ตอนที่ 244 น้องสาวแท้ๆ กับน้องสาวบุญธรรม
ความสำเร็จมาจากความพยายาม!
นี่คือคำชมของลู่เฉินที่มีต่อสมาชิกทั้งสามคนของวงเอ็มเอสเอ็น และยังเป็นการกระตุ้นตัวเองด้วย
การครอบครองทรัพย์สมบัติในโลกของความทรงจำ ทำให้เขาสามารถกินนอนอยู่บนนั้นตราบชั่วฟ้าดินสลาย ไม่จำเป็นต้องทุ่มเทความพยายามมากมาย ก็สามารถแลกชื่อเสียงและเงินทองที่คนอื่นหามาไม่ได้ตลอดชีวิต
แต่เป้าหมายของลู่เฉิน ไม่เคยคิดจะเป็นมดปลวกที่น่ารังเกียจเช่นนั้น
ความพยายามของเขาไม่ด้อยไปกว่าคนอื่น ฝึกศิลปะการต่อสู้ทุกวันแม้แต่ลมฝนก็ไม่อาจขัดขวางได้ ว่างจากงานก็จะเจียดเวลาไปนั่งฟังวิชาการที่วิทยาลัยดนตรีเพื่อเพิ่มพูนความรู้ และเพื่อเขียนบทละครเขาก็มักจะทำงานจนดึกดื่น…
ความหวังของลู่เฉินคือ ถ้าหากวันหนึ่งความทรงจำจากโลกของความฝันหายไปอย่างกะทันหัน เขาก็ยังอาศัยความสามารถของตัวเองสร้างอาณาจักรออกมาได้ แบบนี้ความสวยงามในชีวิตถึงจะไม่สูญเปล่า!
การเล่าเรื่องด้วยเสียงที่ไพเราะน่าฟังของเขา กระทบเข้าไปในหูของทุกคน แต่กลับมีความรู้สึกที่ต่างกันออกไป
ผู้บริหารระดับสูงของเฟยสือเรคคอร์ดต่างดีใจ เพราะพวกเขาได้รับเรื่องราวในการโปรโมตที่ดีที่สุด
ทีมสนับสนุนของวงเอ็มเอสเอ็นและบรรดาแฟนคลับของขุนศึกตระกูลลู่ รู้สึกซาบซึ้งเมื่อได้ยิน
ในขณะที่มู่เสี่ยวชู ซูเจียเจีย และหนิงเถียน กลับไม่อาจอดกลั้นความรู้สึกที่อยู่ในใจได้อีกต่อไป
หนิงเถียนเบ้าตาแดง เธอกัดริมฝีปากพลางยืดอกขึ้น สีหน้าที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจมีความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อแฝงอยู่ด้วย
มู่เสี่ยวชูก้มหน้า ซบไหล่ของซูเจียเจียร้องไห้สะอึกสะอื้น
ส่วนซูเจียเจียนั้นก็ร้องไห้น้ำตาอาบหน้าไปแล้ว
ความทุ่มเทพยายามของพวกเธอ ตัวของพวกเธอรู้ดีที่สุด แม้ว่าจะได้รับความสำเร็จแล้ว แต่ก็ไม่อาจลบความทรงจำที่ฝังอยู่ในจิตใจเหล่านั้นได้
ลู่เฉินเล่าเรื่องของวงเอ็มเอสเอ็นที่ตัวเองรู้จบแล้ว เขาเห็นสาวๆ ทั้งสามคนร้องไห้ จึงกล่าวขอโทษว่า “ต้องขอโทษจริงๆ ครับ พูดเรื่องเศร้าเยอะไปหน่อย ต่อไปผมจะเป็นคนเล่นเพลง ‘เขายังคงไม่เข้าใจ[1]’ เองครับ ขอเชิญสาวสวยผู้กล้าทั้งสามมาร้องเพลงให้ผมด้วยนะครับ!”
