ก่อนจะลงมือ เยี่ยนจ้าวเกอคำนวณความคิดมากมายไว้ในใจตั้งแต่แรกแล้ว
คังฮูหยินอาจจะเสียชีวิต ราชวงศ์ต้าเสวียนอ๋อง โดยเฉพาะคังผิงสามพ่อลูก น่าจะไม่ยอมเลิกรา
คังเม่าเซิงกับคังจิ่นหยวนยังพอทำเนา คังผิงที่มีพลังฝึกปรือสูงล้ำจึงมีความสามารถมอบความตายและการคุกคามแก่เยี่ยนจ้าวเกอได้อย่างแท้จริง
ตนแม้ว่าจะผูกมิตรกับเขาโถงทอง แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ลูกศิษย์ของประมุขอาคเนย์ นอกจากนี้คังผิงยังมีเบื้องหลังที่ลึกล้ำด้วย
การฝากความหวังไว้บนตัวพวกหลินฮั่นหัว ไม่อาจรับประกันความปลอดภัยได้ทั้งหมด
เยี่ยนจ้าวเกอย่อมวางแผนให้ตัวเองตั้งแต่แรก เพียงแต่เดิมทีเขาคิดว่าจะได้ใช้ตอนพวกคังผิงบุกโจมตีหอกระบี่ทะเลเหนือ
ตอนนี้ได้พบเจอกับคังผิงโดยบังเอิญที่นี่ ถึงแม้ว่าจะอยู่เหนือความคาดหมาย แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่กระวนกระวาย
การเผชิญหน้ากับยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด ขั้นสะพานเซียนระยะต้นของจอมยุทธ์ที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหนึ่ง ขั้นรวมรูประยะต้น เป็นสถานการณ์ที่มีแต่ทางตายไม่มีทางรอดอย่างไม่ต้องสงสัย
จอมยุทธ์ที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหนึ่งคนอื่น หากสู้กับคังผิงที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด อีกทั้งยังฝึกฝนคัมภีร์นภากาลเวลา ล้วนมีแต่จะถูกฆ่าในเสี้ยววินาที
คังผิงถึงขั้นที่ไม่จำเป็นต้องใช้ความพยายามมากมายด้วยซ้ำ
คู่ต่อสู้เช่นนี้ สำหรับเขาแล้ว มาเท่าไรก็ตายเท่านั้น
แต่ในตอนนี้ เยี่ยนจ้าวเกอกลับยั่วยุตัวปัญหาที่ไม่อาจแก้ไขได้ในสายตาของคนอื่น
ระดับพลังฝึกปรือของอีกฝ่ายเห็นได้อย่างชัดเจน ความแตกต่างในด้านพลังฝึกปรือของทั้งสองฝ่ายมีมากเกินไป เขาไม่มีความคิดจะเข่นฆ่ากับอีกฝ่ายจนถึงขีดสุด หากรอดไปได้ก็ถือเป็นชัยชนะแล้ว
สู้ ย่อมต้องสู้ เยี่ยนจ้าวเกอไม่คิดจะงอมือและปิดตารอความตายอยู่แล้ว
แต่ว่าจะสู้อย่างไร จะทำอย่างไรถึงจะส่งผลดีต่อตัวเองมากที่สุด ในนี้มีวิธีการมากมายนัก
ก่อนที่คังผิงคิดจะลงมือจริงๆ เยี่ยนจ้าวเกอได้ปล่อยญาณจริงแท้ทั่วร่างออกมาอย่างเต็มที่แล้ว
ถ้าคังผิงไม่ลงมือ การเคลื่อนไหวของเยี่ยนจ้าวเกอก็จะเป็นการหาความสำราญให้ตัวเองเหมือนกับเล่นงิ้วคนเดียว
แต่คังผิงลงมือแล้ว
ด้วยเหตุนี้ งิ้วที่เยี่ยนจ้าวเกอเล่นก่อนก้าวหนึ่ง จึงช่วยให้ชายหนุ่มชิงความได้เปรียบมาได้เร็วกว่า ลบความได้เปรียบในด้านพลังและความเร็วของคังผิงจนหมด!
หากไม่ชิงเดินก่อนก้าวหนึ่ง แต่เริ่มต้นเดินพร้อมกับคังผิง เกรงว่าจะตอบสนองไม่ทัน โดนกระบี่ฟันไปแล้ว
ในนาทีนี้ เมื่อคังผิงแทงกระบี่หนึ่งออก เยี่ยนจ้าวเกอก็ใช้ตราประทับตะวันและร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกแล้ว!
คังผิงใบหน้าไร้อารมณ์ ไม่มีความเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย
เขาใช้นิ้วต่างกระบี่ ประกายกระบี่จางๆ ส่องแสงระยับเหมือนกับกระแสเวลา ประกายกระบี่แผ่พุ่งไปทั่วบริเวณในชั่วพริบตา เหมือนกับสร้างโลกที่เป็นเอกเทศขึ้นใบหนึ่ง
ในโลกใบนี้ ทุกสิ่งล้วนถูกประกายกระบี่ลามใส่ ก่อนจะกลายเป็นซีดขาว
การเคลื่อนไหวของเยี่ยนจ้าวเกอและร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเปลี่ยนเป็นช้าลงในทันใด ส่วนประกายกระบี่ของคังผิงเร็วขึ้นในฉับพลัน!
ด้านหนึ่งช้าด้านหนึ่งเร็ว การชิงเคลื่อนไหวก่อนเมื่อครู่ของเยี่ยนจ้าวเกอ ได้ลบโอกาสแรกของคังผิงทิ้ง ทำให้กลายเป็นไร้ประโยชน์
ประกายกระบี่ปล่อยทีหลังแต่มาถึงก่อน!
ยังเป็นคังผิงที่เร็วกว่า!
เพราะการจับตัวกันของเวลาที่เหมือนกับกระแสน้ำ เยี่ยนจ้าวเกอกับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกไม่เพียงแต่ร่างกายเปลี่ยนเป็นช้าลงเท่านั้น แม้แต่ความคิดในหัวสมองก็ดูเหมือนจะช้าตามไปด้วย
เวลาของโลกใบนี้ ในตอนนี้ราวกับหยุดนิ่ง ไม่ไหลต่ออีก
ผู้ที่แหกกฏนี้ มีเพียงคังผิงกับกระบี่ของเขาเท่านั้น!
แต่ว่าดวงตาของเยี่ยนจ้าวเกอพลันสาดประกาย ขณะเกิดการเปลี่ยนแปลงนับพัน การเคลื่อนไหวก็เหมือนกับเร็วขึ้น
กระบี่ของคังผิงใช้ความสามารถที่เหมือนกับค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลาย ลดทอนพลังของศัตรู เพิ่มพลังของตัวเอง
แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอคุ้นเคยกับค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายเป็นอย่างดี อีกทั้งยังได้คัมภีร์นภากาลเวลาที่ไม่สมบูรณ์มาจากตัวเลี่ยวเจิง ทำให้รากฐานของคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตที่เขาใช้ปราดเปรียวมากขึ้น
สำหรับกระบี่นี้ของคังผิง เยี่ยนจ้าวเกอแม้แต่มองยังไม่มอง
เขาไม่ได้โง่งมขนาดคิดเทียบกระบวนท่าต่อกระบวนท่า เทียบการเปลี่ยนแปลง เทียบความเร็วกับคังผิงที่ฝึกฝนคัมภีร์นภากาลเวลา และอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด
เวลานี้ได้แต่ใช้ความไม่เปลี่ยนแปลงรับความเปลี่ยนแปลงนับหมื่น กระตุ้นสมองของตัวเองอย่างเต็มที่!
เยี่ยนจ้าวเกอยกสองมือขึ้น มือซ้ายแฝงความเปลี่ยนแปลงของคัมภีร์พลิกนภา มือขวาแสดงความน่าอัศจรรย์ของคัมภีร์เทพดวงอาทิตย์
เขายืนอยู่ด้านหลังร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก มือซ้ายและมือขวากระแทกใส่ขมับสองข้างของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกพร้อมกันด้วยท่าสองกำปั้นบ้องหู!
ญาณจริงแท้ในร่างซัดสาด กลายเป็นพลังหยางโชติช่วงที่บริสุทธิ์ที่สุด โดยใช้คัมภีร์นภาหยินหยางกระตุ้นการเปลี่ยนแปลง
พลังหยางโชติช่วงทั้งหมดพุ่งเข้าไปในร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก
ขมับบนศีรษะขอบร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกพองขึ้นมา แล้วส่องแสงละลานตา เหมือนกับดวงอาทิตย์ที่แท้จริงสองดวง
หลายวันมานี้ ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของเยี่ยนจ้าวเกอ นอกจากจุดไป๋ฮุ่ยที่อยู่บนขม่อมแล้ว ยังได้หลอมจุดไท่หยางบริเวณขมับเป็นเทวะ ประสานเสียงกับดวงดาวบนท้องนภาด้วย!
จุดไท่หยางได้เห็นเทวะสำแดง สามารถฝืนบรรจุพลังหยางโชติช่วงที่ยิ่งใหญ่ดุจทะเลควันได้แล้ว!
พลังหยางโชติช่วงในตัวร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกถูกกระตุ้น บรรจุเจตจำนงจากรอยตราพลิกนภาและคัมภีร์เทพดวงอาทิตย์เอาไว้เช่นกัน
มันผลักสองมือใส่ตราประทับตะวันพร้อมกัน!
คุนเผิงขับอาทิตย์!
ตราประทับตะวันที่เดิมก็เหมือนกับดวงอาทิตย์ตกจากฟ้าอยู่แล้ว ครั้งนี้มีพลานุภาพมากขึ้น ระเบิดกลิ่นอายที่แข็งแกร่งอย่างไม่เคยมีมาก่อนออกมา!
แม้แต่หลินฮั่นหัวกับคังผิงต่างก็รู้สึกว่าอากาศเบื้องหน้าร้อนเร่าขึ้น
‘ตัวข้าเป็นแค่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหนึ่งจริงๆ แต่ข้าก็มีร่างแยกที่มีพลังฝึกปรืออยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงเช่นกัน’
ถึงแม้จะยังคงไม่อาจแสดงพลังของตราประทับตะวันได้ทั้งหมดก็ตาม
แต่พื้นฐานของตราประทับตะวันก็ยังแข็งแกร่งเกินไปอยู่ดี!
นี่คือหนึ่งในอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดท่ามกลางอาวุธศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง ในอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงทั้งหมด มันถูกจัดอยู่ในระดับสูงสุด ของวิเศษต่างๆ อย่างหอกราชาลี้ลับ กระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อน กงจักรสุริยันจันทราไม่อาจเทียบเคียงได้
โอกาสรอดชีวิตที่เยี่ยนจ้าวเกอต้องการช่วงชิงอยู่ตรงนี้เอง!
ตราประทับตะวันอันบ้าคลั่งทำลายนภา ฉีกกระชากประกายกระบี่ที่เหมือนกระแสน้ำนั้น
“เหนือจากที่คาดจริงๆ แต่เจ้าจะใช้ได้สักกี่รอบ” คังผิงเก็บประกายกระบี่ กระแสเวลาปะทะใส่ตราประทับตะวันที่แข็งกร้าวอย่างไร้สุ้มไร้เสียง
สภาวะของยอดฝีมือที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด ขั้นสะพานเซียน ตอนนี้ได้สะท้อนออกมาอย่างหมดจด คังผิงไม่ถอย ประกายกระบี่ม้วนกลับใส่ตราประทับอาทิตย์
“ของเป็นของดี น่าเสียดายพออยู่ในมือเจ้า กลับเหมือนลิงได้พลอย จะปกป้องชีวิตของเจ้าได้อย่างไร?”
เจตจำนงกระบี่ของคังผิงคลุ้มคลั่ง ประกายกระบี่เจือจางเลือนรางมากกว่าเดิม แต่การคุกคามกลับเพิ่มขึ้นเท่าตัว
แต่ว่าร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกที่มีตราประทับตะวัน กลับใช้สภาวะสะท้อนกลับที่เกิดจากการกดดันของประกายกระบี่ ตีลังกาไปหาเยี่ยนจ้าวเกอ
หลังจากร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกใช้ท่าคุนเผิงขับอาทิตย์ เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่สนใจมันอีก
ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจความสำเร็จและความล้มเหลวของการโจมตีโดยตราประทับตะวัน รวมถึงความเป็นความตายของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกโดยสิ้นเชิง
ในม่านตาข้างขวาของเยี่ยนจ้าวเกอบังเกิดแสงสายฟ้าสว่างวาบขึ้นอย่างรุนแรง
วิชาดัชนีฟ้าคำรนถูกกระตุ้นด้วยพลังทั้งหมด ทำให้ญาณจริงแท้ของเยี่ยนจ้าวเกอโคจรอีกรอบ จากนั้นก็เปลี่ยนจากพลังหยางโชติช่วงเป็นความโกลาหลในชั่วพริบตาอีกครั้ง แล้วเปลี่ยนจากความโกลาหลกลายเป็นสายฟ้าไร้สิ้นสุด
“ฮ่า!” เยี่ยนจ้าวเกอคำรามดุจฟ้าร้อง ใช้วิชาสายฟ้าชั่วพริบตา
ญาณจริงแท้ที่เป็นสายฟ้าทั่วร่าง ระเบิดออกมาพร้อมกันในอึดใจเดียว
แค่พริบตาเดียวก็เผาไหม้ทุกส่วนของตัวเอง ใช้พลังทั้งหมดที่มี!
สายฟ้าอันคลุ้มคลั่งสำแดงฤทธิ์ เหมือนกับมีอานุภาพแยกฟ้าผ่าดิน
แม้จะเป็นเช่นนั้น ก็ยังคงไม่อาจต้านทานคังผิงที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ดได้
กระนั้นกระบวนท่านี้ของเยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่ได้เล็งไปที่คังผิง
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกกับตราประทับตะวันที่กระเด็นกลับมากลายเป็นลำแสง พุ่งสู่ใจกลางฝ่ามือของเยี่ยนจ้าวเกอ ส่งพลังสะท้อนกลับให้ชายหนุ่ม
เยี่ยนจ้าวเกอใช้ฝ่ามือต้านพลังมหาศาลนี้ไว้ ในมืออีกข้างหนึ่งปรากฏกระบี่รุ้งพร่างพราวอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นต่ำ
การโคจรเคล็ดวิชาในคัมภีร์พลิกนภา ช่วยให้เยี่ยนจ้าวเกอเปลี่ยนพลังอันแข็งแกร่งที่เข้าไปในร่าง และกำลังจะฉีกกระชากตัวเขา ให้กลายเป็นพลังระเบิดที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิม
พลังงานระเบิดออกมา เยี่ยนจ้าวเกอแทงออกหนึ่งกระบี่ ประสานกับสายฟ้าชั่วพริบตาก่อนหน้า พุ่งไปในทิศทางตรงกันข้าม
เจตจำนงกระบี่จากกระบี่สังหารเซียนซึ่งแฝงจิตทำลายล้างซ่อนอยู่ภายใน ช่วยเยี่ยนจ้าวเกอฟันทำลายโลกธารแสงที่เจตจำนงกระบี่กาลเคลื่อนคล้อยของคังผิงครอบคลุมอยู่!