ณ โลกแปดพิภพ สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ ยอดยอดเขาเรืองรอง
หวงซวี่ เจ้าสำนักคนปัจจุบันของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์นั่งอยู่ในวิหารใหญ่ของสำนัก ด้านล่างและรอบข้างเขานั่งไว้ด้วยคนหลายคน ทั้งหมดล้วนเป็นยอดฝีมือระดับสูงที่เป็นแกนหลักของสำนักในปัจจุบัน
เพียงแต่หลังจากการต่อสู้ติดต่อกันก่อนหน้า ยอดฝีมือสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์บาดเจ็บล้มตาย เจ็ดสุริยันต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด
ผู้อาวุโสสูงสุดระดับมหาปรมาจารย์ขั้นบรรลุธรรมทั้งสี่ในสำนัก พานป๋อไท่และเหมิงอี้เสียชีวิตไปแล้วตามลำดับ วันนี้เหลือเพียงแค่สองคน
ตอนนี้แต่ละคนนั่งด้วยกัน สีหน้าต่างเคร่งขรึมยิ่ง
สถานการณ์โดยรวมของโลกแปดพิภพในปัจจุบัน ทำให้สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ค่อนข้างได้เปรียบ อย่างน้อยก็ได้เปรียบก่อนที่ทะเลตะวันออกกับปฐพีพิภพจะเปิดสงครามพร้อมกัน
เขากว่างเฉิง เมืองทะเลมรต เขาไร้พรมแดนที่เป็นศัตรูเสียหายสาหัสยิ่งกว่า
กระนั้นสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ได้คลายใจ ไม่มีใครลืมว่าในผนึกทะเลตะวันออกยังมีคนน่ากลัวอยู่คนหนึ่ง เพียงเพิ่งก้าวสู่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ ก็สามารถกดดันหวงกวงเลี่ยและผู้อาวุโสม่อที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสองได้แล้ว ทั้งยังไม่มีศัตรูในโลกแปดพิภพอีก
หยวนเจิ้งเฟิงแห่งเขากว่างเฉิงไม่ว่าจะตายหรือหายสาบสูญ ก็ไม่อาจปรากฏตัวขึ้นมาในระยะเวลาสั้นๆ
ทว่าขอแค่ผู้ที่ถูกยกย่องเป็นเยี่ยนไร้เทียมทานกลับมาจากทะเลตะวันออก สถานการณ์ของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์จะย่ำแย่ลงทันที
ถ้าหากเขาพัฒนาขึ้นอีกครั้ง เลื่อนเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่สอง เช่นนั้นสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์จะเจอหายนะเช่นถูกล้างสำนัก ถึงแม้เป็นหวงกวงเลี่ย ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของสำนักที่เลื่อนเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่สามก็ต้านทานไม่ws;
ยิ่งไปกว่านั้น นอกจากเยี่ยนตี๋กับหวงกวงเลี่ยแล้ว ในผนึกทะเลตะวันออกยังมีคนอื่นอยู่ด้วย
ต่อให้ผู้อาวุโสม่อคอยดูอยู่ด้านข้าง เจ้าเมืองทะเลมรกตซ่งอู๋เลี่ยงกับอาวุธศักดิ์สิทธิ์กระบี่สัตยาทะเลมรกต ก็ไม่มีวันยอมเลิกรากับสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์
หากไม่สะสางปัญหานี้ สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์คงกินไม่ได้นอนไม่หลับ
ผู้อาวุโสสูงสุดคนหนึ่งเอ่ยเสียงทุ้ม “ในผนึกทะเลตะวันออกยังไม่มีวิธีหรือ?”