เสียงปรบมือคึกคักดังขึ้นทั่วทั้งงานทันที ทุกคนต่างลุกขึ้น
พวกเขากำลังโห่ร้องส่งเสียงเชียร์ให้วงเอ็มเอสเอ็น
ผู้หญิงทั้งสามเช็ดน้ำตาอย่างเขินอาย แล้วกอดซึ่งกันและกัน
ลู่เฉินนั่งลงด้านหน้าเปียโน
เขารวบรวมอารมณ์เล็กน้อย จากนั้นจึงกดแป้นเปียโนอย่างมั่นใจ
ตอนนี้ฝีมือการเล่นเปียโนของลู่เฉินมีการพัฒนาที่มากพอ บรรเลงทำนองท่อนแรกลื่นไหลพลิ้วไหวดั่งสายน้ำ
ภายในห้องจัดเลี้ยงเงียบลงอีกครั้ง ทุกคนกลับไปนั่งที่ ฟังการร้องเพลงของพวกสาวๆ
หนิงเถียนร้องท่อนแรกก่อน “ทำไมเธอถึงไม่เข้าใจหัวใจของฉันที่รักเธอ…”
“ฉันรักเธอมากจริงๆ!”
นี่คือท่อนแรกของเพลง ‘เขายังคงไม่เข้าใจ’
“จะต้องพูดอะไรอีก
ในเมื่อแก้วมันว่างเปล่าลงแล้ว
เมื่อหลับตาลงก็รู้สึกได้ถึงหิมะที่กำลังตกในใจของฉัน
ความหนาวยะเยือก
หรือว่าถึงเวลาที่
จะต้องคิดบัญชีกับความรักเสียที
เหลือเอาไว้เพียงความเหงา ต่างคนต่างต้องเช็กบิลกันเอง
ทำไมตอนที่ฉันผลักประตูออกไป
เขาถึงไม่มารั้งตัวฉันเอาไว้
เขายังไม่เข้าใจ
ยังคงไม่เข้าใจ!
ที่จากไปเพราะต้องการถูกหยุดยั้งเอาไว้
ถ้าเอ่ยปากออกมาก็คงจะเป็นความอบอุ่นที่ฉันต้องการ
เขายังไม่เข้าใจ
ไม่เข้าใจตลอดกาล!
ว่าอ้อมกอดหนึ่งสามารถทดแทนทุกสิ่งได้
ความรักที่มั่นคงก็เพียงพอแล้วที่จะเปลี่ยนจุดยืนของฉัน!
…”
ในฐานะที่เป็นเพลงร้องประสานเสียงของผู้หญิง เพลง ‘เขายังคงไม่เข้าใจ’ มีสไตล์ที่แตกต่างไปจากผลงานเพลงของวงเกิร์ลกรุ๊ปที่กำลังได้รับความนิยมในสมัยนี้เป็นอย่างมาก อารมณ์รักที่ลึกซึ้งแฝงไปด้วยความเศร้าจางๆ สามารถสะกิดความหมดหวังจนปัญญาต่อความรักที่อยู่ในหัวใจของผู้คนได้อย่างง่ายดาย
เมื่อเทียบกับความหวานซึ้งของเพลง ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ เพลงนี้มีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่า แต่ก็ยังคงได้รับความชื่นชอบจากแฟนเพลงมากมาย และคิดว่านี่คือผลงานเพลงที่ยิ่งฟังก็ยิ่งเพราะมากที่สุดในอัลบั้มนี้
ทว่าในสายตาของคนในวงการ การร้องเพลงของวงเอ็มเอสเอ็นถือว่าไม่เลว แต่การแสดงอารมณ์ความรู้สึกที่อยู่ในผลงานเพลงนี้ กลับแสดงออกมาได้ไม่เต็มที่
เหตุผลนั้นง่ายมาก เพลงรักเพลงนี้ส่วนใหญ่เล่าถึงผู้หญิงที่รู้สึกเจ็บปวดเพราะผู้ชายไม่เข้าใจความรักเป็นหลัก แล้วสาวๆ ที่โดดเด่นอย่างวงเอ็มเอสเอ็น จะมีประสบการณ์และเข้าใจความรู้สึกแบบนี้ได้อย่างไร
เพราะมีผู้ชายมากมายที่ตามจีบพวกเธอ ความเจ็บปวดนั้นคือสิ่งที่ยากจะมีได้
แต่ในสามคนนี้ มู่เสี่ยวชูร้องได้อารมณ์มากที่สุด ถ้าหากพูดว่าความรู้สึกที่แสดงออกมาของซูเจียเจียกับหนิงเถียนได้รับเพียงสี่ห้าคะแนน ของเธอต้องได้อย่างน้อยเจ็ดแปดคะแนน…จากคะแนนเต็มสิบคะแนน!
