หลังจากเฉินชางและเจิ้งกั๋วถานส่งฉินเซียงขึ้นรถแล้วก็เตรียมหมุนตัวกลับมา ทว่าจู่ๆ ก็เห็นชายหัวโล้นเมื่อครู่นี้กลับวิ่งออกมาด้วยท่าทีเร่งรีบ
เขาวิ่งไปพลางหอบหายใจไปพลาง หลังวิ่งมาถึงก็พูดเสียงหอบๆ “โธ่ ดูความจำผมสิ แก่แล้วจริงๆ!”
“คนนี้หมอเฉินใช่หรือเปล่าครับ? ผมคือหยางเทา นี่นามบัตรผม วันหลังพวกเราก็ติดต่อกันบ่อยๆ นะครับ จริงสิ หมอเฉินชื่ออะไรหรือครับ?”
คราวนี้เฉินชางอ่านนามบัตรของหยางเทาด้วยท่าทีสงบนิ่ง หัวหน้าแผนกผิวหนังโรงพยาบาลประชาชนแห่งจังหวัด ทั้งยังเป็นผู้อำนวยการคลินิกศัลยกรรมซูเม่ยด้วย
เฉินชางยิ้ม “ผมชื่อเฉินชางครับ โรงพยาบาลอันดับสอง”
หยางเทาพูดด้วยน้ำเสียงยินดี “ครับ โอเค งั้นผมไม่รบกวนหมอเฉินแล้ว ถ้ามีเวลาจะไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลอันดับสองนะครับ ต้องการอะไรก็โทรหาผมได้เลย”
พูดจบหยางเทาก็ยิ้มให้เจิ้งกั๋วถาน หลังจากแลกเปลี่ยนข้อมูลติดต่อกับเฉินชางแล้วก็พูดคุยอีกเล็กน้อยก่อนจากไป
เมื่อเห็นทุกคนไปแล้ว เจิ้งกั๋วถานจึงมองไปทางเฉินชาง พูดขึ้นว่า “วันนี้รบกวนหมอเฉินจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ผมคงหาคำอธิบายดีๆ ไม่ได้!”
คำอธิบายคูณห้าไปแล้วนะครับ ประธานเจิ้ง ครอบครัวคุณนี่มีคำอธิบายเยอะจริงๆ
เฉินชางหัวเราะ “เกรงใจเกินไปแล้วครับ เป็นเรื่องที่พอทำได้”
เจิ้งกั๋วถานทอดถอนใจ “อา…แต่ละบ้านก็มีปัญหาต่างกันไป!”
เฉินชางพบว่า ในที่สุด เหนือศีรษะเจิ้งกั๋วถานก็มีเครื่องหมายคำถามปรากฏแล้ว!
[ติ๊ง! เจิ้งกั๋วถานมีเรื่องทุกข์ใจ จงสนทนาเรื่องในใจกับเจิ้งกั๋วถาน จะได้รับภารกิจจากเจิ้งกั๋วถาน NPC ระดับสูง]
เฉินชางชะงักไป รีบกดรับทันที
จากนั้นเฉินชางจึงพูดด้วยรอยยิ้ม “ชีวิตคนเรา เดินเส้นทางใดต้องค่อยๆ เดิน ค่อยๆ ลิ้มรสรสชาติของชีวิต มีทั้งดีทั้งแย่ปนกันไป”
เจิ้งกั๋วถานยิ้มออกมา “คุณยังอายุน้อยแต่กลับคิดได้ทะลุปรุโปร่งเลยนะครับ!”
เฉินชางยิ้มตอบ “อยู่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาล เห็นการเกิดแก่เจ็บตายมามาก เห็นความยินดีทุกข์สุขจนเคยชิน ความสงบสุขเป็นเรื่องจริง ความโศกเศร้าทุกข์ใจก็เป็นเรื่องจริง มีขึ้นมีลงก็เป็นเรื่องจริง ขอเพียงเป็นชีวิตของตัวเอง ใช้ชีวิตให้ดีไปก็พอแล้ว ชีวิตของคนเราแต่ละคนก็มีปัญหาต่างกันไป ใช่ไหมครับ?”
จู่ๆ เจิ้งกั๋วถานก็หันมา “เสี่ยวเฉิน ผมยังมีเรื่องบางอย่างอยากให้คุณช่วยหน่อยน่ะครับ ตามผมกลับไปที่บ้านได้ไหมครับ”
เฉินชางชะงักไป “นี่ไม่ใช่บ้านคุณหรือ?”
เจิ้งกั๋วถานยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน “ทางโน้นถึงจะเป็นบ้านผม”
หลังจากทั้งสองบอกลาสวีรั่วหยุนและกำชับพ่อบ้านดีแล้ว เจิ้งกั๋วถานก็ขับรถด้วยตัวเอง พาเฉินชางออกไปจากบ้านหลังนี้ ขับรถไปครึ่งชั่วโมงกว่าจนมาถึงย่านหรูหราแห่งหนึ่ง
นี่เป็นเขตที่อสังหาริมทรัพย์ราคาสูงที่สุดในเมืองอันหยาง หนึ่งตารางเมตรสามหมื่นกว่าหยวน
หลังจากผลักประตูเดินเข้าไปก็มีเสียงผู้หญิงดังขึ้น
“สามี คุณกลับมาแล้วหรือคะ?”
เฉินชางมองไปเงียบๆ พบหญิงวัยกลางคนท่าทางธรรมดาคนหนึ่ง สวมผ้ากันเปื้อน ในมือถือผ้าผืนหนึ่งยืนอยู่บริเวณนั้น เมื่อเห็นเจิ้งกั๋วถานเข้ามาก็รีบถือรองเท้าแตะมาให้เขา
เจิ้งกั๋วถานแนะนำ “นี่คือภรรยาของผม จางอ้ายเซียง ภรรยาครับ นี่คือหมอเฉิน”
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มให้เฉินชางแล้วถือรองเท้าแตะมาให้
ในบ้านถูกเก็บกวาดจนสะอาดสะอ้าน เรียกได้ว่าไม่มีฝุ่นสักเม็ด การตกแต่งไม่ได้หรูหรา แต่ดูอบอุ่นมากกว่า ให้ความรู้สึกของบ้าน
เฉินชางรีบกล่าวทักทาย “สวัสดีครับ”
ผู้หญิงคนนั้นยิ้มให้ “เข้ามาเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปชงชาให้นะคะ”
เจิ้งกั๋วถานถอดสูทออกแขวนไว้บนชั้น “ภรรยาครับ ทำของอร่อยให้หน่อยสิครับ พวกเราสองคนยังไม่ได้กินข้าว”
เธอพยักหน้ายิ้มๆ “ได้ค่ะ!”
หลังจากทั้งสองนั่งลง เฉินชางก็เกิดรู้สึกสนใจขึ้นมา จางอ้ายเซียงภรรยาของเจิ้งกั๋วถาน…ดูเป็นคนดี ไม่เหมือนคนที่จะทำเรื่องแบบนั้นออกมาได้เลย?
