โรงพยาบาลก็นับเป็นองค์กรเล็กๆ องค์กรหนึ่ง ฉินเสี้ยวหยวนเป็นผู้อำนวยการ ถานลี่กั๋วเป็นเลขา โรงพยาบาลก็นับเป็นหน่วยงานทางธุรกิจอย่างหนึ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลค่อนข้างซับซ้อน ในฐานะที่เป็นผู้กำหนดทิศทางของโรงพยาบาล ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็เหมือนกับศัตรูหัวใจ แต่คนรักที่พวกเขาต้องแย่งชิงกันคือโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรของโรงพยาบาลก็ต้องแข่งกันสักครั้ง
โจวเสี่ยวตงมีฐานะเป็นหมออายุรกรรม มีอิทธิพลกับฝ่ายอายุรกรรมค่อนข้างมาก ส่วนจางโหย่วฝูอยู่แผนกศัลยกรรมทั่วไป สือฉีคือคนที่ถานลี่กั๋วเป็นคนผลักดันขึ้นไป
ดังนั้นเรื่องโควต้าการบรรจุ จะว่าเล็กก็เล็กจะว่าใหญ่ก็ใหญ่ อย่างไรก็สร้างคลื่นลมได้บ้าง
ทว่าสำหรับเฉินชางแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่!
……
ภายในห้องทำงานของหัวหน้าแผนกฉุกเฉิน
ในตอนที่หลี่เป่าซานนำข่าวนี้มาบอกกับเฉินชาง เฉินชางก็เบิกตากว้างทันที
“บรรจุหรือครับ?”
หลี่เป่าซานกลอกตา “คุณถามแบบนี้มาหกรอบแล้วนะครับ ใช่แล้ว บรรจุ! ไม่ใช่เข้าระบบสัญญา”
“ตอนนี้ถูกจางโหย่วฝูแห่งแผนกศัลยกรรมทั่วไปและสือฉีจากแผนกศัลยกรรมทรวงอกสอดมือสอดเท้าเข้ามายุ่งแล้ว แต่ประวัติการศึกษาของคุณค่อนข้างแย่ ผู้อำนวยการฉินจึงทำอะไรไม่ได้”
เฉินชางฟังมาถึงตรงนี้ก็ทำได้เพียงขมวดคิ้ว
เดิมทีสังคมก็เป็นเช่นนี้อยู่แล้ว ยิ่งเป็นของดีก็ยิ่งได้มายาก
นี่คือยุคที่เรียกได้ว่า “ผู้แข็งแกร่งครอบครองทุกอย่าง”
เพียงแต่เฉินชางยังมีความสงสัยบางอย่าง…
สุดท้ายเฉินชางก็ยังทนไม่ไหว เพราะอย่างไรปัญหานี้ก็พัวพันอยู่ในใจเขามานาน จึงถามออกไปทันที “หัวหน้าครับ บรรจุแล้ว…ได้เงินเดือนเดือนละเท่าไหร่กันแน่ครับ? แล้วก็…สวัสดิการพื้นฐานมีครบเลยหรือเปล่าครับ หักกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเท่าไหร่?”
หลี่เป่าซานโกรธขึ้นมาทันที!
คุณนิ่งไปสองนาทีเพื่อถามคำถามนี้กับผมงั้นหรือ?
