ภารกิจช่วยเหลือในคราวนี้สำคัญมาก บุคลากรทางการแพทย์ทุกคนจำเป็นต้องตั้งสติและสมาธิให้ดี!
แน่นอนว่ายังเลี่ยงไม่ได้ที่คนระดับผู้นำบางคนจะพยายามไม่ยุ่งเรื่องนี้ เนื่องจากสาเหตุสำคัญบางประการ
จะอย่างไรโรงพยาบาลก็เป็นองค์กรที่ค่อนข้างซับซ้อน ผู้ที่ทำงานด้านธุรการหลายคนจึงสอดมือเข้ามายุ่งเรื่องการรักษาไม่ได้
ถึงแม้ห่าวซวี่เลี่ยงจะเป็นผู้อำนวยการสถาบันย่อยของโรงพยาบาลและเป็นแพทย์ด้านกระดูก แต่เรียกได้ว่าไม่ได้ทำงานเลยสักนิดคล้ายกับจะสร้างความสัมพันธ์กับแผนกอื่นอยู่ตลอดเวลา จะมีโอกาสพัฒนาความสามารถด้านการรักษาอย่างเป็นระบบระเบียบได้อย่างไร
ผ่านไปหลายนาที ห่าวซวี่เลี่ยงก็เดินเข้ามาในห้องประคองชีพ เมื่อเห็นหลี่เป่าซานก็ถามว่า “เป่าซาน คนที่หามาล่ะ? ตอนนี้อยู่ที่ไหนแล้ว?”
หลี่เป่าซานชี้ไปที่เฉินชาง “นี่คือหมอในแผนกของพวกเราครับ ชื่อว่าเฉินชาง เขาใช้เครื่องฟอกไตทางช่องท้องได้”
ห่าวซวี่เลี่ยงดวงตาหดเกร็งไปโดยพลัน มองไปยังเฉินชางครู่หนึ่งแล้วจึงหันมาถลึงตาใส่หลี่เป่าซาน “คุณแน่ใจหรือ?”
หลี่เป่าซานมองไปทางเฉินชางครู่หนึ่ง เขารู้จักเฉินชางคนนี้ดี เพราะตอนนั้นตนเป็นผู้แนะนำเฉินชางเข้ามา จึงเข้าใจนิสัยของเฉินชางดีที่สุด คนคนนี้เป็นคนพูดจริงทำจริง ทำงานมาสองปีกว่าแล้วไม่มีความผิดพลาดเลย และไม่ใช่พวกเจ้าเล่ห์ไหลลื่นที่ชอบประจบประแจงเพื่อให้คนอื่นพอใจ
ดังนั้น ถึงคราวนี้เขาจะพูดว่าทำได้! หลี่เป่าซานก็เชื่อเขา
หลี่เป่าซานพยักหน้า “ครับ ผมมั่นใจ”
ห่าวซวี่เลี่ยงหันไปมองเฉินชาง “คุณเรียนมาจากที่ไหนครับ?”
เฉินชางตอบไปตามความจริง “ตอนที่ผมเรียนมหาวิทยาลัย ผมเรียนที่มหาวิทยาลัยตงอี เคยฝึกงานที่โรงพยาบาลหกแห่งในเซี่ยงไฮ้ ที่นั่นผมได้เฝ้าห้องฟอกไตทางช่องท้องมาสามเดือนกว่า ต้องฟอกไตทุกวัน จึงได้เรียนรู้มาตอนนั้นน่ะครับ”
นี่เป็นความจริง แต่ว่า…ได้เฝ้าห้องฟอกไตสามเดือนกว่า เรียนรู้ได้แค่พื้นฐานเท่านั้น
ห่าวซวี่เลี่ยงยังรู้สึกไม่วางใจ เอ่ยกำชับอีกประโยค “เจ้าหนุ่ม นี่เกี่ยวพันถึงชีวิตคน ไม่อาจทำเป็นเล่นได้ คุณเข้าใจหรือเปล่า?”
เฉินชางตอบทันที “ผมเข้าใจดีครับ!”
ห่าวซวี่เลี่ยงรีบตัดสินใจทันที “ไป ไปห้องฟอกไตกัน!”
ความจริง หากถามว่าเทคนิคการฟอกไตทางช่องท้องยากไหม ก็ไม่ยาก แต่ถามว่าง่ายไหมก็ไม่ง่าย คนที่เคยผ่านมาแล้วจะรู้สึกว่าไม่ยากจริงๆ ส่วนคนที่ไม่เคยผ่านมาก่อน พูดได้เลยว่า เพียงเริ่มต้นก็ต้องเกิดปัญหาแน่นอน
การจะเรียนรู้ของสิ่งนี้ใช้เวลาไม่นาน ดังนั้นห่าวซวี่เลี่ยงและหลี่เป่าซานจึงเชื่อ
ยิ่งไปกว่านั้น นี่ไม่ใช่เวลาที่คุณจะมาบ่นอะไรได้
คนกลุ่มหนึ่งเข็นเตียงผู้ป่วยถูกพิษไปยังห้องฟอกไตทางช่องท้อง นี่เป็นสถานที่ที่โรงพยาบาลเปิดใหม่ ยังไม่มีคน
ตอนนี้ห่าวซวี่เลี่ยงยังรู้สึกกังวลอยู่บ้าง ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาจะทำอย่างไร?
ทันใดนั้นเขาก็คิดถึงเพื่อนเก่าของตน จึงกดโทรศัพท์ไปหาทันที
“เหล่าหยาง ผมห่าวซวี่เลี่ยงเองนะครับ ตอนนี้มีเรื่องนิดหน่อย ต้องการให้คุณช่วย!”
อีกฝ่ายรีบถามทันที “มีเรื่องอะไรครับ?”
“โรงพยาบาลของพวกเรามีผู้ป่วยคนหนึ่งต้องทำการฟอกไตทางช่องท้องแต่ตอนนี้ไม่มีคนทำเป็น หมอเล็กๆ คนหนึ่งในแผนกฉุกเฉินบอกว่าเขาทำได้ แต่ผมยังไม่วางใจ ผมว่าจะวีดีโอคอลประชุมให้ผู้เชี่ยวชาญทางการฟอกไตผ่านช่องท้องของโรงพยาบาลพวกคุณให้คำแนะนำหน่อย ได้ไหมครับ?”
เหล่าหยางได้ยินดังนั้นก็ถามขึ้นมาทันที “ผู้ป่วยถูกพิษจากโรงงานเคมีระเบิดหรือเปล่าครับ?”
ห่าวซวี่เลี่ยงพยักหน้าตอบ “ครับ ทนรอไม่ได้แล้ว!”
เหล่าหยางพยักหน้า “เตรียมประชุมผ่านวิดีโอคอลได้เลยครับ อีกไม่กี่นาทีผมจะติดต่อไป”
ห่าวซวี่เลี่ยงวางสาย ดวงตาพลันเปล่งประกาย!
ตอนนี้ก็รับประกันความเสี่ยงได้แล้ว มีผู้เชี่ยวชาญคอยชี้แนะจากทางไกล และเดิมทีเฉินชางก็ทำเป็นอยู่แล้ว คงไม่มีปัญหาใหญ่หรอกนะ?
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ห่าวซวี่เลี่ยงก็ยกโทรศัพท์ขึ้นคุยกับแผนกรักษาความปลอดภัยโดยตรง “พวกคุณไปชั้นหกหน่อยนะครับ นำอุปกรณ์ติดต่อทางไกลที่ชั้นหกลงมาหน่อย เอามาส่งที่ห้องฟอกไตทางช่องท้อง!”
ใช้เวลาไปสิบกว่านาที ทุกอย่างก็เตรียมพร้อม!
อุปกรณ์ถ่ายทอดภาพระยะไกลมีขนาดใหญ่ ยาวประมาณสองเมตรกว่า สามารถเปลี่ยนหน้าจอพื้นฐานได้ และเมื่อรวมเข้ากับกล้องจะทำให้อีกฝ่ายมองเห็นการทำงานได้อย่างชัดเจน
สิ่งสำคัญที่ทำให้มีการประชุมผ่านการถ่ายทอดภาพระยะไกลก็เพื่อให้โรงพยาบาลต่างๆ ได้วิเคราะห์และแสดงวิธีการผ่าตัดหรือรักษานั่นเอง
ติดตั้งหน้าจอสำเร็จ!
ในจอปรากฏใบหน้าของอีกฝ่ายแล้ว เป็นชายอายุห้าสิบกว่าปีคนหนึ่งและผู้หญิงอายุสี่สิบกว่าปีคนหนึ่ง
ห่าวซวี่เลี่ยงรีบทักทาย “หัวหน้าหยาง ลำบากแล้ว! รบกวนพวกคุณหน่อยนะครับ”
ผู้ชายหัวเราะออกมา “ไม่ลำบากเลยครับ ท่านนี้คือรองหัวหน้าผู้ควบคุมห้องฟอกไตผ่านช่องท้องของโรงพยาบาลพวกเรา สวีอ้ายผิง ให้เธอช่วยแนะนำพวกคุณได้เลยครับ”
ห่าวซวี่เลี่ยงหันมาพูดกับเฉินชาง “เริ่มได้เลยหรือเปล่าครับ?”
