“เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
พวกเจ้าสำนักซ่งต่างสับสน มีความรู้สึกสิ้นหวังเหมือนกับไร้เรี่ยวแรงแข็งขืนชะตาฟ้า
“ช่วงนี้มีเรื่องประหลาดอะไรเกิดขึ้นบ้าง” เสียงของบุรุษที่ยิ่งใหญ่ทุ้มต่ำดังขึ้นอย่างฉับพลัน
เจ้าสำนักซ่งสองศิษย์อาจารย์มองไป กลับเป็นเจ้าสำนักเขาหงส์วิเศษคนก่อน เกาเทียนจง!
บัดนี้เจ้าสำนักซ่งไม่มีเวลาแสดงความยินดีกับการออกฌานของผู้เป็นอาจารย์ รีบร้อนกล่าวว่า “ถ้าหากบอกว่ามีสถานการณ์ประหลาดก็คือ ท่านหู่คนในสำนักของราชามังกรอวิ๋นจงได้มายังโลกผืนสมุทรของเรา เพิ่งจะจากไปได้ไม่นาน”
“หวงหู่ถิงมาที่นี่ ถ้าไม่ใช่เพราะมาจัดการธุระแทนเยี่ยนอวิ๋นจง ก็ต้องเป็น…” กวนเทียนจงม่านตาหดตัวเล็กน้อย “ก็ต้องเป็นเยี่ยนอวิ๋นจงอยู่ในโลกผืนสมุทรตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว”
คนหนุ่มตื่นตระหนก “ความผิดปกติในตอนนี้ เป็นสิ่งที่ราชามังกรอวิ๋นจงกระทำหรือ เขาคิดจะทำลายโลกผืนสมุทรหรือขอรับ”
เจ้าสำนักซ่งบอก “เขาไม่มีเหตุผลให้ทำเช่นนั้น”
“ในอดีตเคยเกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กัน แต่ว่าไม่ได้รุนแรงถึงขนาดนี้” เกาเทียนจงมองไปยังทิศทางของทะเลรางเลือน
ครั้งก่อน เยี่ยนจ้าวเกอเข้าฌานอยู่ที่นั่น วันนั้นในทะเลรางเลือนมีเสาแสงเชื่อมฟ้า สาดส่องใต้หล้า ผู้คนในโลกผืนสมุทร ต่างได้เป็นประจักษ์พยานในการลอยขึ้นของเยี่ยนจ้าวเกอ
เพียงแต่ในวันนี้ การสั่นสะเทือนไม่ได้มาจากสถานแห่งไหนในทะเลรางเลือน ทว่าโลกผืนสมุทรทั้งใบกำลังสั่นสะเทือน
กระนั้นสายตาของเกาเทียนจงยังคงมองทะเลรางเลือน
เจ้าสำนักซ่งสองศิษย์อาจารย์เข้าใจ “เป็นราชามังกรอวิ๋นจงอยู่เหนือกว่าระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม แล้วลอยขึ้นโลกซ้อนโลกจากที่อยู่ของพวกเรา”
เกาเทียนจงว่า “ครั้งนี้อาจเป็นสถานการณ์คล้ายๆ กัน พวกเราอดทนรอคอยต่อไปเถอะ”
เพราะต่อให้พวกเขาคิดจะทำอะไร สุดท้ายก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี
ถ้าหากว่าภัยพิบัติตรงหน้าจะทำลายโลกผืนสมุทรจริงๆ เกาเทียนจงที่เพิ่งออกฌาน เลื่อนเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม ขั้นรวมรูประยะท้ายได้ไม่ทันไรก็ไม่อาจขัดขวาง และไม่อาจรอดชีวิตไปได้
ถึงแม้ยอดฝีมือที่อยู่ในโลกผืนสมุทรในตอนนี้ร่วมมือกัน ก็ไม่มีผลอะไรเช่นกัน ทุกคนได้แต่ปิดตารอความตาย
ภัยพิบัติถล่มโลก ท้องฟ้าพังทลาย สิ่งมีชีวิตในใต้หล้าต่างมีจุดจบถูกทำลาย
กระนั้นภัยพิบัตินี้ไม่ได้ดำเนินอยู่นานนัก ไม่ทันไร การสั่นสะเทือนนั้นก็สงบลงไป ทุกสิ่งกลับคืนสู่ความสงบ ความอกสั่นขวัญแขนเมื่อครู่ของทุกคนคล้ายกับความรู้สึกหลอน
“เป็นเยี่ยนอวิ๋นจงลงมายังโลกผืนสมุทรจริงๆ!” เกาเทียนจงแน่ใจ
ทั่วทั้งเขาหงส์วิเศษสบตากันเอง ส่วนใหญ่ปั้นสีหน้าซับซ้อน จนถึงตอนท้ายค่อยถอนใจพร้อมกัน
คนที่เคยเห็นเยี่ยนจ้าวเกอนึกย้อนถึงภาพในตอนนั้น ต่างมีความรู้สึกเหมือนฝันไป คล้ายกับว่าการสั่นสะเทือนเมื่อก่อนหน้านี้ไม่ใช่ความจริง
…
อาหู่ที่ก่อนหน้าบอกลาพวกเจ้าสำนักซ่ง มุ่งหน้าไปยังทะเลรางเลือน ย่อมรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกผืนสมุทร
หลังจากงงงันเล็กน้อย เขาก็อ้าปากหัวเราะฮ่าๆ ยินดีเป็นอย่างยิ่ง “คุณชายสำเร็จแล้ว!”
