ตอนที่ 522 อิ๋งจื่อจิน ‘ฉันต่อให้สองท่า’
พอได้ยินแบบนี้จี้หลีก็สีหน้าเปลี่ยน ดึงชายเสื้ออิ๋งจื่อจิน “เทพอิ๋ง…”
เธอเองก็เพิ่งเคยฝึกระเบียบทหารครั้งแรก แต่ได้ยินพวกรุ่นพี่คุยกันในเว็บบอร์ดมานานแล้วว่าพวกครูฝึกเข้มงวดมาก
นักศึกษาหญิงกับนักศึกษาชายถูกจับแยกฝึก นักศึกษาหญิงจะดีกว่าหน่อย
อิ๋งจื่อจินตบหลังมือของจี้หลีเบาๆ ส่ายหน้าเล็กน้อย
เธอเดินออกไปอย่างไม่รีบร้อน แต่ไม่ได้ยืนตรงตำแหน่งที่เว่ยจื่อซวี่ชี้
ในเวลานี้เองเว่ยจื่อซวี่ถึงได้เห็นใบหน้าของเธอชัดเจน
ใบหน้าที่งดงามเหนือใคร
หน้าตาดุจภาพวาด ผิวพรรณดุจหยก ขาวผ่องเป็นยองใย
ดุจกิ่งซากุระที่มีดอกผลิบานอยู่เต็ม คล้ายหิมะที่อยู่บนยอดเขา
ไม่มีใครปฏิเสธความงามแบบนี้ได้
เว่ยจื่อซวี่ฝึกอยู่ในค่ายที่มีแต่ผู้ชาย ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ได้คุยด้วยมากหน่อยก็คือเหยียนอันเหอ
ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า เหยียนอันเหอที่เป็นหนึ่งในดาวมหาวิทยาลัยตี้ตู หน้าตาก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร
แต่เมื่อเทียบกับอิ๋งจื่อจินกลับหม่นหมองอย่างสิ้นเชิง
เว่ยจื่อซวี่เกิดข้อสงสัยขึ้นในใจ
หรือนักศึกษาหญิงคนนี้จะชอบหัวหน้าเรา เหยียนอันเหอถึงได้ไม่บอกหนิงอวี่เจ๋อ แต่มาบอกเขาให้ช่วยสั่งสอน
เป็นไปได้แปดสิบเปอร์เซ็นต์
“นับแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณคือรองหัวหน้าหมู่นี้ ระหว่างการฝึก คุณต้องรายงานสถานการณ์ของเพื่อนในหมู่ให้ผมฟังทั้งหมด” เว่ยจื่อซวี่พูดเสียงแข็ง “ในฐานะที่เป็นรองหัวหน้าหมู่คุณต้องทำตัวเป็นแบบอย่าง ผมจะเข้มงวดกับคุณมากกว่า”
หยุดเล็กน้อยแล้วถามขึ้น “คุณเห็นแย้งอะไรไหม”
เว่ยจื่อซวี่เข้าใจดีว่า ถึงแม้เขาจะเป็นครูฝึก มีอำนาจสั่งการทุกอย่างระหว่างฝึก แต่ก็ต้องอยู่ในกฎระเบียบ
หากเขาลงโทษนักศึกษาตามใจชอบ อย่าว่าแต่หน่วยอีจื้อเลย แม้แต่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยตี้ตูก็ยังจะมาเอาเรื่องเขา
เขาจึงทำได้เพียงใช้วิธีอ้อมค้อม
เมื่อเป็นแบบนี้ต่อให้อิ๋งจื่อจินไม่ได้ทำพลาด แต่เขาบอกว่าพลาดก็คือพลาด
เขาสามารถลงโทษเธอเป็นสิบเท่าของคนอื่นได้ ถือว่าได้ช่วยระบายความแค้นให้เหยียนอันเหอ
“มีค่ะ” อิ๋งจื่อจินตอบโดยไม่ต้องคิด พูดออกไปตามตรง “ไม่อยากเป็น”
เธอแค่มาพักผ่อน ไม่ได้มาเป็นแรงงาน
เว่ยจื่อซวี่ขมวดคิ้ว เขายังไม่ทันพูดนักศึกษาหญิงคนอื่นก็แย่งพูดก่อน
“ครูฝึก อย่าบังคับเทพอิ๋งเลยค่ะ เดี๋ยวฉันเป็นให้เอง!”
