บทที่ 204 น้ำลายมีพิษ!
“ส่งมีดผ่าตัดให้ผม!”
เมื่อย่วนย่วนเห็นมือคู่นั้นที่ยื่นมาของเฉินชาง เธอก็อดหน้าแดงไม่ได้ เธอรีบพยักหน้าทันที
เหมือนที่พวกเธอซุบซิบกันไว้จริงๆ ทั้งใหญ่ทั้งยาว (ทฤษฎีขนาดมือสัมพันธ์กับขนาดน้องชาย)นี่เขาจะต้องใส่ถุง (มือ) ไซซ์ไหนกันนะ
แล้วก็…ว่ากันว่าเขาไวมาก?
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ข่งย่วนย่วนก็เต็มไปด้วยความคาดหวังกับการผ่าตัดเคสนี้อย่างไร้ขอบเขต
ถึงแม้จะเป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมทีมผ่าตัดกับเฉินชาง แต่เรื่องที่เล่าขานกันอย่างแพร่สะพัดเกี่ยวกับเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ท่านนี้นั้น…
ต้องกล่าวให้ทราบว่าห้องผ่าตัดเป็นสถานที่ที่เรื่องซุบซิบนินทากับข่าวต่างๆ จะแพร่กระจายได้รวดเร็วที่สุด แล้วเฉินชางก็กำลังตกเป็นประเด็นร้อนในช่วงนี้
ถึงขั้นที่กลายเป็นชายในจินตนาการเกี่ยวกับเรื่องบนเตียงของพยาบาลสาวเล็กสาวใหญ่ประจำห้องผ่าตัด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งยามที่เข้าเวรดึก ในค่ำคืนที่เงียบสงบไม่มีเคสผ่าตัด เพื่อที่จะขับไล่ความมืดทึมน่ากลัวที่แฝงอยู่ในบรรยากาศของห้องผ่าตัด ผู้หญิงกลุ่มนี้มักจะชวนกันพูดคุยถึงชายมาดแมนเพื่อกระตุ้นความรู้สึกกระชุ่มกระชวยให้จิตใจ
พยาบาลประจำห้องผ่าตัดทุกคนที่ได้เห็นเฉินชาง พอออกมาจากห้องผ่าตัดแล้วจะต้องซุบซิบเรื่องเฉินชางกันยกหนึ่ง และเก็บไปจินตานาการถึงเขาในตอนเข้านอน
“เฉินชางเก่งกาจมาก มีอยู่ครั้งหนึ่งขณะที่โจวเสี่ยวตงผ่าตัดผู้ป่วยอยู่แล้วเกิดทำต่อไม่ได้ขึ้นมา ผลสุดท้ายต้องเรียกให้เฉินชางมาช่วย ทุกขั้นทุกตอนคล่องแคล่วฉับไว ตัดสินใจได้อย่างเฉียบขาดตรงไปตรงมา เก่งมากจริงๆ!”
“นี่ยังไม่เท่าไหร่ คุณไม่รู้เรื่องนี้สินะ มีอยู่ครั้งหนึ่งมีเคสผ่าตัดที่ยากมากเคสหนึ่งที่ห้องผ่าตัดหมายเลขสาม เคสนี้จำเป็นต้องรีบเย็บหลอดเลือดเร็วที่สุด พวกคุณไม่รู้อะไรความไวของมือหมอเฉิน ถ้าไม่โสดมาเป็นร้อยแปดสิบปีไม่มีทางทำได้แน่!”
“คืนวันนั้นเฉินชางพยายามอย่างสุดกำลังที่จะช่วยชีวิตผู้อำนวยการฝาง บอกตามตรงนะ สุดยอดมากจริงๆ…!”
ข่งย่วนย่วนมองเฉินชาง เก่งขนาดนั้นเลยจริงๆ หรือเนี่ย
…
เฉินชางรับมีดผ่าตัดมา จากนั้นก็ลงมีดกรีดแยกชั้นผิวลงไปทีละชั้น
เฉินชางกรีดเปิดช่องทรวงอก เริ่มการผ่าตัดอย่างแท้จริง
ถึงแม้ว่าระยะเวลาในตอนนี้ยังผ่านไปไม่ถึงหกชั่วโมงเต็ม แต่ก็เริ่มมีของเหลวปริมาณมากในเยื่อหุ้มปอดแล้ว
“ดูดเลือด!”
หวังหย่งพยักหน้า ถือท่อดูดขึ้นมาลงมืออย่างระมัดระวัง
นิ้วมือของเฉินชางเรียวยาวมาก การเคลื่อนไหวของนิ้วมือก็ปราดเปรียวมาก
ในตอนนี้เห็นหลอดอาหารแล้ว หลิวเจี้ยนที่ยืนอยู่ห่างๆ ค่อยข้างกังวลใจ เขาไม่ได้เดินออกไปจากห้องผ่าตัด
ตั้งแต่หลิวเจี้ยนเข้ามาในห้องผ่าตัด เขาก็รู้สึกหัวใจตุ๊มๆ ต่อมๆ อยู่ตลอดเวลา
เฉินชางผ่าตัดทรวงอกเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่
ที่แผนกฉุกเฉินอย่าว่าแต่เฉินชางเลย แม้แต่หัวหน้าหลี่เป่าซานยังไม่เคยผ่าตัดเกี่ยวกับทรวงอกมาก่อนเลย
แต่เฉินชางเป็นลูกศิษย์ของเหล่าเฉิน หลิวเจี้ยนก็เลยพอจะเข้าใจอยู่บ้าง
ก็เพราะว่าเข้าใจ ก็เลยยิ่งกังวลว่าจะเกิดเรื่องขึ้น
หลังจากที่เห็นหลอดอาหารแล้ว เซียวเหอที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็กล่าวขึ้นว่า “เสี่ยวเฉิน อยู่ตรงตำแหน่งช่องว่างชี่โครงอกคู่ที่สี่ ตำแหน่งด้านหลังประมาณสองนาฬิกา[1]”
หลิวเจี้ยนอดเตือนไม่ได้ว่า “เสี่ยวเฉิน ระวังหน่อยนะครับ เส้นประสาทเวกัสเยอะมาก”
เฉินชางพยักหน้า ไม่ส่งเสียงใดๆ แยกหลอดอาหารด้วยความระมัดระวัง
ขั้นตอนนี้ราบรื่นมาก ไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
เมื่อพลิกหลอดอาหารแล้วก็ปรากฏให้เห็นรูรั่ว
“แหนบขนาดเล็ก”
“กรรไกร”
“ผ้าก๊อซห้ามเลือด”
“น้ำเกลือล้างแผล”
ข่งย่วนย่วนพยักหน้ารับทราบทันที พร้อมกับยื่นอุปกรณ์ให้เฉินชางทีละชิ้น
เฉินชางรับแหนบกับกรรไกรมา
เขาแหวกชั้นกล้ามเนื้อของหลอดอาหารตรงบริเวณที่เป็นรูรั่วให้บาดแผลขยายออกเป็นแนวยาว จนกระทั่งพบตำแหน่งที่เยื่อเมือก[2]เสียหาย
เมื่อเห็นขั้นตอนนี้ เซียวเหอถึงกับอดกลืนน้ำลายไม่ได้
เขาค่อนข้างประหม่า…
เขากำลังจะถามอยู่เลยว่าทำไมเฉินชางถึงขยายแผลจนกว้างขนาดนั้น ที่แท้ก็เป็นเพราะแบบนี้นี่เอง!
“ไหมเย็บแผลเบอร์สี่”
ลำดับต่อไปถึงจะเป็นช่วงเวลาที่จำเป็นต้องเย็บแผล
เพราะเยื่อเมือกบริเวณหลอดอาหารเสียหาย ถ้าไม่เพิ่มความระมัดระวัง แล้วแค่เย็บแผลเฉยๆ ก็จะไม่ใช่ทางเลือกที่ชาญฉลาดนัก
และกล่าวอย่างตรงไปตรงมาเลยว่าหลังจากเย็บแผลไปแล้ว อาการก็จะยังไม่คงที่!
