[ติ๊ง! ภารกิจประจำวันสำเร็จ ได้รับรางวัล: ทักษะการผ่าตัดถุงน้ำดี (ระดับสูง)]
เฉินชางได้ยินเสียงนี้พลันเบิกบานใจขึ้นมาทันที!
ได้รับทักษะการผ่าตัดถุงน้ำดี จะไม่ดีใจได้อย่างไรล่ะ?
แต่ในตอนที่เฉินชางกำลังกดรับอยู่นั้นเอง จู่ๆ ระบบก็ส่งเสียงเตือนขึ้นอีกครั้ง
เขาพบว่า…
ตนดีใจเร็วเกินไปหน่อย…
[ทักษะการผ่าตัดถุงน้ำดี: ระดับสูง
คุณสมบัติพิเศษ: ได้รับทักษะการผ่าตัดถุงน้ำดีโดยการส่องกล้อง(ระดับสูง)]
ฮ่าๆๆ เขาควรดีใจเพิ่มขึ้นอีกยี่สิบเปอร์เซ็นต์ถึงจะถูก!
ถึงอย่างไรนี่ก็เหมือนซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง เป็นเรื่องมงคลสองชั้น
มีเรื่องดีขนาดนี้ด้วย!
การผ่าตัดถุงน้ำดีและการผ่าตัดไส้ติ่งไม่เหมือนกัน
หลายปีมานี้การผ่าตัดถุงน้ำดีโดยการส่องกล้องกลายเป็นการผ่าตัดที่เรียกว่าเป็น “มาตรฐานทองคำ” ในการรักษาถุงน้ำดีไปแล้ว มีเพียงสถานการณ์ที่ใช้การส่องกล้องผ่าตัดอย่างแม่นยำไม่ได้เท่านั้นจึงจะใช้การผ่าเปิดท้องเข้าช่วย
คิดไม่ถึงว่าการผ่าตัดถุงน้ำดีจะพ่วงทักษะการผ่าตัดถุงน้ำดีโดยการส่องกล้องมาให้ด้วย
จะไม่ให้เฉินชางดีใจและกระตือรือร้นได้อย่างไร?
แต่นี่ก็เป็นเหมือนสัญญาณบอกใบ้เฉินชางว่าต่อไปอย่าได้ดีใจเร็วไปนัก
จะอย่างไรการเป็นมนุษย์ก็ต้องรู้จักถ่อมเนื้อถ่อมตัว
เรื่องดีๆ ถึงจะมาหา!
โอ้ คล้องจองอีกแล้ว
เฉินชางดีใจจริงๆ เพราะหากตอนนี้คุณทำได้เพียงผ่าตัดถุงน้ำดีโดยการผ่าเปิดท้องตามปกติคงอยู่ในโรงพยาบาลใหญ่ไม่ได้จริงๆ ตอนนี้การผ่าตัดถุงน้ำดีด้วยการส่องกล้องกลายเป็นมาตรฐานทองคำที่แพร่หลายไปแล้ว
คุณทำไม่เป็นงั้นหรือ?
ถ้าเช่นนั้นก็ขออภัย ถอยไปซะ ผมจะเป็นศัลยแพทย์หลัก ส่วนคุณก็ถือคีมไปซะ!
ขณะที่เฉินชางกำลังจะผลักประตูเดินออกไปนั้นเอง จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงคนเรียก
“เสี่ยวเฉิน เดี๋ยวก่อน”
เฉินชางหันไป พบว่าเป็นหลิวซือฉี
“ผู้อำนวยการหลิว? สวัสดีครับ”
หลิวซือฉีพยักหน้ายิ้ม “มาๆๆ เสี่ยวเฉิน ผมมีเรื่องอยากถามคุณหน่อย มานั่งนี่สิครับ”
เมื่อเฉินชางเดินเข้าไป พบว่ามีหลายคนนั่งอยู่ตรงข้ามเขา
เฉียนเลี่ยงพูดขึ้นว่า “หมอเฉิน เรื่องการผ่าตัดเมื่อกี้นี้ พวกเรามีคำถามบางอย่างอยากหารือกับคุณสักหน่อยน่ะครับ คุณมีเวลาหรือเปล่า?”