เพียงแต่เมื่อเห็นหน้าตาไร้เดียงสาของเฉินชาง จึงตอบไปอย่างไม่สบอารมณ์นัก “พอบรรจุแล้ว ความเหน็ดเหนื่อยของคุณต้องได้รับการตอบแทนแน่นอน หากคิดตามสัมประสิทธิ์การคำนวณ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพสามถึงห้าร้อย พอหักค่าสวัสดิการพื้นฐานไปอีก เงินเดือนที่ได้รับถึงมือมีแค่ไม่ถึงสามพัน ส่วนโบนัสก็ต้องดูผลงานของคุณ ทำมากก็ได้โบนัสมาก ต่อไปถ้าขยันหน่อยก็อาจได้ถึงเจ็ดแปดพันต่อเดือน ถ้าคุณทำให้ได้เหมือนเหล่าเฉิน หนึ่งเดือนหนึ่งหมื่นก็ไม่ใช่ปัญหา”
สิ่งที่หลี่เป่าซานพูดเป็นความจริง
แต่ไหนแต่ไรแผนกฉุกเฉินไม่ใช่แผนกทำเงิน เมื่อเทียบกับแผนกศัลยกรรมทั่วไป แผนกหัวใจ แผนกจิตเวช แผนกเนื้องอก แผนกสูตินารี ซึ่งเป็นแผนกที่ทำรายได้เข้าโรงพยาบาล เรียกได้ว่าแผนกฉุกเฉินเป็นแผนกคนจนเลยทีเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น ทุกปีโรงพยาบาลยังต้องส่งเงินทุนช่วยเหลือมาให้แผนกฉุกเฉินเป็นพิเศษด้วย จะอย่างไร…ก็มีผู้ป่วยหนีหนี้มาก
นี่คือปกติของแผนกฉุกเฉิน
และเป็นสาเหตุที่รับพนักงานชั่วคราวเข้ามา
เงินเดือนของพนักงานชั่วคราวคือสองพันกว่าหยวน ไม่มีสวัสดิการพื้นฐานทั้งห้า ไม่มีค่ากินค่าอยู่ นับเป็นแรงงานราคาถูก
ส่วนพนักงานในระบบสัญญา เมื่อแบ่งตามค่าสัมประสิทธิ์ของโรงพยาบาลแล้ว ปกติทำงานอะไรก็จะได้เงิน มีสวัสดิการพื้นฐานสามอย่าง ไม่มีกองทุนสํารองเลี้ยงชีพ เมื่อเป็นเช่นนี้ภาระของโรงพยาบาลจะไม่หนักมาก
ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือต้องทำตามคำสั่งของโรงพยาบาล ขอเพียงหัวหน้าแผนกยังต้องการคุณก็จะไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนการบรรจุจะไม่เหมือนกัน ทุกๆ ปีแต่ละมณฑลจะมีการสอบบรรจุหนึ่งครั้ง หากผ่านก็จะได้รับการบรรจุ และยังมีโควต้าพิเศษเพื่อดึงดูดบุคคลผู้มีความสามารถด้วย
โรงพยาบาลก็มีการบรรจุเพื่อกระตุ้นพนักงานในประเทศเช่นกัน
หลี่เป่าซานมองเฉินชาง “คราวนี้ผู้อำนวยการฉินสนับสนุนคุณ คุณต้องพยายามนะครับ!”
เฉินชางพยักหน้า ในใจคิดว่า นี่คงจะเป็นผลของค่าความรู้สึกดีสินะ? ดูแล้วค่าความรู้สึกดีนี่ช่างมีประโยชน์จริงๆ!
หลี่เป่าซานมองเฉินชางแล้วพูดต่อไป “การแข่งขันของพวกคุณสามคนเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว พวกคุณต่างคนต่างก็เป็นศัลยแพทย์ การแข่งครั้งนี้จะแข่งกันเรื่องการผ่าตัด”
“เพื่อให้ยุติธรรม รายการหนึ่งเป็นการผ่าตัดพื้นฐาน อีกรายการหนึ่งเป็นการผ่าตัดเฉพาะทาง”
เฉินชางอับจนคำพูด “หัวหน้าครับ แผนกฉุกเฉินของพวกเรามีการผ่าตัดเฉพาะทางอะไรด้วยหรือ?”
หลี่เป่าซานส่ายหน้า “ความจริงการผ่าตัดเฉพาะทางมีขึ้นเพื่อดูแลพวกคุณ ก็คือให้เลือกการผ่าตัดที่คุณเชี่ยวชาญที่สุดมาอย่างหนึ่ง ผมเรียกคุณมาพบเพราะต้องการถามว่าคุณถนัดการผ่าตัดอะไรที่สุด ผมจะได้รายงานขึ้นไป”
เฉินชางเปิดแทบทักษะของตนขึ้นดูอย่างละเอียด มองหาอยู่นาน…
เขาพบว่าทักษะที่โดดเด่นของตนมีอยู่อย่างเดียว นั่นก็คือการเย็บเส้นเอ็น
เพียงแต่นี่นับเป็นการผ่าตัดหรือเปล่า? เอาเถอะ!
“การเย็บเส้นเอ็นนับด้วยหรือเปล่าครับ?”
หลี่เป่าซานชะงักไป “ทำไมจะไม่นับล่ะ! ต้องนับแน่นอนอยู่แล้ว แต่คุณต้องมั่นใจนะครับ ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นการแข่งขัน! ใช่แล้ว ตำรวจฝ่ายอาชญากรรมที่คุณเย็บแผลให้ครั้งที่แล้วล่ะ ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง อีกอย่าง ผมได้ยินหัวหน้าอันบอกว่าทางโรงพยาบาลประชาชนชื่นชมคุณมากหรือ?”
