ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี – บทที่ 977 สังหารมังกรเขียว

เยี่ยนจ้าวเกอสังหารมังกรก่อน จากนั้นค่อยฟันทะเลด้วยกระบี่เดียว

ประกายคมสีม่วงช้ำจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากในร่างของมังกรเขียว เหมือนกับโลหิตมังกรสาดกระเซ็น

เลือดมังกรย้อมจิตกระบี่ แก่นชีวิตอันโชติช่วงล้วนกลายเป็นปราณทำลายล้าง ก่อเกิดเป็นบุปผากระบี่ที่โหดเหี้ยมสุดเปรียบปาน เต็มไปด้วยจิตสังหาร

บุปผากระบี่นี้ทำลายสรรพสิ่ง ดุร้ายและเหี้ยมเกรียมถึงขีดสุด ทำลายประกายกระบี่ทะเลม่วงของจ้าวเจินอย่างหักโหม!

‘นี่เป็นวิชากระบี่อะไร สี่กระบี่รัตนา วิชากระบี่เหนือพิสุทธิ์หรือ ไม่ถูกต้อง!’ จ้าวเจินแตกตื่น เห็นประกายกระบี่ที่น่าสะพรึงกลัวทำลายสภาวะกระบี่ของเขา กำลังพุ่งมาหาตัวเขาและกระบี่ทะเลม่วง

เขาไม่กล้าเพิกเฉย ถอนกระบี่ถอยหลัง ป้องกันตัวเองก่อน

ประกายกระบี่ที่น่าพรั่นพรึงสีม่วงช้ำรุกคืบไม่หยุด ทำลายปราณกระบี่ทะเลม่วงทีละชั้น กดดันให้จ้าวเจินถอยต่อ

จอมยุทธิ์ทิศใต้เห็นดังนั้นก็ตื่นตระหนกกว่าเดิม

ที่แล้วมาจ้าวเจินมือกระบี่คลื่นม่วงได้ชื่อว่าเป็นมือกระบี่อันดับหนึ่งในภาคตะวันออกของเขตเพลิงทักษิณ โลดแล่นบนทะเลเจิดจ้าไร้ผู้ต่อต้าน

แต่ว่าในตอนนี้กลับใช้กระบี่สู้เยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ในขั้นเทวะสำแดงไม่ได้!

เยี่ยนจ้าวขณะที่ใช้หนึ่งกระบี่กดดันจ้าวเจินให้ถอยหลัง อีกมือหนึ่งก็ไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย รอยตราพลิกนภาร่วงหล่นจากท้องนภา พุ่งใส่นักพรตตงเฉวียน

หยวนเสี่ยนเฉิงจากเนินต้นจักรพรรดิยามนี้ในที่สุดก็นั่งไม่ติดที่อีกต่อไป

เงาแสงหงส์เพลิงในม่านตาทั้งสองข้างของเขาบินออกมา!

มันกลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้ หงส์เพลิงอมตะบินวนอยู่รอบๆ หยวนเสี่ยนเฉิง

แสงม่วงบารมีกับคลื่นบุญบารมีแยกกันปรากฏขึ้นบนตัวหงส์เพลิงสองตัวนั้น สองสิ่งต่างเวียนวน ก่อนจะห้อมล้อมหยวนเสี่ยนเฉิงเอาไว้

บนร่างของหยวนเสี่ยนเฉิงมีเปลวเพลิงผุดขึ้นมา ครอบคลุมทั่วร่าง กลายเป็นหงส์เพลิงตัวหนึ่ง

ปราณขาวกุศลซ่อนและปฐพีอานิสงส์โผล่ขึ้นมาพร้อมกัน

สี่จริยะหนุนนำร่าง!

หยวนเสี่ยนเฉิง ‘เนตรหงส์’ เคยได้รับวาสนายิ่งใหญ่ หลอมดวงตาสองข้างของตัวเองเป็นหงส์เพลิงสองตัว แต่ละตัวครอบครองหนึ่งจริยะ

นี่ทำให้เขามีสี่จริยะหนุนร่างตั้งแต่ตอนเป็นเพียงจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดง บัดนั้นเขาอายุน้อยยิ่ง ขนาดประมุขทักษิณจวงเซินก็ยังทำไม่ได้!

