‘นางจะใช่ฟู่ถิงหรือไม่?’
เฟิงอวิ๋นเซิงส่งกระแสเสียงกับเยี่ยนจ้าวเกอ
ในฐานะที่เป็นสตรีเหมือนกัน นางก็ยังรู้สึกชื่นชมในตัวอีกฝ่าย
แต่ก็เหมือนกับเยี่ยนจ้าวเกอ สิ่งที่ทำให้นางสนใจยิ่งกว่าก็คือ เมื่อเผชิญหน้ากับสตรีนางนี้ ดาบเทพอาทิตย์ยะเยือกกลับลอบส่งเสียงขึ้น
เรื่องนี้บอกกับเฟิงอวิ๋นเซิงว่า พลังของอีกฝ่ายไม่อาจนำจอมยุทธ์ที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามทั่วไปมาวัดได้
เยี่ยนจ้าวเกอตอบ “เป็นไปได้อย่างยิ่ง แต่ว่าไม่เคยเห็นนางกับคนที่อยู่ข้างๆ นางลงมือ ยังคงไม่อาจยืนยันวิชาวรยุทธ์ของพวกนางได้”
ช่วงที่พักอยู่ในเขาโถงทอง เยี่ยนจ้าวเกอย่อมสืบหาข้อมูลของยอดฝีมือระดับสูงสุดของโลกซ้อนโลกในปัจจุบันจากพวกมู่จวินและเฉินจื้อเหลียง เพื่อให้รู้เขารู้เรา
ในเขตตะวันอาคเนย์ รวมถึงเขตเพลิงทักษิณที่ขัดแย้งกัน ย่อมถือเป็นจุดสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจ
นอกจากนี้แล้ว เยี่ยนจ้าวเกอยังรู้สึกสนใจต่อสามกษัตริย์ห้าราชา และสถานการณ์ของเขาคุนหลุนในเขตมหานภากลางมากด้วย
เมื่อมาถึงระดับนี้ สิ่งที่พวกมู่จวินและเฉินจื้อเหลียงทราบก็มีค่อนข้างจำกัด เยี่ยนจ้าวเกอย่อมไม่อาจถามคำถามประเด็นนี้กับประมุขอาคเนย์เฉาเจี๋ยโดยตรงได้
กระนั้นแม้จะมีจำกัด แต่ว่าสถานการณ์โดยพื้นฐาน พวกเยี่ยนจ้าวเกอก็ได้รับทราบแล้ว
มู่จวินประสบการณ์ของกว้างขวางจริงๆ
มีอัจฉริยะรุ่นเยาว์ระดับสุดยอดในโลกซ้อนโลกผู้หนึ่งที่มู่จวินพูดถึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า
‘บัวแดงสูงส่ง’ ฟู่ถิง
เลื่อนจากบรรลุธรรมเป็นศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่อายุยังน้อย มู่จวินบอกว่า ในบรรดาคนที่เขารู้จักทั้งหมด นอกจากเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว ไม่มีใครรวดเร็วกว่าฟู่ถิงอีก
แม้จะเป็นสตรี ก็สู้ศึกใหญ่น้อยมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่เคยพ่ายแพ้ เอาชนะจอมยุทธ์ระดับเดียวกันที่มีอายุเท่านาง หรืออายุมากกว่านางได้แทบทั้งหมด
พลังอันแข็งแกร่ง บดขยี้อัจฉริยะที่ร้ายกาจระดับปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วน ถูกยกเป็นยอดฝีมือในหมู่ยอดฝีมือ
ในตอนยังเป็นมหาปรมาจารย์บรรลุธรรม ก็ใช้ล่างข่มบนเอาชนะยอดฝีมือจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์มาแล้ว
นี่ไม่ได้จำกัดในสถานที่หนึ่งหรือในสภาพหนึ่งเท่านั้น แต่เมื่อกวาดสายตามองทั่วทั้งโลกซ้อนโลก นางก็เหนือกว่าอัจฉริยะสะท้านโลกที่อายุเท่ากันไปแล้ว
และตามคำพูดของมู่จวิน สตรีนางนี้ยังเป็นคนที่เก่งรอบด้าน นอกจากจะมีพรสวรรค์น่าทึ่ง มีพลังฆ่าฟันเหนือกว่าคนจำนวนมากแล้ว นางยังเชี่ยวชาญค่ายกล มรรคาโอสถ และการหลอมอาวุธด้วย
แม้กระทั่งได้ยินมาว่าฟู่ถิงผู้นี้ยังสนใจในการเลี้ยงอสูรวิญญาณด้วย
พูดกันง่ายๆ นี่ดูเหมือนจะเป็นอัจฉริยะที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ทำได้ดีไปหมด
บนพื้นฐานเหล่านี้ หน้าตายังโดดเด่นเป็นอันดับหนึ่งด้วย
สำหรับคนที่อายุเท่ากับนาง นางน่าจะเหมือนกับลูกของท่านป้าข้างบ้าน ที่ทุกครั้งจะสอบได้คะแนนมากกว่าตัวเองยี่สิบคะแนน
นางเพียงคนเดียวกดดันจนอัจฉริยะที่อายุเท่ากันดับแสงไปนับไม่ถ้วน
บุคคลระดับปีศาจที่ตอนแรกโดดเด่น เมื่อมายืนอยู่ข้างนาง ก็พลันดูธรรมดาลงอย่างชัดเจน
ตัวอย่างที่ง่ายที่สุด ก็คือจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงสองคนที่ยืนอยู่ข้างกายนางในตอนนี้
แม้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะรู้สึกว่าฟู่ถิงเอาชนะสองคนนี้ได้ง่ายๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าสองคนนี้อ่อนแอ
ตรงกันข้าม จอมยุทธ์ที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์สองคนนี้แข็งแกร่งมาก นับเป็นยอดฝีมือตัวจริง ถ้าหากอยู่ในระดับเดียวกัน ย่อมสามารถเอาชนะพวกเฉิงซงและจางเชาได้
พวกเขาน่าจะเป็นสหายร่วมสำนักของฟู่ถิง วรยุทธ์ที่ฝีกฝนล้ำลึกเหมือนกัน มีพลังเหนือกว่าคนทั่วไป เป็นผู้โดดเด่นท่ามกลางคนระดับเดียวกัน
ความจริงแล้ว เดิมทีการเลื่อนเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่ก็ได้บ่งบอกแล้วว่าพวกเขามีพรสวรรค์ไม่ธรรมดา เป็นอัจฉริยะล้ำเลิศ ซึ่งอยู่เหนือกว่าคนรุ่นเดียวกันจำนวนนับไม่ถ้วน
ทว่าเมื่อทั้งคนสองนี้ยืนต่อหน้าฟู่ถิงที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม สภาวะกลับอ่อนแอกว่าอย่างชัดเจน
เสียงของอาหู่ยามนี้ฟังดูขลาดเขลาอยู่หลายส่วน “ถ้าเป็นฟู่ถิง เช่นนั้นก็เป็น…”
เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม “บุตรีของจักรพรรดิแพร”
อาหู่แยกเขี้ยวยิงฟัน
ในโลกซ้อนโลก ประมุขทั้งสิบปกครองแปดทิศ
เหนือกว่าประมุขทั้งสิบ ก็คือสามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิ ยึดครองเขาคุนหลุนใหม่ในเขตมหานภากลาง ที่นั่นเป็นใจกลางของโลกซ้อนโลกที่แท้จริง ขณะเดียวกันก็เป็นต้นกำเนิดของโลกใบนี้ด้วย
จักรพรรดิแพร หรือจักรพรรดิแพรงาม คือหนึ่งในห้าจักรพรรดิในปัจจุบัน หนึ่งในผู้ปกครองที่มีอำนาจมากที่สุดบนโลกซ้อนโลก
‘บัวแดงสูงส่ง’ ฟู่ถิง เป็นบุตรีเพียงคนเดียวของจักรพรรดิแพร
จักรพรรดิแพรได้บุตรี จึงทนุถนอมมากกว่าเดิม ส่วนฟู่ถิงก็ไม่ทำให้บิดาผิดหวัง
หากใช้คำพูดของมู่จวิน ตามที่เขาทราบ ก่อนที่จะเจอเยี่ยนจ้าวเกอ เขาไม่เคยเจอใครที่เก่งกว่าฟู่ถิงมาก่อน
สามกษัตริย์ห้าจักรพรรดิ มีลูกศิษย์จำนวนมาก แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนล้วนมีทายาท
หากมีขึ้นมา สายตานับไม่ถ้วนจะจับจ้องทันที
เหล่าบุตรธิดาของจักรพรรดิและกษัตริย์เหล่านี้ มีรากฐานพรสวรรค์แข็งแกร่ง วรยุทธ์ที่ฝึกฝนเลิศล้ำ เงื่อนไขทรัพยกรอุดมสมบูรณ์ ได้รับการสั่งสอนมาอย่างดีเยี่ยม โดยพื้นฐานแล้วสามารถโตขึ้นเป็นมังกรหงส์ในหมู่คนได้
บางนิสัยอาจจะไม่ได้ดีมาก ทว่าในด้านความสามารถ กลับเป็นคนเก่งกาจที่มีอยู่น้อยนิด
‘โอรสหงส์’ จวงเจาฮุย บุตรของประมุขทักษิณจวงเซิน ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน
ไม่ว่านิสัยเขาจะเป็นอย่างไร แต่พลังกลับได้รับการทดสอบที่หนักหนาถึงขีดสุดมาแล้ว
จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก ขั้นเทวะสำแดงระยะท้าย อาศัยแค่หมัดเปล่าก็สามารถท้าสู้กับคู่ต่อสู้ที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด ขั้นสะพานเซียนได้
เทียบกับการต่อสู้ของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามกับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสี่แล้ว ความยากย่อมสูงกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
ในโลกซ้อนโลก นอกจากประมุขอาคเนย์เฉาเจี๋ยที่ไม่อาจประเมินได้แล้ว ในกลุ่มจอมยุทธ์ที่เยี่ยนจ้าวเกอได้สัมผัสมาด้วยตัวเอง หากพลังอยู่ในระดับเดียวกัน จวงเจาฮุยอาจจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด
ทุกคนถ้าอยู่ในระดับเท่ากัน จะมีแค่ราชากระบี่ภูผาเงาหลินฮั่นหัวที่สามารถสู้กับเขาได้ ถ้าเป็นคนอื่น คังผิงยังอาจจะลองได้ แต่น่าจะด้อยกว่าขั้นหนึ่ง
ทว่าในโลกซ้อนโลก แทบทุกคนคิดว่าถ้าฟู่ถิงประมือในระดับเท่ากัน จะสามารถเอาชนะเขาได้
ในตอนที่มู่จวินพูดถึงเรื่องนี้ รอยยิ้มก็สลายไปเล็กน้อย กล่าวอย่างจริงจังว่า “ถ้าหากไม่มีเหตุไม่คาดฟัน ต่อจากนี้ฟู่ถิงจะต้องกลายเป็นจักรพรรดินีแน่”
จักรพรรดินี ถูกจัดอยู่ในห้าจักรพรรดิ เหมือนกับจักรพรรดิแพร บิดาของฟู่ถิง
เรื่องนี้โดยพื้นฐานแล้วเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความเห็นตรงกัน และเป็นทุกคนคาดหวังต่อตัวฟู่ถิงยิ่งนัก
แม้แต่สามกษัตริย์ก็แสดงความสนใจต่อตัวฟู่ถิงด้วย
ดังนั้นเมื่อยอดฝีมือหญิงที่อ่อนยาว์เช่นนี้โผล่มาอย่างกะทันหัน การคาดเดาแรกในห้วงสมองของพวกเยี่ยนจ้าวเกอ จึงอยู่ที่ตัวฟู่ถิงทันที
และความเป็นจริงก็ได้พิสูจน์แล้วว่าพวกเขาทายไม่ผิด
“ฟู่ถิงแห่งผาบัวแดง ยอดเขาอัศจรรย์บนเขาคุนหลุน ไม่ทราบว่าสหายมีคำเรียกหาว่าอะไร? มากจากโลกใบไหนหรือ?”
สตรีในอาภรณ์แดงกระโปรงขาวผู้นั้นเดินมา พร้อมกับเอ่ยปากถาม
กลุ่มคนที่อยู่รอบตัวนางเดินกลับมาพร้อมกับนาง เข้าใกล้หอคอยวิเศษอีกครั้ง
ฟู่ถิงมองเยี่ยนจ้าวเกอ
เยี่ยนจ้าวเกอเหมือนกับนาง ปล่อยกลิ่นอายออกด้านนอกอย่างไม่ใส่ใจ และไม่คิดเก็บงำ
นี่ทำให้คนอื่นมองเห็นถึงระดับพลังฝึกปรือและอายุที่แท้จริงของเขาได้ง่ายๆ
เมื่อรวมข้อเท็จจริงสองข้อเข้าด้วยกัน แม้จะเป็นฟู่ถิงและคนจากเขาอัศจรรย์ที่เหลือ ก็ยังรู้สึกตะลึงลาน
แต่เพราะไม่ได้ประมือกันจริงๆ จึงไม่อาจตัดสินได้ว่าพลังของเยี่ยนจ้าวเกอเป็นอย่างไร
ทว่าฟู่ถิงเกิดความรู้สึกอย่างรางเลือนว่า บุรุษตรงหน้า เป็นคนประเภทเดียวกับนาง
‘เป็นอายุจริงหรือ? หรือว่าใช้วิธีการบางอย่างปลอมแปลง?’ ฟู่ถิงคิดในใจ ‘หากเป็นอายุจริง เมื่อโลกซ้อนโลกมีคนเช่นนี้โผล่มา ข้าน่าจะรู้ถึงจะถูก’
นอกเสียจากว่า ไม่ใช่คนของโลกซ้อนโลก
โลกเบื้องล่างยากจะเกิดบุคคลที่ล้ำเลิศเช่นนี้ เช่นนั้น…เป็นผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์หรือ?
นี่เป็นความคิดแรกในสมองของฟู่ถิง
แต่ว่าไม่ทันไร นางก็จิตใจสั่นไหว คิดถึงเรื่องหนึ่ง
เยี่ยนจ้าวเกอครั้งนี้หัวเราะเบาๆ เอ่ยว่า “ข้าแซ่เยี่ยน เยี่ยนจ้าวเกอ ในช่วงนี้หลักๆ แล้วเคลื่อนไหวอยู่ในเขตตะวันอาคเนย์บนโลกซ้อนโลก”
ฟู่ถิงเลิกคิ้วเบาๆ “ท่านคือเยี่ยนจ้าวเกอหรือ?”
………………..