เทพเจ้าสามพิสุทธิ์ ผู้สูงส่งแห่งสำนักเต๋า
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีคนจำนวนนับไม่ถ้วนที่บ้างมีปณิธานสูงส่ง บ้างมักใหญ่ไฝ่สูง ต่างเคยลองวิธีการฝึกของสามพิสุทธิ์
แต่ว่าตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน บ้างก็ล้มเหลว บ้างก็ยอมแพ้ไปเอง บ้างก็เข้าใจอย่างถ่องแท้
คนที่ยืนหยัดบนเส้นทางนี้ต่อได้ มีน้อยยิ่งกว่าน้อย
เพราะว่ายากเย็นเกินไป
ก่อนที่เยี่ยนจ้าวเกอจะฝึกฝนคัมภีร์สังหารเซียน ก็เคยลองถามตัวเองดูว่าตนต้องเดินบนเส้นทางนี้จริงๆ หรือไม่
ทว่ามีคัมภีร์นภาไร้ขีดจำกัดซึ่งเป็นวิชาอันดับหนึ่งของสายหยกพิสุทธิ์ ก็ได้พิสูจน์ถึงความราบรื่นของเส้นทางในอนาคตของตนเองแล้ว
ขอแค่ไม่ตายไปเสียก่อน จะต้องไปถึงระดับที่คนจำนวนมากเฝ้าปรารถนาแน่
หากตนไม่ยอมเสี่ยงอันตราย แล้วเดินบนเส้นทางที่ยากเย็นกว่า จะเป็นการวางอุปสรรคที่ลำบากให้ตัวเองเสียเปล่าๆ
ถึงขั้นที่อาจจะอุดเส้นทางในการพัฒนาของตัวเองด้วยซ้ำ เหมือนพ่นไหมใส่ตัวเอง
หลังจากใคร่ครวญแล้ว คำตอบของเยี่ยนจ้าวเกอก็คือ เดินหน้า!
ตนเป็นคนที่มีความภาคภูมิใจปลอมๆ เต็มเปี่ยม แต่ครั้งนี้กลับไม่ใช่ทำเพราะเติมเต็มความภาคภูมิใจปลอมๆ นั้น
ทุกคนล้วนนิยมความสมบูรณ์แบบ มีความใคร่ มีความคิดที่สวยงามยามอยากได้ผลสำเร็จมากๆ
เยี่ยนจ้าวเกอก็มี แต่ว่าครั้งนี้กลับไม่ได้ทำเพราะสิ่งเหล่านี้
สาเหตุเพียงเป็นเพราะ แม้เส้นทางจะยากกว่ามาก แต่กลับเดินไปสู่ระดับที่อยู่สูงได้มากกว่า
เพราะวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ วังเทพจึงกลายเป็นฝุ่นละอองของประวัติศาสตร์
เรื่องนี้ฝังอยู่ในก้นบึ้งจิตใจของเยี่ยนจ้าวเกอมาตลอด ไม่เคยลืมเลือน เป็นแรงขับเคลื่อนให้เขามุ่งไปด้านหน้าและพัฒนาไม่หยุดยั้ง ไม่ยอมหยุดกระหาย ไม่มีวันเหนื่อยล้า
เขาในตอนนี้เป็นจอมยุทธ์คนหนึ่ง และเคยชินกับการเป็นจอมยุทธ์คนหนึ่งมาตั้งแต่แรก
จอมยุทธ์จะทำลายเป้าหมายที่อยู่สูงกว่าเสมอ ในขณะที่ท้าทายกับศัตรู ก็ท้าทายตัวเองไปด้วย
บางทีอาจจะสลัดความเคยชินไม่หลุด แต่เยี่ยนจ้าวเกอชื่นชอบวิธีการเช่นนี้
ดังนั้น เขาต้องเดินหน้าต่อไป!
เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกได้ถึงการสั่นสะเทือนของหลักการแห่งฟ้าดิน เนื่องจากตนเลื่อนเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ จึงดึงดูดปราณวิญญาณของฟ้าดินที่อยู่รอบๆ ให้เข้าสู่ร่างกาย เพื่อชำระล้างร่างกาย
เส้นทางที่ยากลำบากเส้นนี้ การเลื่อนจากขั้นบรรลุธรรมเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่จุดจบ ไม่ใช่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่
เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น เส้นทางต่อจากนี้มีแต่จะยากขึ้น ยิ่งมายิ่งยากขึ้นเท่านั้น
ชายหนุ่มเข้าใจข้อนี้ดี แต่ว่าจิตใจสงบนิ่งผิดปกติ
ตนไม่แน่ว่าจะเป็นคนโชคดี ตนไม่แน่ว่าจะเป็นคนที่ชนะได้ตลอดกาล ตนไม่แน่ว่าจะเป็นคนที่สำเร็จเป็นคนสุดท้าย
แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้ส่งผลให้ตนเป็นคนที่มั่นใจคนนั้น เป็นคนที่ทะนงตนคนนั้น
จะว่าใจร้อนก็ดี ไร้เดียงสาก็ดี แต่เส้นทางนี้ เขากล้าเดินหน้าต่อไป
เวลาชั่วลมหายใจที่สิบสองมาถึงแล้ว
ทว่ากระบี่รุ้งพร่างพราวกลับมาอยู่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกออีกครั้ง เขาฟันออกมาทั้งที่อยู่ไกลออกไป ปราณกระบี่สีขาวบริสุทธิ์สายหนึ่งพุ่งใส่หนงอวี่ซวนตรงๆ!
อีกฝ่ายสีหน้าเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หมวกเกราะดาราเรืองรอง อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นต่ำบนร่างคล้ายกับมีแสงของดวงดาวมารวมตัวกันกลายเป็นเกราะอ่อน
แต่ว่าปราณกระบี่สีขาวบริสุทธิ์ เจาะหมวกเกราะดาราเรืองรองทะลุเหมือนหั่นเต้าหู้ ประกายแสงของมันดับลงในพริบตา!
หนงอวี่ซวนตกใจ ร่างกายไม่อาจเคลื่อนไหว ได้แต่ฝืนใช้ปราณดาบแสงทมิฬที่ตัวเองควบคุมได้ให้มารวมตัวกันเบื้องหน้า
ปราณกระบี่สีขาวหมุนครั้งหนึ่ง พุ่งใส่เพลิงมารสีดำที่ไร้รูปร่างนั้น
หนงอวี่ซวนครางหนักคำหนึ่ง ร่างกระเด็นออกไป
เฟิงอวิ๋นเซิงที่ถูกควันดำปกคลุมอยู่ เมื่อรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของปราณดาบแสงทมิฬ ก็ถอนใจโล่งอก แสงของอาทิตย์ยะเยือกในดวงตาค่อยๆ สลายไป
ถ้าหากเกิดเรื่องเหนือความคาดหมาย เยี่ยนจ้าวเกอทำไม่สำเร็จ นางต้องเสี่ยงชีวิต ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ต้องสนับสนุนต่อ
แต่ว่าในนาทีสุดท้าย ความล้มเหลวของหนงอวี่ซวนได้อธิบายแล้วว่า เยี่ยนจ้าวเกอทำสำเร็จแล้ว!
ที่กลางอากาศ เยี่ยนจ้าวเกอใช้หนึ่งกระบี่ทำให้หนงอวี่ซวนถอยไปก่อน
ส่วนจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์สำนักแสงสว่างคนอื่น ก็พุ่งมาถึงเบื้องหน้าตนแล้ว
พวกเขาคิดจะหยุดไม่ให้เยี่ยนจ้าวเกอเลื่อนจากขั้นบรรลุธรรมเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มจะทำสำเร็จไวขนาดนี้
ถูกต้อง ถ้าไม่ใช่เช่นนี้ แล้วจะกล้าก้าวเท้าสุดท้ายต่อหน้าศัตรูกลุ่มใหญ่หรือ?
เพียงแต่ความจริงที่ไม่น่าเชื่อเช่นนี้ ครั้นมาวางอยู่เบื้องหน้า กลับทำให้ทุกคนมีความรู้สึกว่าไม่เป็นความจริง
พวกเขาช้าไปแค่นิดเดียว ระยะที่ใกล้แค่ปลายจมูกนี้ กลับดูไกลสุดฟ้า
ตอนนี้พวกเขายังอยู่ในท่วงท่าพุ่งเข้าหาเยี่ยนจ้าวเกออยู่เลย!
ความกล้าของทุกคนอันตรธาน จิตใจรู้สึกเย็นเยียบ
เพียงรู้สึกว่าเหมือนพาตัวเองเข้าไปตาย เอาศีรษะถวายไปบนคมกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอ
เกิดเสียงดังตูมกลางอากาศ
ประตูวังฝูงมังกรถูกกระแทกเปิด เงาคนเงาหนึ่งพุ่งออกมาจากด้านใน
เป็นผู้อาวุโสสำนักแสงสว่างระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม ที่ถูกเยี่ยนจ้าวเกอจับขังไว้ก่อนหน้านี้นั่นเอง
ครั้นเขาปรากฏตัวขึ้นก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง พุ่งเข้ามาหาเยี่ยนจ้าวเกอก่อน
เมื่อเห็นผู้อาวุโสคนนี้ ในใจของจอมยุทธ์สำนักแสงสว่างที่เหลือก็เกิดความหวังขึ้นหลายส่วน
ทว่าทุกคนก็ล้วนกัดฟันกรอดเช่นเดิม โจมตีใส่เยี่ยนจ้าวเกออย่างดุดัน
คนหนุ่มตรงหน้าเพิ่งจะเลื่อนเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น
แต่จอมยุทธ์สำนักแสงสว่างที่อยู่รอบๆ ทั้งหมดต่างเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์!
ทุกคนจับมือกันรุมโจมตี ไม่เชื่อว่าจะจัดการคนที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหนึ่ง ขั้นรวมรูประยะต้นไม่ได้
ไม่ สมควรบอกว่า มีคนที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหนึ่งคนไหนที่พวกเขาจัดการไม่ได้บ้าง?
“ข้าเลื่อนเป็นระดับศักดิ์สิทธิ์ ไร้ผู้ต่อต้านในใต้หล้า” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างสงบนิ่ง
เขายืดร่างขึ้น บินขึ้นไปบนท้องฟ้า ทิศทางที่คมกระบี่มุ่งไป ปราณกระบี่สีขาวหลายสายเคลื่อนที่กลางอากาศ
มีปราณกระบี่บางสาย เปลี่ยนรูปร่างอย่างรุนแรง ถึงกับมีจิตพลังของกลิ่นอายมารแสงทมิฬ ซึ่งเป็นพลังของพระราหูอยู่หลายส่วน
ปราณกระบี่ที่แฝงพลังกัดกร่อน พลันสั่นไหวแสงอาทิตย์สีทองกลางท้องฟ้า
มีปราณกระบี่บางสายรูปร่างเปลี่ยนแปลงเช่นกัน กลับปรากฏพลังแห่งพระเสาร์ กลายเป็นแสงสลัวที่เหมือนสายน้ำครึ่งหนึ่ง ครอบคลุมฟ้าดิน
ปราณกระบี่ที่แฝงพลังแห่งการกัดกร่อนอีกชนิดหนึ่งทำลายแสงจันทร์สีเงินยวง
สองกระบี่ประสาน สุริยคราสกับจันทราคราสเกิดขึ้นพร้อมกัน พลังแห่งการดับสลายพุ่งสู่จุดสูงสุด รับมือกับท่าฝ่ามือเทพอาทิตย์จันทราของสำนักแสงสว่างโดยเฉพาะ
มีปราณกระบี่บางสาย กลับกลายเป็นแสงอาทิตย์กับแสงจันทร์ที่โชติช่วงสุดขีด แก้ไขฝ่ามือกลืนตะวันกินจันทราของสำนักแสงสว่าง
มีปราณกระบี่บางสาย กลายเป็นหลุมดำ กลืนกินแสงสว่างไร้ขอบเขต รับมือฝ่ามือแสงสว่างไร้สิ้นสุดของสำนักแสงสว่างโดยเฉพาะ
มีปราณกระบี่บางสาย ลักษณะเหมือนกระแสเวลา กัดกินร่างแสงสว่างไร้วันดับที่ขึ้นชื่อเรื่องการป้องกันมากที่สุดของจอมยุทธ์สำนักแสงสว่าง
เวลาดุจสายน้ำ ไม่มีปราณี ต่อให้เป็นแสงสว่างที่เป็นอนันต์ ต่อหน้ากาลเวลา สุดท้ายก็มีวันดับสลัว
ปราณกระบี่สังหารเทพอันน่ากลัววนเวียน เปลี่ยนแปลงนับครั้งไม่ถ้วน มหัศจรรย์ไม่อาจต้านทาน ส่งทุกสิ่งทุกอย่างไปสู่จุดจบของตัวเองด้วยวิธีการต่างๆ นาๆ
ระหว่างนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงนับหมื่นนับพัน แต่สุดท้ายก็มีผลลัพธ์คล้ายกัน
จุดจบที่กลับไปอยู่ในเส้นทางเดียวกันมีเพียงหนึ่ง
นั่นคือความพินาศ!
เยี่ยนจ้าวเกอท่าทางสบายอารมณ์ โจมตีใส่ผู้อาวุโสสำนักแสงสว่างที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามหนึ่งกระบี่ จากนั้นก็โจมตีคนอื่นอีกหนึ่งกระบี่ ต่อมาก็โจมตีผู้อาวุโสสำนักแสงสว่างคนนั้นอีกหนึ่งกระบี่ จากนั้นถึงเปลี่ยนเป้าหมาย โจมตีจอมยุทธ์สำนักแสงสว่างคนอื่นต่อ
ภายใต้การโจมตีจากปราณกระบี่สังหารเทพอันน่าสะพรึง แม้จะเป็นพลังที่จับตัวจากการรวมร่าง รูป วิญญาณเป็นหนึ่งของผู้อาวุโสที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม ขั้นรวมรูประยะท้าย หากโดนเข้าจะต้องได้รับบาดเจ็บ ถ้าฝืนปะทะจะต้องพิการ
นอกจากผู้อาวุโสที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามคนนั้นแล้ว จอมยุทธ์สำนักแสงสว่างที่เข้าร่วมการรุมโจมตี ไม่มีใครต้านทานอานุภาพกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอได้!
อานุภาพที่ทำลายล้างทั่วบริเวณ ทำให้เงาของความตายทาบทับหัวใจของจอมยุทธ์สำนักแสงสว่างทุกคน!