เฉินชางที่อยู่ในวงการศัลยแพทย์ย่อมต้องเคยได้ยินชื่อเฉียนเลี่ยงมานานแล้ว เมื่อเห็นเฉียนเลี่ยงพูดแบบนี้จึงกล่าวอย่างถ่อมตัว “หัวหน้าเฉียนเกรงใจเกินไปแล้วครับ คุณมีอะไรก็ถามมาได้เลย”
เฉียนเลี่ยงพยักหน้า เก็บรอยยิ้มกลับมา บนใบหน้าพลันแปรเปลี่ยนไปจริงจังดั่งผู้มีความรู้ “หลักๆ ก็มีสามคำถาม อย่างแรกก็คือคุณรู้ได้ยังไงว่าผู้ป่วยคนแรกมีอาการลําไส้อักเสบนอกช่องท้อง?”
เฉินชางไม่คิดอะไรมาก พูดออกไปตามตรง “ประวัติผู้ป่วยเป็นบันทึกที่หมอบันทึกไปตามอาการที่ปรากฏอย่างแท้จริง การสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเป็นข้อมูลเสริม จากการวิเคราะห์ประวัติผู้ป่วย ผมพบลักษณะพิเศษบางอย่างจึงตรวจบริเวณท้องให้แก่ผู้ป่วยเพิ่มเติมเพื่อทดสอบความคิดของผม นี่เป็นสาเหตุที่ผมผ่าเปิดท้องด้วยแผลประมาณสี่เซนติเมตร ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการทางการแพทย์ ก่อนเริ่มผ่าตัดจะต้องหาวิธีรับมือทุกด้าน เพื่อป้องกันให้รอบด้าน”
เฉียนเลี่ยงตบมืออย่างพอใจ ดีมาก แต่จู่ๆ เขาก็มีสีหน้าเคร่งขรึมลง เอ่ยถามด้วยบรรยากาศกดดัน “ดีมาก! ในเมื่อคุณรู้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้ให้บริการทางการแพทย์ก็คือความปลอดภัย ถ้างั้น…คำถามที่สองก็คือ ในการผ่าตัดเคสที่สอง ผู้ป่วยมีอาการไส้ติ่งอักเสบซึ่งมีภาวะเป็นหนอง ไม่เหมาะสมกับการผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็ก ทำไมคุณถึงใช้มันอีก หรือคุณไม่รู้ว่าทำแบบนี้จะเป็นการเพิ่มอันตรายให้แก่ผู้ป่วย?”
เฉินชางมองไปยังเฉียนเลี่ยงที่ถามด้วยใบหน้าเคร่งขรึมแต่ไม่ได้เกรงกลัวอะไรนัก กลับพูดยิ้มๆ ว่า “ผมปรับปรุงการผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็กให้ดีขึ้นแล้วครับ จึงมั่นใจที่จะใช้มันกับไส้ติ่งที่มีภาวะอักเสบจนเป็นหนอง ดังนั้นผมจึงเลือกผ่าตัดด้วยแผลเล็ก”
เมื่อคำนี้ถูกกล่าวออกมา ในห้องสำนักงานพลันเงียบลง!
ผมปรับปรุงการผ่าตัดไส้ติ่งด้วยแผลเล็กให้ดีขึ้นแล้ว?
เฉินชางพูดว่าเขาปรับปรุงมันด้วยตัวเอง!
เขาเพิ่งจะอายุเท่าไหร่?
ถึงกับปรับปรุงวิธีการผ่าตัดได้เชียว!
หลังจากคิดถึงปัญหานี้ ทุกคนก็ขมวดคิ้วเข้าด้วยกัน ลมหายใจกระชั้นถี่ขึ้นเล็กน้อย
นี่คือพรสวรรค์หรือ?
อายุยังน้อยก็ปรับปรุงการผ่าตัดได้แล้ว!
อนาคต…ไม่จำกัดจริงๆ!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ คนทั้งหลายก็ต้องเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเฉินชาง!
ตอนแรกทุกคนคิดว่าเฉินชางเรียนวิธีการผ่าตัดมาจากคนอื่น คิดไม่ถึงว่า…จะเป็นสิ่งที่คิดขึ้นมาเอง
นี่แตกต่างกันมาก!
อย่างไรก็ตาม เฉียนเลี่ยงไม่ได้รู้สึกแปลกใจแม้แต่น้อย กลับเคร่งขรึมยิ่งขึ้น ยืดตัวจ้องมองไปยังเฉินชาง ถามออกไปอย่างหนักแน่น “ปรับปรุง? คุณมั่นใจหรือว่าเป็นการปรับปรุงให้ดีขึ้น? ไม่ใช่เป็นการปรับปรุงให้แย่ลง? คุณมีข้อมูลที่จะพิสูจน์ความเป็นไปได้ของคุณหรือเปล่า? คุณได้วิเคราะห์อัตราความแม่นยำของคุณหรือเปล่า?”
“ผู้ที่ทำงานด้านการแพทย์จะไม่มีการปรับปรุงโดยทางทฤษฎีเท่านั้น การปรับปรุงใดๆ ก็ตามจำเป็นต้องวิเคราะห์ไปตามการปฏิบัติจริงนับครั้งไม่ถ้วน คุณทดสอบทางคลินิกแล้วหรือ? คุณวิเคราะห์หลายครั้งแล้วหรือ? คุณกับอาจารย์ผู้ชี้แนะของคุณเคยถกกันถึงปัญหานี้แล้วหรือ?”
ปัญหาต่างๆ ถูกถามออกมารวดเดียว เฉินชางถูกบรรยากาศของเฉียนเลี่ยงกดดันเข้าแล้วจริงๆ!
สิ่งที่เขาจะทำก็คือให้เฉินชางมีท่าทีเคร่งขรึมอย่างที่ผู้ทำงานทางการแพทย์สมควรมี
การแพทย์ก็คือวิทยาศาสตร์!
กระทั่ง…อันตรายกว่าวิทยาศาสตร์ทั่วไปด้วยซ้ำ!
ถึงแม้เฉียนเลี่ยงจะไม่รู้จักเฉินชาง แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายบางอย่างจากการผ่าตัดของเฉินชาง
นี่คือผู้เชี่ยวชาญ!
หากเฉินชางต้องการเดินในเส้นทางนี้ให้ไกลขึ้น ก็จำเป็นต้องเรียนรู้สิ่งต่างๆ ให้มากขึ้น
ไม่กล่าวไม่ได้ว่า ในฐานะที่เป็นนายกสมาคมศัลยแพทย์แห่งมณฑลตงหยาง ประธานสมาคมด้านตับและถุงน้ำดี เฉียนเลี่ยงเป็นตัวแทนของอำนาจในวงการศัลยแพทย์แห่งมณฑลตงหยาง
ที่เฉียนเลี่ยงทำแบบนี้ก็เพราะชื่นชมเฉินชาง!
หากเขาเป็นคนทั่วไปจะไม่พูดอะไรมากมาย แต่หลังจากเห็นการผ่าตัดของเฉินชางก็เกิดความรู้สึกชอบใจในฝีมือ ย่อมต้องสั่งสอนให้มากขึ้นเสียหน่อย
แม้จะเป็นหยกดิบก็ยังต้องเจียระไน!
ความโดดเด่นของเฉินชางค่อนข้างเด่นชัด ขาดแค่ความระมัดระวังและการอธิบายความรู้อย่างจริงจังเท่านั้น ซึ่งของเหล่านี้ถูกเฉียนเลี่ยงถามออกมาในรวดเดียว
เฉินชางสูดหายใจลึก ในสมองใคร่ครวญถึงคำพูดของเฉียนเลี่ยงไม่หยุด เขาเข้าใจดี เฉียนเลี่ยงไม่ได้กำลังกดดันตน แต่มีเจตนาผลักดันตน ความหมายของเฉียนเลี่ยงก็คือ คุณปรับปรุงการผ่าตัดแบบนี้ แม้จะแม่นยำและให้ผลดี แต่คุณต้องใช้ข้อมูลการผ่าตัดมากมายมาพิสูจน์ด้วย กล่าวให้ชัดเจนก็คือต้องใช้การผ่าตัดนับครั้งไม่ถ้วนมาเขียนเป็นวิทยานิพนธ์ อย่างดีที่สุดอาจเข้าสู่วงการได้!
ศัลยแพทย์นับเป็นวงการหนึ่งจริงๆ!
คุณต้องเป็นที่รู้จักของคนอื่นถึงจะเข้าสู่วงการนี้ได้
ดังนั้นคำพูดของเฉียนเลี่ยงจึงชัดเจนมาก นั่นก็คือต้องการให้เฉินชางทำการเจียระไนการผ่าตัดแบบใหม่ของเขาและเขียนเป็นวิทยานิพนธ์ดีๆ ออกมา!
เขาเงยหน้าขึ้นโค้งตัวอย่างจริงจัง “ขอบคุณอาจารย์เฉียนที่ชี้แนะ ผมเข้าใจแล้วครับ!”