เขาเป็นจอมยุทธ์เพียงหนึ่งเดียวที่พลังฝึกปรือยังไม่เลื่อนไปอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้าย ทว่าก็มีสี่จริยะหนุนเสริมร่างแล้ว

หลังจากพลังฝึกปรือยิ่งมายิ่งสูงขึ้น การฝึกฝนม้วนคัมภีร์ร่างหงส์เพลิงและการหลอมจิตจริงแท้ห้าจริยะของเขา จะมีการสั่งสมมากกว่าและง่ายดายกว่าจอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิด้วยกัน

ถึงแม้ว่าจวงเจาฮุยจะเป็นบุตรของประมุขทักษิณจวงเซิน แต่ผู้คนต่างยอมรับว่าหยวนเสี่ยนเฉิง ลูกศิษย์แห่งเนินต้นจักรพรรดิต่างหาก ถึงเป็นคนที่ได้รับการถ่ายทอดจากจวงเซินอย่างแท้จริงที่สุด

คลื่นบุญบารมี สรรพวิชาไม่อาจกล้ำกราย

ปฐพีอานิสงส์ เสริมฟ้าสืบเต๋า

แสงม่วงบารมี รอดพ้นจากภัยพิบัติ

ปราณขาวกุศลซ่อน พลังชีวิตไม่ขาดสะบั้น

หยวนเสี่ยนเฉิงลงมือทันเวลา ฝืนต้านรับรอยตราพลิกนภาของเยี่ยนจ้าวเกอแทนนักพรตตงเฉวียน!

อานุภาพการพังทลายของท้องฟ้าสั่นสะเทือนอดีตส่องสว่างปัจจุบัน แต่ถึงอย่างไรหยวนเสี่ยนเฉิงก็มีพลังฝึกปรือสูงกว่า อีกทั้งยังมีสี่จริยะ พลังป้องกันจึงน่าตระหนก ถึงกับต้านทานรอยตราพลิกนภาของเยี่ยนจ้าวเกอได้

“ฮ่าๆ ได้ยินมิสู้พบพาน หยวนเสี่ยนเฉิง ‘เนตรหงส์’ มีชื่อเสียงสมคำร่ำลือ” เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะฮ่าๆ “รับกระบี่ของข้าดู”

เยี่ยนจ้าวเกอหันคมกระบี่ของกระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อนในมือ มันกลายเป็นมังกรเขียวอีกครั้ง ก่อนจะพุ่งเข้าใส่หยวนเสี่ยนเฉิง

มังกรเขียวกับหงส์เพลิงปะทะกันกลางอากาศ หงส์เพลิงมีสี่จริยะหนุนเสริม มังกรเขียวจึงทำอะไรไม่ได้

กระนั้นในตอนนี้เอง เหมือนกับมีกระบี่ไร้รูปร่างบังเกิดขึ้นจากด้านในร่างของมังกรเขียว สังหารมังกรเขียวอีกครั้ง!

ประกายคมสีม่วงช้ำระเบิดจากด้านในร่างมังกรเขียว จิตสังหารเด็ดขาด โหดเหี้ยมไร้ขอบเขต

แม้นจะเป็นหงส์เพลิงที่มีสี่จริยะอยู่บนร่าง มีพลังชีวิตไร้สิ้นสุด ตอนนี้พอเผชิญกับประกายกระบี่สีม่วงช้ำที่เหมือนกับโลหิตมังกร ก็เริ่มรับไม่ไหวอยู่บ้าง!

สังหารมังกรเขียว วรยุทธ์มรรคากระบี่ที่เยี่ยนจ้าวเกอสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง!

หลายปีมานี้ เยี่ยนจ้าวเกอฝึกฝนสามพิสุทธิ์ร่วมกัน ศึกษาวรยุทธ์มรรคากระบี่สายเหนือพิสุทธิ์ ได้รับสิ่งต่างๆ มากมาย

ก่อนหน้านี้ยังได้ประโยชน์จากด้านในอารามเอกนิกาย หลังจากกลับโลกซ้อนโลกแล้ว ตลอดทางที่เข่นฆ่าจากเทือกเขายาวเหยียดมาถึงเทือกเขาสันติภาพ จิตกระบี่ก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นสิ่งใหม่

หลายปีมานี้เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้ใช้สภาวะของกระบี่มังกรเขียวในแขนเสื้อ ที่ศึกษาตั้งแต่ช่วงปีแรกๆ อีกแล้ว

แต่ว่าไม่นานมานี้ เขาก็เกิดความคิดใหม่

เยี่ยนจ้าวเกอใช้สภาวะกระบี่มังกรเขียวในแขนเสื้อเป็นหนึ่งในสารอาหาร ผสมเข้าไปในท่ากระบี่ที่ตนคิดขึ้นใหม่

ใช้คัมภีร์นภารังสรรค์ชีวิตหล่อเลี้ยงมังกรเขียว จากนั้นก็ใช้กระบี่สายเหนือพิสุทธิ์สังหารมังกรเขียว เปลี่ยนชีวิตเป็นความตายในชั่วพริบตา ให้กำเนิดกระบี่แห่งการทำลายล้าง

