ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี – บทที่ 883 กระบี่เด็ดดาว!

ความมืดและแสงสว่างตัดสลับกันระหว่างฝ่ามือสองข้างของเยี่ยนจ้าวเกอ ความโกลาหลบังเกิดอย่างเลือนราง

ขณะเดียวกัน แสงสีขาวหลาสายก็พุ่งสู่ท้องฟ้า

พลังของค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายบนเขากว่างเฉิงหนุนเสริมเยี่ยนจ้าวเกอทั้งหมด

เมื่อได้รับการเสริมพลัง เยี่ยนจ้าวเกอก็ใช้สิบสองวิชาประกายกาฬเป็นส่วนนอก ใช้คัมภีร์นภาไร้ขอบเขตเป็นส่วนใน ประกบสองมือ ขวางการระเบิดครั้งใหญ่ของวังวนทะเลดาวเบื้องหน้า

ในวินาทีนี้ ความโกลาหลก็หายไป

ทุกสิ่งต่างยุบเข้าไปในจุดจุดหนึ่ง ก่อนจะกลับคืนสู่ความว่างเปล่า

ในพริบตานี้ ร่างของกวนลี่เต๋อพลันถูกหยุดไว้ชั่วคราว

พลังฝ่ามือของเขาพัวพันกับญาณจริงแท้ของเยี่ยนจ้าวเกอ ไม่อาจรุกคืบหรือถอยหลัง

แม้ว่าจะเป็นแค่ชั่วพริบตาเดียว ทว่ากวนลี่เต๋อกลับสัมผัสได้ถึงความผิดปกติในทันที

กระนั้นเขายังไม่ทันได้เปลี่ยนกระบวนท่า ก็เห็นในดวงตาของเยี่ยนจ้าวเกอมีแสงสีม่วงปรากฏขึ้นแวบหนึ่ง!

เยี่ยนจ้าวเกอจับจ้องกวนลี่เต๋ออย่างเย็นชา ขณะเดียวกันก็มีแสงอัสนีสีม่วงโผล่ขึ้นด้านในดวงตาข้างขวา

ตามด้วยตาซ้าย

ก่อนจะเป็นทั่วทั้งร่าง

ในวินาทีนี้เส้นแสงระหว่างฟ้าดินพลันมืดมนไปชั่วพริบตา

มีเพียงแค่อัสนีสะท้านฟ้าเท่านั้นที่ระเบิดขึ้นอย่างสะเทือนเลือนลั่นในตอนนี้!

สายฟ้าอันน่าสะพรึงที่เหมือนมีไม่หมดไม่สิ้น ไม่อาจนับได้ แค่ชั่วพริบตาสั้นๆ ล้วนลุกไหม้ ระเบิดออก และเบ่งบาน!

เป็นเคล็ดวิชาสายฟ้าชั่วพริบตา!

ในตอนนี้และในวินาทีนี้ ไม่ได้มีแค่พลังของชิ้นส่วนดวงตาราชันสายฟ้าที่ถูกเก็บอยู่ในตาขวาของเยี่ยนจ้าวเกอเท่านั้นที่ระเบิดออกทั้งหมด

ขณะเดียวกันยังมีญาณจริงแท้อันยิ่งใหญ่ของตัวเยี่ยนจ้าวเกอที่ลุกไหม้ขึ้นมาทั้งหมดด้วย!

ด้วยพลังฝึกปรือในตอนนี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ การระเบิดของพลังจากชิ้นส่วนดวงตาราชันสายฟ้าที่เขาครอบครองอยู่ ไม่ทำให้เขาสิ้นเปลืองพลังเท่าไรนัก

หลังจากชิ้นส่วนอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระเบิดออกแล้ว มันก็เข้าสู่สภาวะหลับไหล ไม่ส่งผลต่อพลังของเยี่ยนจ้าวเกออีก

ทว่าในตอนนี้เอง ไม่ใช่แค่ชิ้นส่วนอาวุธศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ตัวเยี่ยนจ้าวเกอก็ได้กระตุ้นสายฟ้าชั่วพริบตา โจมตีด้วยพลังทั้งหมดเช่นกัน!