ตอนนี้เฉินชางจึงค่อยคิดถึงอู๋กังขึ้นมา ถึงแม้เขาจะมั่นใจ แต่เรื่องระยะเวลาการฟื้นตัวก็พูดอะไรมากไม่ได้ “ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ มีบันทึกไว้ในประวัติผู้ป่วย วันหน้าค่อยโทรไปถามสักหน่อยแล้วกัน”
หลี่เป่าซานพยักหน้า ความจริงเขารู้สึกพอใจเฉินชางขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
เขาทอดถอนใจออกมา พูดว่า “เดิมทีโควต้านี้เตรียมไว้ให้คุณ แต่คิดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นแบบนี้ได้ อีกอย่างการแข่งขันนี้ไม่ยุติธรรมจริงๆ เรียกได้ว่าโจวเสี่ยวตงของแผนกศัลยกรรมทั่วไปได้เปรียบ”
“แต่โรงพยาบาลของพวกเราก็อยู่ในสถานการณ์แบบนี้แหละครับ ผู้อำนวยการกับเลขาไม่ถูกกัน ทำให้มีเรื่องวุ่นวายมากมาย เฮ้อ…ผมว่าครั้งนี้พอแล้ว เฮ้อ…นี่ต้องตำหนิผม ถ้ารู้แบบนี้คงพาคุณไปผ่าตัดให้มากหน่อย”
“การแข่งขันจะมีขึ้นในวันศุกร์นะครับ เอาแบบนี้แล้วกัน พรุ่งนี้คุณก็ติดตามผมไปผ่าตัดไส้ติ่งสักหลายเคส ผมจะพาคุณไปเอง!”
เฉินชางได้ยินก็ชะงักไปเล็กน้อย วันนี้วันพุธ มะรืนก็เป็นวันศุกร์แล้ว!
คนพวกนี้เฉียบขาดจริงๆ
จะจัดการแข่งขันในวันศุกร์แล้ว เขายังรู้สึกกังวลเล็กน้อย เพราะตอนนี้ทักษะการผ่าตัดไส้ติ่งของเขาอยู่ระดับกลางเท่านั้น
“ครับ หัวหน้าแผนก รบกวนคุณแล้ว” เฉินชางยิ้มจากใจ
เมื่อออกมาจากห้องทำงาน เฉินชางก็นั่งลงที่ห้องเวร มองไปยังข้อมูลบนกระดานเบื้องหน้า
เขามีคะแนนทักษะอยู่สี่แต้ม
และมีบัตรฝึกพิเศษอยู่หนึ่งใบ
เฉินชางจ้องมองไปที่ [บัตรฝึกพิเศษ] พลันมีข้อมูลไหลเข้ามาในสมอง
[บัตรฝึกพิเศษ: เมื่อใช้แล้วจะเข้าห้องพิเศษเพื่อทำการฝึกฝนทักษะได้ หากได้รับความพึงพอใจจากระบบจึงจะออกมาได้ ต้องการเริ่มฝึกพิเศษหรือไม่?]
ตอนกลางวันทุกคนไปกินข้าวกันหมดแล้ว ในห้องเวรและห้องทำงานไม่มีใคร เฉินชางที่นั่งว่างอยู่ในห้องเวรเดินไปล็อกประตู
เขายังกังวลถึงปัญหาบางอย่าง จะใช้เวลานานหรือไม่?
[ติ๊ง! การฝึกฝนพิเศษดำเนินในห้องเสมือน ไม่เสียเวลาใดๆ]
นี่นับเป็นข่าวดี!
เฉินชางหยิบบัตรฝึกพิเศษขึ้นมาแล้วกดใช้งาน
[กรุณาเลือกเนื้อหาในการฝึกพิเศษ]
[ทักษะการผ่าไส้ติ่ง!]
[ต้องการเริ่มเลยหรือไม่?]
[เริ่ม!]
