ในความทรงจำของฟางข่าน หากเทียบกันในด้านความเร็วเพียงอย่างเดียว ท่ามกลางวรยุทธ์ที่มีอยู่บนโลกผืนสมุทร มีเพียงหอกเทพสมุทรสุดขอบโลกของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขอบโลกจวงคุนในอดีตเท่านั้น ที่รวดเร็วเหมือนกับนกเผิงสยายปี เทียบเท่ากับท่าแสงวิญญาณปรากฎของเกาะจิตประสาน
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์สุดขอบโลกหายสาปสูญ ผู้คนล้วนคิดว่าเขาตายไปแล้ว หลังจากหอกเทพสมุทรสุดขอบโลกไร้การสืบทอด ท่าแสงวิญญาณปรากฏของเกาะจิตประสานก็โดดเด่นที่สุดบนโลกผืนสมุทรในด้านความเร็ว
แต่ว่าวันนี้ ความสุดยอดของหอกเทพสมุทรสุดขอบโลกปรากฏต่อหน้าผู้คนอีกครั้ง!
ฟางข่านมองคมหอกที่ไล่ตามตนอย่างไม่อยากเชื่อ
ถึงแม้จะเป็นแค่คราบ แต่ถึงอย่างไรก็เป็นคราบของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ จะถูกหลอมกลายเป็นร่างแยกของจอมยุทธ์ระดับมหาปรมาจารย์ผู้หนึ่งได้อย่างไร
เขาจนปัญญา พลันโบกมือปะทะกับหอกจากร่างแยกของเยี่ยนจ้าวเกอ ทว่าก็ถูกกระแทกจนเลือดลมย้อนกลับ
‘นี่เทียบกับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงไม่ได้ แต่ว่าอยู่ในจุดสูงสุดของขั้นบรรลุธรรมเลยทีเดียว ห่างจากระดับศักดิ์สิทธิ์เพียงนิดเดียวเท่านั้น’ ฟางข่านจิตใจหนักอึ้ง ‘กระนั้น…’
กระนั้นเขารู้สึกได้อย่างเลือนรางว่า นี่เป็นเพราะร่างแยกของเยี่ยนจ้าวเกอเพิ่งจะถูกหลอมเสร็จได้ไม่นาน
หลังจากเวลาผ่านไป ร่างแยกนี้ก็มีท่าทางเหมือนจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์สุดขอบโลกในอดีตอย่างรวดเร็ว!
แม้แต่ตอนนี้ พลังจากการโจมตีก็ทำให้ฟางข่านรู้สึกยากจะต้านทานแล้ว
เขาไม่กล้าหยุดนิ่ง เคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็ว ยืมพลังกระแทกในตอนที่ปะทะกับหอกเทพสมุทรสุดขอบโลก คิดใช้ท่าร่างแสงวิญญาณปรากฏอีกครั้ง เพื่อหนีจากที่นี่ด้วยความรวดเร็ว
เป็นเช่นคำกล่าวของเยี่ยนจ้าวเกอ ไม่ว่าใครจะสอดมือ เขาก็ไม่กลัวฟางข่านอยู่ดี!
ฟางข่านเพิ่งจะเคลื่อนไหว เหนือศีรษะของเขาพลันมีแสงเจ็ดสีโผล่ขึ้น ครั้นเงยหน้ามองไป ก็เห็นเสาหินยักษ์ต้นหนึ่งพุ่งลงมาหาตน!
เยี่ยนจ้าวเกอสองเท้าเหยียบอยู่บนเสาระเบียงวังเทพ พลังผนึกที่แข็งแกร่งกดอัดลงไปหาฟางข่านท่ามกลางเสียงตวาด
อีกฝ่ายไม่มีความคิดปัดป้องแม้แต่น้อย เพราะตอนนี้เขาคิดหนีเท่านั้น
เขากัดฟัน ดวงตาบนหน้าผากของร่างจิตประสานกะพริบปริบๆ ร่างกายอันใหญ่โตกลายเป็นแสงสีมรกตสายหนึ่ง มองหาจุดอ่อนของพลังสะกดในเสาระเบียงวังเทพ มุดหาที่ว่างและหนีเอาชีวิตรอดเหมือนกับปลาแหวกว่าย
เสาระเบียงวังเทพยังไม่ทันจะร่วงลงมาด้านล่างทั้งหมด ยังคงมีโอกาสให้เขาหาช่องว่าง เกือบจะหลุดจากแหฟ้าตาข่ายดิน
แต่ว่าเมื่อถูกเสาระเบียงวังเทพขัดขวางไว้ ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของเยี่ยนจ้าวเกอก็ได้กลายเป็นนกเผิง ไล่ตามมาถึงอย่างเหี้ยมหาญ!
นกเผิงสยายปีก เบิกฟ้าผ่าทะเล การกระพือปีกของมันทำให้ฟางข่านกลับมาอยู่ในอาณาเขตของเสาระเบียงวังเทพอีกครั้ง
ภายใต้การกดทับของเสาระเบียงวังเทพ แสงสีมรกตปรากฏเป็นร่างของฟางข่านอีกครั้ง เขาเบิกตาถลนมองเยี่ยนจ้าวเกอ “ตัวบัดซบ เจ้า…”
เยี่ยนจ้าวเกอมีสีหน้าเย็นเยียบ “ท่านคิดสังหารข้า ข้าก็คิดสังหารท่าน เรามาดูกันว่าใครจะจบสิ้นก่อนกัน”
ฟางข่านสูดลมหายใจลึก ตวาดด้วยเสียงดุดัน “ประเสริฐ เช่นนั้นก็มอบชีวิตมาให้ข้าเสีย!”
ท่ามกลางเสียงตวาด ผู้ปกครองเกาะจิตประสานซึ่งถูกจัดอยู่ในจอมยุทธ์ขั้นบรรลุธรรมสิบอันดับแรกผู้นี้ไม่คิดหนีอีก เขาระเบิดพลังทั่วร่าง พุ่งใส่เยี่ยนจ้าวเกอ!
บนศีรษะของเจามีไข่มุกวิญญาณเม็ดหนึ่งลอยขึ้นมา มันเปล่งแสงระยิบระยับ คล้ายกับสะท้อนภาพนับหมื่นนับพันในชั่วพริบตา
เงาแสงมากมายสาดไปรอบๆ เยี่ยนจ้าวเกอ โจมตีใส่ชายหนุ่มจากทุกทิศทุกทาง
ไข่มุกวิญญาณเม็ดนั้นเป็นอาวุธวิญญาณชั้นสูงที่ยอดเยี่ยมชิ้นหนึ่ง!
ของวิเศษปกป้องสำนักของเกาะจิตประสาน ไข่มุกจิตประสาน เหนือกว่ากระจกแสงหยกของฟางจ้าวหง เป็นของโดดเด่นท่ามกลางอาวุธวิญญาณชั้นสูง!
เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้น แต่กลับไม่กังวล เขาหัวเราะเยาะเบาๆ เสียงหนึ่ง ก่อนที่ในแขนเสื้อของเขาจะมีท่อนไม้ไผ่สีเขียวท่อนหนึ่งปรากฏออกมา
ท่อนไม้ไผ่นี้ดูธรรมดานัก แต่กลับเป็นของวิเศษที่เยี่ยนจ้าวเกอหลอมสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง
ในตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอเป็นมหาปรมาจารย์ขั้นซ่อนจิต ไม้ไผ่ท่อนนี้มีเพียงสามปล้อง แต่ตอนนี้มันยาวขึ้นอีกเป็นสี่ปล้อง คล้ายกับโตขึ้นด้วยตัวเองได้
ชายหนุ่มโยนท่อนไม้ไผ่ออกเบาๆ ใส่มือของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเงื้อไม้ไผ่ขึ้น ก่อนจะฟาดใส่ไข่มุกจิตประสานที่อยู่เหนือศีรษะฟางข่าน!