ถึงขั้นที่เยื่อเมือกที่เดิมทีเปื่อยยุ่ยเสียหาย หลังจากนั้นจะยังคงเสียหายอย่างต่อเนื่อง และถึงขั้นที่ทำให้หลอดอาหารเสียหายหนักขึ้นเรื่อยๆ จนอยู่ในระดับที่รุนแรง และเมื่อถึงเวลานั้น คิดจะรักษาก็ยากแล้ว!
คนอื่นไม่เข้าใจในสิ่งเหล่านี้ แต่เซียวเหอเข้าใจเพราะเขาเป็นแพทย์ด้านการส่องกล้อง เข้าใจในเรื่องของกายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยาของหลอดอาหารมากเป็นพิเศษ
ขั้นตอนในการขยายแผลเมื่อครู่นี้ของเฉินชางช่างน่าสนใจมากจริงๆ!
และด้วยเทคนิคนี้ ทำให้หลังจากที่เย็บแผลหลอดอาหารแล้ว จะไม่ทำให้เส้นผ่านศูนย์กลางของหลอดอาหารแคบลงเพราะแผลมีขนาดเล็กเกินไป
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เซียวเหอก็พลันตื่นเต้นฮึกเหิมขึ้นมาทันใด
ในตอนนี้ ถึงแม้ว่าการผ่าตัดจะเพิ่งเริ่มขึ้น แต่เขาก็รู้สึกได้เลยว่าการผ่าตัดสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง
และในลำดับต่อไปเป็นขั้นตอนการเย็บปิดแผล
อัตราความสำเร็จในการเย็บแผลมีผลเกี่ยวโยงโดยตรงกับประสิทธิภาพการทำงานของหลอดอาหารในภายหลัง
เฉินชางหยิบไหมเย็บแผลเบอร์สี่ขึ้นมาอย่างระมัดระวัง การเย็บแผลประเภทนี้ไม่ต่างกับการเย็บแผลภายในลำไส้ของผู้ป่วยที่มีภาวะลำไส้รั่ว
เขาสนเข็มด้วยความคล่องแคล่ว น้ำหนักมือของเขาเบาดั่งผีเสื้อกระพือปีก ทั้งยังดูสง่าและงดงาม
เฉินชางเย็บแผลได้ล้ำเลิศมาก เขาเย็บแผลด้วยเทคนิคการเย็บแบบซ่อนปมทำให้ไม่กินเนื้อหลอดอาหารมากจนเกินไป
เทคนิคนี้เช่นนี้ทำให้หลอดอาหารฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วในระยะเวลาต่อมา
หลิวเจี้ยนไม่เข้าใจขั้นตอนอื่น แต่เข้าใจขั้นตอนนี้!
กล่าวได้ว่าเทคนิคการเย็บแผลของเฉินชาง เป็นเทคนิคที่ทำให้พื้นที่ช่องว่างในหลอดอาหารขยายกว้างขึ้นได้อย่างชาญฉลาดมาก ผลลัพธ์หลังจากที่ฟื้นตัวแล้วย่อมดีกว่าการเย็บด้วยเทคนิคอื่น
หรือว่าคนอื่นไม่รู้จักเทคนิคการเย็บแผลเทคนิคนี้
แน่นอนว่าไม่ใช่!
ทุกคนต่างก็รู้จักเทคนิคการเย็บซ่อนปมนี้ แต่น้อยคนที่จะมีความเชี่ยวชาญในเทคนิคนี้
หลอดอาหารไม่เหมือนกับอวัยวะส่วนอื่น หลอดอาหารเป็นเส้นทางสัญจรของอาหารและของเหลวจากลำคอสู่กระเพาะอาหาร มีลักษณะเป็นท่อยาวที่โล่งกลวงอยู่ตลอดเวลา
ภาวะหลอดอาหารตีบเป็นเรื่องที่สร้างความทุกข์ทรมานให้กับผู้ป่วยมาก
ทุกคนย่อมเคยมีประสบการณ์สำลักอาหารมาก่อน ดังนั้นคุณย่อมเข้าใจความทรมานนี้ดี ยามที่คุณมีภาวะหลอดอาหารตีบ แค่คุณรับประทานข้าวสวย คุณก็สำลักได้!
หลอดอาหารที่โล่งกลวงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ผู้ป่วยโรคมะเร็งหลอดอาหารจะรู้สึกว่ามีอะไรอุดตันก่อนเป็นอันดับแรก และที่มีผู้ป่วยหลายรายที่ไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ แค่รู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจเท่านั้นเอง
ดังนั้นหลิวเจี้ยนกล้าพนันเลยว่าฝีมือและความสามารถในการเย็บแผลของเฉินชางล้ำเลิศกว่าแพทย์เฉพาะทางที่มาช่วยทำการผ่าตัดให้กับแผนกศัลยกรรมทรวงอกของโรงพยาบาลอันดับสองเสียอีก!
หลายสิ่งที่ชัดเจนและเข้าใจง่ายมาก คือสิ่งที่แค่มองปราดเดียวก็รู้ได้
ทุกคนต่างก็จบแพทย์ มีอะไรหลายสิ่งหลายอย่างไม่จำเป็นต้องพูดออกมาก็เป็นอันเข้าใจ
หลังจากที่เห็นสิ่งนี้แล้ว หลิวเจี้ยนอดบอกกับหวังหย่งไม่ได้ว่า “เสี่ยวหวัง ตั้งใจดูเทคนิคการเย็บแผลของอาจารย์ชางของคุณให้ดีๆ นะครับ เทคนิคการเย็บหลอดอาหารนั่น…ยอดเยี่ยมจริงๆ!”
หวังหย่งพยักหน้า จ้องมองการเย็บแผลของเฉินชางทุกขั้นทุกตอนชนิดที่ตาไม่กะพริบ
เฉินชางไม่พูดไม่จา เพราะถึงอย่างไรเสีย นี่ก็เป็นการผ่าตัดเคสหลอดอาหารรั่วเคสแรกของเขา เขาต้องพยายามเต็มที่เพื่อจะทำให้สำเร็จ
เฉินชางใช้เวลาไปเจ็ดถึงแปดนาทีถึงเย็บแผลเสร็จ
นี่อาจเป็นเรื่องน่าหัวเราะเยาะในสายตาของคนอื่นอยู่สักหน่อย เย็บหลอดอาหารแค่นี้คุณใช้เวลาเจ็ดถึงแปดนาที เย็บค่อนข้างช้าจริงๆ
ทว่าในตอนนี้ จะเย็บแผลได้ช้าหรือเร็วไม่ใช่ตัวชี้วัดฝีมือ
ตอนที่เฉินชางเย็บแผลด้วยความเร็ว ตนก็ไม่รู้ว่าจะเย็บได้เร็วมากแค่ไหน!
เช่นเดียวกับตอนนี้ เมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้ความมั่นคงหนักแน่น…ก็มั่นคงแน่นมาก!
เย็บแผลได้ช้าไม่ได้หมายความว่าเย็บได้ถี่ ในทางตรงกันข้าม สาเหตุที่เฉินชางเย็บแผลช้าเพราะเฉินชางเย็บชั้นเยื่อเมือกกับชั้นกล้ามเนื้อหลอดอาหารแยกทีละชั้น
ตอนนี้เอง เฉินชางก็กล่าวกับหวังหย่งว่า “เย็บหลอดอาหารไม่ต้องเย็บถี่จนเกินไป แล้วก็ไม่ต้องเย็บแน่นตึงจนไป เวลาที่ผูกปมควรผูกให้มีความแน่นกำลังดี”
หวังหย่งไม่เข้าใจว่าเพราะอะไร ในตอนนี้เขาทำได้แค่จำสิ่งที่เฉินชางบอกเอาไว้ก่อน แล้วค่อยไปค้นหาข้อมูลในตำราภายหลัง
หลังจากที่เย็บแผลเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการนำเนื้อเยื่อปอดมาปิดรอยแผลที่เย็บแล้ว เหมือนกับการปะยางล้อรถ อันที่จริงแล้วเป็นขั้นตอนที่ทำเพื่อเสริมความปลอดภัยขั้นตอนหนึ่ง
เมื่อการตัดดำเนินการมาถึงตอนนี้ กระบวนการผ่าตัดก็เป็นอันเสร็จสมบูรณ์
จากนั้นก็ใส่สายระบายทรวงอก[3] เพื่อระบายของเหลวที่คั่งอยู่ออกมา และรอให้หลอดอาหารกลับมาแข็งแรงเป็นปกติ
เฉินชางส่งอุปกรณ์เย็บแผลให้หวังหย่ง และตนก็ถอดถุงมือออกก่อนแล้วจึงหันไปบอกกับเซียวเหอว่า “หัวหน้าเซียวครับ ให้ผู้ป่วยทำเรื่องนอนโรงพยาบาลเถอะครับ ใส่ท่อสายอาหารไว้ก่อนชั่วคราวอย่าเพิ่งเอาออก จะได้ลดแรงบีบตัวของกล้ามเนื้อหลอดอาหาร ผมยังกังวลว่าเมดิแอสตินัมจะติดเชื้อในภายหลัง ช่วงระยะนี้ต้องให้ยาปฏิชีวนะ…
…ช่วงระยะเวลาสิบวันนี้ยังทานอะไรไม่ได้ ต้องงดอาหาร หลังจากสิบวันไปแล้วให้ตรวจการกลืนอาหาร[4] หลังจากนั้นค่อยในเริ่มทานอาหารเหลว…”
“…ถึงยังไงน้ำลายก็มีพิษ!”
ป.ล. ในน้ำลายมีพิษอยู่จริงๆ ผู้ป่วยภาวะหลอดอาหารทะลุหลายรายไม่ระวังในข้อนี้จึงติดเชื้อจากน้ำลายของตนเองเสียชีวิต ดังนั้นในมุมมองของทางการแพทย์ น้ำลายฆ่าคนให้ตายได้จริงๆ ฉะนั้นก่อนที่ทุกคนจะพ่นน้ำลายใส่ใคร บ้วนปากก่อนค่อยพ่นนะครับ
[1] สองนาฬิกา เยื้องไปทางขวาประมาณ 13.5 องศา
[2] เยื่อเมือก เป็นชั้นเนื้อเยื่อบางๆ ที่ปกคลุมพื้นผิวของอวัยวะ ถ้าเยือกเมือกได้รับความเสียหายก็จะทำให้แบคทีเรียเข้าสู่อวัยวะส่วนนั้นได้
[3] การใส่สายระบายทรวงอก (chest tube, chest drain, tube thoracostomy, intercostal drain) คือการใส่สายระบายทรวงอกซึ่งเป็นท่อพลาสติกยืดหยุ่นได้เข้าไปยังช่องเยื่อหุ้มปอดผ่านทางช่องซี่โครง เพื่อเปิดเป็นทางให้ลม (โพรงเยื่อหุ้มปอดมีอากาศ) หรือน้ำ (pleural effusion, hemothorax, chylothorax) หรือหนอง (empyema thoracis) ที่คั่งอยู่ในทรวงอกสามารถระบายออกมาได้
[4] การตรวจการกลืนอาหาร (Esophagogram) ใช้สารทึบรังสี ที่เรียกว่า “แป้ง” หรือ Barium Sulfate (BaSO4) โดยการเอกซเรย์ขณะกลืนแป้ง เพื่อดูการเคลื่อนตัวของแป้งจากหลอดอาหารลงสู่กระเพาะอาหาร