ยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายจัดการคู่ต่อสู้ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก ขั้นเทวะสำแดงระยะท้ายไม่ได้ยังพอทำเนา
ทว่าสุดท้ายยังถูกอีกฝ่ายใช้สภาวะโจมตีสะกดไว้ โดนกดดันจนได้แต่ตั้งรับสุดกำลัง
ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะมีความได้เปรียบด้านศาสตราวุธ แต่วความแตกต่างในด้านระดับของทั้งสองฝ่ายมีมากมายถึงเพียงนี้ จางซู่เหรินจึงรู้สึกขายหน้าถึงขีดสุด
โดยเฉพาะเยี่ยนจ้าวเกอ ในฐานะจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดง ยิ่งไม่อาจแสดงอานุภาพของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงออกมาได้ทั้งหมด
และสิ่งที่สร้างความตกตะลึงให้แก่ผู้คนมากกว่าก็คือ นี่คือเขาจางซู่เหริน ‘ต้นจักรพรรดิสะกดภูผา’
ยังไม่เอ่ยถึงใช้ฝ่ามือเทพต้นจักรพรรดิป้องกันสุดกำลัง แค่สี่จริยะหนุนเสริมร่าง พลังป้องกันก็แข็งแกร่งถึงขีดสุดแล้ว
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น จะต้านทานสภาวะโจมตีที่ดุดันของเยี่ยนจ้าวเกอได้หรือไม่ ก็ยังไม่แน่นัก
แต่ว่านอกจากนี้แล้ว เขาในฐานะจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนระยะท้าย แม้ใช้วิธีต่อสู้ยืดเยื้อและฝีมือทั้งหมดรับมือกับคนรุ่นหลานที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก กลับยังไม่มีความมั่นใจ
ถึงยากจะบอกข้อเท็จจริง แต่จางซู่เหรินรู้ดีว่าเยี่ยนจ้าวเกอที่ครอบครองวรยุทธ์ระดับสุดยอดหลายชนิด ไม่กลัวการต่อสู้ยืดเยื้อกับเขาจริงๆ
นอกจากนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวของเยี่ยนจ้าวเกอยังเป็นของล้ำค่า จางซู่เหรินจึงยิ่งไม่มั่นใจกว่าเดิม
ผู้ใดหาทราบไม่ว่าจะชายหนุ่มยังมีของวิเศษอย่างอื่น หรือมีความสามารถอย่างอื่นอีกหรือไม่
จริงอยู่ที่พวกเผิงเฮ่อ ‘ราชาอัคคี’ ที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้ากำลังไล่ตามเยี่ยนจ้าวเกออยู่ มุ่งหน้ามายังบริเวณทางตะวันออกของเขตเพลิงทักษิณด้วยความเร็วสูง
หากจางซู่เหรินถ่วงเวลาถึงตอนนั้นได้ โจมตีกระหนาบหน้าหลัง เยี่ยนจ้าวเกอก็ยากจะหนีเอาชีวิตรอด
กระนั้นจางซู่เหรินไม่อาจไม่สนใจปัญหาอีกอย่างหนึ่ง
หน้าที่ในตอนแรกของเขาคือการสะกดเขารอบวง ป้องกันยอดฝีมือระดับสุดยอดของเขตตะวันอาคเนย์ที่อยู่อีกด้านหนึ่ง
ตอนนั้นเขาผละจากเขารอบวงมายังเทือกเขาสันติภาพ ในระดับหนึ่งพูดได้ว่าเป็นการละทิ้งหน้าที่ป้องกัน
หากใช้เวลาสั้นๆ ก็แล้วกันไป แต่ถ้ายืดเยื้อนานขึ้น ยอดฝีมือทางตะวันออกเฉียงใต้อาจพบว่าเขาไม่อยู่
ถึงเวลานั้นเขารอบวงจะว่างเปล่า คนที่อยู่อีกฝั่งสามารถทะลวงด่านเข้ามาได้
แม้นว่าก่อนหน้านี้พวกเขาจะไม่ทราบข่าวของเยี่ยนจ้าวเกอ หลังจากเหยียบเขตเพลิงทักษิณและบุกเข้ามาด้วยความรวดเร็ว ก็อาจจะได้รับข่าวทันที
จางซู่เหรินกับหยวนเสี่ยนเฉิงอยู่ในเทือกเขาสันติภาพ อาจมีโอกาสถูกโจมตีกระหนาบหน้าหลังเช่นกัน
พอคิดถึงตรงนี้ จางซู่เหรินก็คิดแผนการได้
เขาเปลี่ยนสภาวะฝ่ามืออย่างกระทันหัน เอียงตัวหลบตรากระบี่กาลเวลาในมือเยี่ยนจ้าวเกอ
เยี่ยนจ้าวเกอเปลี่ยนแปลงสภาวะกระบี่ตาม ยังคงแทงใส่จางซู่เหริน
ชายชราเอียงร่าง คมกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอกระทบถูกไหล่ของเขา ละอองเลือดหย่อมหนึ่งระเบิดออกมา
ต้นจักรพรรดิที่สูงใหญ่หายไปจากฟ้าดิน
มีเพียงแต่ปราณขาวกุศลซ่อนหลายสายปรากฏขึ้น ม้วนจางซู่เหรินและหยวนเสี่ยนเฉิงให้ลอยขึ้น ผละจากเขามหาวิญญาณ มุ่งหน้าไปทางตะวันออก
“อาจารย์อา…” หยวนเสี่ยนเฉิงริมฝีปากสั่นไหว ไม่ได้ส่งเสียง
เขาเข้าใจความคิดของจางซู่เหริน
ในเมื่อเอาชนะเยี่ยนจ้าวเกอไมได้ เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องสู้ต่อ ถอยกลับไปยังเขารอบวงก่อน อย่างไรก็ต้องขวางเส้นทางของเยี่ยนจ้าวเกอไว้
สองปีกว่าๆ ก่อนหน้านี้ หลังจากที่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้กับฝั่งทิศใต้ฉีกหน้ากันโดยสิ้นเชิง ยอดฝีมือของเนินต้นจักรพรรดิแห่งเขาลีลาหงส์ก็วางค่ายกลที่แข็งแกร่งถึงขีดสุดไว้บริเวณเขารอบวงเพื่อเอาไว้สะกดพรมแดน
เนื่องจากกลัวว่าเยี่ยนจ้าวเกอจะใช้เทือกเขาสันติภาพซ่อนตัว หยวนเสี่ยนเฉิงจึงมาขัดขวางจับกุมด้วยตัวเอง
ตอนนี้ในเมื่อภารกิจล้มเหลว ตราบใดที่จอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิเฝ้าอยู่ที่เขารอบวง ก็ยังสะดวกต่อการสกัดขวางเยี่ยนจ้าวเกอ
ในขณะเดียวกันก็ป้องกันคนจากฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ไปด้วย แม้จะโดนขนาบโจมตีจากทั้งสองด้าน ก็ยังมีความได้เปรียบด้านชัยภูมิมากกว่า สามารถใช้ประโยชน์จากเทือกเขาสันติภาพได้
จะเป็นพวกเผิงเฮ่อ ‘ราชาอัคคี’ มาถึงก่อน หรือว่ายอดฝีมือจากฝั่งตะวันออกเฉียงใต้มาถึงก่อน จางซู่เหรินไม่กล้าตัดสิน
เขาไม่คิดพนัน
ดังนั้นจางซู่เหรินจึงตัดสินใจไม่สู้กับเยี่ยนจ้าวเกอที่นี่ต่อ แต่ว่าถอยไปป้องกันเขารอบวงก่อน
เพียงแต่เมื่อเป็นเช่นนี้ หลังจากกระทำต่อหน้าจอมยุทธ์ทิศใต้จำนวนมาก เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าบารมีของจางซู่เหรินกับเนินต้นจักรพรรดิจะลดลงอย่างใหญ่หลวง
‘เยี่ยนจ้าวเกอผู้นี้เป็นอัจฉริยะบุคคลโดยแท้ อาจารย์อาจางถึงได้ตัดสนใจเช่นนี้’ หยวนเสี่ยนเฉิงถอยใจยาว ยังไม่ยอมรับอยู่บ้าง
ความจริงในตอนที่เห็นจางซู่เหรินถูกกดดันจนได้แต่ป้องกันสุดกำลัง จอมยุทธ์ทิศใต้ที่อยู่รอบๆ ต่างก็อ้าปากตาค้างแล้ว
รอจนเห็นจางซู่เหรินที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าผู้ยิ่งใหญ่ถอยหนี ก็ยิ่งโกลาหลกว่าเดิม
ตอนนี้ทุกคนเพียงรู้สึกว่า เหมือนกับมีอะไรสักอย่างในใจกำลังพังทลายอยู่
กระนั้นขณะที่กำลังตื่นตระหนก ก็มีคนส่วนหนึ่งเริ่มได้สติ รู้สึกว่าหากดูจากพลังที่เยี่ยนจ้าวเกอแสดงออกมา เรื่องราวก็สมควรเป็นเช่นนี้เอง
มาถึงตอนนี้ ไม่มีใครมองเยี่ยนจ้าวเกอเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงทั่วไปอีกแล้ว
เพราะเขาเป็นบุคคลที่อยู่เหนือความเข้าใจและจินตนาการของพวกเขาอย่างแท้จริง!
‘ไม่น่ามาเข้าร่วมงานชุมนุมนี้เลย’ คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มเกิดความคิดเช่นนี้ในใจ
ขณะเห็นจางซู่เหรินกับหยวนเสี่ยนเฉิงพ่ายแพ้หนีไป ต่างคนต่างแยกย้าย ผละจากเขามหาวิญญาณ หนีไปยังที่ทางของใครของมัน
คนทั้งหมดต่างก็เกิดความรู้สึกคล้ายๆ กัน
‘อยู่ให้ห่างจากตัวมรณะผู้นี้ยิ่งไกลเท่าไรยิ่งดี!’
‘ไปไล่ตามคนอื่นเถอะ อย่ามาหาทางพวกข้า…’
‘รีบหนี อย่าให้เขาไล่ทัน ไม่อย่างนั้นมีทางตายสถานเดียว!’
คิดถึงเมื่อก่อนหน้าผู้คนชุมนุมจับกลุ่มเป็นพันธมิตรกันที่นี่ จุดประสงค์คือจับกุมกลุ้มรุมเขา เยี่ยนจ้าวเกอพอเห็นภาพนี้ ก็อดหัวเราะพลางส่ายศีรษะไม่ได้
หลังจากมองดูจางซู่เหรินกับหยวนเสี่ยนเฉิงอีกครั้ง และเห็นว่าพวกเขาถอยกลับไปยังทิศทางของเขารอบวง เยี่ยนจ้าวเกอก็ทายความคิดของพวกเขาออก
‘ข่าวลือที่ว่าหนักแน่นหัวโบราณดูเหมือนจะเป็นจริง’ เยี่ยนจ้าวเกอยื่นมือออกมาจับกระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อน กับมงกุฎหงส์เพลิงกู่ร้องที่สูญเสียเจ้าของชั่วคราว ‘เหอะ ‘ต้นจักรพรรดิสะกดภูผา’ ว่ากันว่ามีแต่ชื่อที่ตั้งผิด ไม่มีฉายาที่ตั้งผิด คนโบราณกล่าวไว้ไม่ผิดจริงๆ’
เขากระทืบเท้า เขามหาวิญญาณที่สูงชันหวาดเสียวเบื้องล่างพลันพังทลาย!
แม้จะเป็นจอมยุทธ์เขามหาวิญญาณ ก่อนหน้านี้ล้วนพยายามหนีออกนอกเขา ขอแค่อยู่ไกลจาก ‘มือมาร’ ของเยี่ยนจ้าวเกอเป็นพอ
ตอนนี้พอหันหน้ากลับไปมอง ก็พอดีกับที่เห็นที่อยู่ของสำนักตนกำลังล่มสลาย แม้อยากจะร้องไห้ แต่ก็ไร้น้ำตา
คิดถึงตอนแรกตั้งแต่เจ้าสำนักของตนนักพรตตงเฉวียนลงมา ทั่วทั้งสำนักล้วนฮึกเหิมเพราะงานชุมนุมในครั้งนี้ ผู้ใดหาทราบไม่ว่าเพียงชั่วพริบตาก็เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น พาให้จอมยุทธ์เขามหาวิญญาณทุกข์ระทมแทบขาดใจ
นักพรตตงเฉวียนสู้จนตัวตาย สำนักถูกทำลาย ยอดฝีมือส่วนใหญ่ในสำนักล้วนสิ้นชีวิต
เขามหาวิญญาณที่ตอนแรกเป็นผู้ทรงอำนาจในเทือกเขาสันติภาพที่แก่งแย่งชิงดีกับสำนักรัตติกาล หลังจากผ่านการต่อสู้ในครั้งนี้ ก็แทบถูกล้างสำนัก!
แม้ไม่ถึงขั้นถูกล้างสำนัก ก็ต้องตกจากสูงเสียพันจั้ง อย่าว่าแต่รักษาตำแหน่งเดิม จะรักษาจิตใจคนไม่ให้กระจัดกระจายได้หรือไม่ นั่นยังเป็นปัญญาใหญ่
จอมยุทธ์ในขุมกำลังอื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีจอมยุทธ์สำนักรัตติกาลเป็นผู้นำ พอคิดถึงท่าทีของพวกเขาในตอนที่จัดงานชุมนุมเมื่อก่อนหน้านี้ ตอนนี้ล้วนสาแก่ใจ
แต่ว่าขณะที่เยาะเย้ย กลับเกิดความรู้สึกหม่นหมองเช่นกัน
งานชุมนุมในตอนนั้น มีผู้ใดไม่อยากมีหน้ามีตาเหมือนเขามหาวิญญาณบ้าง
ทว่ากลับมีผู้ใดทราบ ว่าสุดท้ายจะมีผลลัพธ์เช่นนี้
พอคิดถึงตรงนี้ คนทุกคนล้วนทอดถอนใจ อีกทั้งยังรู้สึกหวั่นเกรง
เยี่ยนจ้าวเกอกระทืบเขามหาวิญญาณจนแหลกสลายในเท้าเดียว แล้วค่อยลอยตัวขึ้นอย่างแผ่วเบา มุ่งหน้าไปทางตะวันออกอย่างไม่รีบไม่ร้อน
จางซู่เหรินกับหยวนเสี่ยนเฉิงพ่ายหนี เยี่ยนจ้าวเกอไล่ล่า เข่นฆ่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนจากเทือกเขาสันติภาพถึงเขารอบวง