แม้แต่เคล็ดวิชาคืนปราณอย่างคัมภีร์นภาไร้ขอบเขต ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิด และวิชาดัชนีฟ้าคำรน ก็ไม่อาจชดเชยพลังให้แก่การระเบิดที่ไม่คิดจะเหลือสิ่งใดไว้นี้ได้ในระยะเวลาอันสั้น

หลังการโจมตีนี้ ลมปราณของเยี่ยนจาวเกอจะลดต่ำลงอย่างมหาศาล

เขาใช้สิ่งนี้เป็นข้อแลกเปลี่ยน เพื่อให้ได้มาซึ่งการโจมตีอันแข็งแกร่ง!

สายฟ้าอันน่ากลัวกลายเป็นลำแสงยิ่งใหญ่ที่สุกสกาวละลานตา เป็นแสงสว่างหนึ่งเดียวในโลกใบนี้!

พลังของค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายเสริมลงบนร่างของเยี่ยนจ้าวเกอทั้งหมด

เยี่ยนจ้าวเกอเปลี่ยนสภาวะฝ่ามือ กลายเป็นกระบี่สังหารเซียน

เมื่อมีการช่วยเหลือจากค่ายผล มีการระเบิดจากสายฟ้าชั่วพริบตา การเปลี่ยนแปลงประบวนท่าของเยี่ยนจ้าวเกอจึงเร็วกว่ากวนลี่เต๋อครึ่งก้าว

กระนั้นครึ่งก้าวนี้ก็ห่างกันราวฟ้ากับเหว!

เจตจำนงกระบี่ที่ทำลายทุกสรรพสิ่งและสร้างจุดจบได้สะท้อนออกมา

พลังของสายฟ้าชั่วพริบตาที่ลุกไหม้ ตอนนี้ล้วนกลายเป็นปราณกระบี่สังหารเซียน

ปราณกระบี่สีขาวโพลนแผ่พุ่งไปทั่วฟ้าดิน

เยี่ยนจ้าวเกอไร้ข้อกริ่งเกรง กระตุ้นกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดตั้งแต่ตนฝึกฝนคัมภีร์กระบี่สังหารเซียนสำเร็จ!

ปราณกระบี่ไร้สิ้นสุดหายไป จับตัวกันกลายเป็นเส้นเดียว

เส้นที่พลังผนึกรวมกันสุดเปรียบปาน!

เส้นที่เร็วกว่าปราณกระบี่สังหารเซียนทั่วไป!

แม้แต่กวนลี่เต๋อก็ยังเกิดความรู้สึกเลือนราง ทว่าก็ยังช้าไปครึ่งก้าว

ปราณกระบี่ที่น่าพรั่นพรึงแทงทะลุวังวนทะเลดาวที่กำลังระเบิดบนศีรษะของเยี่ยนจ้าวเกอ พุ่งโถมสู่ด้านบน แทงใส่กวนลี่เต๋อโดยตรง!

กวนลี่เต๋อยกมือขึ้นขวาง ทว่าปราณกระบี่กลับยังคงแทงทะลุฝ่ามือที่สามารถคว้าจันทร์เด็ดาวด้วยสภาวะทำลายไม้ไผ่!

เสียงครางหนักๆ ของกวนลี่เต๋อดังขึ้นระหว่างฟ้าดิน

ทว่ากลับไม่มีรอยเลือดสักหยดเดียว

เลือดเนื้อตรงบาดแผลของเขาถูกปราณกระบี่เผากลายเป็นควัน สะอาจหมดจด!

ปราณกระบี่สีขาวสภาวะไม่หยุดลง หลังจากแทงทะลุฝ่ามือของกวนลี่เต๋อแล้ว ก็แทงใส่ทรวงอกของเขาต่อ!

กวนลี่เต๋อกัดฟันกรอด กระตุ้นญาณจริงแท้ของตัวเอง แสงดาวหลายจุดสว่างขึ้น รวมตัวกันที่ปากแผล คิดจะสะกดอาการบาดเจ็บชั่วคราว

แต่เมื่อแสงดาวสัมผัสกลับบาดแผลที่เกิดขึ้นเพราะปราณกระบี่ ก็พลันสลายไป บาดแผลเพียงที่เดียวขยายออกรอบๆ ทีละนิด ราวกับเครื่องลายครามที่แตกสลาย

กวนลี่เต๋อทั้งแตกตื่นทั้งเดือดดาล กระตุ้นมงกุฎดาวรุ่งเกิดตะวันของตัวเอง แสงดาวสีทองละลานตาสายหนึ่งสาดออกมา เป้าหมายคือเยี่ยนจ้าวเกอ