เฉินชางพยักหน้า!
เริ่มการฟอกไตผ่านช่องท้องได้!
การฟอกไตผ่านช่องท้องเป็นวิธีการฟอกไตประเภทหนึ่งที่ใช้ช่องท้องของผู้ป่วยเป็นตัวฟอกไต
วิธีการคือการใส่น้ำยาฟอกไตเข้าไปในช่องท้องโดยใช้เลือดและของเหลวภายในเส้นเลือดฝอยบริเวณช่องท้องเป็นตัวทำละลายและเป็นตัวฟอก กำจัดสารส่วนเกินในร่างกายและกักเก็บน้ำส่วนเกินออกมา ในขณะเดียวกันก็เติมสารที่จำเป็นเข้าไปกับน้ำยาฟอกไต
ตอนนี้ผู้ป่วยมีภาวะไตวายแล้ว จำเป็นต้องใช้เมทาบอลิซึมทดแทน ซึ่งเติมผ่านน้ำยาฟอกไตแบบใหม่ได้ มีจุดประสงค์เพื่อรักษาภาวะไตวาย
ขณะที่ทำการรักษาด้วยการฟอกไตผ่านช่องท้อง จะใช้วิธีการสอดสายฟอกไตเข้าไปในช่องท้องและเติมน้ำยาฟอกไตเข้าไปในเยื่อบุช่องท้อง ที่เยื่อบุช่องท้องจะมีเส้นเลือดฝอยอยู่จำนวนหนึ่ง ด้านในมีของเหลวที่ไม่จำเป็นและน้ำที่เกินความจำเป็นอยู่ อีกส่วนหนึ่งจะเป็นน้ำยาฟอกไต ซึ่งสารที่ไม่จำเป็นและน้ำเกินความจำเป็นในเลือดจะไหลมาผสมกับน้ำยาฟอกไตทางช่องท้อง
เมื่อผ่านไประยะหนึ่งก็จะนำสารไม่จำเป็นและน้ำที่มากเกินความจำเป็นซึ่งผสมอยู่กับน้ำยาฟอกไตออกมาจากช่องท้อง จากนั้นจึงเติมน้ำยาฟอกไตเข้าไปใหม่ ทำวนเวียนอยู่เช่นนี้ไม่หยุด
การใช้อุปกรณ์ฟอกไตทางช่องท้องไม่ได้ยุ่งยาก สิ่งสำคัญคือก้าวแรก การสอดท่อ!
การสอดท่อเป็นขั้นตอนสำคัญที่สุดในการฟอกไตทางช่องท้อง และเป็นช่วงที่ส่งผลเกี่ยวเนื่องมากที่สุดด้วย!
เกี่ยวพันไปถึงอัตราความสำเร็จของการฟอกไตผ่านช่องท้อง ยิ่งไปกว่านั้นเทคนิคการสอดท่อที่ดีจะลดอาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นจากการฟอกไตผ่านช่องท้องได้อย่างดีเยี่ยม
การสอดท่อในช่องท้องมีวิธีที่นิยมใช้อยู่สองวิธี หนึ่งก็คือการสอดท่อผ่านกล้อง อีกวิธีหนึ่งก็คือวิธีการสอดท่อทางกายวิภาค
ตอนนี้วิธีที่ปรากฏเบื้องหน้าเฉินชางมีเพียงวิธีเดียว นั่นก็คือเทคนิคการสอดท่อทางกายวิภาค
ไม่ใช่ว่าเขาสอดท่อผ่านกล้องไม่เป็น แต่เป็นเพราะตอนนี้ไม่มีกล้องอยู่ที่นี่!
ก็เหมือนกับที่ห่าวซวี่เลี่ยงพูดไว้ เนื่องจากที่นี่ไม่มีการพัฒนาห้องฟอกไตทางช่องท้อง กล้องสำหรับสอดท่อของโรงพยาบาลจึงถูกนำไปใช้ในห้องผ่าตัดอื่น ไม่ได้แบ่งส่วนมาให้ที่นี่!
