ตอนที่ 278 เฉยชา
‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ จัดขึ้นโดยสถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน สถานีวิทยุกระจายเสียงประชาชนกลางแห่งประเทศจีน ร่วมกับสถานีโทรทัศน์และสถานีวิทยุใหญ่ๆ ทั่วประเทศ งานประกาศรางวัลกำหนดให้จัดขึ้นในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ จวบจนวันนี้จัดขึ้นมาแล้วสิบห้าครั้ง
นี่เป็นรางวัลทางดนตรีรางวัลหนึ่งที่มีอำนาจและมีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดของประเทศ ค่อนข้างมีอิทธิพลในวงการเพลงของเอเชีย ถูกคนในวงการดนตรีภายในประเทศมองว่าเป็นงานประกาศรางวัลทางดนตรีประจำปีที่ยิ่งใหญ่ เป็นรางวัลที่สูงส่งกว่า ‘ท็อปไชนีสมิวสิคอวอร์ดส์’
คณะกรรมการตัดสินของ ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ เป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มีสมาชิกสมาคมดนตรี ผู้อาวุโสที่มีชื่อเสียงในวงการ ศาสตราจารย์จากวิทยาลัยดนตรี นักวิจารณ์ดนตรีที่มีชื่อเสียง เป็นต้น มาตรฐานการตัดสินยังพิจารณาจากยอดการเลือกเล่นเพลงในสถานีวิทยุใหญ่ๆ ทั่วประเทศ และในอินเทอร์เน็ตด้วย
เช่นเดียวกัน ’เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ ก็ไม่มีการให้ผู้ฟังโหวต เพราะหลายปีก่อนตอนที่มีการให้ผู้ฟังโหวต สุดท้ายเกิดกลโกงในรูปแบบต่างๆ ที่ทำให้คนพูดไม่ออกทุกปี ทำให้กิจกรรมการตัดสินรางวัลอันยิ่งใหญ่กลายเป็นแหล่งรวมการโกงคะแนนโหวต ต่อมาทางผู้จัดจึงยกเลิกกระบวนการนี้ไป เปลี่ยนไปใช้คณะกรรมการตัดสินผู้ทรงคุณวุฒิแทน
เมื่อเดือนมกราคม ลู่เฉินได้รับบัตรเชิญจากคณะกรรมการจัดงานประกาศรางวัล ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอ-วอร์ดส์’ เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสี่รางวัล ได้แก่ รางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม รางวัลนักประพันธ์ทำนองเพลงยอดเยี่ยม รางวัลนักประพันธ์เนื้อร้องยอดเยี่ยม และรางวัลอัลบั้มยอดเยี่ยม
แม้ว่า ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ จะครอบคลุมกว้างขวางกว่า แต่รางวัลที่ตั้งขึ้นมีเพียงยี่สิบเอ็ดสาขาเท่านั้น ไม่มีรางวัลนักร้องชายหญิงยอดนิยมที่เป็นเหมือนรางวัลประเภทแบ่งชิ้นเนื้อให้ทั่วถึง เพื่อเพิ่มคุณค่าของรางวัลให้สูงขึ้น
‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ จัดขึ้นมาแล้วสิบห้าครั้ง ยังไม่มีนักร้องคนไหนได้รางวัลยอดเยี่ยมติดต่อกันเลย
มีข่าวว่า ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ ในปีนี้อาจเป็นครั้งสุดท้าย ‘เอเชี่ยนไชนีสซองโกลเด้นอวอร์ดส์’ จะรวมกับ ‘ไชนีสออริจินัลมิวสิคอวอร์ดส์’ อัปเกรดเป็น ‘โกลบอลไชนีสมิวสิคโกลเด้นอวอร์ดส์’ จะจัดขึ้นในทุกวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี
ข่าวนี้น่าเชื่อถือเป็นอย่างยิ่ง สาเหตุที่ ‘ไชนีสออริจินัลมิวสิคอวอร์ดส์’ หยุดจัดขึ้นในปีนี้ แน่นอนว่าเพื่อเป็นการปูทางให้กับการรวมตัวกันของสองรางวัลใหญ่ ‘โกลบอลไชนีสมิวสิคโกลเด้นอวอร์ดส์’ จะกลายเป็นรางวัลทางดนตรีที่มีอำนาจมากที่สุดในประเทศ มากกว่ารางวัลอื่นใดทั้งหมด
ด้วยเหตุนี้ งานประกาศรางวัล ‘ท็อปไชนีสมิวสิคอวอร์ดส์’ ที่เพิ่งผ่านพ้นไปจึงถูกลืมอย่างรวดเร็ว คนในวงการตั้งตารอ ‘โกลบอลไชนีสมิวสิคโกลเด้นอวอร์ดส์’ มากขึ้น จนกลายเป็นประเด็นร้อนในช่วงปลายปีของวงการเพลงป็อบในประเทศ
แต่สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว มิวสิคอวอร์ดส์ โกลเด้นอวอร์ดส์อะไรพวกนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพวกเขาเลย ทุกคนสนใจแต่ว่าตอนปีใหม่จะโดยสารพาหนะใดกลับบ้านเกิด เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่กับครอบครัวอย่างพร้อมหน้า
คนจำนวนมหาศาลเดินทางออกจากเมืองปักกิ่ง จนเมืองหลวงใหญ่โตที่มีประชากรสามสิบล้านคนจะกลายเป็นเมืองร้างแล้ว
ลู่เฉินขับรถเบนซ์ทรงเอสยูวีที่เพิ่งซื้อมา มาถึงศูนย์ศิลปะสมัยใหม่โดยถนนโล่งว่างตลอดทาง
จงหวา X7 คันนั้นเขายกให้ลู่ซีไปแล้ว ตอนแรกเขาคิดอยากจะซื้อรถคันใหม่ให้พี่สาว แต่พี่สาวอยากได้รถ X7 จึงซื้อรถเบนซ์ G900 ราคาเป็นล้านให้เขา บอกว่าตอนนี้สถานะของเขาไม่เหมือนเดิมแล้ว ขับแค่รถ X7 ดูไม่สมราคา จะทำให้คนอื่นดูถูกเขาได้
ความจริงลู่เฉินไม่ชอบลาภยศที่จอมปลอม จงหวา X7 ถึงแม้เป็นรถที่ผลิตในประเทศ ก็ขับอย่างสะดวกสบายเช่นกัน แต่เขาขัดขืนการยืนหยัดของพี่สาวไม่ได้ สุดท้ายจึงต้องฟุ่มเฟือยเพิ่มขึ้น
คนหนุ่มสาวรักหน้าตาติดแบรนด์ดังเป็นเรื่องปกติ ถ้าเป็นลู่เฉินเมื่อก่อนนี้ หาเงินได้มากขนาดนี้ จะต้องซื้อรถสมรรถนะสูงมาเอาใจแฟนสาวแล้ว
แต่หลังจากฝันถึงประสบการณ์ชีวิตของคนทั้งสาม สภาพจิตใจ วุฒิภาวะ และสติปัญญาของเขาสูงกว่าคนอายุเท่ากัน เขาแสวงหาความสำเร็จทางการงาน ขณะเดียวกันความทะเยอทะยานในลาภยศอันจอมปลอมนั้นก็เจือจางลงไปมาก
ลู่เฉินจึงสามารถมองความเสื่อมลงของ ‘ท็อปไชนีสมิวสิคอวอร์ดส์’ อย่างสงบนิ่งได้
สิ่งที่ควรเป็นของเขาใครก็เอาไปไม่ได้ สิ่งที่ไม่ใช่ของเขาจะต้องฝืนเอามาทำไม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อในตอนนี้เขามีความร่ำรวยบนโลกนี้อยู่!
จอดรถที่ลานจอดรถแล้ว ลู่เฉินเดินมาถึงศูนย์ฝึกศิลปะซิงหยวน
ศูนย์ฝึกศิลปะซิงหยวนมีชื่อเสียงในวงการบันเทิงของปักกิ่ง มันสร้างขึ้นจากการร่วมหุ้นกันของหลายบริษัทเอเจนซี่ เป็นสถานที่ไว้ฝึกหัดศิลปินใหม่ หรือที่เรียกกันว่าเด็กฝึก
ที่มาของระบบเด็กฝึกในประเทศจีนมาจากประเทศเกาหลี บริษัทเอเจนซี่ยักษ์ใหญ่ล้วนมีระบบการฝึกศิลปินของตัวเอง เพื่อเพิ่มจำนวนคนเก่งให้กับแวดวงธุรกิจนี้
แต่ระบบเหล่านี้ไม่ได้ตั้งขึ้นมาตามชอบ ต้องอาศัยการชักนำทรัพยากรและบุคคลจำนวนมาก บริษัทขนาดเล็กขนาดกลางหรือแม้แต่สตูดิโอของศิลปินรับภาระไม่ไหว จึงเกิดการตั้งแหล่งการฝึกศิลปินใหม่โดยเฉพาะ
