ตอนที่ 336 ฟูลเฮ้าส์
“วันนี้นายดื่มเหล้าเยอะอีกแล้ว”
เฉินเฟยเอ๋อร์ขวางลู่เฉินไว้ให้อยู่นอกประตู พูดดุเสียงงอน “บอกว่าให้นายดื่มน้อยๆ หน่อย แต่ดันเหม็นหึ่งกลับมาทุกครั้ง ถ้าเป็นแบบนี้อีก ต่อไปจะไม่อนุญาตให้นายเข้าประตูบ้านหลังนี้อีก!”
ลู่เฉินทำสีหน้าจนปัญญา และอธิบายว่า “ผมก็ไม่อยากครับ แต่มันปฏิเสธไม่ได้จริงๆ”
หลังจากที่เขาประกาศข่าวลงในบล็อกล่างฉาวแล้ว ก็มีคนมาขอร่วมงานกับเขาอย่างไม่ขาดสาย มีบางคนสามารถปฏิเสธได้โดยตรง แต่มีบางคนที่ตัดน้ำใจไม่ขาด ดังนั้นสองสามวันที่ผ่านมานี้จึงมีงานเลี้ยงไม่หยุด
เมื่อตอนเย็นคนที่เลี้ยงเขาก็คือจางกานและจางเต๋อเถ้าแก่บริษัทกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์ส ตอนแรกที่ถ่ายทำละคร ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ จางเต๋อได้นั่งคุมงานที่จินหลิงด้วยตัวเอง พยายามแก้ปัญหาทุกข์ร้อนในกองถ่ายอย่างเต็มที่ ละครเรื่องนี้สามารถถ่ายทำได้สำเร็จราบรื่น จึงเป็นความดีความชอบของเขาอย่างชัดเจน
ถึงแม้กานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์สจะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำจาก ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ ไปแล้ว แต่เขาก็ทุ่มเงินของตัวเองเยอะเหมือนกัน ได้แบ่งปันผลประโยชน์จึงเป็นสิ่งที่สมควรแล้ว มิตรภาพและการร่วมงานกันฉันมิตรที่สร้างขึ้นระหว่างทั้งสองฝ่าย ลู่เฉินไม่ลืมอย่างแน่นอน
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น เมื่ออยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ อาจจะถีบหัวส่งกานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์สที่ไม่มีความแข็งแกร่งออกไปโดยตรง แต่นิสัยและมารยาทของลู่เฉินเป็นตัวกำหนดว่าเขาจะไม่ทำเรื่องที่หักหน้าไร้น้ำใจแบบนี้เด็ดขาด เพราะเขาให้กานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์สมีหุ้นส่วนในละครเรื่องใหม่นี้เช่นกัน
แน่นอนว่าหุ้นส่วนที่แบ่งให้กานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์สรอบนี้น้อยกว่าตอนที่ผลิต ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เยอะมาก แต่เถ้าแก่สองคนพี่น้องก็พอใจเป็นอย่างยิ่ง ขอบคุณน้ำใจและความเป็นเพื่อนของลู่เฉิน!
จะเห็นว่าลู่เฉินได้สรุปทีมผู้ร่วมงานอย่างชัดเจนแล้ว…สถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง สถานีโทรทัศน์เจ้อตง บริษัทคราวน์พิคเจอร์ส เฟยสือเรคคอร์ด และเอสพีจี…
เมื่อเทียบกับยักษ์ใหญ่ผู้ทรงอิทธิพลเหล่านี้ กานเต๋อบราเธอร์สพิคเจอร์สไม่ใช่แค่กุ้งตัวเล็กแต่ยังเป็นปลาตัวน้อยอีกด้วย
ดังนั้นตอนบ่ายจางกานและจางเต๋อจึงพาดาราที่เคยร่วมงานกันมาดักที่สตูดิโอของลู่เฉิน อยากจะลากเขาไปกินข้าวด้วยกันให้จงได้ คนที่มาเป็นเพื่อนยังมีผู้กำกับฟางฮุ่ย จางลี่เวยที่เคยรับบทชุยซินอ้าย เป็นต้น
ในสถานการณ์แบบนี้ ลู่เฉินจึงต้องดื่มเหล้าอย่างช่วยไม่ได้ เพียงแต่เพื่อเป็นการปกป้องลำคอจึงไม่ดื่มเหล้าดีกรีแรง แต่ก็ถูกมอมให้ดื่มเบียร์เยอะมาก ถึงแม้จะมีกลิ่นเหล้าคลุ้งไปทั้งตัว อย่างน้อยก็ไม่ได้ดื่มจนเมามาย
คนอยู่ในวงการไม่อาจทำตามใจตนเองได้ เว้นเสียแต่ว่าเป็นผู้ชายติดบ้าน มิเช่นนั้นการสังสรรค์คบค้าสมาคมก็ยากที่จะหลีกเลี่ยงได้
เฉิยเฟยเอ๋อร์เข้าวงการมามากกว่าสิบปี จึงเข้าใจเหตุผลเหล่านี้เป็นอย่างดี แต่ลู่เฉินมีกลิ่นเหล้าติดตัวกลับบ้านทุกวัน เธออดสงสารไม่ได้ จึงต้องบ่นสองสามประโยค “คราวหน้าก็บอกว่ากระเพาะไม่ดีดื่มไม่ได้ ฉันจะเตรียมวิตามินให้นายพกไว้สองสามเม็ด ใครบอกให้นายดื่มนายก็หยิบยาขึ้นมากิน!”