ความจริงแล้วเทคนิคการสอดท่อเป็นเทคนิคผ่าตัดของศัลยแพทย์
สวีอ้ายผิงที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอคล้ายจะดูออกว่าเฉินชางจำเป็นต้องใช้วิธีการสอดท่อแบบศัลยแพทย์ จึงพูดว่า “วิธีการสอดท่อทางกายวิภาคแบบดั้งเดิม ศัลยแพทย์จำเป็นต้องมีทักษะพื้นฐานที่มั่นคง! ยิ่งไปกว่านั้น…ยังต้องเชี่ยวชาญเทคนิคการสอดท่อด้วย! ห้ามเกิดความผิดพลาดเป็นอันขาด!”
“เพราะหากเกิดความผิดพลาดระหว่างการสอดท่อจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ป่วย ทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรง อย่างเช่น…ช่องท้องอักเสบ…”
เฉินชางคล้ายจะหูหนวกไปแล้ว!
เปิดอุปกรณ์สอดท่อ เตรียมอุปกรณ์ผ่าตัดให้ดี แล้วเริ่มทำงาน!
ความจริงห้องสอดท่อที่อยู่ข้างห้องฟอกไตทางช่องท้องแตกต่างจากห้องผ่าตัดไม่มาก อะไรที่ควรมีก็มี!
ผ่าตัดเปิดแผล!
เฉินชางเลือกผ่าข้างสะดือประมาณสามเซนติเมตร แล้วทำสัญลักษณ์ของขอบเขตที่จำเป็นในการฆ่าเชื้อ!ขอบเขตที่เกี่ยวเนื่องในการฟอกไตทางช่องท้องใหญ่เกินไป โดยปกติจำเป็นต้องฆ่าเชื้อตั้งแต่ส่วนหน้าอกไปถึงส่วนเอว กระทั่งถึงบริเวณขอบรักแร้ทั้งสองด้าน
ยุ่งยาก!
สถานการณ์ยุ่งยาก!
เนื่องจากไม่มีคนช่วย ดังนั้นงานทั้งหมดเฉินชางต้องทำให้สำเร็จด้วยตัวคนเดียว!
ผ่าเปิดผิวหนังอย่างระมัดระวัง แยกชั้นไขมันใต้ผิวหนังไปจนถึงปลาย!
ตอนนี้เฉินชางกลั้นใจ ยกกล้ามเนื้อชั้นในขึ้น
ตอนนี้กล้ามเนื้อบริเวณช่องท้องทั้งหมดปรากฏขึ้นแล้ว!
ได้เวลาแยกกล้ามเนื้อ!
จากนั้นเฉินชางจึงสูดหายใจลึก ยกช่องท้องขึ้น ตอนนี้เอง สวีอ้ายผิงที่อยู่ในหน้าจอก็กลั้นหายใจเช่นกัน
ไม่กล้ารบกวน!
เนื่องจากตอนนี้จำเป็นต้องใช้สมาธิสูง จะเกิดความผิดพลาดไม่ได้ เพราะจะก่อให้เกิดความเสียหายกับระบบลำไส้และช่องท้อง
หากเกิดความผิดพลาดขึ้นมา จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย!
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการฟอกไตทางช่องท้องก็คือความมั่นใจและความละเอียด สวีอ้ายผิงอายุสี่สิบกว่าแล้ว ปกติจะใช้การสอดท่อผ่านกล้องเพราะอันตรายน้อยกว่า ส่วนการใช้วิธีสอดท่อทางกายวิภาค ศัลยแพทย์จำเป็นต้องมีระดับฝีมือสูง และยังทำให้ติดเชื้อได้ง่ายด้วย ยิ่งแผลใหญ่ก็ยิ่งทำให้เกิดปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพมากมาย
แต่ว่า!
สิ่งหนึ่งที่ปฎิเสธไม่ได้เลยก็คือ ศัลยแพทย์ฝีมือดีชอบวิธีการสอดท่อทางกายวิภาคมากกว่า เพราะความแม่นยำ!
หมายความว่าอย่างไรน่ะหรือ?
หากจะให้คะแนนการสอดท่อผ่านกล้องและการสอดท่อด้วยการผ่าตัดธรรมดา เทคนิคการสอดท่อทางกายวิภาคจะมีคะแนนสูงสุดอยู่ที่หนึ่งร้อยคะแนน ส่วนคะแนนสูงสุดของการสอดท่อผ่านกล้องจะเต็มเพียงเจ็ดสิบคะแนน กล่าวคือการผ่าตัดธรรมดามีความสมบูรณ์แบบกว่า ซึ่งปกติแล้วการใช้กล้องจะเป็นวิธีมาตรฐานเท่านั้น!