หวงซวี่ส่ายหน้า “ผนึกนั่นรวมคนที่แข็งแกร่งที่สุดบนแปดพิภพในตอนนี้ไว้ ค่ายกลเองก็ลี้ลับยากหยั่งคาด พวกเราไม่อาจจัดการได้”
ทุกคนที่อยู่รอบๆ ต่างเงียบงัน หวงซวี่ไม่ได้พูดอย่างชัดเจน แต่คนที่เข้าร่วมประชุมต่างก็เข้าใจดี
ที่บอกว่าจัดการ ก็คือหวังว่าจะฆ่าเยี่ยนตี๋และซ่งอู๋เลี่ยงที่ทะเลตะวันออกได้
ถ้าหากว่ารับหวงกวงเลี่ยออกมาได้คนเดียวย่อมประเสริฐสุด แต่ถ้าหากไม่ได้…
ทุกคนก้มหน้าก้มตา
ไม่ว่าจะพูดจากความรู้สึกมุมใด สำหรับพลังของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์แล้ว หวงกวงเลี่ยถือว่าสำคัญที่สุด กระนั้นถ้าหากใช้หวงกวงเลี่ยคนเดียวเพื่อกำจัดเยี่ยนตี๋และซ่งอู๋เลี่ยงสองคนได้ หากดูแค่ข้อดีข้อเสียเพียงอย่างเดียว ใช่ว่าไม่อาจรับได้
ไม่เช่นนั้น วิธีการรับมือเยี่ยนตี๋ก็ยังคงเป็นเงื่อนตายที่แก้ไม่ออก หวงกวงเลี่ยมีชีวิตอยู่ไปก็ไร้ประโยชน์
หากหวงกวงเลี่ยกลับมาคนเดียวได้ สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์จะสามารถกวาดล้างโลกแปดพิภพในตอนนี้ได้ทันที
แต่ว่าแผนการที่แย่ที่สุดก็จำเป็นต้องทำเช่นกัน
นั่นก็คือการเตรียมรับมือกับการชิงขวานจามสวรรค์และยึดมงกุฎจันทรา
ทว่าตอนนี้ ยังไม่พบวิธีแก้ไขผนึกทะเลตะวันออก ทำให้ปัญหาติดอยู่ในสภาวะชะงักงัน
สถานการณ์ที่ดูเหมือนงดงามของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ในตอนนี้ เป็นแค่วิมานในอากาศเท่านั้น
“ดูเหมือนจะต้องใช้วิธีสุดท้ายแล้ว” หวงซวี่หันไปมองหวงเจี๋ย “ติดต่อกับผู้สูงส่งของสำนักแสงสว่างของโลกด้านบนเถอะ”
ครั้นเขากล่าวประโยคนี้ออกมา สีหน้าของคนในสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ต่างมืดสลัวลง
ถึงแม้ว่าจะสร้างสายสัมพันธ์กับขุมกำลังขนาดใหญ่จากโลกซ้อนโลกได้ ทำให้พวกเขาได้รับอะไรมากมาย แต่ว่าอีกฝ่ายก็ยังคงทดสอบพวกเขาอยู่ นี่เท่ากับยอมรับว่าตัวเองไร้ความสามารถ อีกฝ่ายจะลงมือหรือไม่? ต่อให้ลงมือ เกรงว่าพวกเขาคงจะมองพวกตนย่ำแย่เป็นอย่างยิ่ง
หวงเจี๋ยไม่ตอบรับ กลับถามว่า “หาของวิเศษที่ใช้ผนึกรอยแยกนพยมโลกที่ปฐพีพิภพก่อนหน้านี้ไม่เจอจริงๆ หรือ? ถ้าหากมีของวิเศษชิ้นนี้ก็ยังมีวิธี”
“หลายเดือนมานี้ ด้านในปฐพีพิภพแทบจะถูกพลิกหา ทว่าไม่พบร่องรอยเลย” หวงซวี่ส่ายหน้า “เฉินลี่ เยี่ยนจ้าวเกอ ถ้าหากหยวนเจิ้งเฟิงยังไม่ตาย เช่นนั้นยังมีหยวนเจิ้งเฟิง ไม่มีใครนอกจากสามคนนี้”
“แต่น่าจะไม่ใช่เฉินลี่ และถ้าหากเป็นเยี่ยนจ้าวเกอ ก็น่าจะถูกนำเข้าไปในผนึกทะเลตะวันออก ถือว่าไร้ประโยชน์ หยวนเจิ้งเฟิงเบาะแสหายไป หาไม่เจอเหมือนกัน”
หวงเจี๋ยนิ่งเงียบ ครู่ต่อมาค่อยกล่าวว่า “เช่นนั้นมีเพียงแต่ต้องใช้วิธีสุดท้ายแล้ว”
ผู้อาวุโสคนหนึ่งที่อยู่ด้านข้างพูดด้วยความลังเล “อีกฝ่ายจะยอมรับพวกเราหรือ?”