“คุณภรรยาฉลาดหลักแหลม!”
ลู่เฉินกอดเฉินเฟยเอ๋อร์ พูดพลางหัวเราะคิกคัก “ผมจะฟังคุณ!”
เขาก้มหน้าจูบใบหน้าของสาวงามอย่างแรงหนึ่งที
เฉินเฟยเอ๋อร์ตัวอ่อนยวบยาบขณะที่ถูกลู่เฉินโอบกอดและจูบ เธอค้อนใส่เขาอย่างเขินอาย “พูดฟังดูดีนะ…”
ลู่เฉินใช้เท้าเตะปิดประตู มือใหญ่เลื่อนลงไปโอบเอวที่เรียวบางของเฉินเฟยเอ๋อร์ โน้มตัวเข้าไปอุ้มเธอขึ้นมาอย่างแรง แล้วเอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์ “ไป พวกเราไปอาบน้ำด้วยกันเถอะ”
เฉินเฟยเอ๋อร์หน้าแดงก่ำ กำหมัดเล็กๆ ของเธอทุบไปที่หน้าอกของลู่เฉิน “ใครอยากอาบน้ำกับนาย!”
กำปั้นนี้ช่างอ่อนแรงนัก
อาบน้ำคราวนี้ใช้เวลาไปเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม ตอนที่ลู่เฉินเดินออกมาจากห้องอาบน้ำเขารู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าสร่างเมาหมดแล้ว ส่วนเฉินเฟยเอ๋อร์ที่กำลังถูกเขาอุ้มอยู่ร่างกายอ่อนระทวย ดวงหน้างดงามดุจหยกแดงระเรื่อ งามเพริศพริ้งดั่งดอกบัวที่เพิ่งเบ่งบาน!
ลู่เฉินอุ้มเฉินเฟยเอ๋อร์ไปวางบนเตียงในห้องนอน จากนั้นก็หยิบงานเขียนต้นฉบับปึกหนึ่งออกมาจากลิ้นชักตู้ข้างเตียงแล้วยื่นให้เธอ
“นี่คือ?”
เฉินเฟยเอ๋อร์พิงหัวเตียงอย่างขี้เกียจเนือยๆ ไม่อยากขยับตัว แต่พอเห็นงานเขียนต้นฉบับหนาๆ ที่อยู่ตรงหน้าดวงตาของเธอก็เป็นประกายทันที “บทละครใหม่?”