ยิ่งไปกว่านั้น มีภรรยาดีขนาดนี้ เขายังออกไปหาดาราข้างนอกอีก
เฉินชางส่ายหน้า พยายามไม่คิดถึงสาเหตุอีก เรื่องในบ้านคนอื่นสนใจให้มันน้อยหน่อย! ไม่เกี่ยวอะไรกับตน ตนเป็นแค่หมอคนหนึ่งเท่านั้น
ทั้งสองนั่งลงจิบชาพลางคุยกันเรื่องทั่วไป ไม่ได้พูดเรื่องสำคัญอะไร ผ่านไปครึ่งชั่วโมง อาหารสามอย่างก็ถูกยกขึ้นโต๊ะ ส่งกลิ่นหอมออกมา
เป็นอาหารง่ายๆ สามอย่างที่มักทำกินกันตามบ้าน ทั้งสองนั่งลงกินข้าว ตอนนี้เฉินชางจึงค่อยสังเกตเห็นว่าบนหน้าผากของจางอ้ายเซียงมีรอยแผลเป็นยาวๆ อยู่รอยหนึ่ง
ตามปกติผมหน้าม้าของจางอ้ายเซียงยังปิดไว้ได้ แต่เมื่อครู่กลับปรากฏให้เห็นชัดเจน
รอยแผลเป็นยาวมาก เรียกว่าพาดหน้าผากไปเลยทีเดียว เฉินชางถูกแผลเป็นนี้ทำให้ตกใจ แผลนี้ดูแย่เกินไปแล้ว
ดูเหมือนจางอ้ายเซียงจะรู้ตัวจึงรู้สึกอึดอัด รีบจับผมหน้าม้าคิดจะปิดเอาไว้
ตอนนี้เอง เจิ้งกั๋วถานก็ยิ้มออกมา “ภรรยาครับ ไม่ต้องกลัว นี่คือคนที่ผมหามารักษาคุณ”
เฉินชางชะงัก รีบพูดว่า “ประธานเจิ้งครับ เรื่องนี้ผมช่วยไม่ได้จริงๆ ผมทำการผ่าตัดนี้ไม่ได้นะครับ…”
เป็นเช่นนั้นจริงๆ รอยแผลเป็นเก่าแบบนี้ไม่ได้ต้องการการเย็บแผล แต่ปัญหาเกี่ยวพันถึงเรื่องเนื้อเยื่อ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีปัจจัยอีกมากมายหลายอย่าง ตน…ตนยังมีฝีมือห่างไกลอยู่มาก!
เจิ้งกั๋วถานยิ้มอ่อน “เรื่องมันเป็นแบบนี้นะครับ ผมเชิญหมอจากอเมริกามาผ่าตัดแล้ว คุณไม่ต้องกังวลหรอก ที่คุณต้องทำก็คือเย็บผิวหนังเท่านั้น เป็นยังไงครับ? จะสำเร็จหรือไม่ผมจะไม่โทษคุณแน่!”
“การผ่าตัดก็ไม่ใช่ตอนนี้แต่เป็นอีกครึ่งปีให้หลัง ถึงตอนนั้นผมหวังว่าคุณจะช่วยผมได้”
[ติ๊ง! เจิ้งกั๋วถาน NPC ระดับสูงส่งมอบภารกิจ เข้าร่วมการผ่าตัดของจางอ้ายเซียงในอีกครึ่งปีให้หลัง ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลวจะได้รับรางวัลดังต่อไปนี้:
1. บัตรฝึกพิเศษ 1 ใบ
2. หนังสือสุ่มทักษะ 1 เล่ม
3. ประสบการณ์ +3000 แต้ม]
เฉินชางชะงักไป!
ไม่คิดว่ารางวัลจะเยอะขนาดนี้?
บัตรฝึกพิเศษใช้ทำอะไรเนี่ย?
เจิ้งกั๋วถานเห็นเฉินชางลังเลจึงรีบขอร้อง “หมอเฉินครับ ผมขอละ ภรรยาผม…ผมอยากให้เธอเรียกความมั่นใจในตัวเองกลับมาให้ได้จริงๆ”
เมื่อเฉินชางเห็นท่าทางนี้ของเจิ้งกั๋วถานพลันรู้สึกว่าเขาแตกต่างจากตอนอยู่ที่บ้านหลังนั้นราวกับเป็นคนละคน
ตอนอยู่ที่บ้านเดี่ยวหลังนั้น เจิ้งกั๋วถานรู้สึกเศร้าใจแทนสวีรั่วหยุน แต่เมื่ออยู่บ้าน เจิ้งกั๋วถานรักจางอ้ายเซียงอย่างลึกซึ้ง
เฉินชางใคร่ครวญอยู่นาน ในที่สุดก็พยักหน้า “ได้ครับ พอถึงเวลาแล้วคุณก็โทรหาผมนะครับ”
เจิ้งกั๋วถานรู้สึกยินดีโดยพลัน “ได้เลยครับ รบกวนหมอเฉินแล้ว พวกเราสามีภรรยาขอบคุณคุณมากจริงๆ”
[ติ๊ง! ค่าความรู้สึกดีของเจิ้งกั๋วถาน +20!]