ทั้งสองฝ่ายปะทะกัน ไข่มุกจิตประสานส่งเสียงโหยหวน ถูกฟาดหมุนออกไป
ฟางข่านตกใจ รีบเก็บไข่มุกจิตประสาน เขาก้มหน้าลงมอง เห็นบนไข่มุกวิเศษเกิดรอยร้าวเล็กๆ รอยหนึ่ง นั่นทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดยิ่ง
เขามองเยี่ยนจ้าวเกอและร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกอย่างเหลือเชื่อ ทั้งยังจ้องมองไม้ไผ่สีเขียวท่อนนั้นเขม็ง
ด้วยเพราะเขาไม่รู้สึกถึงปราณวิญญาณและการสั่นไหวของพลังบนไม้ไผ่แม้แต่น้อย ดูอย่างไรก็เหมือนไม้ไผ่ปกติทั่วไป
แต่ว่าไม้ไผ่ธรรมดาท่อนนี้ถึงกับฟาดอาวุธวิญญาณชั้นสูง อย่างไข่มุกจิตประสานของเขาเกิดเป็นรอยแตกรอยหนึ่งได้!
ถึงไข่มุกจิตประสานจะดูไม่เหมือนอาวุธจำพวกดาบ กระบี่ และเกราะ แต่ว่าในฐานะที่เป็นอาวุธวิญญาณชั้นสูง ย่อมมีคุณภาพไม่ธรรมดา ไหนเลยจะอ่อนแอเช่นนั้น!
แม้จะเป็นอาวุธวิญญาณชั้นสูงทั่วไป ก็ใช่ว่าจะฝากรอยแตกที่ชัดเจนแบบนี้ไว้บนผิวของไข่มุกจิตประสานโดยอาศัยแค่การโจมตีเพียงครั้งเดียวได้
ฟางข่านรู้สึกเพียงว่าเรื่องประหลาดที่ได้เจอในวันนี้วันเดียว มีมากกว่าครึ่งชีวิตในอดีตของเขารวมกันเสียอีก เป็นการโค่นล้มความเข้าใจที่เขามีต่อโลกใบนี้โดยสิ้นเชิง
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกไม่ยอมละทิ้งโอกาส เงื้อไม้ไผ่สี่ปล้องในมือขึ้นต่างหอก ใช้หอกเทพสมุทรสุดขอบโลกแทงใส่ฟางข่านอีกครั้ง คิดแทงเขาให้เป็นรูโปร่งใสในคราวเดียว!
ฟางข่านเคลื่อนกาย ร่างกลายคล้ายกับกลายเป็นเงาแสงนับหมื่นนับพันในชั่วอึดใจ
แต่ว่าหอกของร่างแยกสมุมรสุดขอบโลกมุ่งไปที่ใด ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแตกพ่าย เงาแสงมากมายถูกบดขยี้
น้ำทะเลในน่านน้ำบริเวณรอบๆ ถูกพลังงานของทั้งสองฝ่ายทำลายสิ้น กลายเป็นที่ว่างแห่งหนึ่ง
เสาระเบียงวังเทพลอยอยู่กลางอากาศ แสงเจ็ดสีห้อยลงด้านล่างเหมือนกับเชือกสาน แผ่กระจายไปทั่วสี่ทิศ ประกอบกันเป็นกรงขัง
ฟางข่านเหมือนกับสัตว์ถูกขังในกรง ถูกไล่ต้อนให้สู้สุดชีวิต
เขารู้สึกคับข้องใจจนถึงขีดสุด จอมยุทธ์สมุทรสุดขอบโลกจวงคุนมิได้เหลือมรดกใดๆ ไว้ กลิ่นอายทั้งหมดถูกเก็บอยู่ในซากทารก
หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอเอารูปสลักหินไปแล้ว ก็ไม่ได้เหลือร่องรอยอะไรไว้ในสถานที่เดิม เมื่อฟางข่านไปยังมิติต่างแดนนั้น จึงพบเห็นแต่ความว่างเปล่า
หากทราบว่าเยี่ยนจ้าวเกอมีซากจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ในมือ ต่อให้มหาปรมาจารย์คนหนึ่งจะหลอมซากนั้นได้สำเร็จ ฟางข่านสมควรระมัดระวังมากขึ้น
ทว่าตอนนี้ เขาเหมือนชนใส่แผ่นเหล็ก ศีรษะแตกเลือดไหลออกมา
ฟางข่านคาดไม่ถึงเลยว่า นอกจากซากจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์แล้ว เยี่ยนจ้าวเกอยังมีความสามารถมากมาย ถึงกับทำให้เขาคิดหนียังหนีไม่ได้!