ลู่เฉินยิ้มแล้วเอ่ยว่า “ใช่แล้วครับ”
บทละครเรื่องใหม่เขียนเสร็จเมื่อสองวันก่อน เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงจากต้นฉบับเดิมไม่น้อย ดังนั้นลู่เฉินจึงใช้เวลานานมากกว่าจะเขียนเสร็จ โครงเรื่องที่อยู่ในละครถูกปรับเปลี่ยนแก้ไขซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง
สำหรับผลงานต้นฉบับ หรือผลงานเหนือต้นฉบับ ลู่เฉินได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจลงในบทละครฉบับนี้เป็นอย่างมาก มีความคิดของตัวเองอยู่บางส่วน เวลาที่ใช้ทั้งหมดมากกว่า ‘รักนี้ชั่วนิรันดร์’ เยอะมาก ดังนั้นจนถึงวันนี้จึงเพิ่งได้หยิบออกมาให้เฉินเฟยเอ๋อร์ดู
เฉินเฟยเอ๋อร์รับต้นฉบับมาแล้วนั่งหลังตรง
กระดาษพิมพ์ที่ถืออยู่ในมือปึกนี้มีน้ำหนักไม่กี่ร้อยกรัม แต่เธอตระหนักถึงน้ำหนักความสำคัญของมันเป็นอย่างดี
นี่คือละครเรื่องใหม่ที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์หลายสิบล้านกระทั่งหลายร้อยล้าน!
“คุณค่อยๆ อ่านนะ…”
ลู่เฉินพูดพลางใส่เสื้อผ้า “รบกวนขอความคิดเห็นอันมีค่าของคุณด้วยนะครับ!”
เฉินเฟยเอ๋อร์ไม่สนใจดูต้นฉบับแล้ว เธอเงยหน้าขึ้นอย่างตกใจแล้วถามว่า “นายยังจะออกไปข้างนอกอีกเหรอ”
ลู่เฉินยิ้มแล้วกล่าวว่า “ไม่ออกครับ แต่ผมต้องเข้าเน็ตพบปะพวกแฟนคลับในห้องถ่ายทอดสด”
เฉินเฟยเอ๋อร์รู้ตัวในฉับพลัน
ช่วงที่ผ่านมาเพื่ออัลบั้มใหม่ของเธอ ลู่เฉินวางงานทุกอย่างไว้ทั้งหมด เสียสละเป็นอย่างมาก
นัยน์ตาของเธอมีความอ่อนโยนเอ่อล้นออกมา “งั้นนายไปเถอะ”
ลู่เฉินโน้มตัวลงไปจูบเธอหนึ่งที แล้วเอ่ยว่า “ผมอยู่ข้างนอกนะครับ”
“ค่ะ”
หลังจากลู่เฉินออกไปแล้ว ความสนใจของเฉินเฟยเอ๋อร์ก็กลับมาที่ต้นฉบับที่อยู่ในมือ สายตาของเธอมองไปที่หน้าแรก ตัวอักษรสีดำสะดุดตาตกกระทบเข้ามาในม่านตาของเธอ
‘ฟูลเฮาส์’
ฮันจีอึนเป็นนักแต่งนวนิยายทางอินเทอร์เน็ต หลังจากที่พ่อแม่ของตัวเองเสียชีวิตไปแล้ว เธอก็อาศัยอยู่ในบ้านที่มีชื่อว่า ‘ฟูลเฮาส์’ นี่คือมรดกชิ้นสุดท้ายที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้เธอ
ในฐานะนักเขียนที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จ ฮันจีอึนจึงทำงานหลายอย่างควบคู่ไปด้วยเพื่อประทังชีวิต และก็เพื่อรักษาสิทธิ์ทั้งหมดของบ้านหลังนี้เอาไว้ เธอจึงประหยัดค่าอาหารและเครื่องนุ่งห่มเพื่อดำรงชีพมาตลอด
แต่ใครก็คาดคิดไม่ถึงว่า ฮีจีนเพื่อนที่ดีที่สุดของจีอึนจะสมคบคิดกับแฟนหนุ่มของเธอ ใช้วิธีที่ยอดแย่หลอกฮันจีอึนให้เซ็นหนังสือมอบอำนาจโอนบ้าน และหลอกเธอให้ไปเที่ยวต่างประเทศ จากนั้นก็แอบขายบ้าน ‘ฟูลเฮาส์’ แล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย
จีอึนพบกับลียงเจซูเปอร์สตาร์ดังบนเครื่องบิน แถมยังอาเจียนใส่ตัวของเขาอีก ทั้งสองฝ่ายจึงทิ้งความประทับใจที่ลึกซึ้งไม่ลืมเลือนซึ่งกันและกัน
หลังจากท่องเที่ยวกลับมาจากต่างประเทศแล้ว จีอึนพบว่าข้าวของในบ้านโล่งไม่มีอะไรเหลือเลย ถึงได้รู้ว่าตัวเองถูกคนที่ไว้ใจที่สุดหลอกลวง เธอไม่เหลืออะไรสักอย่าง
ตอนนี้ลียงเจซูเปอร์สตาร์ดังคนนั้นที่เธอเจอบนเครื่องบิน จู่ๆ ก็ย้ายของบุกเข้ามาในบ้าน อีกฝ่ายบอกว่า ‘ฟูลเฮาส์’ ถูกเขาซื้อแล้ว แต่เห็นว่าจีอึนน่าสงสารไม่มีที่ไป จึงให้เธออาศัยอยู่ในบ้านและจ้างเธอเป็นแม่บ้านของตัวเอง…
เป็นเรื่องราวที่สนุกมาก! เฉินเฟยเอ๋อร์ยิ่งอ่านก็ยิ่งติดใจ จนลืมเวลาที่ผ่านล่วงเลยไป
ตอนที่เฉินเฟยเอ๋อร์อ่านบทละคร ลู่เฉินก็ล็อกอินเข้าห้องถ่ายทอดสดใน ‘จิงอวี๋ทีวี’ แล้ว
ตอนนี้เขาเป็นดาราพรีเซ็นเตอร์ของ ‘จิงอวี๋ทีวี’ และยังเป็นผู้ดำเนินรายการถ่ายทอดสดเบอร์หนึ่งอีกด้วย ตอนนี้มีแฟนคลับที่ติดตามมากกว่าห้าล้านคน
ถึงแม้จำนวนนี้จะไม่สมจริงมาก ไม่สามารถขจัดการอัดฉีดของทางแพลตฟอร์มออกไปได้ แต่ความนิยมที่แข็งแกร่งของเขาใน ‘จิงอวี๋ทีวี’ ก็เป็นจริงอย่างไม่ต้องสงสัย ถึงแม้ตัวเองจะออกมาถ่ายทอดสดน้อยครั้ง แต่ก็สามารถดึงดูดความสนใจของแฟนคลับมากมายนับไม่ถ้วนให้มาชมและมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันได้ทุกครั้งไป
คืนนี้ลู่เฉินไม่ได้แจ้งถ่ายทอดสดล่วงหน้า แต่พอเขาเริ่มถ่ายทอดสดแค่สองสามนาทีก็มีแฟนคลับกรูกันเข้ามาเกินหนึ่งแสนคนแล้ว อีกทั้งจำนวนยังเพิ่มขึ้นเร็วมากจนน่าตกใจ
เมื่อดาราตัวท็อปเหมือนอย่างลู่เฉินเริ่มถ่ายทอดสด แพลตฟอร์มก็จะส่งการแจ้งเตือนไปยังแฟนคลับที่ติดตามทันที เพียงแค่กดลิงก์ก็สามารถเข้าสู่ห้องถ่ายทอดสดที่เชื่อมต่อผ่านทางพีซีหรือไวไฟได้แล้ว สะดวกและง่ายมาก
เพราะฉะนั้นแฟนคลับที่ได้รับข่าวสารจึงปรากฏตัวในห้องถ่ายทอดสดเยอะขึ้นเรื่อยๆ
“ว้าว วันนี้วันอะไรเนี่ย!”
“ถูกรางวัลใหญ่แล้ว พี่ลู่เฉินเข้ามาถ่ายทอดสดด้วยตัวเอง!”
“เอ๊ะ ฉากหลังไม่คุ้นเลย บ้านใหม่ของพี่ลู่เฉินเหรอ ท่าทางไม่เลวนะ”
“ซาบซึ้งใจจริงๆ ฉันคิดว่าจะไม่ได้เจอพี่ลู่เฉินในจิงอวี๋ทีวีอีกแล้ว ร้องไห้แป๊บ…”
“สวัสดีพี่เฉิน!”
“พวกเธอหยุดโวยวายกันได้แล้ว ให้พี่ลู่เฉินร้องเพลงดีกว่า!”
“พี่ลู่เฉิน เมื่อไรพี่จะถ่ายละครใหม่”
“ว้าวเย้ๆ…”
คอมเมนต์สดแสดงความตกใจและทักทายมีมากมายนับไม่ถ้วนจนเต็มหน้าจอ พร้อมกับลูกบอลปลาที่มาราวกับสายฝน
ถึงแม้ส่วนแบ่งที่ได้จากเครื่องมือมอบรางวัลของ ‘จิงอวี๋ทีวี’ สำหรับลู่เฉินในตอนนี้จะไม่มีค่ามากมายอะไร แต่เขาได้เห็นความกระตือรือร้นและการสนับสนุนจากแฟนคลับอย่างล้นหลาม
ลู่เฉินรู้สึกซึ้งใจจริงๆ ที่มีกลุ่มแฟนคลับแบบนี้ รู้สึกโชคดีอย่างสุดซึ้ง!