ศูนย์ฝึกศิลปะซิงหยวนเป็นหนึ่งในนั้น ทั้งยังเป็นศูนย์ที่มีความสามารถแข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งของวงการ ที่นี่ไม่มีการเซ็นสัญญากับเด็กฝึกคนไหน รับแต่การฝึกฝนหรือปรับแต่งภาพลักษณ์เท่านั้น
ศูนย์ฝึกศิลปะซิงหยวนสร้างขึ้นในอุทยานศิลปะสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ หรือครูฝึกล้วนเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ในนั้นมีครูสอนดนตรีและครูสอนเต้นจำนวนไม่น้อยที่เชิญมาจากต่างประเทศ หลังจากผ่านการพัฒนามาหลายปี ทุกวันนี้กลายเป็นระบบการฝึกที่สมบูรณ์แบบแล้ว
ตอนนี้ศูนย์ฝึกศิลปะซิงหยวนเป็นองค์กรเอกเทศ แยกขาดความเกี่ยวข้องจากบริษัทที่ก่อตั้งแล้ว ดังนั้นบริษัทเอเจนซี่ บริษัทผลิตภาพยนตร์โทรทัศน์ และค่ายเพลงจำนวนมากในปักกิ่งจึงพาศิลปินหน้าใหม่ที่เซ็นสัญญามาฝึกหัดที่นี่
แม้คนในวงการจำนวนไม่น้อยจะวิจารณ์ว่า ศิลปินที่ถูกฝึกออกมาจากองค์กรอย่างศูนย์ฝึกศิลปะซิงหยวนเหมือนผลผลิตที่สร้างขึ้นตามความนิยม ทุกคนมีความคล้ายคลึงกัน ขาดจุดเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะตัว
แต่คนวิจารณ์เองก็ยังปฏิเสธไม่ได้ว่า ศิลปินใหม่ที่ผ่านระบบการฝึกเฉพาะทางในศูนย์ฝึกเช่นนี้ล้วนมีความเข้มแข็ง นอกจากนี้การฝึกศิลปินใหม่ยังแบ่งการฝึกตามระดับขั้น ราคาค่าฝึกเป็นไปตามระดับคุณภาพของการฝึก
ที่สำคัญคือ สำหรับบริษัทเอเจนซี่สายบันเทิงส่วนใหญ่แล้ว การฝึกหัดกับบริษัทข้างนอกช่วยลดต้นทุนไปได้มาก ทั้งยังประหยัดเวลามากด้วย ส่วนสไตล์และจุดเด่นเมื่อมีพื้นฐานแล้วค่อยเสริมเติมแต่งเข้าไปได้
“พี่หลี!”
ตอนที่ลู่เฉินปรากฏตัวหน้าศูนย์ฝึกศิลปะซิงหยวน ก็มองเห็นหลีเจินเจินที่ยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าทันที
เขารีบถอดแว่นกันแดดโบกมือทักทาย
“เสี่ยวลู่!”
พี่หลีเผยสีหน้าประหลาดใจ แล้วยิ้มกว้างเกลื่อนใบหน้าเดินมาต้อนรับ “ลำบากนายแล้ว”
เธอก้าวย่างเหมือนโบยบิน ทำให้ผู้ช่วยที่อยู่ข้างกายตามไม่ทัน
ลู่เฉินหัวเราะ “ไม่ลำบากครับ ผมมาแถวนี้บ่อย”
นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาที่ศูนย์ฝึกศิลปะซิงหยวน เป็นการมาตามคำเชิญของหลีเจินเจิน เพื่อดูการฝึกของวงใหม่ที่เพิ่งก่อตั้งไม่นานอย่างวง ‘เสียวหู่ถวน’ ตามคำพูดของพี่หลีคือเชิญมา ‘เพื่อขอคำชี้แนะ’
หลังจากถ่ายทำละครเรื่อง ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เสร็จสิ้น พี่หลีได้ตัดสินใจให้ลูกชายของตัวเองเดินเข้าสู่เส้นทางสายศิลปิน สำหรับแผนการที่ลู่เฉินเสนอให้เธอก่อตั้งวงบอยแบนด์ เธอเห็นดีเห็นงามด้วย
ดังนั้นหลังจากกลับถึงปักกิ่ง พี่หลีจึงรีบหาคนมาร่วมวง ‘เสียวหู่ถวน’ ซึ่งมี ‘เสือหล่อ’ อย่างจางจวิ้นจื้อเป็นหัวหน้าวง แล้วส่งเข้ามาฝึกการขับร้องและการเต้นที่ศูนย์ฝึกศิลปะซิงหยวน
ตามแผนการที่วางไว้ วง ‘เสียวหู่ถวน’ ต้องฝึกที่นี่ครึ่งปีแล้วค่อยเดบิวต์ พร้อมกับออกอัลบั้มชุดแรก
………………………………………………………………………