“พวกเราเป็นแทนได้หมดค่ะ”
“นั่นสิ พวกเรารับรองว่ารับเงื่อนไขที่เข้มงวดกว่าของครูฝึกได้ ให้พวกเราเป็นแทนเทพอิ๋งนะคะ”
ตอนแรกสุดพวกนักศึกษาหญิงไม่คาดคิดว่าอิ๋งจื่อจินจะมาฝึกระเบียบทหารด้วย อย่างไรเสียเธอก็มีสิทธิพิเศษแตกต่างจากนักศึกษาปีหนึ่งทั่วไป
ตอนนี้อิ๋งจื่อจินมาเข้าร่วมพวกเธอก็ดีใจ
ต่อให้แค่ฝึกอยู่หมู่เดียวกัน พวกเธอก็ได้มองนานๆ
“เงียบ!” เว่ยจื่อซวี่หน้าบึ้ง ตะคอกใส่ “ตอนแรกสุดผมพูดไว้ว่าอะไร”
“…”
เสียงค่อยๆ หายไป
พวกนักศึกษาหญิงมองหน้ากัน
เว่ยจื่อซวี่หันไปมองอิ๋งจื่อจิน สีหน้าเคร่งขรึม “เห็นหรือยัง ทำไมพวกเพื่อนๆ คุณต่างยินดีรับหน้าที่นี้ แต่คุณกลับไม่ยินดี”
“เพราะฉันเป็นแค่คนธรรมดา” อิ๋งจื่อจินมองท้องฟ้า “ไร้ความสามารถ แถมยังขี้เกียจ”
พวกนักศึกษาหญิง “…”
โกหกได้หน้าตาเฉยแบบนี้เลยเหรอ
เว่ยจื่อซวี่ชักโมโห
เขามองอิ๋งจื่อจินอย่างหมดความอดทน กำลังจะอาละวาดใส่
“ครูฝึกเว่ย” เวลานี้มีเสียงของหนิงอวี่เจ๋อมาจากอีกด้านหนึ่ง “หมู่ของพวกคุณทำอะไรกันอยู่”
เว่ยจื่อซวี่ยืนตัวเกร็ง “หัวหน้าหนิง ผมกำลังบอกกฎให้พวกเธอฟังครับ”
เหมือนที่เขาเดาไม่มีผิด
ไม่อย่างนั้นทำไมหนิงอวี่เจ๋อต้องมาสนใจหมู่ของเขาด้วย
หนิงอวี่เจ๋อไม่ถามอะไรมาก “เร็วเข้า”
“ครับ หัวหน้าหนิง” คราวนี้เว่ยจื่อซวี่จำต้องเลือกรองหัวหน้าหมู่ใหม่ สั่งให้อิ๋งจื่อจินกลับเข้าไปในแถว
เวลาต่อมาเว่ยจื่อซวี่ก็เอาแต่จับตาดูอิ๋งจื่อจินอยู่ตลอด
หลังจากยืนแบบทหารได้ห้านาทีเขาก็พูดเสียงดุ “อิ๋งจื่อจิน เมื่อกี้ขยับใช่ไหม ขยับตัวแล้วทำไมไม่รายงาน คุณคนเดียวยืนเพิ่มหกสิบนาที!”
อิ๋งจื่อจินเงยหน้าขึ้น
มีหลายเสียงที่ชิงพูดก่อนเธอ
“รายงานครูฝึก เทพอิ๋งเปล่า ครูฝึกมองผิดแล้วค่ะ”
“รายงานครูฝึก เทพอิ๋งยืนได้มาตรฐานมาก ท่าเป๊ะยิ่งกว่าครูฝึกอีกค่ะ”
“รายงานครูฝึก ฉันมองเทพอิ๋งอยู่ตลอดค่ะ เธอไม่ได้ขยับแม้แต่น้อย เส้นผมยังไม่โดนลมพัดเลยค่ะ”
เว่ยจื่อซวี่หน้าเขียวในทันที “พวกคุณไม่มองไปข้างหน้า มองเธอทำไม!”