มหาปรมาจารย์ขั้นบรรลุธรรมผู้นี้ถูกสะกิดความผยองและนิสัยดุร้าย คลั่งขึ้นมาในฉับพลัน ไม่สนใจการโจมตีของร่างแยก พุ่งเข้าหาเยี่ยนจ้าวเกออย่างดุดัน!
สีหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอไม่ปรากฏความหวั่นไหว กระบวนท่าของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเปลี่ยนแปลง ปรากฏอานุภาพอันยิ่งใหญ่
ตัวคุนเผิง[1]เมื่อดำน้ำกลายเป็นปลา เมื่ออกจากน้ำกลายเป็นนก ร่างกายมีขนาดไม่รู้กี่พันลี้ ยิ่งใหญ่ไม่มีใครเทียม
นกเผิงรวดเร็วถึงขีดสุด ส่วนปลาคุนมีพลังยิ่งใหญ่ ความยิ่งใหญ่ของพลังนั้น น้อยนิดจนใช้มือนับนิ้วได้!
หอกเทพสมุทรสุดขอบโลก ทะเลสุดขอบโลก!
พลังที่ยิ่งใหญ่แข็งกร้าวทำลายร่างจิตประสานของฟางข่านเป็นผุยผง!
ร่างของฟางข่านสั่นสะเทือน กระอักเลือดคำหนึ่ง ก่อนที่เขาจะเบิกตาโพลง แล้วพุ่งใส่เยี่ยนจ้าวเกอโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น!
การทำเช่นนั้นไม่ต่างอะไรจากการเสี่ยงชีวิตชัดๆ!
เยี่ยนจ้าวเกอลืมตาตวาด แสงสายฟ้าสว่างวาบในดวงตาข้างขวา ทะลุความว่างเปล่าในเวลาแค่ชั่วอึดใจ!
สายฟ้าชั่วพริบตา!
ฟางข่านตกใจ เขาไม่คิดจะตกตายร่วมกับเยี่ยนจ้าวเกอ
แต่ตอนนี้เขาถอยไม่ได้อีกแล้ว ได้แต่กัดฟันมุ่งไปด้านหน้า!
“ตูม!”
ฟางข่านถูกโจมตีอย่างรุนแรงอีกครั้ง สายฟ้าอันน่าพรั่นพรึงผ่าทะลุร่างของเขา!
แต่ว่าฝ่ามือของฟางข่านไปถึงเบื้องหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ คิดฟาดอีกฝ่ายให้ตาย
แต่ใครจะรู้ จู่ๆ ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอก็ปรากฏเตาเครื่องหอมสีดำขนาดเล็ก ขวางฝ่ามือของฟางข่าน
พลังฝ่ามืออันยิ่งใหญ่หายไปอย่างไร้ร่องรอย เหมือนวัวน้ำลงทะเล
ฟางข่านเลิกตาโพลง “เจ้า!”
“ข้าอะไร” เยี่ยนจ้าวเกอมีสีหน้าเรียบเฉย มือที่ว่างเปล่าอีกครั้งเปล่งแสงสีมรกตแวบหนึ่ง กระบี่บึงมรกตพลันคำรามด้วยเสียงมังกร!”
“หากรู้ว่าจะมีวันนี้ ก็อย่ามาตอแยข้า”
……………………………………….
[1] คุนเผิง เป็นสัตว์ในตำนานของจีน เป็นปลาที่สามารถบินบนฟ้าได้