หลังการสั่นสะเทือนจบลง อาหู่ก็บรรลุถึงทะเลรางเลือน
ขณะนี้สถานที่แห่งนี้ไม่ได้มีแสงเจิดจ้าเหมือนตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอทลายนภาเห็นเทวะสำแดง ลอยขึ้นสู่โลกซ้อนโลกเมื่อก่อนหน้า
เมื่อการสั่นสะเทือนบนโลกผืนสมุทรจบลง ในทะเลรางเลือนก็คล้ายกลับคืนสู่ความเงียบสงบดุจเดิม
อาหู่ป้องตามองท้องฟ้า ด้านหลังพลันมีเสียงดังขึ้น “เจ้าไฉนลงมาแล้ว”
“คุณชาย” อาหู่หันไปมอง เห็นเยี่ยนจ้าวเกอยืนอยู่ด้านหลัง
อาหู่ถามอย่างยินดี “คุณชาย ท่านได้ปีนขึ้นสะพานเซียนเหมือนท่านประมุขตระกูลแล้วหรือ”
เยี่ยนจ้าวเกอเพียงยิ้ม ไม่กล่าวอันใดอีก
แต่ว่าในสายตาของอาหู่ ร่างของเยี่ยนจ้าวเกอตรงหน้าคล้ายหายไป สิ่งที่มาแทนที่คือห้วงอวกาศ
กลุ่มดาวในจักรวาลโคจร พาดขวางตัดสลับ เกิดเป็นวงโคจรที่ส่งอิทธิผลต่อกันและกัน
นอกจากไม่เห็นการเกิดและการดับของดวงดาวแล้ว เขาก็คล้ายกับเผชิญดาราจักรในจักรวาลที่แท้จริง!
วันนี้เยี่ยนจ้าวเกอปีนขึ้นสะพานเซียน เลื่อนเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด ขั้นสะพานเซียนระยะต้น เริ่มเส้นทางมุ่งสู่ระดับเซียนอย่างเป็นทางการ
อาหู่มองดูจนจุ๊ปากชมเชย ครู่ต่อมาค่อยรู้สึกตัว รีบร้อนเอ่ยว่า “ท่านประมุขตระกูลบอกว่า เรื่องที่คุณชายท่านวานให้เขาตรวจสอบมีผลลัพธ์แล้ว จึงให้ข้านำมาส่งให้แก่ท่าน”
“โอ้” เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินก็ตาลุกวาว
อาหู่ส่งหยกวงกลมชิ้นหนึ่งให้แก่เยี่ยนจ้าวเกอ ชายหนุ่มพอเห็นก็รู้ว่าเป็นหยกที่เขามอบให้เยี่ยนตี๋ในตอนนั้น
หลังจากตรวจสอบเนื้อหาด้านในคร่าวๆ เยี่ยนจ้าวเกอก็ตาเป็นประกาย ครุ่นคิดใคร่ครวญ
หลังจากนั้นพักหนึ่ง เยี่ยนจ้าวเกอทางหนึ่งลูบคางของตัวเอง ทางหนึ่งพึมพำ “มีโอกาสสำเร็จอยู่…”
ขณะนี้ หลังจากการสั่นสะเทือนของโลกผืนสมุทรจบลง จอมยุทธ์ในโลกผืนสมุทรจากแต่ละที่พอเห็นเหตุการณ์วันสิ้นโลกเมื่อครู่หายไป ต่างก็รู้สึกโล่งใจ ถึงแม้ว่าคราครั้งนี้ทางด้านทะเลรางเลือนคล้ายไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติ ทุกคนต่างก็มายังทะเลรางเลือนโดยไม่ได้นัดหมาย
เกาเทียนจง ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มจอมยุทธ์ท้องถิ่นของโลกผืนสมุทรซึ่งเพิ่งจะเลื่อนเป็นระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสาม ต่อให้จะไม่ได้อยู่ใกล้ที่สุด แต่ก็มาถึงเป็นคนแรก
เมื่อเขาเห็นเยี่ยนจ้าวเกอ เกาเทียนจงก็สั่นสะท้าน
เยี่ยนจ้าวเกอที่ปรากฏขึ้นในสายตาของเขาตอนนี้เหมือนกับคนธรรมดา ดูปกติและไม่มีสิ่งใดผิดแผก ไม่เพียงแต่ไม่แสดงญาณจริงแท้แม้แต่น้อย ลมปราณทั่วร่างยังเบาบาง ไม่ได้แข็งแกร่งมีพลังเหมือนคนที่ฝึกยุทธ์