“…
จะต้องใช้อะไร
ในการละลายความเงียบงัน
ในเมื่อความหนาวเย็นปกคลุมอยู่รอบกายฉัน
ละลายอดีตเป็นหมอกควัน
ที่จางหายไป
และก้อนหิมะกลางใจก็กลิ้งออกไป
กลัวว่ายังไม่ได้ทันได้พูดอะไรน้ำตาจะไหลออกมาก่อน
ไม่ใช่ว่าเขาให้ความรักฉันไม่พอ
แต่เป็นเพราะไม่รู้ว่าฉันต้องการอะไรต่างหาก
เขายังไม่เข้าใจ
ยังคงไม่เข้าใจ
ที่จากไปเป็นเพราะต้องการถูกหยุดยั้งเอาไว้
ถ้าเอ่ยปากออกมาก็คงจะเป็นความอบอุ่นที่ฉันต้องการ
เขายังไม่เข้าใจ
ไม่เข้าใจตลอดกาล
ว่าอ้อมกอดหนึ่งสามารถทดแทนทุกสิ่งได้
ความรักที่มั่นคงก็เพียงพอแล้วที่จะเปลี่ยนจุดยืนของฉัน!
…
และปกป้องฉันเอาไว้ได้!”
หลังจากร้องจบแล้ว ผู้หญิงทั้งสามคนจึงจับมือกัน โค้งคำนับเหล่าแฟนคลับและแขกผู้มีเกียรติที่อยู่ด้านล่างเวทีอย่างพร้อมเพรียงกัน!
เสียงปรบมือดังขึ้นมา!
พวกเธอหมุนตัว โค้งคำนับไปที่ลู่เฉินอีกครั้ง
ผู้หญิงทั้งสามต่างรู้ดีว่า ความสำเร็จที่พวกเธอได้รับในวันนี้ เกี่ยวข้องกับลู่เฉินอยู่แล้ว
พวกเธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะสามารถรักษามิตรภาพแบบนี้กับลู่เฉินได้ตลอดไป
ลู่เฉินลุกขึ้น ยิ้มเล็กน้อย และปรบมือ
สาวๆ ทั้งสามคนมองหน้ากัน เผยรอยยิ้มยินดีออกมา
ต่อจากนี้ไป พวกเธอจะร้องเพลง ‘ความรักอยู่ที่ไหน’ ซึ่งเป็นเพลงที่สามในค่ำคืนนี้
และลู่เฉินก็บรรเลงดนตรีประกอบเหมือนเดิม
ถึงแม้จะไม่ได้เรียบเรียงดนตรีอิเล็กทรอนิกส์มาอย่างดี แต่ความร่วมมือกันแบบนี้กลับทำให้พวกแฟนคลับรู้สึกถึงความสมจริงมากกว่า
ตอนที่เพลง ‘ความรักอยู่ที่ไหน’ สิ้นสุดลง ลู่เฉินเตรียมตัวเดินลงจากเวที
แต่ผลปรากฏว่ามีคนร้องตะโกนเสียงดังมาจากด้านล่างเวที “ร้องเพลงคู่สักเพลงสิ!”
หลายคนหัวเราะขึ้นมาทันที พูดกันฮือฮา “ใช่แล้ว ร้องเพลงคู่สักหน่อย!”
มู่เสี่ยวชู ซูเจียเจีย และหนิงเถียนต่างเธอมองฉัน ฉันมองเธอ จากนั้นสองคนหลังก็จับแขนซ้ายขวาของมู่เสี่ยวชูยิ้มแล้วผลักเธอไปอยู่ตรงหน้าลู่เฉิน “ให้เสี่ยวชูร้องเพลงคู่กับพี่ลู่เฉินนะคะ!”
ความจริงนี่คือรายการที่เตรียมไว้ในค่ำคืนนี้ เพื่อมอบ ‘ความตื่นเต้นช่วงท้าย’ ให้กับเหล่าแฟนคลับ
เมื่อครู่คนที่ตะโกนให้ร้องเพลงคู่ ก็คือคนที่ได้รับการไหว้วานจากฝ่ายเฟยสือเรคคอร์ด
สำหรับพวกแฟนคลับแล้ว ความจริงไม่ได้มีความสำคัญมากนัก ที่สำคัญคือพวกเขาได้รับความตื่นเต้นและความสุข
เวลานี้ ในห้องถ่ายทอดสดของลู่เฉินใน ‘จิงอวี๋ทีวี’ มีจำนวนคนออนไลน์ทะลุหลักล้านแล้ว!