ทันใดนั้นเฉินชางก็สัมผัสได้ว่าภาพเบื้องหน้าเปลี่ยนไป จู่ๆ ก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องผ่าตัดแห่งหนึ่ง
[เนื้อหาการฝึกพิเศษ: ผ่าตัดไส้ติ่ง ในระหว่างการฝึกพิเศษ ทุกการกระทำของคุณจะถูกประเมินโดยระบบ การฝึกพิเศษจะฝึกฝนให้คุณเข้าใจการผ่าตัดไส้ติ่งครบทุกด้าน จุดประสงค์การฝึกพิเศษคือทำให้คุณเรียนรู้ความสำคัญและความยากของการผ่าตัดไส้ติ่งทุกประเภทได้สำเร็จ! กรุณาเริ่มงานของคุณ]
เฉินชางเดินไปเบื้องหน้า ด้านหน้ามีประวัติผู้ป่วยวางอยู่ ด้านบนเขียนข้อมูลพื้นฐานของผู้ป่วยเอาไว้ เป็นการผ่าไส้ติ่งปกติ
หลังจากเตรียมงานเรียบร้อยแล้วก็เริ่มวาดสัญลักษณ์ลงมีด!
วาดเส้นผ่า ฆ่าเชื้อ…
ผ่าเปิดท้อง ผิวหนัง…ชั้นไขมัน…เยื่อบุช่องท้อง…
เฉินชางรู้สึกว่าทุกขั้นตอนดำเนินไปอย่างราบรื่น เคสแรกสำเร็จไปในที่สุด
[ติ๊ง! คะแนนประเมิน 61 คะแนน ผ่าน
ส่วนที่ต้องปรับปรุง
1. การวาดสัญลักษณ์
2. การผ่าเปิด…
3. การเย็บ
เริ่มต้นการฝึกพิเศษ: การวาดสัญลักษณ์]
เฉินชางตกตะลึง!
เคสการผ่าตัดไส้ติ่งที่ตนพอใจกลับได้คะแนนแค่หกสิบเอ็ดคะแนน ยังขาดไปอีกสามสิบเก้าหัวข้อ เป็นตัวเลขที่เวอร์วังอะไรเช่นนี้
แต่ไม่นานเฉินชางก็เห็นหัวข้อฝึกพิเศษ
การวาดสัญลักษณ์?
การวาดสัญลักษณ์มีปัญหาตรงไหน?
[ข้อเสนอแนะ การวาดสัญลักษณ์เป็นส่วนสำคัญมาก หากกรีดตรงเป้าหมายจะทำให้บาดแผลมีขนาดเล็ก ช่วยลดอัตราการติดเชื้อ…การฝึกฝนพิเศษหัวข้อแรกการวาดสัญลักษณ์สำหรับการผ่าตัดไส้ติ่ง…]
เฉินชางตะลึงไปแล้ว การวาดสัญลักษณ์ต้องเรียนรู้มากมายขนาดนี้เชียวหรือ?
แต่ไม่นานเฉินชางก็เข้าใจว่าทำไมต้องพิถีพิถันขนาดนี้
เนื่องจากตำแหน่งไส้ติ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในตำแหน่งแน่นอน แต่ก็มีไส้ติ่งที่อยู่ผิดที่ผิดทางเหมือนกัน อย่างเช่นความผิดปกติจากการไม่เคลื่อนตัวที่มักจะเห็นบ่อยที่สุด ทั้งยังมีการเคลื่อนตัวไม่สมบูรณ์ ลำไส้ไม่สมบูรณ์ ตำแหน่งตรงข้ามเคลื่อนตัวไม่สมบูรณ์เป็นต้น ทั้งยังมีปัญหาจากสรีระอีกด้วย เช่นการเคลื่อนตัวระหว่างตั้งครรภ์การฝึกพิเศษก็เหมือนการเรียนหนังสือที่จะฝึกให้เฉินชางทำงานเฉพาะด้านแต่ละอย่างไม่จบไม่สิ้น!
การเรียนวาดสัญลักษณ์ง่ายๆ เขาต้องทำไปหลายพันเคส…
ต่อไปคือจุดที่ลำบากที่สุด การผ่าเปิด!
ครั้งแรกเฉินชางพบว่าสิ่งที่เหล่าเฉินพูดดูน้อยลงไปถนัดตา คุณบอกให้ผมเรียนรู้การผ่าตัดไส้ติ่งจากคุณทำไมกัน! มีช่องโหว่เกิดขึ้นมากมาย เฉินชางยังคงทำการตามคำแนะนำของระบบไม่หยุดหย่อน
จุดประสงค์ของการผ่าเปิดก็เพื่อความแม่นยำและเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุอะไร เขาพบว่าการผ่าเปิดมีส่วนช่วยในการเย็บมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรวมกับดวงตาแห่งความงามของตนแล้วทำให้การเย็บทิ้งรอยแผลเป็นไว้น้อยมาก
แค่การผ่าตัดไส้ติ่ง เขาก็ได้เรียนรู้อะไรมากมายแล้ว!