ลักษณะนั้น คล้ายกับต่อให้นับเป็นจอมยุทธ์ที่เพิ่งเริ่มฝึกพื้นฐานได้ไม่กี่เดือน ก็ยังมีพลังมากกว่าเยี่ยนจ้าวเกอ
แต่ว่าคนเช่นนี้ กำลังลอยอยู่บนทะเลรางเลือนเหมือนกับพื้นราบ
เกาเทียนจงสามารถเก็บญาณจริงแท้ของตัวเองไว้ไม่เผยออกมา ลอยอยู่กลางอากาศอย่างสบายๆ ด้วยท่าทางขัดหยกเห็นธาตุแท้
แต่เขาเข้าใจดีว่า เขาจริงๆ แล้วยังคงปล่อยญาณจริงแท้ออกด้านนอก จึงค่อยลอยอยู่ได้
เพียงแต่ว่าเขาสามารถใช้พลังปราณที่น้อยที่สุด ทำเรื่องที่คนอื่นๆ จำเป็นต้องใช้พลังทั้งหมดถึงจะทำได้อย่างง่ายดาย
สี่ตำลึงปาดพันชั่ง น่าอัศจรรย์ยิ่ง
แต่ว่าสุดท้ายก็ยังต้องมีพลังสี่ตำลึง จึงค่อยงัดของหนักพันชั่งให้เคลื่อนที่ได้
ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ตรงหน้า กลับไม่ปล่อยญาณจริงแท้ออกมาแม้แต่น้อย
การกระทำนี้ เหนือกว่าธรรมดาสามัญโดยสิ้นเชิง
ขณะมองเยี่ยนจ้าวเกอที่เป็นเช่นนี้ เทาเทียนจงไม่รู้ว่าควรจะทักทายหรือเอ่ยอะไรดี
จอมยุทธ์โลกผืนสมุทรคนอื่นต่างทยอยกันบรรลุถึง พอเห็นลักษณะของเยี่ยนจ้าวเกอ ตอนแรกยังไม่ได้สนใจมากนัก แต่รอพวกเขาเริ่มรู้สึกตัว ทุกคนก็มีสีหน้าตื่นตระหนก
กลับเป็นเยี่ยนจ้าวเกอมีสีหน้าเป็นปกติ พยักหน้ายิ้มให้กับทุกคนที่อยู่รอบๆ “ทุกท่าน ไม่เจอกันนาน สบายดีกระมัง”
เขายื่นห้านิ้วออกมา หุบเข้าแล้วกางออก มิติรอบๆ บริเวณพลันบิดเบี้ยว
“ข้าผู้แซ่เยี่ยนมีธุระต้องไปจัดการที่โลกซ้อนโลก ครั้งนี้ขอยังไม่รื้อฟื้นความหลังกับทุกท่าน ครั้งหน้าถ้ามีเวลาค่อยมาสนทนากันเถอะ”
พวกเกาเทียนจงตาลาย ถึงกับเห็นมีเทือกขาวที่ยาวเหยียดยิ่งโผล่ขึ้นตรงหน้า
ภูเขาที่ยาวเหยียดโผล่ขึ้นบนผิวทะเลของทะเลรางเลือน!
บนยอดเขายอดหนึ่งมีพายุน่ากลัวซัดกระหน่ำ เป็นเขาชิงวายุนั่นเอง
บาดแผลแห่งกำแพงสวรรค์ที่เชื่อมไปยังโลกซ้อนโลกของโลกผืนสมุทรอยู่ที่ท้องฟ้าเหนือเขาชิงวายุ
ยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ล้วนย้ายเขาเคลื่อนทะเลได้ แต่ว่านั่นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างห่างไกล
ทว่าสิ่งที่สร้างความแตกตื่นให้แก่พวกเกาเทียนจงก็คือ เขาชิงวายุอยู่บนทวีปใหญ่ที่อยู่นอกมหาสมุทร ไกลจากทะเลรางเลือนยิ่ง
ในตอนนี้ถึงกับถูกเยี่ยนจ้าวเกอย้ายมาถึงทะเลรางเลือน!
‘ไม่ใช่บอกว่าถ้าพวกเขาจะลงมา จะต้องถูกกดพลังฝึกปรือให้ไปอยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสามหรอกหรือ’ จอมยุทธ์โลกผืนสมุทรทุกคนในตอนนี้มีสีหน้างงงวย
………………..