เมื่อเฉินชางพูดเช่นนี้ออกมา คนรอบด้านต่างพากันยิ้ม
ทำไมพวกเขาจะไม่รู้เจตนาของเฉียนเลี่ยง
แน่นอนว่าไม่ได้อยากทำให้คนรุ่นหลังลำบากใจ ที่เขาทำเช่นนี้เพราะต้องการผลักดัน กระทั่งเกิดความรู้สึกชอบใจด้วยซ้ำ
ไม่ผิดไปจากที่คาด
ตอนนี้เฉียนเลี่ยงไม่มีบรรยากาศกดดันดังเช่นเมื่อครู่นี้แล้ว กลับมีสีหน้าอบอุ่น พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “คำถามที่สามและเป็นคำถามสุดท้าย คุณเรียนจบจากที่ไหน ใครเป็นอาจารย์ของคุณครับ?”
เฉินชางชะงัก ใบหน้าแดงเล็กน้อย เพราะจะอย่างไร…ปริญญาตรีของเขา พูดไปแล้วก็ไม่ได้น่าภูมิใจอะไรนัก เขายิ้มอย่างเขินอาย “ผมจบจากวิทยาลัยแพทย์ตงหยาง ส่วนอาจารย์…คือเฉินปิ่งเซิง!”
พวกเฉียนเลี่ยงสบตากัน วิทยาลัยแพทย์ตงหยางก็คือวิทยาลัยแพทย์แห่งมณฑลตงหยาง เฉียนเลี่ยงเป็นรองผู้อำนวยการ ส่วน…เฉินปิ่งเซิงเป็นใครกัน? ทำไมพวกเขาไม่รู้จัก?
ทุกคนพูดคุยแลกเปลี่ยนกันอยู่นานก็ยังไม่รู้ว่าใครคือเฉินปิ่งเซิง เฉินปิ่งเซิงคนนี้เป็นเทพเซียนมาจากที่ไหนกันแน่ถึงสอนลูกศิษย์ที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ออกมาได้
ห่าวซวี่เลี่ยงเดินเข้ามาพอดีจึงพูดขึ้นว่า “เฉินปิ่งเซิงคือหมอในแผนกฉุกเฉินของพวกเราเองครับ”
เมื่อเขาพูดออกมาเช่นนี้ ทุกคนพลันตบหน้าผาก
หลิวซือฉีคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ทันที “คุณไม่เคยเรียนปริญญาโทหรือครับ?”
เฉินชางพยักหน้า พูดไปตามจริง “ครับ หลังจากจบปริญญาตรีจากวิทยาลัยแพทย์ตงหยางก็เข้าทำงานทันที”
เมื่อพูดออกมาเช่นนี้ ทุกคนพลันเงียบไป
คนคนหนึ่งที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ในระหว่างเรียนอาจไม่ได้สัมผัสกับการผ่าตัดด้วยซ้ำ ถึงกับปรับปรุงการผ่าตัดได้เชียว นี่มันยอดเยี่ยมกว่าผู้เชี่ยวชาญมากมายแค่ไหนกัน?
ผู้มีพรสวรรค์!
ไม่!
ควรเรียกว่าอัจฉริยะ!
เมื่อเฉียนเลี่ยงได้ฟังดวงตาพลันเปล่งประกายแวววาว มีท่าทางคล้ายกำลังครุ่นคิด ผ่านไปนานจึงค่อยพูดออกมา “กลับไปแล้วถ้ามีเวลาก็เขียนวิทยานิพนธ์มาให้ผมดูหน่อยนะครับ”
เฉินชางชะงัก จู่ๆ ก็พบว่ามีเครื่องหมายคำถามปรากฏเหนือศีรษะเฉียนเลี่ยง!
[ติ๊ง! กระตุ้นภารกิจกราบอาจารย์ การทดสอบของเฉียนเลี่ยง: เขียนวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับการผ่าตัดอันโดดเด่นออกมาให้ได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากได้รับความเห็นชอบจากเฉียนเลี่ยง จะกระตุ้นภารกิจกราบอาจารย์ได้]
เมื่อเฉินชางอ่านจบ สีหน้าพลันกระตือรือร้นขึ้นมาทันที!
ผู้ที่เดินบนเส้นทางการแพทย์ต้องอ่านตำรา กราบไหว้อาจารย์ และทำการผ่าตัดให้มาก!
ตอนนี้การปรากฏตัวของเฉียนเลี่ยงทำให้ถนนสายใหญ่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าเฉินชางแล้ว!