แม้ว่าเยี่ยนจ้าวเกอในตอนนี้จะอ่อนแอถึงขีดสุด ทว่าก็ยังควบคุมตราประทับตะวันมาขวางการโจมตีจากมงกุฎดาวรุ่งเกิดตะวันได้

กวนลี่เต๋อเห็นดังนั้นก็ยิ่งคับข้องเคียดแค้นยิ่งกว่าเดิม

ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึง ว่ายอดฝีมือในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายที่ยิ่งใหญ่อย่างตน จะถึงกับโดนเยี่ยนจ้าวเกอเล่นงานจนรู้สึกคับแค้นใจเพียงนี้

กระนั้นเขาในตอนนี้กลับไม่กล้ารั้งอยู่ต่ออีก

ปัจจุบันอาการบาดเจ็บของเขาสาหัสยิ่ง และอีกด้านหนึ่ง เยี่ยนตี๋ที่สังหารเสวียนเฉิงอ๋องแล้ว ก็กำลังเล่นงานนักพรตสืออยู่!

แม้ว่านอกจากค่ายกลฟ้าดินแผ่ขยาย นักพรตสือจะยังวางค่ายกลที่แข็งแกร่งอย่างอื่นได้อีก แต่ก็ไม่อาจต้านทานความคมกล้าอันยิ่งใหญ่ของเยี่ยนตี๋ได้

เมื่อไม่มีเต่าปูลูคอยปกป้อง นักพรตสือก็ยากจะแสดงพลังออกมา

เยี่ยนตี๋ก็กำลังจับตาดูสถานการณ์ต่อสู้ทางด้านเยี่ยนจ้าวเกออยู่เช่นกัน

หลังจากเล่นงานนักพรตสือด้วยหนึ่งดาบ เขาก็สูดหายใจลึก ร่างโถมขึ้นด้านบน เปลี่ยนที่กับเยี่ยนจ้าวเกอ จู่โจมใส่กวนลี่เต๋อ

สภาวะดาบต่อเนื่องไม่ขาดสาย ราวกับระลอกคลื่นไร้สิ้นสุด ทำให้กวนลี่เต๋อที่ได้รับบาดเจ็บหนักไม่อาจหนีรอด ได้แต่อาศัยมงกุฎดาวรุ่งเกิดตะวันเข้าปะทะ

อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงของเขาชิ้นนี้ ที่แล้วมาโจมตีแข็งแกร่งป้องกันอ่อนแอ ยามนี้ถูกเยี่ยนตี๋ยึดครองความได้เปรียบ จึงพลันถูกกดดันจนโงหัวไม่ขึ้น

เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะฮ่าๆ ก่อนจะสะบัดมือครั้งหนึ่ง โยนกระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้าออกไป

ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกรับกระบองไม้ไผ่ ก่อนจะฟาดใส่กวนลี่เต๋ออย่างไม่มีเกรงใจ!

กวนลี่เต๋อโกรธจนลมออกหู

ถึงร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกจะมีพลังจะด้อยกว่าเยี่ยนจ้าวเกอ ทว่ากระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้าในมือ กลับสัมผัสกับมงกุฎดาวรุ่งเกิดตะวันของเขาอย่างหักโหม

กวนลี่เต๋อได้รับบาดเจ็บหนักอยู่แล้ว ทั้งต้องเผชิญกับคมดาบของเยี่ยนตี๋ จึงได้แต่ต้องฝืนเข้าปะทะ

ในตอนนี้เขาไม่อาจอาศัยความปราดเปรียวของกระบวนท่าวรยุทธ์ของตัวเองรับมือ เพื่อให้มงกุฎดาวรุ่งเกิดตะวันหลบกระบองไม้ไผ่ของเยี่ยนจ้าวเกอได้เหมือนก่อนหน้า

เขาได้แต่มองดูมงกุฎดาวรุ่งเกิดตะวันของตัวเอง ถูกกระบองไม้ไผ่แปลกประหลาดท่อนนั้น ฟาดจนแสงดาวริบหรี่ลงไปตาปริบๆ

มงกุฎดาวรุ่งเกิดตะวันอันเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงยังพอว่า อต่อาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นกลางบนตัวเขา แค่ถูกกระบองไม้ไผ่ฟาดใส่ทีเดียวก็พังทลายในทันที!