การศึกษาวิชากระบี่กลับแตกต่างกับมรรคากระบี่สายเหนือพิสุทธิ์

กระบี่สายเหนือพิสุทธิ์ไม่ปรากฏภายนอก กลับกลายเป็นกระบี่ทำลายล้างที่เป็นกระบวนท่าสายหยกพิสุทธิ์ และสายเอกพิสุทธิ์

นี่เป็นมรรคผลจากการฝึกฝนสามพิสุทธิ์ร่วมกัน และการศึกษาทั้งกลางวันและกลางคืนของเยี่ยนจ้าวเกอ คนอื่นๆ ยากเลียนแบบ เป็นมรรคากระบี่ที่เป็นของเขาเพียงคนเดียว ไม่เคยมีที่ใดมาก่อน

ท่าสังหารมังกรเขียวเพียงท่าเดียวก็แทบจะทำลายสรรพสิ่งจนหมดสิ้น

กระบี่ทะเลม่วงของจ้าวเจินยังพอทำเนา ญาณจริงแท้ซึ่งมีพลังชีวิตเปี่ยมล้นของหยวนเสี่ยนเฉิง ถูกท่าสังหารมังกรเขียวของเยี่ยนจ้าวเกอกดข่มในระดับหนึ่งพอดี!

ดังนั้นกระบี่นี้พอสังหารมังกรเขียวเสร็จ ก็สังหารหงส์เพลิงต่อทันที

หยวนเสี่ยนเฉิงครางหนักๆ คำหนึ่ง ร่างถูกกดดัน โซเซไปด้านหลัง

“หยุดโอหังได้แล้ว!” จ้าวเจินเห็นดังนั้นก็รีบโจมตีใส่อีก

ขณะที่หัวเราะอยู่นั้น เยี่ยนจ้าวเกอก็ยังคงใช้คมกระบี่กดดันหยวนเสี่ยนเฉิงไม่หยุด

พร้อมกันนั้นเขาชักอีกมือหนึ่งกลับมา แล้วทิ่มนิ้วออกเบาๆ ปราณหยินหยางสองสายกลางอากาศไหลเวียน เคลื่อนย้ายมหามรรคา

ภายใต้ผลของดัชนีหยินหยาง ปราณกระบี่ทะเลม่วงที่ยิ่งใหญ่นั้นเปลี่ยนทิศอย่างฉับพลัน กลับโจมตีใส่นักพรตตงเฉวียนแทน!

นักพรตตงเฉวียนที่เพิ่งจะได้ผ่อนคลายพลันหน้าเปลี่ยนสี รีบร้อนกระโดดปราดหลบหลีก

หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอใช้หนึ่งกระบี่กดดันหยวนเสี่ยนเฉิงให้ถอยเสร็จ ก็ใช้ออกอีกหนึ่งกระบี่ เป้าหมายคือนักพรตตงเฉวียน

ทะเลม่วงพลิกตัว คลื่นทะเลซัดโหม มังกรเขียวตัวหนึ่งบินทะยานอยู่ด้านใน โจมตีนักพรตตงเฉวียนพร้อมกัน

นักพรตตงเฉวียนแทบจะสิ้นหวัง

เขาได้แต่ผลักดันฝ่ามือยันต์แปดทิศวนฟ้าถึงขีดสุด วูบไหวหลบหลีก เหมือนกับเรือน้อยในทะเลคลั่งที่พร้อมจะถึงกาลพินาศตลอดเวลา

หยวนเสี่ยนเฉิงพอตั้งหลักได้ สีหน้าก็เคร่งขรึมอย่างไม่เคยมีมาก่อน โบกสองแขน หงส์เพลิงสยายปีก ปีกเปลวเพลิงกลายเป็นดาบสองเล่ม ฟันใส่เยี่ยนจ้าวเกอพร้อมกัน

แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอทิ่มดัชนีหยินหยางออกไปอีกครั้ง เป้าหมายของดาบเปลวเพลิงสองเล่มกลายเป็นจ้าวเจิน

ชั่วขณะนั้น บนยอดเขามหาวิญญาณมีทั้งทะเลม่วงซัดกระหน่ำ ยันต์แปดทิศเวียนวน หงส์เพลิงกางปีก

จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนสามคนรุมเยี่ยนจ้าวเกอ ใช้กระบวนท่าพร้อมกัน กลุ้มรุมเขาไม่หยุดราวกับโคมม้าวิ่ง

แต่ว่าเยี่ยนจ้าวเกอกางสองแขน มือหนึ่งใช้วิชาสังหารมังกรเขียว มือหนึ่งใช้ดัชนีหยินหยางตามใจนึก กลับเล่นงานจนพวกหยวนเสี่ยนเฉิงจนเหน็ดเหนื่อยแทบขาดใจ

หยวนเสี่ยนเฉิงใบหน้าชรามากขึ้น หลังยิ่งมายิ่งงอ พลังชีวิตกำลังเลือนหายไปไม่หยุด

แม้จะเป็นยอดฝีมือที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนจำนวนมาก ก็ไม่แน่ว่าจะทำร้ายหยวนเสี่ยนเฉิงที่มีสี่จริยะอยู่ด้วยกันได้

แต่ว่าพอเผชิญหน้ากับวิชาสังหารมังกรเขียวของเยี่ยนจ้าวเกอ เพลิงแห่งชีวิตของหงส์เพลิงที่ทระนงผู้นี้ก็เริ่มร่อยหรอลงเรื่อยๆ!

เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะร่า ตราประทับตะวันร่วงหล่นลง พุ่งใส่จ้าวเจิน

นักพรตตงเฉวียนพอเห็นตราประทับตะวันก็หยุดสะกดค่ายกลสำนักของตัวเอง รีบร้อนรวมพลังค่ายกลมาคุ้มครองร่าง พร้อมกับโจมตีเยี่ยนจ้าวเกอไปด้วย

ทว่าเขาในตอนนี้ได้รับบาดเจ็บ จึงไม่สะดวกในการเหนี่ยวนำพลังของค่ายกล

เยี่ยนจ้าวเกอรู้จักทัศนะยันต์แปดทิศสยบมังกรดี อีกทั้งระดับความรู้ในเรื่องค่ายกลยังเหนือกว่านักพรตตงเฉวียน

เขาสืบเท้าออกก้าวหนึ่ง เหยียบลงบนฐานการเปลี่ยนแปลงของค่ายกลเขามหาวิญญาณ

ดัชนีหยินหยางพอบรรลุถึง ก็พลันเหนี่ยวนำพลังฝ่ามือของนักพรตตงเฉวียนและพลังในค่ายกลคุ้มครองสำนัก จากนั้นก็เปลี่ยนมาโจมตีหยวนเสี่ยนเฉิง

พร้อมกันนั้น เยี่ยนจ้าวเกอก็ใช้กระบี่สังหารมังกรอีกครั้ง!

พลังที่ยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงโจมตีพร้อมกัน ร่างหงส์เพลิงของหยวนเสี่ยนเฉิงในที่สุดก็รับไม่ไหวโดยสิ้นเชิง!

………………..

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

Score 7.9
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านเรื่อง ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีชายหนุ่มข้ามมิติกาลเวลาครั้งแรกมาสู่ยุคสมัยที่อารยธรรมวรยุทธ์รุ่งเรืองจนถึงที่สุด มุมานะศึกษาและฝึกฝนคัมภีร์สุดยอดวิชาที่เก็บรวบรวมไว้ในวังเทพมากมาย แต่แล้วยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ก็ต้องพบพานกับวิกฤติการณ์ครั้งใหญ่ ทุกสิ่งทุกอย่างพังทลายจนหมดสิ้น ทว่าชายหนุ่มผู้นั้นก็พาตนเองและสมองที่เปี่ยมไปด้วยความรู้ของสุดยอดวิชา ข้ามมิติกาลเวลาอีกครั้งไปสู่ยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยนี้มีสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขัดใจยิ่งนัก นั่นก็คือทุกอย่างช่างง่ายดายไปเสียหมด จนทำให้เขาได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสี่คุณชายแห่งยุค เหนือกว่าจอมยุทธ์รุ่นเยาว์ผู้ใดในบรรดาดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในเวลาชั่วพริบตา กระนั้น แม้เขาจะยอดเยี่ยมอย่างไร เป็นที่น่าเคารพเลื่อมใสต่อศิษย์น้องในสำนักเพียงใด มีชื่อเสียงขจรไกลไปถึงหนแห่งไหน สุดท้ายแล้วก็ยังมีคนปากกล้าและอวดดี กังขาในความสามารถของเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่รู้จักเจียมตัวก็แล้วไปเถอะ แต่จะหาเรื่องคนที่มีพลังแก่กล้ากว่าตนอยู่อักโขเช่นนี้ ก็คงต้องประมือกันสักตั้งแล้ว “หากชอบรนหาที่ตายนัก ข้าจะสนองให้พวกเจ้าเอง!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset