของรถแล้วก็ไม่มีการกำหนดอย่างอื่นอีก
ต่อให้ระหว่างแข่งเปลี่ยนตัวนักแข่งก็ไม่เป็นไร
สำหรับนายใหญ่แมนสัน เขาแค่อยากชมการแข่งขันที่สนุก
ไม่มีกฎเกณฑ์กลับจะยิ่งสนุกสนาน
พ่อบ้านดึงสติกลับมาได้ มองนายใหญ่แมนสัน “นายใหญ่ครับ”
“แข่งต่อ” นายใหญ่แมนสันกลับลงไปนั่งอีกครั้ง “สั่งลงไปว่า ถ้าวันนี้นักแข่งเบอร์สิบเอ็ดนำรถตระกูลทีเข้าที่หนึ่งได้ ไม่ใช่แค่เงินรางวัลจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ตระกูลที่เธออยู่ก็จะได้ทรัพยากรเพิ่มเป็นทวีคูณด้วยเหมือนกัน”
“ต่อให้ครั้งหน้าทีมนี้จะไม่ได้ที่หนึ่งแล้ว ตระกูลแมนสันก็จะไม่มีทางริบทรัพยากรคืน”
พอได้ยินแบบนี้พ่อบ้านก็ตะลึงมาก “ครับ”
เขาติดต่อผู้รับผิดชอบงานพลางเช็ดเหงื่อ
นายใหญ่ของพวกเขาเป็นพวกบ้ารถแข่งจริงๆ
หากวันไหนนายใหญ่แมนสันขายตระกูลแมนสันทิ้ง เขาจะไม่แปลกใจเลย
…
บนลู่แข่ง
ซิวอวี่ยังคงยืนอึ้งอยู่ที่เดิม
เธอมองรถแข่งคันใหม่ ดึงสติกลับมาไม่ได้
ซิวอวี่ย่อมเคยได้ยินยี่ห้อตระกูลที เธอได้ยินมาตั้งแต่เด็ก ซิวเซ่าหนิงเล่าให้เธอฟัง
ซิวเซ่าหนิงบอกว่า ‘การได้ขับรถตระกูลทีเป็นความใฝ่ฝันของนักแข่งรถทุกคน น่าเสียดายที่ตระกูลทีไม่ผลิตรถแข่งแล้ว เหลือแค่ไม่กี่คันที่จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ในยุโรป’
‘ไว้ต่อไปลูกลงแข่งได้ ไม่ว่าจะได้อันดับไหม พ่อจะให้รถแข่งที่ดีที่สุดกับหนูหนึ่งคัน รถแข่งคือความภาคภูมิใจของตระกูลซิว’
แต่เมื่อเธอได้มายืนอยู่ในสนามแข่งนี้อีกครั้ง พ่อของเธอกลับไม่ทราบชะตากรรม เป็นตายไม่รู้
เธอไม่รู้ว่าเขาอยู่ไหน อยากให้เขาเห็นก็ทำไม่ได้
“รถคันนี้ยกให้เธอ” อิ๋งจื่อจินนั่งพิงเบาะข้างคนขับ เลิกคิ้ว “วางใจได้ ไม่ต้องจ่ายเงิน”
ซิวอวี่เป็นเพื่อนผู้หญิงคนแรกที่เธอเจอหลังจากกลับมาอยู่บนโลกมนุษย์อีกครั้ง
แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยงกกับเพื่อน
ซิวอวี่ถึงดึงสติกลับมาได้ เธอเองก็สังเกตเห็นแล้วว่าสายตาและกล้องทุกตัวในสนามต่างมารวมอยู่ที่เธอ
เธอรีบเดินไปอีกด้านแล้วขึ้นรถ
รถเป็นของใหม่ อุปกรณ์ภายในครบครัน
แต่ล้ำกว่ารถแข่งคันเดิมของเธอไม่น้อยเลยทีเดียว
ผ่านไปสักพักเธอถึงเค้นคำพูดออกมาได้ “พ่ออิ๋ง เธอ…รู้อยู่ก่อนแล้วเหรอ”
“อืม” อิ๋งจื่อจินตั้งศอก “ป้องกันยังไงก็ไม่รอดหรอก งั้นก็ปล่อยให้พวกเขาเล่นสกปรกให้เต็มที่ จะได้ไม่ต้องยุ่งยาก ยังไงซะความปลอดภัยของเธอต่างหากที่สำคัญ”
หยุดเล็กน้อย ราวกับเธอมองความสงสัยของซิวอวี่ออก จึงค่อยๆ อธิบาย “ไม่ได้เอาให้เธอก่อนเป็นเพราะรถคันนี้แพงเกินไป ถูกทำพังไม่ดีแน่”
ซิวอวี่ “…”
เธอว่าแล้ว
ทัศนคติเรื่องเงินทองของพ่ออิ๋ง เธอเดาทางไม่ถูกหรอก
บอกว่าชอบเงิน แต่ใช้เงินอย่างกับโปรยทิ้ง ใจกว้างกว่าเธอเสียอีก
ซิวอวี่สวมหมวกกันน็อก นั่งประจำที่คนขับ สายตามองตรงไปข้างหน้า จับพวงมาลัยรถแน่น
ต่อให้ซิวเซ่าหนิงไม่ได้เห็น เธอก็จะทำให้ดีที่สุด
เนื่องจากรถตระกูลทีกลับสู่สนามแข่งอีกครั้งหลังจากผ่านไปยี่สิบปี บรรดาผู้ชมจึงทำใจให้เย็นลงไม่ได้ ลุกขึ้นตะโกนอย่างบ้าคลั่ง
บนที่นั่งแขกวีไอพีเป็นทีมรถแข่งที่มีสัญลักษณ์เอ็กซ์เอส
นี่คือทีมรถแข่งของยุโรป นับตั้งแต่ซิวอวี่ถอนตัวออกจากการแข่งขันเพราะเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ แชมป์ของการแข่งในปีต่อๆ มาก็คือพวกเขา
นักแข่งในทีมนี้ยังมีอีกตัวตนหนึ่ง นั่นก็คือทหารรับจ้างระดับบีขึ้นไป หัวหน้าทีมเป็นทหารรับจ้างระดับเอ
ทหารรับจ้างระดับเอ ความสามารถก็เทียบได้กับจอมยุทธ์ที่มีวรยุทธ์ยี่สิบปี สมรรถภาพทางร่างกายเหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไปมาก
ทีมรถแข่งเอ็กซ์เอสก็ได้ทรัพยากรไปไม่น้อยจากการคว้าแชมป์ทุกปี
แต่พวกเขาก็กลัวซิวอวี่เหมือนกัน
นักแข่งรถมากพรสวรรค์มีน้อยมาก หลายสิบปีกว่าจะมีมาสักคน
พวกเขาขาดทรัพยากรจากตระกูลแมนสันไม่ได้ แม้มีความเป็นไปได้นิดเดียว พวกเขาก็ต้องกำจัดทิ้ง
“มันเรื่องอะไรกัน” ชายวัยกลางคนมองรถคันสีน้ำเงิน สีหน้าขรึมลง เสียงแทบลอดไรฟันออกมา “ทำไมเธอถึงมีรถแข่งตระกูลทีได้!”
พวกเขาทำลายรถแข่งของซิวอวี่ไปแล้ว แม้แต่เนวิเกเตอร์พวกเขาก็จัดการ
แบบนี้ซิวอวี่ก็ไม่มีทางลงแข่งขันได้
“บอสครับ ไม่รู้เลยครับ” เด็กหนุ่มผมทองอีกคนส่ายหน้า เขาก็ตกใจมากเหมือนกัน “ตระกูลซิวมีสถานะในระดับโลกด้วยเหรอ ก็ไม่มี แล้วเธอขอให้ตระกูลทีออกแบบรถแข่งให้เธอโดยเฉพาะได้ยังไง”
ล้อเล่นอะไรน่ะ
ชายวัยกลางคนสีหน้าเย็นชายิ่งขึ้น แสยะยิ้ม “ไปบอกนักแข่งรถในทีม ทิ้งซิวอวี่ไว้ในลู่แข่งซะ ไม่ต้องสนอะไรทั้งนั้น ขอแค่ให้นักแข่งของเราได้ที่หนึ่ง”
เด็กหนุ่มผมทองใจหายวาบ
ทิ้งไว้ในลู่แข่ง นี่ก็คือการทำให้ซิวอวี่ตายและรถพังพินาศ
ทันใดนั้นได้ยินเสียงปืนของกรรมการดังขึ้นหนึ่งนัด
ปัง!
รถแข่งทั้งหมดวิ่งออกไปในทันทีดุจลูกธนูที่ถูกปล่อยออกจากคันศร
สิ่งที่เหนือความคาดหมายของทุกคนคือ ซิวอวี่ไม่ได้เป็นอันดับหนึ่งตั้งแต่ออกตัว เธอคงอยู่ที่อันดับประมาณสามสิบห้าตลอด
ส่วนเหยียนอันเหอนำเธออยู่ที่อันดับสามสิบ
ในเวลาไม่กี่นาทีก็ถึงโค้งมรณะโค้งแรก
เหยียนอันเหอเริ่มลดความเร็ว มีแค่พวกรถที่อยู่ข้างหน้าที่วิ่งด้วยความเร็วปกติ
รองหัวหน้าทีมเป็นเนวิเกเตอร์ของเหยียนอันเหอ เขารับหน้าที่คอยดูสภาพถนน ยิ้มพลางพูดดูถูก “หัวหน้าเหยียนพูดถูก ซิวอวี่ไม่ได้ลงแข่งรถมานานแล้วจริงๆ ฝีมือแย่ลงขนาดนี้”
ขับแบบนี้ยังคิดจะติดสามอันดับแรกอีกเหรอ
พอถึงเวลาได้อันดับรั้งท้าย เสียดายที่มีรถดีขนาดนี้
บนรถ
อิ๋งจื่อจินหรี่ตาลง “เพิ่มความเร็วตอนนี้ เลี้ยวโค้ง”
ฟิ้ว!
เวลาเดียวกันกับที่อิ๋งจื่อจินพูด ซิวอวี่เหยียบคันเร่ง หมุนพวงมาลัย
“เบี่ยงขวาสามสิบองศา”
“อีกสามวินาทีซ้ายหกสิบองศา”
“อีกหนึ่งวินาทีเพิ่มความเร็วเต็มกำลังสูบ”
ซิวอวี่ทำตามทุกคำสั่ง
ครั้นแล้วผู้ชมบนอัฒจันทร์ก็เห็นรถสีน้ำเงินเข้าโค้งมรณะได้อย่างน่าทึ่ง
เหมือนเหาะไปอย่างรวดเร็ว!
ทะยานไปอย่างบ้าคลั่ง!
“เพิ่มความเร็วแล้ว นักแข่งเบอร์สิบเอ็ดเพิ่มความเร็วแล้วครับ!” นักพากย์ก็พากย์ตามไปติดๆ “สมกับเป็นนักแข่งมากพรสวรรค์ของพวกเราเลยนะครับ!”
เพียงชั่วพริบตาซิวอวี่ได้แซงรถที่อยู่ข้างหน้าไปห้าคันได้สำเร็จ อีกทั้งยังทิ้งห่างรถคันข้างหลังไปไกลมาก
รองหัวหน้าทีมตะลึงตาค้าง ผ่านไปสักพักกว่าจะพูดออกมา “บ้าไปแล้ว!”
นี่เป็นโค้งมรณะโค้งแรกเลยนะ!
มีนักแข่งแค่ไม่กี่คนที่กล้าใช้ความเร็งสูงขนาดนั้นผ่านไป เพราะถ้าไม่ระวังจะพลิกคว่ำตายได้
ไม่ลดความเร็วก็ถือว่าเทพมากแล้ว แต่ซิวอวี่กลับกล้าเพิ่มความเร็วเลยเหรอ!
และก็เป็นเพราะอยู่ๆ ซิวอวี่ก็ทำอะไรแบบนี้ จึงพลอยส่งผลต่อรถคันอื่นไปด้วย
เหยียนอันเหอไม่ทันระวัง เบรกกระชั้น ชนเข้ากับต้นไม้ด้านข้าง
โครม ยางรถระเบิด
แม้แต่ช่วงแรกของการแข่งขันก็ยังไม่จบ ถูกบีบให้ออกจากการแข่งแรลลี่ครั้งนี้ไปทั้งแบบนี้
เหยียนอันเหอเม้มริมฝีปาก มองไปข้างหน้า
เธอเคยดูการแข่งของซิวอวี่ ซิวอวี่ทำแบบนี้ถือว่าปกติ แต่ซิวอวี่ไม่มีทางขับบ้าดีเดือดแบบนี้
คงเป็นคำชี้แนะของเนวิเกเตอร์แน่นอน
ความสามารถในการตัดสินใจแม่นยำขนาดนี้ แถมยังเป็นผู้หญิง เหยียนอันเหอคิดไม่ออกว่าเป็นใครที่สอดคล้องกับเงื่อนไขเหล่านี้
เนวิเกเตอร์ของซิวอวี่เป็นใครกันแน่
ข้างหน้า
“ตกใจหมดเลย” ซิวอวี่หัวใจเต้นแรง “ฉันไม่เคยขับแบบนี้มาก่อน เร้าใจมาก”
การแข่งขันแรลลี่มีหลายช่วงถนน ซึ่งแต่ละช่วงก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ตระกูลแมนสันยังได้ทำสภาพแวดล้อมอื่นๆ ไว้อีกมากมาย เช่น ทะเลทราย ภูเขาหิมะ เป็นต้น เพื่อให้เกิดความสนุกสนานในการรับชม
“อีกเดี๋ยวมีเร้าใจกว่านี้อีก” อิ๋งจื่อจินใจเย็นตั้งแต่เริ่มจนถึงตอนนี้ “ขับให้สบายใจ เรื่องเส้นทางยกให้ฉัน”
…
เวลานี้บนอัฒจันทร์ผู้ชม
อวิ๋นซานถือกล้องส่องทางไกลคอยดูสภาพอากาศตลอดเวลา “คุณชายครับ เกิดหมอกแล้วครับ การแข่งขันวันนี้จะยากขึ้นแล้ว”
สภาพอากาศแบบนี้อย่าว่าแต่นักแข่งรถเลย ต่อให้เป็นเนวิเกเตอร์ก็ตัดสินใจพลาดได้ง่าย
อวิ๋นซานดูอยู่สักพักก็สบถออกมา “ไอ้เวรเอ๊ย คุณชายครับ ทีมเอ็กซ์เอสหน้าไม่อาย พวกเขาจ้องเอาชีวิตคุณอิ๋งกับคุณซิวครับ”
บนลู่แข่ง ทันใดนั้นได้มีรถหกคันแยกกันเร่งความเร็วโดยที่ไม่สนใจว่าข้างหน้ากำลังจะถึงโค้งมรณะโค้งต่อไป พากันไล่บี้รถของซิวอวี่กับอิ๋งจื่อจิน
โครม!
รถชนกัน เกิดเสียงเสียดสีอย่างรุนแรง
เร็วเกินไป แม้แต่อากาศก็สั่นสะเทือน
แต่ภาพนี้กลับทำให้นายใหญ่แมนสันตื่นเต้นเร้าใจมาก “เยี่ยม! มีสู้กันสิดี!”
ซิวอวี่ย่อมสังเกตเห็นการโจมตีหมู่ของทีมเอ็กซ์เอสแล้ว “พวกเขาเหรอ”
“อืม” อิ๋งจื่อจินพยักหน้าเบาๆ “เธอขับไป ชนก็ชน เคยเล่นรถบั๊มพ์ไหม เอาแบบนั้นแหละ”
ซิวอวี่เชื่อใจอิ๋งจื่อจินมาก ครั้นแล้วก็เริ่มเล่นแผลงๆ
เธอชนรถหกคันด้วยกำลังของตัวเอง
บนหน้าจอถ่ายทอดสดมีขึ้นอักษร
โครมๆๆ!
เพียงชั่วพริบตารถหงายท้องตีลังกา
รถหกคันพังหมดในชั่วพริบตา มีเพียงรถสีน้ำเงินที่ยังคงขับต่อไป
ความร้ายกาจของรถตระกูลทีก็คือ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ ยางล้อรถ หรืออะไหล่อื่นๆ ทั้งหมดต่างสอดคล้องเงื่อนไขการแข่งรถทั้งสิ้น ไม่เคยผ่านการปรับแต่งให้เกินขอบเขตมาตรฐาน
แต่ภายใต้เงื่อนไขเหล่านี้ รถตระกูลทีกลับสามารถข่มรถคันอื่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ยี่ห้อรถแข่งอันดับหนึ่งของโลก ไม่ใช่แค่โม้เล่นๆ
แต่เนื่องจากระหว่างทางถูกรถของทีมเอ็กซ์เอสก่อกวนอยู่ตลอด ซิวอวี่จึงยังคงอยู่อันดับสิบ
อวิ๋นซานดูแล้วก็ตื่นเต้น “คุณชายครับ ทำไมถึงให้ตระกูลทีทำรถแข่งออกมาใหม่ล่ะครับ”
“รวย” ฟู่อวิ๋นเซินลูบอกเสื้อ ยิ้มชั่วร้าย “จะทำอะไรก็ได้”
อวิ๋นซาน “…”
ผิดแผนๆ เขาลืมไปว่าความสามารถขั้นสุดยอดของคุณชายของเขาก็คือหาเงิน
“รถคันนี้ราคาไม่ถูกเลยจริงๆ” อวิ๋นซานยังดูอยู่ ปวดใจสุดๆ “ผมทำงานห้าร้อยชาติยังซื้อไม่ได้เลย”
ตระกูลทีไม่ผลิตรถแข่งมานานแล้ว แต่ในความเป็นจริงเมื่อปีที่แล้วพวกเขาได้วางแผนผลิตรถแข่งรุ่นใหม่ออกมา
เพียงแต่ยังไม่มีการประกาศข่าวนี้
รถสีน้ำเงินที่อิ๋งจื่อจินขับไปก็คือคอนเซ็ปต์หลักของรถแข่งรุ่นนี้
จากศูนย์ไปถึงหนึ่งร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมงใช้เวลาแค่สองวินาที แรงจนน่าตกใจ
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ รถที่ยังอยู่ในสนามแข่งเหลือแค่สามสิบคัน
“ช่วงสุดท้ายแล้วครับ ช่วงสุดท้ายแล้วครับ!” นักพากย์พูดเร็วขึ้น “ตอนนี้อันดับหนึ่งคือนักแข่งเบอร์หกสิบสาม อันดับสองเป็นนักแข่งเบอร์หนึ่งร้อยสามสิบ นักแข่งเบอร์สิบเอ็ดของเราไม่ติดห้าอันดับแรกครับ!”
“เธออยู่ห่างจากอันดับห้าหลายร้อยเมตรเลยครับ!”
ยิ่งถึงช่วงหลัง ระยะห่างยิ่งมาก ห่างกันหลายร้อยเมตรขนาดนี้แทบจะขึ้นแซงไม่ได้แล้ว
อีกทั้งมาถึงช่วงถนนสุดท้าย นี่ต่างหากที่ชี้ชะตา
ตระกูลแมนสันทำถนนช่วงสุดท้ายไว้ยากมากเพื่อเพิ่มชั้นเชิงและความสนุกของการแข่งขัน
มีรถพังไปแทบจะทุกนาที
ซิวอวี่ก็ขับอย่างระวังเป็นพิเศษ
ด้านหน้ามีทางโค้งขนาดใหญ่
อิ๋งจื่อจินยังคงพูดเหมือนเดิม “เพิ่มความเร็ว”
ซิวอวี่จับพวงมาลัย นิ้วสั่นเล็กน้อย ราวกับมีกระแสไฟผ่านเข้าร่างกาย “พ่ออิ๋ง อันตรายนะ”
อิ๋งจื่อจินยิ้มเบาๆ “ไม่เป็นไร เพิ่มความเร็ว”
บรื้น!
เสียงเครื่องยนต์เร่งเครื่อง!