เฉินชางชะงักไป พริบตาเดียวก็ได้ค่าความรู้สึกดีมายี่สิบแต้มเชียวหรือ?
เจิ้งกั๋วถานเป็น NPC ระดับสูง ค่าความรู้สึกดีของเขาค่อนข้างล้ำค่า
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เจิ้งกั๋วถานก็ลุกขึ้น ผ่านไปประมาณหนึ่งนาทีก็เดินกลับมา มือขวาถือกล่องขนมไหว้พระจันทร์ มือซ้ายถือเงินปึกหนึ่งส่งมาให้ “หมอเฉินครับ เช้านี้ลำบากคุณแล้ว เงินเล็กน้อยนี่คุณรับไว้เถอะ”
เฉินชางเห็นเงินมากมายขนาดนี้ก็มองจนเหม่อ เงินปึกนี้มีเท่าไหร่กัน อย่างน้อยก็หลายหมื่นหยวนสินะ?
เฉินชางไม่ได้พูดอะไร หลังจากกินอาหารเสร็จเฉินชางก็ยิ้มออกมา พูดกับจางอ้ายเซียงว่า “คุณผู้หญิงครับ ขอบคุณที่ต้อนรับนะครับ อาหารอร่อยมาก เดี๋ยวกลางวันผมต้องไปทำงานแล้ว ไม่รบกวนแล้วครับ”
จางอ้ายเซียงยิ้มอ่อนโยน ไม่ได้พูดอะไรมาก
ความจริงเงินนี้ออกจะมากไปสักหน่อย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาออกมาทำงานแบบนี้ เมื่อเจอกับเงินมากขนาดนี้จึงรู้สึกไม่ค่อยคุ้นชิน ผู้เชี่ยวชาญจากเมืองเอกเหล่านั้นมามณฑลตงหยางคงได้เงินหมื่นสองหมื่นเลยสินะ?
มากเกินไปแล้ว!
ไม่ใช่ว่าเฉินชางไม่รู้ราคาตลาด แต่ว่า…นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเงินมากขนาดนี้ ยังคงรู้สึก…ซับซ้อนอยู่บ้าง
เมื่อเห็นเฉินชางยืนขึ้น เจิ้งกั๋วถานก็ลุกขึ้นตาม จากนั้นจึงส่งกล่องขนมไหว้พระจันทร์ในมือไปให้ “รับไว้นะครับ”
เฉินชางส่ายหน้า “มากเกินไปแล้วครับ!”
เจิ้งกั๋วถานทำหน้าบึ้ง “หมอเฉินครับ คุณเห็นกลุ่มคนเมื่อเช้าหรือเปล่า? พวกเขาต้องการมากกว่าคุณเยอะเลยนะครับ! แต่ด้วยระดับความสามารถของพวกเขาก็เหมาะสมกับราคานี้แล้ว คุณคิดว่าตัวเองไม่คู่ควรหรือ?”
“ด้วยระดับการเย็บแผลของคุณ อย่างน้อยก็ต้องราคานี้นะครับ! หมอเฉิน ผมเองก็เป็นคนที่รู้จักลงทุนระยะยาว ถ้าคุณไม่รับไว้ วันหลังคุณมาเย็บแผลให้ภรรยาผม ผมคงรู้สึกไม่ดีแน่!”