“ตามคำพูดของหวงเจี๋ยเจ้า คนจากโลกซ้อนโลกคิดลงมือ คนที่อยู่ในระดับต่ำกว่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่ ถ้าหากไร้ของวิเศษคุ้มกัน เมื่อลงมายังโลกแปดพิภพแล้วจะกลับขึ้นไปไม่ได้อีก จะต้องฝึกฝนเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่บนโลกแปดพิภพ จากนั้นถึงจะบินขึ้นไปได้ด้วยตนเอง”
“ส่วนยอดฝีมือที่มีระดับสูงกว่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม หลังจากลงมาแล้ว พลังจะถูกจำกัดไว้ที่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม อาจจะส่งผลกระทบต่อรากฐานของตัวเอง”
“มารร้ายไม่สนใจ คนธรรมดากลับใช่ว่าจะไม่สนใจ”
หวงเจี๋ยได้ยินแล้วก็ส่ายหน้า เอ่ยอย่างเรียบๆ ว่า “ของวิเศษที่หายไปจากปฐพีพิภพจะทำให้พวกเขาสนใจลงมา เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเขาจะลงมาด้วยตัวเอง แต่ว่าคิดหาของวิเศษย่อมต้องช่วยพวกเราจัดการปัญหาก่อน”
คนในสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ได้ยินดังนั้น ก็คล้ายกับเกิดความคิดขึ้น หวงเซิงพูดต่อ “เพียงแต่ถ้าเป็นเช่นนี้ เมื่อหาของวิเศษนั้นเจอแล้ว มันย่อมตกเป็นของพวกเขาแน่นอน สำนักเราไม่อาจแย่งชิงได้”
“แต่ถึงอย่างไรขอแค่จัดการอีกฝั่ง ไปถึงเป้าหมาย จะใช้วิธีอะไร ยืมพลังอะไร ข้าไม่สนใจทั้งนั้น”
หวงเจี๋ยมีสีหน้าสงบนิ่ง “สาเหตุที่ต้องจัดเรื่องนี้ให้เป็นวิธีสุดท้าย เป็นเพราะว่ามีผลกระทบด้านลบมากเกินไป ของวิเศษบนแปดพิภพที่พวกเราแอบซ่อนไว้ไม่รายงานก่อนหน้าไม่อาจเก็บไว้ได้อีก”
“แต่ในเมื่อตอนนี้ไม่มีวิธีจัดการพวกเยี่ยนตี๋ที่เป็นภัยคุกคามแล้ว เช่นนั้นหากต้องเลือกภัยพิบัติสองอย่าง ก็เลือกอย่างเบาดีกว่า การรายงานสำนักแสงสว่างเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด”
“หลังจากจัดการเยี่ยนตี๋และซ่งอู๋เลี่ยง อาจารย์ปู่กลับมาอย่างปลอดภัย พวกเราจะกวาดล้างแปดพิภพ ทุกอย่างจะค่อยๆ เป็นไปตามแผน”
ทุกคนพากันพยักหน้า หวงซวี่มองหวงเจี๋ยพลางกล่าว “ทำเถอะ”
หวงเจี๋ยกรีดข้อมือของตัวเอง เลือดไหลออกมา แสงสีทองปรากฎขึ้น
แสงสีทองครอบคลุมทั่วร่างหวงเจี๋ย เลือดบนข้อมือของเขากลายเป็นสีทองบริสุทธิ์ จากนั้นก็จับตัวกันกลายเป็นตะเกียงสีทอง
หวงเจี๋ยไม่หยุดลงแม้แต่วินาทีเดียว เขาประคองไฟตะเคียงขึ้น ไฟตะเกียงขยายออก กลายเป็นแสงวิญญาณขนาดใหญ่ ทะลุวิหารไปยังฟากฟ้า เหมือนไปยังสถานที่ปริศนาที่มีระดับสูงยิ่งกว่า
“แสงสว่างจงเจริญ ฟ้าดินไร้ประมาณ”
หวงเจี๋ยจุดไฟสีทอง แตกต่างจากหวงกวงเลี่ยกับหวงซวี่ในวันนั้น
สถานที่ที่เป็นปริศนานั้นพลันมีเจตจำนงสายหนึ่งส่งมา คนในสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์น้อยครั้งจะเห็นความแข็งแกร่งของมัน ไม่ว่าจะเป็นหวงกวงเลี่ย หรือว่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์อาทิตย์ม่วงจางเชา ผู้เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งในประวัติของสำนักก็ยังสู้ไม่ได้
หวงเจี๋ยกล่าวอย่างราบเรียบ “รบกวนการฝึกของท่านอาจารย์ ศิษย์ละอายใจนัก”
…
ขณะเดียวกัน ณ ทะเลชั้นนอกของทะเลเหนือแห่งโลกแปดพิภพ ก้นทะเลลึกซึ่งอยู่ติดท้องทะเลไร้สิ้นสุดมีร่องน้ำลึกอยู่สายหนึ่ง
ในร่องน้ำลึกเป็นเขตหุบเหวลึกอันมืดมิด หนาวเย็นถึงขีดสุด ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ด้านใน
แต่ว่าวันนี้ส่วนลึกของร่องน้ำกลับสั่นไหวอย่างรุนแรง
ลำแสงสายหนึ่งพุ่งออกมาจากในร่องน้ำ ทะลุทะเลลึกออกจากผิวน้ำ
ลำแสงสลาย ปรากฏร่างของเยี่ยนจ้าวเกอและฟู่เอินซู
เมื่อรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวของปราณวิญญาณในโลกใบนี้ เยี่ยนจ้าวเกอก็ถอนใจยาว ‘ไม่ได้มาผิดทาง ในที่สุดก็กลับมาแล้ว!’