พวกนักศึกษาหญิงต่างอึ้ง “เพราะ เพราะพวกเรายืนอยู่ข้างหลังเทพอิ๋งไงคะ”
เว่ยจื่อซวี่นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมีคนจับตามองอิ๋งจื่อจินเยอะขนาดนี้
เขากัดฟันพูด “ผมมองผิดเอง”
ต่อมาเว่ยจื่อซวี่ก็เปลี่ยนตำแหน่งการยืนใหม่ เอานักศึกษาหญิงคนอื่นมายืนหลังอิ๋งจื่อจิน
แต่หลังจากนั้นเวลาที่เขาจับผิดอิ๋งจื่อจินก็ยังคงไม่สำเร็จ
การฝึกในหนึ่งวันจบไปทั้งแบบนี้
เว่ยจื่อซวี่ทำตามที่เหยียนอันเหอสั่งไม่สำเร็จ เขาอารมณ์บูด
พวกนักศึกษาหญิงเกาะกลุ่มกันไปกินข้าว ต่างช่วยประคองกันและกัน
“ได้ยินว่าพวกเรายังต้องฝึกมวยทหารด้วยนะ”
“ฉันรอฝึกมวยทหารอยู่ แบบนี้ก็จะถือว่าฉันเป็นกังฟูแล้ว”
“พวกเธอไม่ได้ยินข่าวเหรอ นักศึกษามหา’ลัยเจอโจรระหว่างทางเลยร่ายมวยทหารใส่ สุดท้ายเจอแทงยี่สิบสี่แผล”
“…”
จี้หลีเดินไปพร้อมอิ๋งจื่อจิน เธอลังเล “เทพอิ๋ง ทำไมฉันรู้สึกว่าครูฝึกคนนี้ดูจงใจแกล้งเธอล่ะ”
“อืม” อิ๋งจื่อจินถือกระดาษทิชชู่เช็ดฝุ่นที่เลอะมือ เธอเลิกคิ้ว “ครั้งนี้เธอรู้สึกถูกแล้ว”
“มันจะเกินไปแล้วหรือเปล่า” จี้หลีโกรธมาก “เทพอิ๋ง ไม่อย่างนั้นเลิกฝึกเถอะ ยังไงซะเธอก็ไม่จำเป็นต้องฝึก”
“ไม่เป็นไร” อิ๋งจื่อจินซื้อไอศกรีมหนึ่งแท่ง พูดสั้นๆ “วันมะรืน”
“วันมะรืนเหรอ” จี้หลีเกาหัว ไม่เข้าใจ ความสนใจไปรวมอยู่ที่อิ๋งจื่อจินอีกครั้ง “เทพอิ๋ง ทำไมเหงื่อเธอไม่ออกล่ะ”
วันนี้พวกเธอฝึกยืนแบบทหารกับเข้าแถวกันตลอด
แค่ยืนแบบทหารก็ตั้งสี่สิบนาทีแล้ว ห้ามขยับตัว ยืนเสร็จเหมือนร่างกายจะฉีกขาด
อิ๋งจื่อจินพับแขนเสื้อ “การฝึกระดับนี้ทำไมเหงื่อต้องออกด้วย”
เบากว่าฝึกวิทยายุทธ์ตั้งเยอะ
เธอยืนอยู่ตรงนั้นมองทิวทัศน์อะไรไปเรื่อยเปื่อย
สบายจะตาย
จี้หลี “…”
อยู่ๆ ก็รู้สึกสงสารครูฝึกของพวกเธอที่ไม่ได้หน้าตาหล่อเหลาอะไร
…
ตอนเย็นไม่มีการฝึก อิ๋งจื่อจินไปที่ห้องทดลอง
ระหว่างทางเจอพวกครูฝึก เว่ยจื่อซวี่ก็อยู่ในนั้น
เธอไม่ได้มองไป ต่อมาก็เจออีกคน
เป็นหัวหน้าทีมสอง
“คุณอิ๋งครับ!” ฟ้ามืดมาก แต่หัวหน้าทีมสองตาไว สังเกตเห็นอิ๋งจื่อจินทันที รีบเดินเข้าไปหา “คุณอิ๋งเข้าฝึกจริงๆ เหรอครับเนี่ย อยู่หมู่ไหนครับ ผมจะได้ย้ายตัวเองไป”
เขาเป็นสมาชิกทางการ ไม่ได้รับหน้าที่ฝึก แค่แวะมาดู
แต่ถ้ามีอิ๋งจื่อจินก็ไม่เหมือนกันแล้ว
“ไม่ต้องค่ะ” อิ๋งจื่อจินเหลือบมองเขา “คุณไม่มีทางอยากถูกอัด”
หัวหน้าทีมสอง “?”
เขากลับไปที่หอพักของพวกครูฝึกอย่างงงๆ พวกสมาชิกฝึกหัดต่างทักทายเขา
เว่ยจื่อซวี่เข้าไปหา ยิ้มให้ “หัวหน้าสองครับ มาแล้วเหรอครับ”
“แวะมาดูน่ะ” หัวหน้าทีมสองเคร่งขรึมขึ้นทันที “พวกคุณตั้งใจฝึกให้ดี นี่เป็นหนึ่งในบททดสอบที่สำคัญที่สุดของพวกคุณ ฝึกนักศึกษาที่ยอดเยี่ยมออกมาได้ก็ถือว่าผ่านด่านความสามารถของตัวเอง”
พวกสมาชิกฝึกหัดต่างพยักหน้าเพื่อแสดงความแน่วแน่
“หัวหน้าสองครับ” หนิงอวี่เจ๋อพยักหน้าให้หัวหน้าทีมสอง “ไม่ทราบว่าผู้บัญชาการคนนั้นยังจะมาที่สนามฝึกอีกไหมครับ”
หัวหน้าทีมสองหันไป “คนไหนเหรอ”
หนิงอวี่เจ๋ออึ้ง “ก็คนที่วันนั้นมาสาธิตยิงปืนให้พวกเราดูไงครับ”
“อ๋อๆ เธอน่ะเหรอ” หัวหน้าทีมสองคิดแล้วตอบ “อีกเดี๋ยวพวกคุณก็น่าจะได้เจอเธอแล้ว”
คราวนี้พวกสมาชิกฝึกหัดต่างตื่นเต้นดีใจ
เว่ยจื่อซวี่ก็อดไม่ไหว ถามขึ้น “แต่พวกเรามาฝึกระเบียบให้นักศึกษาอยู่ จะได้เจอเธอได้ยังไงครับ”
ถ้าพลาดดูการสาธิตเพราะมาฝึกระเบียบให้นักศึกษา มันไม่คุ้มกัน
หัวหน้าทีมสองมองเขาด้วยสายตาประหลาด “ก็เพราะพวกคุณมาฝึกระเบียบนี่แหละถึงได้เจอเธอ”
เขามองสำรวจเสร็จก็เดินออกไป ร้องซี้ด
เขาลืมถามไปเลยว่าใครประจำหมู่ของอิ๋งจื่อจิน
โชคดีได้อยู่ในสายตาคุณอิ๋ง อีกเดี๋ยวได้ลอยลำเข้าหน่วยอีจื้อแน่
หน่วยอีจื้อเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลบรรดาตระกูลใหญ่ในตี้ตู กำลังขาดแคลนคน
…
วันที่สาม
การฝึกระเบียบทหารจัดกิจกรรมหมู่คณะครั้งแรก จัดโดยสภานักศึกษา ให้พวกนักศึกษาเห็นฝีมือของครูฝึก ปลุกความฮึกเหิม
จนกระทั่งมีนักศึกษาชายคนหนึ่งที่ฝึกเทควันโดมาสิบสองปีออกมาขอท้าครูฝึกหมู่ของพวกเขา เพื่อแลกกับวันพักผ่อนหนึ่งวัน
เหยียนอันเหอถามพวกครูฝึกเสร็จก็ตอบตกลง
ในเวลาเดียวกันเธอก็วางแผนในใจ มองหาในกลุ่มนักศึกษา สุดท้ายสายตาก็หยุดที่อิ๋งจื่อจิน
พวกเขาเป็นคนของหน่วยอีจื้อ แม้จะเป็นเพียงสมาชิกฝึกหัด แต่ก็เคยผ่านการฝึกพิเศษ ใช่ว่าพวกครูฝึกที่ถูกเชิญมาจากที่อื่นจะสู้ได้
อย่าว่าแต่นักศึกษาชายที่ฝึกเทควันโดคนนี้เลย ต่อให้เป็นพวกคนที่ฝึกการต่อสู้มาจริงๆ พวกเขาก็จัดการได้ในไม่กี่กระบวนท่า
ความจริงเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ไม่ต้องใช้หลายกระบวนท่า ครูฝึกสิงใช้แค่ท่าเดียวก็ล้มนักศึกษาชายที่ฝึกเทควันโดมาสิบสองปีคนนี้ได้
แน่นอนว่าเขายั้งมือไว้ ไม่ได้ทำให้นักศึกษาชายคนนี้บาดเจ็บ
นักศึกษาชายไม่ยอมแพ้ “ครูฝึกสิง ผมไม่ยอม ครูโตกว่าผมสองปี ต้องต่อให้ผมสองท่า”
ครูฝึกสิงหัวเราะเสียงดัง “ได้ๆๆ ต่อให้นายสองท่า”
นักศึกษาชายลุกขึ้นมาอีกครั้ง สู้กับครูฝึกสิงต่อ แต่ผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิม
หลังจากผ่านไปสองท่า ครูฝึกสิงก็เอาชนะนักศึกษาชายคนนี้ได้อีกครั้ง
นักศึกษาชายนอนแผ่บนพื้น ยอมแพ้แล้ว “ครูฝึกสิง สอนผมหน่อย นี่มันกระบวนท่าอะไร”
“เลิกคิดเถอะ พวกนายไม่อยากเรียนหรอก” ครูฝึกสิงส่ายมือ “ไปเรียนหนังสือเถอะ”
นักศึกษาชายประคองก้นเดินลงไป
“ยังมีนักศึกษาคนไหนอยากท้าครูฝึกอีกไหมคะ” เหยียนอันเหอถือไมโครโฟนยืนอยู่บนเวที ยิ้มพลางพูด “มีนักศึกษาชายแล้ว งั้นนักศึกษาหญิงสักคนไหมคะ”
พอคำพูดนี้ออกมาก็เกิดความเงียบขึ้นในสนาม
หนิงอวี่เจ๋อขมวดคิ้ว
ต่อให้นักศึกษาบางคนไม่รู้ว่าครูฝึกของมหาวิทยาลัยตี้ตูเป็นสมาชิกฝึกหัดของหน่วยอีจื้อทั้งนั้น แต่เหยียนอันเหอจะไม่รู้เลยเหรอ
ให้นักศึกษาหญิงออกมาสู้ อยากให้ตายเหรอ
หนิงอวี่เจ๋อมองเหยียนอันเหอ ส่งสายตาบอกให้เธอหยุด
เหยียนอันเหอแสร้งทำเป็นไม่เห็น ยิ้มพลางพูด “ถ้าวันนี้ใครสู้กับครูฝึกได้เกินสองกระบวนท่า หมู่ของพวกคุณได้หยุดพักหนึ่งวัน เป็นไงคะ”
นักศึกษาที่อยู่ด้านล่างพากันซุบซิบ ชักสนใจ แต่ก็ไม่มีใครขึ้นไป
อิ๋งจื่อจินนั่งอยู่บนสนามหญ้า อาบแดดอย่างขี้เกียจ ไม่สนใจเสียงรอบข้าง
“ฉันจำได้ว่านักศึกษาอิ๋งจื่อจินเป็นวิชาป้องกันตัว” สุดท้ายเหยียนอันเหอก็ทนไม่ไหว เรียกชื่อทันที “ตอนนั้นเคยมีข่าวไม่ใช่เหรอคะว่าเธอช่วยจับคนร้ายได้ จะลองขึ้นมาสู้กับครูฝึกของพวกคุณสักท่าสองท่าไหมคะ”
“เอาแบบนี้ คุณเป็นนักศึกษาหญิง ถ้าคุณชนะได้ หมู่ของพวกคุณพักไปเลยสามวันค่ะ”
เหยียนอันเหออยู่ในสภานักศึกษามานานแล้ว รู้จักใช้วิธีโจมตีทางจิตวิทยา
ฝึกระเบียบทหารเหนื่อยขนาดนี้ ไม่มีใครอยากพลาดโอกาสที่จะได้พัก
เธอเอ่ยชื่ออิ๋งจื่อจินขนาดนี้แล้ว ถ้าอิ๋งจื่อจินไม่ขึ้นไป นักศึกษาพวกนั้นก็จะไม่พอใจอิ๋งจื่อจิน
พอได้ยินแบบนี้ในที่สุดอิ๋งจื่อจินก็เงยหน้าขึ้น สายตาไปหยุดที่เว่ยจื่อซวี่ “เอาสิ”
เธอยืนขึ้นท่ามกลางสายตามากมาย ถอดเสื้อตัวนอกของชุดฝึกออก
ภายใต้แสงแดดที่ไม่แรงมาก แขนเล็กของเธอขาวผ่อง มีออร่าอ่อนๆ
เธอยืนนิ่ง เอียงศีรษะเล็กน้อย “ฉันต่อให้สองท่า”
นักศึกษาชายและนักศึกษาหญิงต่างส่งเสียงเชียร์
“เทพอิ๋ง!”
“เทพอิ๋ง ล้มพวกเขาเลย!”
“เทพอิ๋งสู้ๆ!”
ครูฝึกสิงแอบอิจฉา “ไอ๊หยา เหล่าเว่ย นักศึกษาหญิงคนนี้ในหมู่นายดังไม่เบาเลยนะ นักศึกษาหญิงในหมู่ฉันไม่มองฉันแล้ว”
จี้หลีฟังอยู่ ทันใดนั้นได้นึกถึงเมื่อตอนฝึกวันแรก อิ๋งจื่อจินพูดว่า ‘วันมะรืน’
เธอยังแอบงง หรือว่าอิ๋งจื่อจินตั้งใจรอเวลานี้โดยเฉพาะเหรอ
“ต่อให้ฉันสองท่างั้นเหรอ” เว่ยจื่อซวี่ราวกับได้ยินเรื่องตลก เขาตอบ “รู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา”
เขาถูกส่งมาฝึกระเบียบทหารได้เพราะเป็นกลุ่มที่เก่งที่สุดในบรรดาสมาชิกฝึกหัด
ถึงแม้จะสู้หนิงอวี่เจ๋อไม่ได้ แต่เรื่องเข้าหน่วยอีจื้อย่อมไม่มีปัญหาแน่นอน
ฝีมือของเขาดีกว่าครูฝึกสิงเยอะ
นักเทควันโดสายดำยังเอาชนะเขาไม่ได้ ต่อให้อิ๋งจื่อจินเก่งแค่ไหน ลำพังแค่นักศึกษาหญิงคนเดียวมีเหรอจะสู้เขาได้
อีกอย่าง นี่เป็นการท้าทายต่อหน้าคนมากมาย ใครจะทนไหว
“ไม่ต้องต่อให้” เว่ยจื่อซวี่พูดเสียงเย็นชา “เข้ามาเลย เห็นแก่ที่คุณเป็นผู้หญิง ผมจะยั้งมือให้”