“อยู่ร่วมกับฟ้า?”
เยี่ยนจ้าวเกอทวนคำสี่คำนี้ อดกล่าวด้วยรอยยิ้มไม่ได้ว่า “เช่นนั้นยอดฝีมือระดับจักรพรรดิสายโถงเซียนสมควรเป็นเหมือนกัน มีส่วนร่วมในการบูชาจากพลังศรัทธาเช่นกัน อีกทั้งยังน่าจะมากกว่าท่านด้วย”
“จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับประมุขอย่างท่าน เป็นมาตรฐานต่ำสุดที่ร่วมเสพบารมีของการอยู่ร่วมกับฟ้านี้หรือ”
สีหน้าของประมุขอาทิตย์ไร้ประมาณเผยหัวในตอนนี้เปลี่ยนเป็นสงบนิ่งอีกครั้ง
แสงอาทิตย์สีทองสาดส่อง เหมือนกับคลุมผ้าบางๆ ลงบนใบหน้าของเขา
เผยหัวเอ่ยอย่างแช่มช้า “นี่เป็นสิ่งที่เจ้าเพิ่งอนุมานออกมาหรือ”
เยี่ยนจ้าวเกอแบมือ “ข้าพึ่งทราบถึงการดำรงอยู่ของโถงเซียนมาได้แค่สองวัน ก่อนหน้านี้แม้ว่าจะเคยสัมผัสศาสนาพุทธมาแล้ว แต่ก็เข้าใจไม่มากนัก”
“จะว่าไปข้ากำลังคิดสืบหาอยู่พอดีว่า ในด้านนี้ทางศาสนาพุทธเหมือนกับพวกท่านหรือไม่”
แม้ว่าศาสนาพุทธจะอยู่มาตั้งแต่ก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ และเยี่ยนจ้าวเกอเองก็ทราบว่าหลักคำสอนของพระศรีอาริย์มีแนวคิดอย่างไร แต่รายละเอียดอย่างเป็นรูปธรรมที่เขารู้ก็มีค่อนข้างจำกัด
เผยหัวไม่ยอมรับและไม่ปฏิเสธ เขามองเยี่ยนจ้าวเกอเงียบๆ “เจ้ารู้มากแล้ว”
เยี่ยนจ้าวเกอเบะปาก “สำหรับข้า ท่านก็รู้มากเช่นกัน”
เขามองที่ที่หยางชงหายไป และมองบริเวณที่ตนสังหารซ่างจวินเมื่อครู่ “มากกว่าซ่างจวินที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปดเกินไป”
“ท่านแตกต่างกับพวกเขาโดยสิ้นเชิง”
ชายหนุ่มใช้สายตาที่แปลกประหลาดยิ่งชนิดหนึ่งพิจารณาเผยหัว “ท่านสมควรเข้าใจความแตกต่างการสืบทอดสายทอดโถงเซียน และเต๋าหลักสายสามพิสุทธิ์จริงๆ กระมัง”
“เป็นเพราะการสั่งสมของสำนัก จักรพรรดิในอดีตของสำนักท่านได้ทิ้งข้อความไว้ ท่านจึงรู้เรื่องตั้งแต่ต้นใช่หรือไม่”
“หรือว่าในตอนที่จอมยุทธ์โถงเซียนอย่างพวกท่านก้าวสู่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสิบ ขั้นประมุขในหมู่มนุษย์…อืม ในตอนที่ท่านมีคุณสมบัติ ‘อยู่ร่วมกับฟ้า’ ตามที่ท่านว่า ท่านก็มีโอกาสในเห็นความจริงแล้วใช่หรือไม่”
เยี่ยนจ้าวเกอมองเผยหัวด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เผยหัวมีสีหน้าเรียบเฉย “อยากได้สิ่งใดมา ก็จำเป็นต้องจ่ายออกไป ลูกศิษย์จากเต๋านอกรีตอย่างพวกเจ้าย่อมต้องยึดถือหลักการเดียวกัน เพียงแต่ว่าสิ่งที่ต้องจ่ายไม่เหมือนกันก็เท่านั้น”
“เทียบกันแล้ว แม้พวกเจ้าจะจ่ายไปก็ใช่ว่าจะได้อะไรตอบแทนมา พวกข้าขอแค่ศรัทธาในเต๋า สวรรค์ก็จะดูแลพวกข้าแล้ว”
“กฎของพวกเรายุติธรรมกว่าของพวกเจ้ามาก”
เผยหัวกวาดสายตามองเยี่ยนจ้าวเกอและฟู่ถิง “สำหรับข้า นี่คือทางสายหลัก”
เยี่ยนจ้าวเกอว่า “หลักการในหลักคำสอน การปฏิบัติตนของจอมยุทธ์ และผลลัพธ์ที่จะได้มาของพวกท่าน รวมถึงพระศรีอาริย์ ต่างได้รับผลกระทบจากพรสวรรค์เช่นเดียวกัน”