หลังจากได้เซ็นสัญญาใหม่กับ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ลู่เฉินก็ไม่ใช่ผู้ดำเนินรายการเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่เขาเป็นดาราพรีเซ็นเตอร์ของ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ข้อเสนอและการปฏิบัติที่ได้รับทั้งหมดจึงต่างจากเมื่อก่อนราวฟ้ากับดิน
อย่างเช่นงานเลี้ยงรางวัลแพลตตินั่มดิสก์อวอร์ดส์ของวงเอ็มเอสเอ็นในคืนนี้ เฟยสือเรคคอร์ด จิงอวี๋ทีวี และสตูดิโอลู่เฉินทั้งสามฝ่ายได้สื่อสารกันเรียบร้อย และ ‘จิงอวี๋ทีวี’ ก็ได้รับสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดออนไลน์เพียงเจ้าเดียว
เนื่องจากตลาดของการถ่ายทอดสดออนไลน์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง บริษัทบันเทิงได้จ้องมองเค้กก้อนนี้ไว้นานแล้ว มีหลายเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจมีเดียเจ้าไหนสักแห่ง ได้ทำการฝึกอบรมเน็ตไอดอลของตัวเองอย่างเต็มที่ แล้วให้เปลี่ยนไปเข้าวงการบันเทิงอีกที
ในทางกลับกัน เดิมทีศิลปินดาราระดับสองระดับสามที่ไม่สนใจการจัดรายการออนไลน์ ก็เริ่มเกิดความสนใจเกี่ยวกับการถ่ายทอดสดออนไลน์ ดาราแต่ละคนเริ่มเปิดห้องถ่ายทอดสดเป็นของตัวเอง เพื่ออาศัยส่วนนี้เพิ่มจำนวนแฟนคลับและความนิยม
ความสำเร็จของลู่เฉินคือตัวอย่างที่ดีที่สุดอย่างหนึ่ง เขามีชื่อเสียงโด่งดังมาจากแพลตฟอร์มออนไลน์ อาศัยพลังของชาวเน็ตกลายเป็นดวงดาวจรัสแสงได้สำเร็จ และทุกวันนี้เขาก็ยังรักษาฐานะผู้ดำเนินรายการออนไลน์ไว้เหมือนเดิม
ได้ยินว่าเฟยสือเรคคอร์ดก็อยากให้วงเอ็มเอสเอ็นเปิดห้องถ่ายทอดสดกับ ‘จิงอวี๋ทีวี’ เหมือนกัน ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายกำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจา
การถ่ายทอดสดของห้องถ่ายทอดสดลู่เฉินในคืนนี้ ก็คือจุดเริ่มต้นของการร่วมมือ
ตอนที่มู่เสี่ยวชูถูกผลักให้ออกมาร้องเพลงคู่กับลู่เฉิน คอมเมนต์สดในห้องถ่ายทอดสดก็เด้งขึ้นมาเต็มหน้าจอ!
“ฮ่าๆๆ ร้องเพลงคู่ ใครเป็นคนออกไอเดียนี้ ฉันอยากจะกดไลก์ให้เขา!”
“ฉันเดาว่าเป็นน้องเสี่ยวชู น้องเสี่ยวชูจงเจริญ!”
“น้องเสี่ยวชูน่ารักที่สุด รู้สึกว่าเธอเหมาะสมกับพี่ลู่เฉินมากจริงๆ!”
“เชอะ เป็นพี่น้อง เป็นพี่น้องกัน!”
“ทำไมไม่ร้องกับเอ็มเอสเอ็นไปเลยล่ะ”
“เธอโง่เหรอ เอ็มเอสเอ็นเป็นผู้หญิงสามคน จะให้ร้องยังไง”
“แล้วทำไมเป็นมู่เสี่ยวชู”
“ง่ายจะตาย น้องเสี่ยวชูเป็นน้องสาวแท้ๆ ของพี่ลู่เฉิน ซูเจียเจียกับหนิงเถียนเป็นน้องสาวบุญธรรม”
“น้องสาวแท้ๆ อีกหนึ่ง!”
มิตรภาพระหว่างลู่เฉินกับมู่เสี่ยวชู ถูกสร้างขึ้นตอนที่ร่วมรายการ ‘ขับร้องให้ก้องจีน’ ตอนนั้นมู่เสี่ยวชูเคยปรากฏตัวในห้องถ่ายทอดสด และยังเคยร้องเพลงอีกด้วย
พวกแฟนคลับของลู่เฉินต่างชื่นชอบผู้หญิงที่น่ารักไร้เดียงสาคนนี้มาก ชอบความเหนียมอายขวยเขินของเธอ ชอบน้ำเสียงไพเราะของเธอ จึงเรียกเธอว่าน้องเสี่ยวชูด้วยความสนิทสนม
ในสายตาของพวกเขา มู่เสี่ยวชูคือน้องสาวของลู่เฉิน
เมื่อเทียบกันแล้ว ซูเจียเจียกับหนิงเถียนยังต่างกันมาก ดังนั้นทุกคนจึงเห็นว่าการร้องเพลงคู่ของมู่เสี่ยวชูกับลู่เฉินเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล ไม่อย่างนั้นคงไม่พอใจ
ถึงแม้จะเป็นรายการที่เตรียมไว้ล่วงหน้าก็ตาม แต่ตอนที่มู่เสี่ยวชูถูกผลักไปอยู่หน้าลู่เฉินก็ยังหน้าแดงอยู่ดี
ลู่เฉินยิ้มแล้วเอ่ยว่า “งั้นพวกเราจะร้องเพลงเพราะๆ ให้ทุกคนฟังนะครับ”
มู่เสี่ยวชูพยักหน้าอย่างแรง เหมือนกับกระต่ายน้อยตัวหนึ่งที่อยู่ในอ้อมกอด ทั้งตื่นเต้นและดีใจ
และยังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนเล็กน้อย
เนื่องจากเพลงนี้ ทั้งสองคนซ้อมแค่รอบเดียว เธอกลัวว่าจะร้องไม่ดี
ลู่เฉินส่งสายตาเป็นกำลังใจให้มู่เสี่ยวชู แล้วจึงกลับไปนั่งที่หน้าเปียโนอีกครั้ง
เพลงคู่เพลงนี้เขียนออกมาอย่างกะทันหันเพื่อตอบสนองความต้องการของเฟยสือเรคคอร์ด เดิมทีความหมายของเฟยสือเรคคอร์ดคือให้ลู่เฉินเลือกร้องเพลงของคนอื่น แต่ลู่เฉินกลับเสนอความคิดที่ดีกว่า
เขาจะเขียนเพลงใหม่อีกหนึ่งเพลง เป็นเพลงใหม่ที่ชายหญิงร้องคู่กัน!
แน่นอนว่าทางเฟยสือเรคคอร์ดรู้สึกดีใจอย่างคาดไม่ถึง และแสดงตัวทันทีว่าจะซื้อผลงานเพลงนี้
อัลบั้ม ‘ยังไม่ใช่คนรัก’ ขายดีมาก บริษัทแผ่นเสียงเจ้าเก่าแห่งนี้รู้สึกเชื่อใจลู่เฉินถึงขีดสุด นักร้องอีกหลายคนในสังกัดก็เริ่มมีการเคลื่อนไหว ต่างคุยกับผู้จัดการส่วนตัวเพื่อแสดงตัวว่าอยากจะร่วมงานกับลู่เฉิน
คนเยอะกว่าของ จึงแบ่งปันไม่เพียงพอ ช่วงนี้ลู่เฉินยุ่งอยู่กับการถ่ายทำละครโทรทัศน์ เฟยสือเรคคอร์ดเองก็ไม่สามารถร้องบอกเขาว่าต้องแต่งเพลงให้ทางบริษัทหลายๆ เพลงนะ จึงได้แต่มองตาปริบๆ รอโอกาสที่เหมาะสม
ตอนนี้ลู่เฉินเป็นฝ่ายเสนอเอง จึงถูกใจพวกเขาเป็นอย่างมาก…เรื่องราคาไม่ใช่ปัญหาเลย!
อีกทั้งการเอามาร้องในงานเลี้ยงนี้ ก็เป็นการดึงดูดผู้ฟังที่ดีที่สุด
ลู่เฉินเล่นเปียโนอีกครั้ง บรรเลงท่อนอินโทรของผลงานเพลงคู่ชิ้นแรกของเขา
…………………………………………………………………………
[1] 《他还是不懂》เพลงเขายังคงไม่เข้าใจ เนื้อร้อง สวีซื่อเจิน (徐世珍) ทำนอง หวังจื้อผิง (王治平)