เขาประสานสองมือจับไมค์แล้วพูดว่า “ขอบคุณทุกคนครับ และก็ขอโทษด้วยจริงๆ ช่วงนี้ผมทำงานยุ่งมากๆ จึงไม่มีเวลามาถ่ายทอดสดคุยกับทุกคน หวังว่าทุกคนจะให้อภัยนะครับ!”
ลู่เฉินซื้อชุดอุปกรณ์ถ่ายทอดสดมาไว้ในบ้านหลังใหม่เช่นกัน คอมพิวเตอร์ ไมโครโฟน และของอย่างอื่นทั้งหมดวางอยู่ข้างเปียโนตรงชั้นลอย แต่วันนี้เพิ่งจะได้เอาออกมาใช้เป็นครั้งแรก
ก่อนหน้านั้นยุ่งมากจริงๆ นอกจากงานเทศกาลดนตรี 72H ที่เหมือนจะถ่ายทอดสดแต่ก็ไม่เชิงครั้งนั้นแล้ว จวบจนวันนี้ก็ยังไม่เคยโผล่หน้าใน ‘จิงอวี๋ทีวี’ อีกเลย
แต่วันนี้ผลิตอัลบั้มใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์เสร็จแล้ว บทละครเรื่องใหม่ก็เขียนเสร็จแล้วเช่นกัน เขาจึงอยากชดเชยให้แฟนๆ เสียหน่อย
“ให้อภัยๆ พวกเรารู้ว่าคุณทำอัลบั้มให้เฉินเฟยเอ๋อร์!”
“รู้ว่าพี่ยุ่ง เดือนนึงถ่ายทอดสดหนึ่งครั้งก็พอใจแล้ว พี่ลู่เฉินสู้ๆ!”
“รักพี่ค่ะ!”
“พี่ลู่เฉินต้องระวังสุขภาพด้วยนะ อย่าทำให้ตัวเองเหนื่อยเกินไป พวกเราจะสนับสนุนพี่ตลอดไป!”
“ไม่เป็นไร ถึงยังไงฉันก็ได้เห็นพี่ลู่เฉินในทีวีอยู่แล้ว”
“ฉันดู ’รักนี้ชั่วนิรันดร์’ สามรอบแล้ว ดูกี่ครั้งก็ร้องไห้ทุกครั้ง ขอละครใหม่”
“ทุกคนอยากได้เหมือนกัน!”
ความจริงพวกแฟนคลับก็รู้สึกพอใจง่ายมาก โดยเฉพาะพวกแฟนคลับตัวจริง พวกเธอและพวกเขารู้ว่าศิลปินดาราดังอย่างลู่เฉินต้องทำงานยุ่งมากทุกวัน เป็นไปไม่ได้ที่จะมีเวลาเหลือมากมายมาถ่ายทอดสดบนอินเทอร์เน็ต
พวกแฟนคลับรู้สึกซาบซึ้งมากๆ ต่อท่าทางที่จริงใจของลู่เฉิน
เพราะทุกคนเข้าใจและให้อภัยลู่เฉิน แค่ได้เห็นเขาก็มีความสุขแล้ว ไม่ขออะไรไปมากกว่านี้
ลู่เฉินเริ่มพูดคุยกับพวกแฟนคลับ ตอบคำถามที่ทุกคนให้ความสนใจมากที่สุด อย่างเช่นอัลบั้มใหม่ของเฉินเฟยเอ๋อร์ อย่างเช่นละครเรื่องใหม่ แล้วก็การใช้ชีวิตและงานของตัวเอง
เหมือนกับการสัมภาษณ์สดผ่านวิดีโอออนไลน์
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ จำนวนแฟนคลับที่เข้ามาทะลุหลักล้านแล้ว
ความนิยมที่แข็งแกร่งของลู่เฉินถูกเผยออกมาอย่างไม่ต้องสงสัย!
…………………………………………………………………………