“แม้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับท่านคือจิตที่ศรัทธาในพุทธหรือเต๋า พรสวรรค์และสติปัญญาอยู่รองลงไป แต่ความจริงที่ไม่อาจไม่ยอมรับก็คือ ตราบใดที่บูชาพลังศรัทธาคล้ายกัน ยังคงเป็นคุณสมบัติและสติปัญญายิ่งสูงเท่าไร ก็ยิ่งเดินไปสู่จุดสูงสุดที่สูงกว่าเดิมได้ง่ายเท่านั้น”
ชายหนุ่มมองเผยหัว “อย่างเช่นท่านมีพรสวรรค์และความสามารถเหนือกว่างซ่างจวินและหยางชง”
เผยหัวกล่าวอย่างเฉยชา “เช่นนั้นแล้วอย่างไร”
เขามองเยี่ยนจ้าวเกอ จากนั้นก็มองฟู่ถิง “ข้าดูออกว่าพวกเจ้าสองคนเป็นอัจฉริยะสะท้านโลกที่มีความสามารถน่าทึ่ง มีพรสวรรค์เหนือใคร เป็นคนเก่งกาจในหมู่คนเก่งกาจ”
“จอมยุทธ์ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า ขั้นเทวะสำแดงระยะกลางสองคน สามารถสังหารซ่างจวินที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ขั้นสะพานเซียนระยะกลางได้ หากเป็นตอนที่ข้าอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นห้า ย่อมทำไม่ได้แน่”
“จอมยุทธ์จากเต๋านอกรีตอย่างพวกเจ้า ตามปกติแล้วหากอยู่ในระดับเดียวกันจะเหนือกว่าเต๋าหลักโถงเซียนอย่างพวกเรา ส่วนพวกเจ้าสองคนก็เหนือกว่าคนรุ่นเดียวกันในเต๋านอกรีต”
“แต่ว่า…” เผยหัวยกฝ่ามือข้างหนึ่งของตัวเองขึ้นอย่างเนิบนาบ “ในตอนนี้ เมื่ออยู่ต่อหน้าข้า ต่อให้พวกเจ้าโดดเด่นปานใด ก็ไม่มีประโยชน์ทั้งสิ้น”
ใจกลางฝ่ามือของเผยหัวมีแสงอาทิตย์สีทองพร่างพราวผนึกตัว ละลานตาเหลือประมาณ “เพราะข้ามีระดับสูงกว่าพวกเจ้าเกินไป”
“ข้ายอมรับว่าข้าน่าจะสู้จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ระดับประมุขในเต๋านอกรีตของเจ้าไม่ได้ แต่ว่าเส้นทางหลักของข้าก็มีจักรพรรดิเซียนจริงแท้ที่จะสยบพวกเขา”
สีหน้าของเผยหัวพลันซับซ้อนเล็กน้อย “ส่วนจักรพรรดิจากเต๋านอกรีตของพวกเจ้า ก็จะถูกยอดฝีมือที่ได้ฉายากษัตริย์ในเต๋าหลักของข้าจัดการ”
ขณะที่พูด เผยหัวก็ค่อยๆ ผลักฝ่ามือออก
พลังดวงอาทิตย์ที่ร้อนแรงแข็งแกร่ง ครอบคลุมท้องฟ้า ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่ถิงรู้สึกเหมือนอวัยวะภายในถูกเผาแทบจะพร้อมกัน
เยี่ยนจ้าวเกอสูดหายใจลึก อวัยวะภายในทั้งห้าส่องแสง เหมือนกับเทพห้าองค์ยืนตระหง่าน
ห้าปัญจธาตุทำงาน พลังหนุนเนื่องไม่ขาดสาย แสงห้าสีห่อหุ้มทั่วร่าง
รอบตัวฟู่ถิงมีสายเมฆสีม่วงหลายสายลอยวน นางใช้ร่างสสารกำเนิดไร้ประมาณ หนึ่งในวิชาห้าแรกเริ่มกำเนิด
สายเมฆสีม่วงถูกแสงอาทิตย์สีทองลบเลือน แต่ก็เกิดใหม่ในทันที ไม่เพิ่มไม่ลด คล้ายกับไร้ที่สิ้นสุด
ทว่าฝ่ามือนี้ของเผยหัว กลับมีพลังมากกว่าการลงมือเมื่อครู่
ครั้นแสงอาทิตย์สีทองไปถึง ร่างมหาเซียนปัญจธาตุของเยี่ยนจ้าวเกอ กับร่างสสารกำเนิดไร้ประมาณของฟู่ถิง ก็เริ่มปรากฏเค้าลางแห่งความปั่นป่วน
ถึงอย่างไรทั้งสองฝ่ายก็มีความแตกต่างด้านระดับพลังมากเกินไป
เฉวียนฮ่าวหลงที่อยู่ด้านข้างเยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่ถิง อดตะลึงลานในตอนที่หยางชงตายเมื่อครู่ไม่ได้
ครั้งนี้เขาอยู่ในการครอบคลุมของดวงอาทิตย์สีทองเช่นกัน ทั่วสรรพางค์กายของเขาสั่นไหวไปหมด ขณะเดียวกันก็มองเผยหัว ผู้ปกครองแดนเซียนปลดปลงที่เคยอยู่ในความทรงจำของเขาด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ
แม้ว่าจะเป็นจอมยุทธ์ที่มาจากโถงเซียน แต่เมื่อฝึกฝนถึงระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามได้ ไหนเลยจะเป็นคนโง่งมได้
เพราะว่าสรรเสริญบูชามาตั้งแต่เล็ก เขาจึงไม่เคยสงสัยในตัวเทวกษัตริย์ไร้ประมาณและโถงเซียนมาก่อน
ถ้าหากว่าเผยหัวสังหารหยางชงตายในฝ่ามือเดียว เฉวียนฮ่าวหลงอย่างมากก็แค่ปวดใจ รู้สึกสงสารหยางชงเท่านั้น
แต่ว่าเมื่อครู่ พลังของเผยหัวไม่ได้กระทบถูกหยางชงแม้แต่ส่วนเดียว
แสงในร่างหยางชงถึงกับไม่รับการควบคุมจากตัวเขา แต่กลับถูกเผยหัวควบคุม
หยางชงตายเพราะถูกบังคับให้กลายเป็นรุ้งโดยที่เขาไม่ได้ยินยอม!
พอเห็นเหตุการณ์นี้ เฉวียนฮ่าวหลงก็อดอ้าปากตาข้าง สยิวกายขึ้นมาไม่ได้
ไม่ว่าเผยหัวจะใช้วิธีไหนสังหารหยางชง แม้ว่าจะเป็นการวางยาลอบสังหาร เฉวียนฮ่าวหลงยังไม่แตกตื่นหวาดกลัวเท่าตอนนี้
ขณะที่มองดูหยางชงตายไป ต่อให้เฉวียนฮ่าวหลงโง่งมกว่านี้ ก็ต้องนึกเชื่อมโยงถึงตัวเอง
สีหน้าของเขาทั้งแตกตื่นหวาดกลัว ทั้งสับสนงงงวย ดวงตาเต็มไปด้วยความปั่นป่วน
แสงที่ตอนแรกบริสุทธิ์และสว่างไสวในร่างของเขาเปลี่ยนเป็นไม่มั่นคง กะพริบอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมา
เมื่อแสงนั้นสูญเสียสมดุล ญาณจริงแท้และกลิ่นอายทั่วร่างของเฉวียนฮ่าวหลงก็เปลี่ยนเป็นอ่อนแอในทันที ชัดเจนจนเยี่ยนจ้าวเกอกับฟู่ถิงที่อยู่ด้านข้างยังรู้สึกได้
เผยหัวมองเขาอย่างเรียบเฉย “เจ้าก็ไม่ต้องอยู่แล้วเช่นกัน”
พลังฝ่ามือแม้จะกระทบถูกเฉวียนฮ่าวหลง แต่เมื่อแสงในร่างของเฉวียนฮ่าวหลงเสียสมดุล ก็กลายเป็นรุ้งในทันที
ไม่รอตายด้วยฝ่ามือของเผยหัว ก็ตามรอยหยางชงไป!
เยี่ยนจ้าวเกอเลิกคิ้วเล็กน้อย “ความสามารถเช่นนี้ใช้ได้กับแค่จอมยุทธ์โถงเซียนที่ทรยศไปแล้ว ถ้าหากอีกฝ่ายยังคงศรัทธา แสงยังมั่นคง ก็ไม่อาจแสดงผลได้กระมัง”
แม้ว่าพลังฝ่ามือของเผยหัวจะนำมาซึ่งแรงกดดันมากมาย แต่ว่าสีหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอยังคงเยือกเย็นเหมือนปกติ ถึงขั้นที่มีเวลาถามว่า “เมื่อครู่ท่านกล่าวว่า สามารถชำระล้างหยางชงได้ใหม่ เช่นนั้นสำหรับเฉวียนฮ่าวหลงผู้นี้ก็สมควรทำได้เช่นกันใช่หรือไม่
เผยหัวมองเยี่ยนจ้าวเกอและฟู่ถิง “เทียบกับเขาแล้ว ข้ายินดีชำระล้างพวกเจ้าสองคนมากกว่า”
“คนที่มีพรสวรรค์ล้ำเลิศเช่นพวกเจ้า ถ้าหากว่าสามารถกลับจากทางมารมายังเส้นทางหลัก ศรัทธาในมรรคาแห่งเต๋าได้ จะต้องเป็นคุณูปการที่ยิ่งใหญ่ของข้าแน่”
………………..