โลกหล้าพลันมีลำแสงวามวาวทอประกายขึ้น
ยันต์วิญญาณนับไม่ถ้วนเหินขึ้นเหินลง กระแทกกันและกัน ก่อนจะดับสูญเป็นจำนวนมาก
ยันต์วิญญาณที่เหลือแบ่งออกเป็นสี่กลุ่ม รวมตัวกันกลายเป็นมหาค่ายกลยันต์มหาศาล จากนั้นระหว่างที่ค่ายกลยันต์ซ้อนเข้าด้วยกัน แท่นบูชาฟ้าค่ายกลวิญญาณขนาดมโหฬารสี่แท่นก็ปรากฏกลางอากาศ
รอบกายสือเถี่ยล้อมไปด้วยแท่นบูชาทองคำ ขนาดแท่นบูชาหดเล็กลงไม่หยุด กระชับและทรงพลังขึ้นเรื่อยๆ ปณิธานวรยุทธ์ที่แข็งดุจเพชร ไม่สูญสลายชั่วกัลปาวสานส่งทอดออกมาจากภายในนั้น
ฝั่งตรงข้ามผู้อาวุโสหวัง ซือหม่าฉุย และหยางเนี่ยทั้งสามคน มีแท่นบูชาฟ้าค่ายกลยันต์ของแต่ละคนตั้งขึ้นมาเช่นกัน
แท่นบูชาฟ้าทั้งสาม แท่นหนึ่งขาว แท่นหนึ่งดำ แท่นหนึ่งม่วง ปราบปรามทั้งสี่ด้าน
ในมือของหยางเนี่ย ผู้อาวุโสสำนักเขานิมิตทมิฬมีดาบยาวเล่มหนึ่งปรากฏในมือ ไม่เห็นประกายดาบ เห็นเพียงพายุไร้ขอบเขตโคจร ดำมืดไปทั้งแถบ
เขารุกโจมตีไปยังสือเถี่ยเป็นคนแรก พลางขับเคลื่อนสุดยอดวิชาสืบทอดของสำนักเขานิมิตทมิฬ ไอม่วงสุดขอบตะวันตกจนถึงขีดสุด
กระบวนท่าคลื่นนภาม่วง ขนาบพายุนิมิตทมิฬอันไร้ที่สิ้นสุด ผ่าแสกศีรษะไปทางสือเถี่ย!
เกราะเทวะแสงลึกล้ำบนร่างสือเถี่ยเปล่งแสง ไม่หลบหลีก หากแต่ยันหมัดหนึ่งออกไป สั่นคลอนไอม่วงสุดขอบตะวันตกที่หยางเนี่ยใช้ขับเคลื่อนอาวุธวิญญาณระดับสูง อย่างดาบมทิฬโชติช่วงขับเคลื่อน
ทั้งสองฝ่ายแข็งปะทะแข็งซึ่งหน้า แสงทองไร้ขอบเขตและไอสีม่วงระเบิดออกมาทั่วหล้า หอบกระพือลมพายุคลั่งเป็นระลอกๆ กวาดกระหน่ำไปโดยรอบทั้งสี่ทิศอย่างบ้าระห่ำ
ร่างของผู้อาวุโสหวังปรากฏอยู่เหนือกายสือเถี่ย ฝ่ามือนภากว่างเฉิงอันน่าพรั่นพรึงกระบวนท่าหนึ่งฟาดงลงจากฟ้า!
ฟากฟ้าคล้ายกับลดต่ำลงขั้นหนึ่งชั่วพริบตา!
สือเถี่ยพ่นลมส่งเสียง หมัดขวาออกแรง ขณะที่ผลักหยางเนี่ยกระเด็นกลับ มือซ้ายก็ยกขึ้น!
มือซ้ายของเขาพราวระยับประดุจเพชร เพื่อใช้ท่ายันฟ้า หยุดยั้งฝ่ามือนภากว่างเฉิงของผู้อาวุโสหวังไว้
ไพศาลราวกับนภา พลังฝ่ามืออันเปี่ยมพลังและดุดันกดอัดลงไปไม่ยั้ง
กระนั้นสือเถี่ยก็เป็นดั่งเสาเอกค้ำฟ้า ไม่ขยับไม่เขยื้อน
ฝ่ามือทั้งสองปะทะเข้าด้วยกัน นัยน์ตาทั้งสองของสือเถี่ยสาดแสงเทวะไปทั้งสี่ด้าน ท่ามกลางเสียงแผดก้องทุ้มต่ำ มือซ้ายรุดขึ้นบนตลอดเวลา ท้องฟ้าที่ลดต่ำลงมาทนโท่ ย้อนกลับขึ้นไปอีกครั้งอย่างเหลือเชื่อ!
ผู้อาวุโสหวังและหยางเนี่ยเห็นภาพฉากนี้ ก็รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงเช่นกัน
ฝ่ามือนภากว่างเฉิง หนึ่งในสามสุดยอดวิชากว่างเฉิง กลับสู้วิชากายเพชร หนึ่งในยอดวิชาแปดพิภพไม่ได้หรือ?
ไม่ใช่ฝ่ามือนภากว่างเฉิงพ่ายแก่กายเพชร หากแต่สือเถี่ยแกร่งกล้ากว่าผู้อาวุโสหวัง!
ฟากฟ้ากำลังจะถล่มลง ทว่าขณะสือเถี่ยปล่อยพลัง ฉับพลันนั้นท้องฟ้าที่กำลังจะเทลงมาก็ถูกยันขึ้นไปอีกครั้ง
ที่ยิ่งน่าพรั่นใจคือ ไม่เพียงยกชูขึ้นไปเท่านั้น ขณะที่พลังยกระดับไม่หยุด ฟากฟ้ามีแนวโน้มที่จะคว่ำลงไปอีกทิศหนึ่งอย่างเหลือเชื่อ
ไม่ใช่พลังน่าหวาดหวั่นของฝ่ามือนภากว่างเฉิงที่ทำให้ฟ้าดินคว่ำลง หากแต่เป็นสือเถี่ยจะพลิกฟากฟ้านี้ลง!
แท่นบูชาฟ้าค่ายกลยันต์สีขาวที่อยู่รอบๆ กายของผู้อาวุโสหวังเริ่มเสเอียงทันใด กำลังจะถูกสือเถี่ยพลิกกลับจากด้านล่าง!
ทันใดนั้น แสงสว่างไสวสายหนึ่งแล่นผ่าน ราวกับมังกรปีศาจสีดำโผล่ระหว่างทาง แทงไปทางสือเถี่ยจากมุมที่เจ้าเล่ห์มุมหนึ่ง!
พลังกระชับ ทั้งหมดรวมเป็นจุดเดียว ก่อตัวเป็นพลังทำลายล้างอันน่าหวาดกลัวไร้ที่เปรียบ เป้าหมายมุ่งไปยังแผลเดิมตรงช่วงเอวของสือเถี่ย!
สายตาสือเถี่ยดุจสายฟ้า มือขวาต่อยหมัดหนึ่งออกไปดังลั่น อัดดาบทมิฬโชติช่วงของหยางเนี่ยเอียงไปอีกครั้ง
จากนั้นสือเถี่ยผละมือซ้ายที่ยับยั้งผู้อาวุโสหวังกลับ แม้ว่าการเคลื่อนไหวจะแลดูเชื่องช้า หากแต่กลับทุบหมัดหนึ่งลงอย่างแม่นยำ ฟาดปลายหอกของซือหม่าฉุยที่ลอบจู่โจมเสเอียงออกไป!
มังกรปีศาจสีดำถูกสือเถี่ยทุบกลางต้นคอ ส่งเสียงร้องเจ็บปวดจริงแท้ออกมา ราวกับถูกฟาดจนสันหลังหักก็ไม่ปาน
หลังจากสือเถี่ยปัดปลายหอกของซือหม่าฉุยออกไป เขาก็กางนิ้วมือทั้งห้าออก การเคลื่อนไหวมือเปลี่ยนเป็นอ่อนช้อย เขียนวาดอย่างเชื่องช้า
วงแหวนแสงสีทองวงหนึ่งปรากฏ ทั้งวงประดุจเพชร อิ่มเอิบไร้รูรั่ว ตรงกลางว่างเปล่า ราวกับสามารถเก็บสรรพสิ่งไว้ได้
ซือหม่าฉุยปรารถนาเก็บหอกเปลี่ยนกระบวนท่า กระนั้นกลับพบว่าปณิธานวรยุทธ์ขิงตนกับมังกรทมิฬอันแปรสภาพมาจากการผสานอาวุธวิญญาณ ถูกวงแหวนแสงสีทองนั่นสวมครอบเอาไว้ ไม่อาจเก็บกลับได้เหนือคาด
สือเถี่ยออกแรงมือซ้าย มังกรทมิฬตัวนั้นร้องระงม หมดทางดิ้นรนหนี ซ้ำยังถูกวงแหวนแสงสีทองดูดกลืนไม่หยุด
พลังมหาศาลฉุดดึงร่างกายของซือหม่าฉุย แเลี่ยงที่จะเข้าใกล้ทางสือเถี่ยเองไม่ได้เช่นกัน
หากไม่คลายมือปล่อยอาวุธวิญญาณของตนทิ้งไป ก็ต้องถูกสือเถี่ยลากไปด้วย
พลังทำลายพินาศจากมือขวาของสือเถี่ยที่ชูขึ้นสูง ได้ปรากฏแจ่มชัด ฟาดแสกหน้าไปทางซือหม่าฉุยแล้ว!
ในตอนที่ร่างของซือหม่าฉุยกำลังควบคุมไม่อยู่ ผู้อาวุโสหวังกับหยางเนี่ยก็บุกโจมตีสือเถี่ยใหม่อีกครั้ง!
หยางเนี่ยฟันดาบหนึ่งออกไป ทั้งฟากฟ้ากลายเป็นสีม่วง คลื่นคลั่งและลมกระโชกไร้ที่สิ้นสุดปรากฏพร้อมกันจำนวนมาก ปกคลุมท้องฟ้าไว้
ดาบคล้อยลง ท้องฟ้าสีม่วงเหมือนกันเปลี่ยนเป็นประกายดาบไปพร้อมกัน ฟันมาทางสือเถี่ย
พายุนิมิตทมิฬหลากสายม้วนสรรพสิ่งเข้าไปอยู่กลางท้องฟ้าสีม่วง แลดูโหดร้ายน่ากลัว ชั่วเสี้ยวขณะสือเถี่ยคล้ายกับหยัดยืนอยู่ในทะเลสายชายขอบฝั่งตะวันตก
อีกฟากหนึ่ง ผู้อาวุโสหวังฟาดสองฝ่ามือลงอีกหน!
แววตาสือเถี่ยยังคงแน่วแน่ดุจหินใหญ่ ไม่เห็นความไหวหวั่นแม้แต่น้อย
แท่นบูชาฟ้าสีทองกับตัวเขากลายเป็นหนึ่งเดียวกันโดยสมบูรณ์ ทั้งร่างราวกับสภาพของเพชร แสงโชติช่วงไร้ที่สิ้นสุดฉายทะลุออกมาจากภายในร่าง!
ขณะที่เกราะเทวะแสงลึกล้ำบนตัวเขาทอประกายระยับ ต้านทานดาบคลื่นนภาม่วงของหยางเนี่ย มือซ้ายของสือเถี่ยไม่หยุดนิ่ง ยันซือหม่าฉุยไปด้านหน้า จากนั้นต่อยหมัดขวาลงไปที่กลางอกของอีกฝ่ายดังสนั่นพอดี!
แท่นบูชาฟ้าค่ายกลยันต์สีดำแตกเป็นเสี่ยงๆ เสียงดังกึกก้องกัมปนาท ซือหม่าฉุยกระอักโลหิตสดอย่างบ้าคลั่ง!
กายเพชรของสือเถี่ยขับเคลื่อนถึงขีดสุด ต้านทานดาบหยางเนี่ยไว้ จากนั้นเบี่ยงตัวเล็กน้อยเพื่อหลบจุดสำคัญ แล้วค่อยฟาดผู้อาวุโสหวังอีกฝ่ามือหนึ่ง!
พลังอันยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขตอันดุเดือดเปี่ยมด้วยพลังของฝ่ามือนภากว่างเฉิง อัดของร่างสือเถี่ยราวกับภูเขาถล่มชั่วพริบเดียว
มุมปากสือเถี่ยมีโลหิตไหลซึมเล็กน้อย
หยางเนี่ยตะคอกเดือดดาล “ราชสีห์โลหะวันนี้ต้องเปลี่ยนเป็นราชสีห์สิ้นชีพ!”
ระหว่างที่ไอม่วงสุดขอบตะวันตกม้วนอย่างบ้าระห่ำ ดาบทมิฬโชติช่วงในมือเขากลายเป็นลมงวงโดยสมบูรณ์
ลมกระโชกน่าพรั่นพรึงที่ตัดฟ้าทลายแผ่นดินนับไม่ถ้วนทอดผ่านท้องฟ้า ฟาดฟันสือเถี่ยอย่างบ้าคลั่ง ทิ้งรอยแผลแหลมหลายสายไว้บนเกราะเทวะแสงลึกล้ำและร่างของสือเถี่ยเอง!
แววตาสือเถี่ยไร้ซึ่งความเกรงกลัว ไม่ได้หวั่นไหว ทว่ากลับมีสิ่งของที่ยามปกติไม่เคยปรากฏมาก่อนเพิ่มขึ้นมาอยู่บ้าง
บ้าระห่ำ! ทำลาย! กระหายโลหิต!
“ข้าจะฝังพวกเจ้าไว้ที่นี่ให้หมด!”
“ต่อให้ใช้เลือดเนื้อและโครงกระดูกของข้าก็ตาม!”
เสียงตะโกนบ้าคลั่งของเขาสั่นสะเทือนไปไกลสุดขอบฟ้า ราวกับราชสีห์ที่ถูกยั่วโทสะ ร้องคำรามอย่างคลุ้มคลั่ง!
สือเถี่ยคลายหอกยาวของซือหม่าฉุยออก สองหมัดตัดสลับ พังทลายประกายดาบของหยางเนี่ย จากนั้นหมุนกายฉับพลัน!
เขาสืบเท้าก้าวใหญ่ ประหนึ่งเทพสวรรค์ลงจุติ มาถึงยังเบื้องหน้าผู้อาวุโสหวัง!
สภาพเพชรบนกายสือเถี่ยเลือนหาย มีเพียงสองหมัดของเขาเท่านั้น ที่พร่างพราวสุดหาที่เปรียบ!
หมัดหนึ่งคล้อยลง สะเทือนฝ่ามือนภากว่างเฉิงของผู้อาวุโสหวังกระจุย!
อีกหมัดหนึ่งตกลง อัดแท่นบูชาฟ้าค่ายกลยันต์ของผู้อาวุโสหวังแหลกโดยพลัน!
ผู้อาวุโสหวังเบิกตาโพลง เขาไม่เคยเห็นกายเพชรเช่นนี้มาก่อน
นี่เป็นละการป้องกันตนเองโดยสิ้นเชิง ละทิ้งส่วนสำคัญในการรุกตีและตั้งรับของวิชากายเพชร รวมพลังทั้งหมดไว้บนสองหมัด!
กายเพชรในยามปกติ แข็งแกร่งไม่อาจตีให้แตก!
กายเพชรในขณะนี้ แก่กล้าหาที่เปรียบได้ไม่!
สือเถี่ยไม่คำนึงถึงกายตนเองทั้งสิ้น ใช้เกราะเทวะแสงลึกล้ำต้านทานดาบเต็มกำลังของหยางเนี่ยอีกครา!
เกราะเทวะแสงลึกล้ำรับภาระหนักสุดจะทนไหว แตกเป็นเสี่ยงๆ ดังกึกก้องในที่สุด!
ทว่าสือเถี่ยต่อยอีกหมัดหนึ่งลงไป โจมตีที่หน้าอกผู้อาวุโสหวังซ้ำแล้วซ้ำอีก อัดจนหน้าอกของผู้อาวุโสสำนักเขากว่างเฉิงในอดีตผู้นี้ ยุบลงไปเป็นโพรงโดยตรง!
ในตอนที่สือเถี่ยเตรียมหันกายรับมือหยางเนี่ย แสงกระจ่างสายหนึ่งก็ปรากฏอีกครั้ง!
มังกรปีศาจสีดำคำรามคลั่ง จู่โจมไปบนแผลเดิมช่วงเอวของสือเถี่ย!
สือเถี่ยพ่นโลหิตออกมาคำหนึ่ง ด้วยเพราะถูกหอกยาวแทงทะลุ!
‘ราชันมังกร’ ซือหม่าฉุยนัยน์ตาทั้งสองออกเหลือง ยิงแสงโลหิตออกมา จดจ้องสือเถี่ยไม่ลดละ
เขาที่ก่อนหน้านี้ความคิดมารรัดตัวตลอดมา ในที่สุดก็กลายเป็นมารโดยสมบูรณ์ พร้อมทั้งใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ บรรเทาบาดแผลที่สือเถี่ยนำมาให้เมื่อครู่ แล้วจึงปล่อยการโจมตีหมายชีวิตนี้ออกมา!
กระนั้นเมื่อเขาสบตากับสือเถี่ย กลับตัวสั่นระริกทั้งที่ไม่หนาว
ระหว่างที่ราชสีห์คลั่งร้องคำรามอีกครา สองหมัดที่ราวกับทำลายสูญ ใช้ท่าฉีกผืนฟ้า จากเหนือศีรษะร่วงลงมา หนึ่งซ้ายหนึ่งขวา อัดไปที่หน้าอกซือหม่าฉุยแลหยางเนี่ย!
ยอดฝีมือขั้นรูปญาณระยะท้ายทั้งสอง กระอักโลหิตพร้อมเพรียง ย้อมนภาอากาศเป็นสีแดง!