แม้ว่าในตอนที่ผู้วิเศษเซิงตายก่อนหน้านี้ กวนลี่เต๋อจะรู้สึกแตกตื่นประหลาดใจเช่นกัน แต่ว่าก็ยังคงมั่นใจในพลังของตัวเอง

ถึงพลังของเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูกจะเหนือกว่าที่คาดไว้ ทว่าในสายตาของกวนลี่เต๋อ ผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดคือตนไม่อาจนำอาวุธเซียนที่ปรารถนาไปได้

นอกจากนี้แล้ว เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าจะยังมีผลลัพธ์อะไรอีก

ทว่าในตอนนี้ ยอดฝีมือระดับสุดยอดที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าผู้นี้ กลับสัมผัสได้ถึงการคุกคามจากความตายอย่างแท้จริง!

และยังมาจากสำนักที่ไม่มีแม้แต่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนแม้สักคน!

ในความทรงจำของกวนลี่เต๋อ ขุมกำลังเช่นนี้ สำหรับเขาแค่พลิกฝ่ามือก็ทำลายได้!

อย่างเช่นสำนักความมืดเป็นต้น

พวกเขาสืบทอดวิชาสายสำนักประกายกาฬมานานหลายปี ทว่ากลับถูกเขาทำลายสำนัก ถ้าไม่ใช่เพราะหลินฮั่นหัวสอดมือ ก็คงถูกเขาล้างสำนักไปแล้ว

กระนั้นในวันนี้กลับมาเตะใส่แผ่นเหล็กที่เขากว่างเฉิง

มงกุฎดาวรุ่งเกิดตะวันในที่สุดก็ถูกกระบองไม้ไผ่ของเยี่ยนจ้าวเกอฟาดกระเด็นออกไป

เยี่ยนตี๋ใช้หนึ่งดาบสะท้านฟ้าอีกครั้ง กวนลี่เต๋อที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่อาจต้านทาน แขนข้างหนึ่งถูกสะบั้น กระเด็นเฉียงๆ ขึ้นฟ้า!

กวนลี่เต๋อถลึงมองอย่างเคียดแค้น เห็นเยี่ยนจ้าวเกอพุ่งลงไปด้านล่างตั้งแต่แรก กลับเข้าไปในค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลาย

ตอนนี้เยี่ยนจ้าวเกอกำลังปรับลมหายใจ ฟื้นปราณกำเนิดอย่างสบายใจ โดยมีทุกคนคอยคุ้มครอง

เมื่อเห็นกวนลี่เต๋อมองมา เยี่ยนจ้าวเกอจึงโบกมือให้เขาอย่างขบขันไปพลาง หัวเราะเหอะๆ ไปพลาง พร้อมกับเอ่ยว่า “ผู้อาวุโสท่านนี้ ดูจากความสามารถของท่านแล้ว ต่อให้ข้ามอบอาวุธเซียนให้ ท่านก็รักษาไว้ได้ไม่นาน ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็เอาเก็บไว้ที่ข้าก่อนแล้วกัน”

………………..

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านเรื่อง ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีชายหนุ่มข้ามมิติกาลเวลาครั้งแรกมาสู่ยุคสมัยที่อารยธรรมวรยุทธ์รุ่งเรืองจนถึงที่สุด มุมานะศึกษาและฝึกฝนคัมภีร์สุดยอดวิชาที่เก็บรวบรวมไว้ในวังเทพมากมาย แต่แล้วยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ก็ต้องพบพานกับวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายจนหมดสิ้น ทว่าชายหนุ่มผู้นั้นก็พาตนเองและสมองที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ของสุดยอดวิชา ข้ามมิติกาลเวลาอีกครั้งไปสู่ยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยนี้มีสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขัดใจยิ่งนัก นั่นก็คือทุกอย่างช่างง่ายดายไปเสียหมด จนทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสี่คุณชายแห่งยุค เหนือกว่าจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ผู้ใดในบรรดาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในเวลาชั่วพริบตา กระนั้น แม้เขาจะยอดเยี่ยมอย่างไร เป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสต่อศิษย์น้องในสำนักเพียงใด มีชื่อเสียงขจรไกลไปถึงหนแห่งไหน สุดท้ายแล้วก็ยังมีคนปากกล้าและอวดดี กังขาในความสามารถของเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จักเจียมตัวก็แล้วไปเถอะ แต่จะหาเรื่องคนที่มีพลังแก่กล้ากว่าตนอยู่อักโขเช่นนี้ ก็คงต้องประมือกันสักตั้งแล้ว “หากชอบรนหาที่ตายนัก ข้าจะสนองให้พวกเจ้าเอง!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset